เปิดฉากมาที่การสอบ
ตอนนี้มีผู้ที่สอบผ่านรอบแรกมากขึ้นเรื่อยๆ โดยตอนนี้มีผู้สอบผ่านแล้ว 53 คน และมีผู้ตกรอบไปแล้ว 230 คน
(มีโควต้าสอบผ่านเหลืออีก 47 คน)
แล้วตอนนั้นเองก็มีผู้สอบผ่านเป็นคนที่ 54
โทโดโรกิ โชโตะ จากโรงเรียนยูเอย์นั่นเอง
ซึ่งแม้จะสอบผ่านเข้ารอบไปได้ แต่โทโดโรกิก็ยังไม่ค่อยพอใจผลที่ได้จากการใช้พลังไฟกับน้ำแข็งพร้อมๆกันนัก และคิดว่ายังต้องฝึกซ้อมใช้งานเพิ่มขึ้นอีก เพื่อให้ใช้งานได้ลื่นไหลยิ่งขึ้น
ทันใดนั้นก็มีเสียงของคณะกรรมการคุมสอบดังออกมาจากเป้าที่ติดที่ตัวโทโดโรกิ และบอกให้เขาที่สอบผ่านแล้วให้ไปรอที่ห้องพักผ่อนได้
เป้าที่ติดอยู่ที่ตัวแต่ละคนจะส่งข้อมูลไปให้กรรมการว่าใครสอบผ่านและสอบตกบ้าง โดยนอกจากจะส่งข้อมูลของผู้สอบและลูกบอลที่มากระทบแล้ว มันยังสามารถบอกได้ว่าใครเป็นคนขว้างลูกบอลมาโดน, จากระยะไกลแค่ไหน, การเคตื่อนไหวเป็นอย่างไรอีกด้วย อีกทั้งเมื่อแปะลงบนตัวแล้วการจะเอาออกก็ต้องใช้กุญแจแม่เหล็กเฉพาะในการเอาออกเท่านั้น
เมื่อโทโดโรกิไปถึงที่ห้องพักผ่อนก็พบว่ามีคนสอบผ่านเยอะพอสมควรแล้ว
คนหนึ่งที่สะดุดตาเขาที่สุดคือ นายอินาซะ โยอาราชิ จากโรงเรียนชิเค็ตสึ
"ถ้าเขาก็เป็นนักเรียนทุนเหมือนกันเราก็น่าจะได้เจอกันตอนสมัครเข้าเรียน แต่ว่า..."
น่าแปลกที่อินาซะซึ่งคุยอย่างเป็นมิตรสุดๆกับผู้เข้าสอบคนอื่นๆ กลับทำหน้านิ่วคิ้วขมวดเมื่อเห็นโทโดโรกิและหันไปทางอื่นทันที?
ตัดมาที่ในสนามสอบ
อิสึคุยังคงเผชิญหน้ากับสาวจากโรงเรียนชิเค็ตสึ ซึ่งตอนนี้การแปลงโฉมของเธอหลุดออกมาหมดแล้ว
(ดูเหมือนว่าถ้าใช้อัตลักษณ์เจ้าหล่อนจะต้องถอดเสื้อผ้าก่อนด้วยแฮะ? หรือเป็นการเปลี่ยนร่างกายเป็นของเหลวแล้วก่อรูปขึ้นมาใหม่)
สาวร่างเหลวโจมตีอิสึคุทั้งทีไม่มีลูกบอลในมือ และใช้เล็บข่วนหน้าเขาได้แผลหนึ่ง
ตอนนั้นเองก็มีสายเทปพุ่งเข้าใส่สาวร่างเหลวจากด้านข้างทำให้เจ้าหล่อนต้องชะงักหลบไปชั่วขณะ
เป็นเซโระนั่นเอง และตามมาด้วยโอจาโกะที่พุ่งเข้าใส่สาวร่างเหลวเพื่อจะแตะตัว แต่เจ้าหล่อนก็ไวทายาทและกระโดดม้วนหลังทิ้งระยะห่างไปได้
??? : ทั้งที่กำลังจะถึงช่วงดีๆแล้วแท้ๆนะ...
??? : น่าเสียดาย...จริงๆนะ…! นี่พูดจริงๆเลย!
