แบรนด์ดิ้ง (Branding) ดียังไง
ใครใครก็พูดเรื่อง branding กำลังจะทำทำ branding กำลังจะทำรีแบรนด์นั่นนี่นู่น คนที่พูดมีอยู่ 2 ประเภทคือเข้าใจแบรนด์ดิ้งแต่ไม่ลึกหรือ ไม่เข้าใจแต่ใช้พร่ำเพรื่อเพราะได้ยินมา จุดประสงค์ของกระทู้นี้ไม่ได้มาเพื่อแยกแยะเพราะฉะนั้นจะอธิบายเรื่อง branding แบบรวมรวมจากประสบการณ์ที่ได้ทำสัมมนา ทำ workshop และสอนเรื่อง branding ให้แก่หลายสถาบัน หลายบริษัทจากหลายๆอินดัสตรี
เวลาไป พูดในสถานที่เหล่านี้เวลา ถามว่า branding คืออะไรคำตอบส่วนมากที่จะได้ก็คือโลโก้หรือสโลแกนแต่จริงๆแล้วการทำแบรนดิ้งเนี่ยมันเป็น two way communication ซึ่งคือการตอบโต้กันสองทาง
การยื่นแต่โลโก้และสโลแกนให้เขานั้นเป็นการสื่อสารข้างเดียวคือยื่นให้เขามองอยู่ฝั่งเดียว
การสื่อสารกันทั้งสองฝั่งนั้น ..เรา...ในฐานะผู้ขายต้องการจะสื่ออะไรให้เขาเข้าใจต้องพูกให้เคลียร์ด้วยเนื้อหาที่ให้ผู้ฟังรู้สึกมั่นคงและมั่นใจกับสินค้าและบริการของเรา
และสิ่งที่เขาจะให้เรากลับมาก็คือความรู้สึกที่คิดว่าความเสี่ยงในการตัดสินใจน้อยลง ดังนั้นก็จะซื้อกล้าจ่ายและสุดท้ายก็กลายเป็นที่brand loyalty และกลายเป็นลูกค้าประจำ
ในกระทู้ที่แล้วเราได้กล่าวไปแล้วว่าธุรกิจโรงแรมและร้านอาหารมีการแข่งขันสูงมาก มีแต่คนนอกอยากเข้า คนในไม่เห็นอยากออก copy กันก็ง่าย แต่สิ่งที่ยากในวงการนี้นะคะก็คือถึงจะ copy กันง่ายแต่ที่ยากก็คือการที่จะไปนั่งอยู่ในหัวใจของลูกค้า และนั่งได้โดยเหตุผลที่เขาต้องการไม่ได้ยัดเยียด นั่นแหละคือ good branding เพราะมันแปลว่าเขาเข้าใจเราถ่องแท้ถึงตัวเราเอง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องภาพลักษณ์ของเรา จุดยืนของเราและคำมั่นสัญญาที่ product หรือ service ของเราจะหยิบยื่นให้กับเขา
แต่ถ้าจะให้เขาเข้าใจเราได้ดีขนาดนั้นเราคงต้องเข้าใจตัวเองเสียก่อน ในกระทู้เดิมที่แล้วเราได้ถามคำถามไปว่าก่อนจะเปิดโรงแรมหรือร้านอาหารคุณตอบถามคำถามง่ายๆนี้ได้หรือยังคือ หนึ่งคุณขายอะไร สองคุณจะขายให้ใคร สาม แล้วคุณจะบอกเขา ด้วยข้อความอะไรเขาถึงเลือกที่จะมาซื้อสินค้าของคุณ คำถามสามคำถามเล็กๆนี้ถ้าคุณตอบได้ลึก(ต้องเน้นคำว่าลึกเพราะคือที่กล่าวไว้ตอนต้นคือหลายท่านไม่เข้าใจลึก) ถ้าเข้าใจได้ลึกมันจะนำพาให้คุณไปสู่ vision หรือวิสัยทัศน์ของบริษัท mission ซึ่งคือหนทางการนำไปสู่ความสำเร็จ brand promise คำมั่นสัญญาที่จะให้กับลูกค้าและ positioning statement ซึ่งแสดงความจุดยืนเป็นตัวตนของคุณที่ทำให้แตกต่างกับคนอื่น
ถามตัวเองซิว่าตอบคำถามเหล่านั้นได้หรือยัง
ถ้ายังไม่ได้ก็ถ้าจะลำบากค่ะ
