ดังลมตึงดึงกระชากพรากทุกสิ่ง
ให้วุ่นวิ่งวอดวายมลายสูญ
เสียงลมหวีดกรีดใจให้อาดูร
ทวีคูณความชอกช้ำระกำทรวง
เคยสนุกสุขขีศรีสวัสดิ์
โสมนัสหนักหนากว่าชั้นสรวง
ชนนอบน้อมพร้อมพรั่งสิ่งทั้งปวง
เป็นดั่งดวงดาราน่ายินดี
แต่ทุกสิ่งไม่นิ่งแน่เที่ยงแท้นัก
เมื่อกรรมหนักมากระหน่ำสุดหลีกหนี
พระพายพัดผ่านไปไม่ไยดี
ทุกข์เหลือที่จะทนทานสงสารใจ
น้ำตารดสลดใจในชีวิต
กระทำผิดหนักหนามาแต่ไหน
แม้นความดีไม่มีบ้างหรืออย่างไร
จึงมอดไหม้มอดม้วยด้วยทุกข์ตรม
ต้องฟังคำคนว่าน้ำตานอง
ทั้งเพื่อนพ้องพงศามาทับถม
ไม่เหมือนก่อนตอนพร้อมหน้ามาชื่นชม
แสนขื่นขมแสนเผ็ดเข็ดคำคน
แม้ครอบครัวหรือก็แตกสาแหรกขาด
เมื่ออำนาจหนี้กรรมนำสู่ผล
แม้เงินทองหรือก็พร่องต้องอับจน
จิตหมองหม่นหมดราศีเพราะหนี้บาน
จะพึ่งใครเขาแชเชือนเบือนหน้าหนี
มิตรเคยมีก็แหนงหน่ายคลายสงสาร
ให้หวนนึกระลึกถึงคำโบราณ
เมื่อก่อนกาลแม้เก่าแก่แต่สอนดี
“ว่ายามมีผีผอมตอมกัน-
ยามถังแตกผีอ้วนชวนกันหนี
เอ็งมีมั่งข้ามีมั่งก็ยังดี
ยามเอ็งมีเอ็งแอบ-น่าแปลกใจ”
เด่น
ลมทุกข์
ให้วุ่นวิ่งวอดวายมลายสูญ
เสียงลมหวีดกรีดใจให้อาดูร
ทวีคูณความชอกช้ำระกำทรวง
เคยสนุกสุขขีศรีสวัสดิ์
โสมนัสหนักหนากว่าชั้นสรวง
ชนนอบน้อมพร้อมพรั่งสิ่งทั้งปวง
เป็นดั่งดวงดาราน่ายินดี
แต่ทุกสิ่งไม่นิ่งแน่เที่ยงแท้นัก
เมื่อกรรมหนักมากระหน่ำสุดหลีกหนี
พระพายพัดผ่านไปไม่ไยดี
ทุกข์เหลือที่จะทนทานสงสารใจ
น้ำตารดสลดใจในชีวิต
กระทำผิดหนักหนามาแต่ไหน
แม้นความดีไม่มีบ้างหรืออย่างไร
จึงมอดไหม้มอดม้วยด้วยทุกข์ตรม
ต้องฟังคำคนว่าน้ำตานอง
ทั้งเพื่อนพ้องพงศามาทับถม
ไม่เหมือนก่อนตอนพร้อมหน้ามาชื่นชม
แสนขื่นขมแสนเผ็ดเข็ดคำคน
แม้ครอบครัวหรือก็แตกสาแหรกขาด
เมื่ออำนาจหนี้กรรมนำสู่ผล
แม้เงินทองหรือก็พร่องต้องอับจน
จิตหมองหม่นหมดราศีเพราะหนี้บาน
จะพึ่งใครเขาแชเชือนเบือนหน้าหนี
มิตรเคยมีก็แหนงหน่ายคลายสงสาร
ให้หวนนึกระลึกถึงคำโบราณ
เมื่อก่อนกาลแม้เก่าแก่แต่สอนดี
“ว่ายามมีผีผอมตอมกัน-
ยามถังแตกผีอ้วนชวนกันหนี
เอ็งมีมั่งข้ามีมั่งก็ยังดี
ยามเอ็งมีเอ็งแอบ-น่าแปลกใจ”
เด่น