??? : แต่เมื่อสถานการณ์เป็นแบบนี้ฉันก็คงต่อไม่ได้แล้ว น่าเสียดาย
??? : ฉันอยากพูดคุยกับเธอให้มากกว่านี้
??? : อุรารากะ โอจาโกะ
??? : เธอนี่ได้รับความไว้เนื้อเชื่อใจมากเลยสิ ใช่ไหม?
ว่าแล้วสาวร่างเหลวก็หนีหายไป
อิสึคุบอกไม่ให้ทั้งสองคนตามไป เพราะจากที่เห็น อัตลักษณ์ของเจ้าหล่อนน่าจะทำให้สามารถเอาตัวเองออกมาจากเสื้อผ้าที่มีเป้าติดอยู่ได้ และถึงแม้ว่าจะมีโอกาสที่เจ้าหล่อนจะกลับมาอีกแต่ด้วยเวลาที่มีเหลืออยู่ไม่มากการไปตามล่าเจ้าหล่อนเพียงคนเดียวก็ไม่ใช่เรื่องที่ฉลาดนัก
ตอนนี้พวกเขามีเหลือกันอยู่ 3 คน ส่วนคนอื่นๆก็กระจัดกระจายไปหมด และตอนนี้ก็มีผู้เข้าสอบจากโรงเรียนอื่นๆเป็นกลุ่มประมาณสิบกว่าคนกำลังตามล่าพวกเขา โดยคิดใช้จำนวนเข้ารุมด้วย
ทันใดนั้นก็มีเสียงของคณะกรรมการคุมสอบประกาศว่ามีผู้ผ่านรอบแรกแล้ว 58 คน มีโควต้าเหลือเพียงแค่ 42 คนเท่านั้น
สถานการณ์ยิ่งเร่งร้อนขึ้นไปอีก แต่อิสึคุกลับคิดว่าแม้จะมีคนจำนวนมากเล็งเป้ามาที่พวกเขา แต่ถ้ามากันเป็นกลุ่มใหญ่แบบนั้นพวกเขาก็ยังมีโอกาสจะทำอะไรได้บ้างอยู่...
เพราะในเมื่อคนจำนวนมากมาแย่งเล่นงานคนจำนวนน้อยกว่า มันก็จะทำให้พวกนั้นต้องแย่งกันเองในการโจมตีใส่เป้าสุดท้าย และยังต้องระวังกันและกันเองด้วย
เพราะกติกาการสอบคือให้บอลกระทบถูกเป้า ทำให้ทุกคนคิดกันไปว่าจะต้องขว้างบอลจากระยะไกลให้ถูกเป้า แต่ในเมื่อไม่รู้อีกฝ่ายมีอัตลักษณ์อะไร แถมยังเป็นเป้าเคลื่อนที่ที่แต่ละคนก็ระมัดระวังป้องกันเป้าของตัวเองอยู่เต็มที่ด้วยนั้นทำให้มันเป็นเรื่องที่ยากมากแถมเวลาก็มีจำกัดด้วย
ดังนั้นวิธีที่ดีกว่าคือคิดคำนวนจำนวนคนที่พวกเขาต้องการในการที่จะให้พวกเขาสอบผ่านกันทุกคน และจับกุมทำให้พวกนั้นเคลื่อนไหวไม่ได้เอาไว้เสีย จากนั้นก็ค่อยใช้บอลสัมผัสกับเป้าหมายที่อยู่นิ่งๆจะเป็นการดีกว่า ยิ่งคนห้อง 1-A มีคนที่เด่นด้านจับกุมคนจำนวนมากอยู่หลายคนด้วย ถ้าทุกคนร่วมมือกันได้ดีพวกเขาทุกคนก็จะสามารถสอบผ่านรอบนี้ไปได้
ตอนนั้นเองก็มีเสียงฝีเท้าดังไกล้เข้ามา อิสึคุจึงเสนอว่าเขาจะออกไปเป็นตัวล่อ และให้ทั้งสองคนรักษาระยะห่างไว้และทำการจับกุมพวกนั้นไว้ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้!