แบรนด์ดิ้ง (Branding) ดียังไง
ใครใครก็พูดเรื่อง branding กำลังจะทำทำ branding กำลังจะทำรีแบรนด์นั่นนี่นู่น คนที่พูดมีอยู่ 2 ประเภทคือเข้าใจแบรนด์ดิ้งแต่ไม่ลึกหรือ ไม่เข้าใจแต่ใช้พร่ำเพรื่อเพราะได้ยินมา จุดประสงค์ของกระทู้นี้ไม่ได้มาเพื่อแยกแยะเพราะฉะนั้นจะอธิบายเรื่อง branding แบบรวมรวมจากประสบการณ์ที่ได้ทำสัมมนา ทำ workshop และสอนเรื่อง branding ให้แก่หลายสถาบัน หลายบริษัทจากหลายๆอินดัสตรี
เวลาไป พูดในสถานที่เหล่านี้เวลา ถามว่า branding คืออะไรคำตอบส่วนมากที่จะได้ก็คือโลโก้หรือสโลแกนแต่จริงๆแล้วการทำแบรนดิ้งเนี่ยมันเป็น two way communication ซึ่งคือการตอบโต้กันสองทาง
การยื่นแต่โลโก้และสโลแกนให้เขานั้นเป็นการสื่อสารข้างเดียวคือยื่นให้เขามองอยู่ฝั่งเดียว
การสื่อสารกันทั้งสองฝั่งนั้น ..เรา...ในฐานะผู้ขายต้องการจะสื่ออะไรให้เขาเข้าใจต้องพูกให้เคลียร์ด้วยเนื้อหาที่ให้ผู้ฟังรู้สึกมั่นคงและมั่นใจกับสินค้าและบริการของเรา
และสิ่งที่เขาจะให้เรากลับมาก็คือความรู้สึกที่คิดว่าความเสี่ยงในการตัดสินใจน้อยลง ดังนั้นก็จะซื้อกล้าจ่ายและสุดท้ายก็กลายเป็นที่brand loyalty และกลายเป็นลูกค้าประจำ
ในกระทู้ที่แล้วเราได้กล่าวไปแล้วว่าธุรกิจโรงแรมและร้านอาหารมีการแข่งขันสูงมาก มีแต่คนนอกอยากเข้า คนในไม่เห็นอยากออก copy กันก็ง่าย แต่สิ่งที่ยากในวงการนี้นะคะก็คือถึงจะ copy กันง่ายแต่ที่ยากก็คือการที่จะไปนั่งอยู่ในหัวใจของลูกค้า และนั่งได้โดยเหตุผลที่เขาต้องการไม่ได้ยัดเยียด นั่นแหละคือ good branding เพราะมันแปลว่าเขาเข้าใจเราถ่องแท้ถึงตัวเราเอง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องภาพลักษณ์ของเรา จุดยืนของเราและคำมั่นสัญญาที่ product หรือ service ของเราจะหยิบยื่นให้กับเขา
แต่ถ้าจะให้เขาเข้าใจเราได้ดีขนาดนั้นเราคงต้องเข้าใจตัวเองเสียก่อน ในกระทู้เดิมที่แล้วเราได้ถามคำถามไปว่าก่อนจะเปิดโรงแรมหรือร้านอาหารคุณตอบถามคำถามง่ายๆนี้ได้หรือยังคือ หนึ่งคุณขายอะไร สองคุณจะขายให้ใคร สาม แล้วคุณจะบอกเขา ด้วยข้อความอะไรเขาถึงเลือกที่จะมาซื้อสินค้าของคุณ คำถามสามคำถามเล็กๆนี้ถ้าคุณตอบได้ลึก(ต้องเน้นคำว่าลึกเพราะคือที่กล่าวไว้ตอนต้นคือหลายท่านไม่เข้าใจลึก) ถ้าเข้าใจได้ลึกมันจะนำพาให้คุณไปสู่ vision หรือวิสัยทัศน์ของบริษัท mission ซึ่งคือหนทางการนำไปสู่ความสำเร็จ brand promise คำมั่นสัญญาที่จะให้กับลูกค้าและ positioning statement ซึ่งแสดงความจุดยืนเป็นตัวตนของคุณที่ทำให้แตกต่างกับคนอื่น
ถามตัวเองซิว่าตอบคำถามเหล่านั้นได้หรือยัง
ถ้ายังไม่ได้ก็ถ้าจะลำบากค่ะ