“ร้านอาหาร” หนึ่งในธุรกิจที่มีการแข่งขันรุนแรงตลอดหลายปีที่ผ่านมา ผู้ประกอบการร้านค้าทั้งแบรนด์เล็กใหญ่ ต่างงัดทุกกลยุทธ์ไม้เด็ดเพื่อรองรับรับเทรนด์ และความต้องการของลูกค้า ตลอดจนการแข่งขันที่เกิดขึ้น
“ซิซซ์เล่อร์” คือหนึ่งในเชนร้านอาหาร (สเต๊ก) ที่ปรับตัวรับเทรนด์ต่างๆมาโดยตลอด โดยในปี 2567 สามารถทำยอดขายท็อปฟอร์มสูงสุดเป็นประวัติการณ์ด้วยตัวเลขการเติบโต 15% จากปีก่อนหน้า ขณะที่จำนวนลูกค้าก็เพิ่มขึ้น 25% จากปีก่อนหน้าเช่นเดียวกัน
ทั้งหมดเป็นผลมาจากการสร้างความหลากหลายภายในร้าน พร้อมเพิ่ม Occasion ในการเข้าร้าน ผ่านการใช้ Branding และ Build Brand Awareness ให้อยู่ใน Top of Mind ของลูกค้าอย่างสม่ำเสมอ ตั้งแต่การใช้ “น้องชีสโทสต์” ผ่าน Mascot Marketing ในการสร้างยอดขายผ่านเมนูหลัก พร้อมสร้างการรับรู้ในแง่ราคาที่เข้าถึงได้ เพื่อเจาะกลุ่มพนักงานออฟฟิศ ให้มารับประทานเป็นมื้อกลางวันนอกเหนือจากโอกาสพิเศษ นอกจากนี้ยังมีการจัดแคมเปญพิเศษต่างๆตามเทลเพื่อเจาะลูกค้า โดยพบว่าการแคมเปญตามซีซันนอลอย่าง วันเด็ก สงกรานต์ มียอดขายเติบโตถึง 15%
กลยุทธ์ใหม่ Revamp “สลัดบาร์” โฉมใหม่ ดึง Superfood เสริมทัพ
หนึ่งในจุดแข็งของ “ซิซซ์เล่อร์” ก็คือ “สลัดบาร์” ที่ทำให้แบรนด์กลายเป็นที่จดจำ จนเป็นผู้นำในตลาดสเต๊กเมืองไทย โดยปัจจุบันลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการซิซซ์เล่อร์ รับประทานเพียงสลัดบาร์มีจำนวนถึง 30% จากจำนวนลูกค้าทั้งหมด และลูกค้าทุกคนที่เข้ามาทานสเต๊กในร้านล้วนก็ทานสลัดบาร์ด้วยทั้งสิ้น
“แม้ตลาดสเต๊กจะมีคู่แข่งมากขึ้น แต่สิ่งหนึ่งที่เรายังคงเป็นจุดแข็งคือสลัดบาร์ ที่คู่แข่งยังไม่สามารถทำเป็นจุดเด่นได้เท่าเรา และนั่นทำให้เราแตกต่างจากผู้เล่นทั่วไป ”
นั่นทำให้ “ซิซซ์เล่อร์” ตัดสินใจ Refresh สลัดบาร์ใหม่ทั้งหมด โดยจะมีการปรับภาพลักษณ์ เมนูผัก และสลัดต่างๆ ให้ดีมากขึ้น นำร่องด้วยการนำ Superfood เข้ามาไว้ภายในสลัดบาร์ใน ในไตรมาส 1 ปี 2568 ก่อน หลังจากนั้นจะรีเฟรซแบรนด์ต่อทันที ซึ่งจะยังคงเอกลักษณ์ความหลากหลาย ราคาดี และทานได้ไม่อั้น นอกจากนี้ยังจะเพิ่มเติมเมนูที่อยู่ในกระแสเข้าไปด้วย
อย่างไรก็ตามปัจจุบัน “ซิซซ์เล่อร์” มี 65 สาขา และปีหน้ามีแผนจะขยายเพิ่มอีก 3 สาขา ส่วนทำเลยังอยู่ระหว่างกาารศึกษาโลเคชันอยู่ซึ่งมีทั้งกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด
ที่มา : Brand Buffet
เพราะ “สลัดบาร์” คือพระเอก “Sizzler” รีเฟรซบาร์สลัดโฉมใหม่
ทั้งหมดเป็นผลมาจากการสร้างความหลากหลายภายในร้าน พร้อมเพิ่ม Occasion ในการเข้าร้าน ผ่านการใช้ Branding และ Build Brand Awareness ให้อยู่ใน Top of Mind ของลูกค้าอย่างสม่ำเสมอ ตั้งแต่การใช้ “น้องชีสโทสต์” ผ่าน Mascot Marketing ในการสร้างยอดขายผ่านเมนูหลัก พร้อมสร้างการรับรู้ในแง่ราคาที่เข้าถึงได้ เพื่อเจาะกลุ่มพนักงานออฟฟิศ ให้มารับประทานเป็นมื้อกลางวันนอกเหนือจากโอกาสพิเศษ นอกจากนี้ยังมีการจัดแคมเปญพิเศษต่างๆตามเทลเพื่อเจาะลูกค้า โดยพบว่าการแคมเปญตามซีซันนอลอย่าง วันเด็ก สงกรานต์ มียอดขายเติบโตถึง 15%
กลยุทธ์ใหม่ Revamp “สลัดบาร์” โฉมใหม่ ดึง Superfood เสริมทัพ
หนึ่งในจุดแข็งของ “ซิซซ์เล่อร์” ก็คือ “สลัดบาร์” ที่ทำให้แบรนด์กลายเป็นที่จดจำ จนเป็นผู้นำในตลาดสเต๊กเมืองไทย โดยปัจจุบันลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการซิซซ์เล่อร์ รับประทานเพียงสลัดบาร์มีจำนวนถึง 30% จากจำนวนลูกค้าทั้งหมด และลูกค้าทุกคนที่เข้ามาทานสเต๊กในร้านล้วนก็ทานสลัดบาร์ด้วยทั้งสิ้น
“แม้ตลาดสเต๊กจะมีคู่แข่งมากขึ้น แต่สิ่งหนึ่งที่เรายังคงเป็นจุดแข็งคือสลัดบาร์ ที่คู่แข่งยังไม่สามารถทำเป็นจุดเด่นได้เท่าเรา และนั่นทำให้เราแตกต่างจากผู้เล่นทั่วไป ”
นั่นทำให้ “ซิซซ์เล่อร์” ตัดสินใจ Refresh สลัดบาร์ใหม่ทั้งหมด โดยจะมีการปรับภาพลักษณ์ เมนูผัก และสลัดต่างๆ ให้ดีมากขึ้น นำร่องด้วยการนำ Superfood เข้ามาไว้ภายในสลัดบาร์ใน ในไตรมาส 1 ปี 2568 ก่อน หลังจากนั้นจะรีเฟรซแบรนด์ต่อทันที ซึ่งจะยังคงเอกลักษณ์ความหลากหลาย ราคาดี และทานได้ไม่อั้น นอกจากนี้ยังจะเพิ่มเติมเมนูที่อยู่ในกระแสเข้าไปด้วย
อย่างไรก็ตามปัจจุบัน “ซิซซ์เล่อร์” มี 65 สาขา และปีหน้ามีแผนจะขยายเพิ่มอีก 3 สาขา ส่วนทำเลยังอยู่ระหว่างกาารศึกษาโลเคชันอยู่ซึ่งมีทั้งกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด
ที่มา : Brand Buffet