เซโระไม่ค่อยแน่ใจกับแผนนี้นัก แต่โอจาโกะกลับตกลงกับแผนนี้ด้วยทันที
"ฉันเชื่อใจเธอ"
"จากผลงานของเธอที่ผ่านๆมา ฉันสามารถเชื่อใจเธอได้ เดกุ"
ตัดไปอีกด้านหนึ่ง
คามินาริกำลังโวยบาคุโกว่าเพราะเขากับคิริชิมะวิ่งแตกกลุ่มกันออกมา ทำให้ตัวเขาที่ไม่อยากปล่อยให้ไปกันตามลำพังเลย ต้องตามมาด้วย เลยต้องมาเจอสถานการณ์แบบนี้!
บาคุโกเลยบอกว่าถ้างั้นก็รีบไสหัวไปเลยซะสิ! คามินาริก็ตอบว่าจะไปได้ยังไงเล่า ในเมื่อคิริชิมะโดนเล่นงานไปแล้วแบบนั้นน่ะ?
ที่อีกด้านหนึ่ง นักเรียนอีกคนจากโรงเรียนชิเค็ตสึกำลังถือก้อนเนื้อที่ดูไม่เป็นรูปทรง ทั้งตา ปาก นิ้วดูสลับที่ไปหมด แต่ก็พอจะดูออกได้ว่าเป็น...คิริชิมะ?
แถมรอบๆตัวหมอนั่นก็ยังมีก้อนเนื้อลักษณะคล้ายๆกันนับสิบกลิ้งอยู่บนพื้นด้วย
??? : พวกเรานักเรียนของชิเค็ตสึนั้นต้องสวมหมวกของโรงเรียนไว้ตลอดเวลาไม่ว่าจะทำกิจกรรมอะไรก็ตาม
??? : เพราะอะไรน่ะรึ? ก็เพราะการกระทำของพวกเราจะเป็นสิ่งสะท้อนถึงชื่อเสียงและธรรมเนียมที่สีบทอดกันมานานของโรงเรียนชิเค็ตสียังไงล่ะ
??? : นี่คือการแสดงให้เห็น
??? : ความสามารถของเหล่าผู้ที่ตั้งมั่นกับหน้าที่และศักดิ์ศรีมาตั้งแต่ก่อนจะเข้าเรียนเสียอีก นี่คือความแตกต่างระหว่างพวกเรากับพวกเหยาะแหยะที่คิดจะเป็นฮีโร่อย่างพวกแก
บาคุโก : ฉันเกลียดคนอย่างหมอนี่จังแฮะ
แล้วก็มีการล้อเลียนตาตี่ๆของนายคนจากชิเค็ตสึเล็กน้อย
??? : นักเรียนจากยูเอย์...ฉันนับถือพวกนายอยู่
??? : ฉันรู้สึกภูมิใจที่ได้อยู่ระดับเดียวกับโรงเรียนของพวกนาย แต่เมื่อเห็นพวกห้อง 1-A อย่างพวกนายมันทำให้มุมมองที่ฉันมีต่อพวกนายมันตกลงไปมาก...
ตอนนั้นเองก็มีก้อนบ้างอย่างที่ดูคล้ายนิ้วมือขนาดใหญ่ปรากฎออกมาจากร่างของเขา?!
บาคุโก : หน้าที่? ศักดิ์ศรี? ที่ฉันได้ยินก็แค่แกกำลังพล่ามไร้สาระอยู่ซะมากกว่า
บาคุโก : ถ้าอยากอวดเก่งก็เข้ามาเลยเซ่เจ้างี่เง่า!
??? : โดยเฉพาะแกนั่นแหละ บาคุโก!!!
??? : เจ้าคนโอหัง!!
ตัดไปที่นั่งคนดู
Ms.Joke : เอาหมากฝรั่งหน่อยไหม?
ไอซาว่า : ถ้าเป็นของเธอก็ไม่เอา มันน่าหงุดหงิดจริงๆที่ไม่สามารถบอกได้ว่าใครสอบผ่านหรือสอบตกบ้าง...
Ms.Joke : ชินโดของฝ่ายฉันทำเรื่องวุ่นวายเลยทำให้มองเห็นได้ยากเลยสินะ? ทำไมหรือ?
Ms.Joke : หรือว่านายจะเป็นห่วงนักเรียนอยู่กันล่ะ?
ไอซาว่า : ...ในตอนที่ฉันเฝ้าดูนักเรียนของห้อง A ฉันได้เข้าใจบางอย่างขึ้นมา
ไอซาว่า : พวกที่อยู่รอบตัวพวกนั้นอาจจะไม่รู้ตัว แต่ในห้อง A นั้นมีอยู่สองคนที่สามารถส่งผลอย่างมากต่อคนอื่นๆได้
ไอซาว่า : พวกนั้นไม่ใช่ประเภทที่จะรวมใจคนในห้องเข้าด้วยกัน หรือเป็นพวกที่เรียกร้องให้ทุกคนหันมาสนใจตัวเองคนเดียว ที่แย่กว่านั้นคือความสัมพันธ์ระหว่างสองคนนั้นเองก็ย่ำแย่สุดๆ
ไอซาว่า : แต่โดยที่เราไม่รู้ตัว อิทธิพลของสองคนนั้นก็แผ่ไปถึงคนในห้องไปแล้ว
ไอซาว่า : และที่น่าแปลกก็คือเวลามีเรื่องยุ่งๆเกิดขึ้นก็จะเจอหนึ่งในสองคนนั้นร่วมอยู่ด้วยเสมอ
ไอซาว่า : คืองี้แน่ะโจ๊ก ฉันไม่ได้เป็นห่วงหรอก แต่กำลังคาดหวังอยู่ต่างหาก
ที่ในสนามสอบ
อิสึคุใช้ตัวเองเป็นตัวล่อและสามารถดึงความสนใจพวกผู้เข้าสอบคนอื่นๆและเปิดโอกาสให้พวกโอจาโกะกับเซโระรวบตัวพวกนั้นไว้ได้หลายคนในครั้งเดียว!
ส่วนบาคุโกก็ใช้พลังระเบิดแบบรวมศูนย์ยิงทำลายการโจมตีของฝ่ายชิเค็ตสึได้ทั้งหมด!
ไอซาว่า : สองคนนั้น...การมีอยู่ของพวกเขาทำให้กำลังใจของคนทั้งห้องเพิ่มพูนขึ้นได้
Ms.Joke : พูดยังกับว่าตกหลุมรักแน่ะ น่าขยะแขยงจัง
(หึงหรือเจ๊?)
Spoil Boku no Hero Academia 106 : ปีหนึ่ง ห้อง A
ตอนนี้มีผู้ที่สอบผ่านรอบแรกมากขึ้นเรื่อยๆ โดยตอนนี้มีผู้สอบผ่านแล้ว 53 คน และมีผู้ตกรอบไปแล้ว 230 คน
(มีโควต้าสอบผ่านเหลืออีก 47 คน)
แล้วตอนนั้นเองก็มีผู้สอบผ่านเป็นคนที่ 54
โทโดโรกิ โชโตะ จากโรงเรียนยูเอย์นั่นเอง
ซึ่งแม้จะสอบผ่านเข้ารอบไปได้ แต่โทโดโรกิก็ยังไม่ค่อยพอใจผลที่ได้จากการใช้พลังไฟกับน้ำแข็งพร้อมๆกันนัก และคิดว่ายังต้องฝึกซ้อมใช้งานเพิ่มขึ้นอีก เพื่อให้ใช้งานได้ลื่นไหลยิ่งขึ้น
ทันใดนั้นก็มีเสียงของคณะกรรมการคุมสอบดังออกมาจากเป้าที่ติดที่ตัวโทโดโรกิ และบอกให้เขาที่สอบผ่านแล้วให้ไปรอที่ห้องพักผ่อนได้
เป้าที่ติดอยู่ที่ตัวแต่ละคนจะส่งข้อมูลไปให้กรรมการว่าใครสอบผ่านและสอบตกบ้าง โดยนอกจากจะส่งข้อมูลของผู้สอบและลูกบอลที่มากระทบแล้ว มันยังสามารถบอกได้ว่าใครเป็นคนขว้างลูกบอลมาโดน, จากระยะไกลแค่ไหน, การเคตื่อนไหวเป็นอย่างไรอีกด้วย อีกทั้งเมื่อแปะลงบนตัวแล้วการจะเอาออกก็ต้องใช้กุญแจแม่เหล็กเฉพาะในการเอาออกเท่านั้น
เมื่อโทโดโรกิไปถึงที่ห้องพักผ่อนก็พบว่ามีคนสอบผ่านเยอะพอสมควรแล้ว
คนหนึ่งที่สะดุดตาเขาที่สุดคือ นายอินาซะ โยอาราชิ จากโรงเรียนชิเค็ตสึ
"ถ้าเขาก็เป็นนักเรียนทุนเหมือนกันเราก็น่าจะได้เจอกันตอนสมัครเข้าเรียน แต่ว่า..."
น่าแปลกที่อินาซะซึ่งคุยอย่างเป็นมิตรสุดๆกับผู้เข้าสอบคนอื่นๆ กลับทำหน้านิ่วคิ้วขมวดเมื่อเห็นโทโดโรกิและหันไปทางอื่นทันที?
ตัดมาที่ในสนามสอบ
อิสึคุยังคงเผชิญหน้ากับสาวจากโรงเรียนชิเค็ตสึ ซึ่งตอนนี้การแปลงโฉมของเธอหลุดออกมาหมดแล้ว
(ดูเหมือนว่าถ้าใช้อัตลักษณ์เจ้าหล่อนจะต้องถอดเสื้อผ้าก่อนด้วยแฮะ? หรือเป็นการเปลี่ยนร่างกายเป็นของเหลวแล้วก่อรูปขึ้นมาใหม่)
สาวร่างเหลวโจมตีอิสึคุทั้งทีไม่มีลูกบอลในมือ และใช้เล็บข่วนหน้าเขาได้แผลหนึ่ง
ตอนนั้นเองก็มีสายเทปพุ่งเข้าใส่สาวร่างเหลวจากด้านข้างทำให้เจ้าหล่อนต้องชะงักหลบไปชั่วขณะ
เป็นเซโระนั่นเอง และตามมาด้วยโอจาโกะที่พุ่งเข้าใส่สาวร่างเหลวเพื่อจะแตะตัว แต่เจ้าหล่อนก็ไวทายาทและกระโดดม้วนหลังทิ้งระยะห่างไปได้
??? : ทั้งที่กำลังจะถึงช่วงดีๆแล้วแท้ๆนะ...
??? : น่าเสียดาย...จริงๆนะ…! นี่พูดจริงๆเลย!
??? : แต่เมื่อสถานการณ์เป็นแบบนี้ฉันก็คงต่อไม่ได้แล้ว น่าเสียดาย
??? : ฉันอยากพูดคุยกับเธอให้มากกว่านี้
??? : อุรารากะ โอจาโกะ
??? : เธอนี่ได้รับความไว้เนื้อเชื่อใจมากเลยสิ ใช่ไหม?
ว่าแล้วสาวร่างเหลวก็หนีหายไป
อิสึคุบอกไม่ให้ทั้งสองคนตามไป เพราะจากที่เห็น อัตลักษณ์ของเจ้าหล่อนน่าจะทำให้สามารถเอาตัวเองออกมาจากเสื้อผ้าที่มีเป้าติดอยู่ได้ และถึงแม้ว่าจะมีโอกาสที่เจ้าหล่อนจะกลับมาอีกแต่ด้วยเวลาที่มีเหลืออยู่ไม่มากการไปตามล่าเจ้าหล่อนเพียงคนเดียวก็ไม่ใช่เรื่องที่ฉลาดนัก
ตอนนี้พวกเขามีเหลือกันอยู่ 3 คน ส่วนคนอื่นๆก็กระจัดกระจายไปหมด และตอนนี้ก็มีผู้เข้าสอบจากโรงเรียนอื่นๆเป็นกลุ่มประมาณสิบกว่าคนกำลังตามล่าพวกเขา โดยคิดใช้จำนวนเข้ารุมด้วย
ทันใดนั้นก็มีเสียงของคณะกรรมการคุมสอบประกาศว่ามีผู้ผ่านรอบแรกแล้ว 58 คน มีโควต้าเหลือเพียงแค่ 42 คนเท่านั้น
สถานการณ์ยิ่งเร่งร้อนขึ้นไปอีก แต่อิสึคุกลับคิดว่าแม้จะมีคนจำนวนมากเล็งเป้ามาที่พวกเขา แต่ถ้ามากันเป็นกลุ่มใหญ่แบบนั้นพวกเขาก็ยังมีโอกาสจะทำอะไรได้บ้างอยู่...
เพราะในเมื่อคนจำนวนมากมาแย่งเล่นงานคนจำนวนน้อยกว่า มันก็จะทำให้พวกนั้นต้องแย่งกันเองในการโจมตีใส่เป้าสุดท้าย และยังต้องระวังกันและกันเองด้วย
เพราะกติกาการสอบคือให้บอลกระทบถูกเป้า ทำให้ทุกคนคิดกันไปว่าจะต้องขว้างบอลจากระยะไกลให้ถูกเป้า แต่ในเมื่อไม่รู้อีกฝ่ายมีอัตลักษณ์อะไร แถมยังเป็นเป้าเคลื่อนที่ที่แต่ละคนก็ระมัดระวังป้องกันเป้าของตัวเองอยู่เต็มที่ด้วยนั้นทำให้มันเป็นเรื่องที่ยากมากแถมเวลาก็มีจำกัดด้วย
ดังนั้นวิธีที่ดีกว่าคือคิดคำนวนจำนวนคนที่พวกเขาต้องการในการที่จะให้พวกเขาสอบผ่านกันทุกคน และจับกุมทำให้พวกนั้นเคลื่อนไหวไม่ได้เอาไว้เสีย จากนั้นก็ค่อยใช้บอลสัมผัสกับเป้าหมายที่อยู่นิ่งๆจะเป็นการดีกว่า ยิ่งคนห้อง 1-A มีคนที่เด่นด้านจับกุมคนจำนวนมากอยู่หลายคนด้วย ถ้าทุกคนร่วมมือกันได้ดีพวกเขาทุกคนก็จะสามารถสอบผ่านรอบนี้ไปได้
ตอนนั้นเองก็มีเสียงฝีเท้าดังไกล้เข้ามา อิสึคุจึงเสนอว่าเขาจะออกไปเป็นตัวล่อ และให้ทั้งสองคนรักษาระยะห่างไว้และทำการจับกุมพวกนั้นไว้ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้!
เซโระไม่ค่อยแน่ใจกับแผนนี้นัก แต่โอจาโกะกลับตกลงกับแผนนี้ด้วยทันที
"ฉันเชื่อใจเธอ"
"จากผลงานของเธอที่ผ่านๆมา ฉันสามารถเชื่อใจเธอได้ เดกุ"
ตัดไปอีกด้านหนึ่ง
คามินาริกำลังโวยบาคุโกว่าเพราะเขากับคิริชิมะวิ่งแตกกลุ่มกันออกมา ทำให้ตัวเขาที่ไม่อยากปล่อยให้ไปกันตามลำพังเลย ต้องตามมาด้วย เลยต้องมาเจอสถานการณ์แบบนี้!
บาคุโกเลยบอกว่าถ้างั้นก็รีบไสหัวไปเลยซะสิ! คามินาริก็ตอบว่าจะไปได้ยังไงเล่า ในเมื่อคิริชิมะโดนเล่นงานไปแล้วแบบนั้นน่ะ?
ที่อีกด้านหนึ่ง นักเรียนอีกคนจากโรงเรียนชิเค็ตสึกำลังถือก้อนเนื้อที่ดูไม่เป็นรูปทรง ทั้งตา ปาก นิ้วดูสลับที่ไปหมด แต่ก็พอจะดูออกได้ว่าเป็น...คิริชิมะ?
แถมรอบๆตัวหมอนั่นก็ยังมีก้อนเนื้อลักษณะคล้ายๆกันนับสิบกลิ้งอยู่บนพื้นด้วย
??? : พวกเรานักเรียนของชิเค็ตสึนั้นต้องสวมหมวกของโรงเรียนไว้ตลอดเวลาไม่ว่าจะทำกิจกรรมอะไรก็ตาม
??? : เพราะอะไรน่ะรึ? ก็เพราะการกระทำของพวกเราจะเป็นสิ่งสะท้อนถึงชื่อเสียงและธรรมเนียมที่สีบทอดกันมานานของโรงเรียนชิเค็ตสียังไงล่ะ
??? : นี่คือการแสดงให้เห็น
??? : ความสามารถของเหล่าผู้ที่ตั้งมั่นกับหน้าที่และศักดิ์ศรีมาตั้งแต่ก่อนจะเข้าเรียนเสียอีก นี่คือความแตกต่างระหว่างพวกเรากับพวกเหยาะแหยะที่คิดจะเป็นฮีโร่อย่างพวกแก
บาคุโก : ฉันเกลียดคนอย่างหมอนี่จังแฮะ
แล้วก็มีการล้อเลียนตาตี่ๆของนายคนจากชิเค็ตสึเล็กน้อย
??? : นักเรียนจากยูเอย์...ฉันนับถือพวกนายอยู่
??? : ฉันรู้สึกภูมิใจที่ได้อยู่ระดับเดียวกับโรงเรียนของพวกนาย แต่เมื่อเห็นพวกห้อง 1-A อย่างพวกนายมันทำให้มุมมองที่ฉันมีต่อพวกนายมันตกลงไปมาก...
ตอนนั้นเองก็มีก้อนบ้างอย่างที่ดูคล้ายนิ้วมือขนาดใหญ่ปรากฎออกมาจากร่างของเขา?!
บาคุโก : หน้าที่? ศักดิ์ศรี? ที่ฉันได้ยินก็แค่แกกำลังพล่ามไร้สาระอยู่ซะมากกว่า
บาคุโก : ถ้าอยากอวดเก่งก็เข้ามาเลยเซ่เจ้างี่เง่า!
??? : โดยเฉพาะแกนั่นแหละ บาคุโก!!!
??? : เจ้าคนโอหัง!!
ตัดไปที่นั่งคนดู
Ms.Joke : เอาหมากฝรั่งหน่อยไหม?
ไอซาว่า : ถ้าเป็นของเธอก็ไม่เอา มันน่าหงุดหงิดจริงๆที่ไม่สามารถบอกได้ว่าใครสอบผ่านหรือสอบตกบ้าง...
Ms.Joke : ชินโดของฝ่ายฉันทำเรื่องวุ่นวายเลยทำให้มองเห็นได้ยากเลยสินะ? ทำไมหรือ?
Ms.Joke : หรือว่านายจะเป็นห่วงนักเรียนอยู่กันล่ะ?
ไอซาว่า : ...ในตอนที่ฉันเฝ้าดูนักเรียนของห้อง A ฉันได้เข้าใจบางอย่างขึ้นมา
ไอซาว่า : พวกที่อยู่รอบตัวพวกนั้นอาจจะไม่รู้ตัว แต่ในห้อง A นั้นมีอยู่สองคนที่สามารถส่งผลอย่างมากต่อคนอื่นๆได้
ไอซาว่า : พวกนั้นไม่ใช่ประเภทที่จะรวมใจคนในห้องเข้าด้วยกัน หรือเป็นพวกที่เรียกร้องให้ทุกคนหันมาสนใจตัวเองคนเดียว ที่แย่กว่านั้นคือความสัมพันธ์ระหว่างสองคนนั้นเองก็ย่ำแย่สุดๆ
ไอซาว่า : แต่โดยที่เราไม่รู้ตัว อิทธิพลของสองคนนั้นก็แผ่ไปถึงคนในห้องไปแล้ว
ไอซาว่า : และที่น่าแปลกก็คือเวลามีเรื่องยุ่งๆเกิดขึ้นก็จะเจอหนึ่งในสองคนนั้นร่วมอยู่ด้วยเสมอ
ไอซาว่า : คืองี้แน่ะโจ๊ก ฉันไม่ได้เป็นห่วงหรอก แต่กำลังคาดหวังอยู่ต่างหาก
ที่ในสนามสอบ
อิสึคุใช้ตัวเองเป็นตัวล่อและสามารถดึงความสนใจพวกผู้เข้าสอบคนอื่นๆและเปิดโอกาสให้พวกโอจาโกะกับเซโระรวบตัวพวกนั้นไว้ได้หลายคนในครั้งเดียว!
ส่วนบาคุโกก็ใช้พลังระเบิดแบบรวมศูนย์ยิงทำลายการโจมตีของฝ่ายชิเค็ตสึได้ทั้งหมด!
ไอซาว่า : สองคนนั้น...การมีอยู่ของพวกเขาทำให้กำลังใจของคนทั้งห้องเพิ่มพูนขึ้นได้
Ms.Joke : พูดยังกับว่าตกหลุมรักแน่ะ น่าขยะแขยงจัง
(หึงหรือเจ๊?)