เปิดฉากมาที่สนามสอบ
บรรดาผู้เข้าสอบที่มองดูสนามสอบรอบแรกถูกถล่มพังพินาศ พร้อมกับที่กรรมการคุมสอบประกาศออกมาว่า
[ในฐานะผู้พบเห็นเหตุการณ์ในสถานที่เกิดเหตุภัยพิบัติ…]
[เราจะให้ทุกท่านทำภารกิจกู้ภัย]
[ไม่ใช่ในฐานะประชาชนธรรมดา แต่ให้คิดว่าตัวเองอยู่ในฐานะของผู้ที่ได้รับใบอนุญาติมาแล้ว…]
[เราจะทดสอบความสามารถในการปฏิบัติการกู้ภัยของพวกคุณ]
ตอนนั้นเองพวกคนห้อง A ก็สังเกตุเห็นว่ามีคนอยู่ในกองซากปรักหักพัง มีทั้งเด็กและคนแก่?!
[คนเหล่านี้ล้วนได้รับการฝึกมาเป็นอย่างดี และกำลังเป็นที่ต้องการตัวอย่างมาก!]
[พวกเขาคือบุคลากรจากบริษัท HUC ซึ่งย่อมาจาก "Help Us Company"]
[ด้วยการปลอมตัวเป็นเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายที่ได้รับบาดเจ็บ สมาชิกของ HUC จะกระจายไปตามสนามสอบ]
[และทุกท่านก็จะเป็นผู้ที่ทำหน้าที่เข้าช่วยเหลือพวกเขา]
[ยิ่งไปกว่านั้นในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่กู้ภัยนั้นจะมีการให้คะแนนแก่ผู้เข้าสอบควบคู่ไปด้วย]
[ในตอนที่การสอบสิ้นสุด ผู้ที่ได้รับคะแนนสูงกว่าค่ามาตรฐานจะถือว่าสอบผ่าน เราจะเริ่มในอีกสอบนาทีข้างหน้า ในตอนนี้จึงขอให้ทุกท่านไปเข้าห้องน้ำหรือทำธุระต่างๆให้เรียบร้อย]
ในขณะที่บรรดาผู้เข้าสอบคนอื่นต่างวิพากษ์วิจารณ์เนื้อหา หรือบรรดาเจ้าหน้าที่จากบริษัท HUC อิสึคุกับอีดะกลับมีความรู้สึกที่แตกต่างไป...
อีดะ : มิโดริยะ...
อิสึคุ : ใช่..
อิสึคุ : บางทีพวกนั้นอาจจะใช้เรื่องที่เมืองคามิโนะเป็นต้นแบบของการสอบนี้
อีดะ : ในตอนนั้นพวกเราทำสิ่งที่เราสามารถทำได้เพื่อช่วยบาคุโกจากพวกวายร้าย เราตั้งใจที่จะไม่เข้าไปขวางมือขวางเท้าพวกมืออาชีพ
อีดะ : ท่ามกลางความวุ่นวายนั่นมีผู้เคราะห์ร้ายมากมาย...
อิสึคุ : เรามาทำให้ดีที่สุดกันเถอะ
ตัดไปที่อีกด้านหนึ่ง
เซโระได้เรียกมิเนตะกับคามินาริมาคุยเรื่องของเคมิ สาวจากชิเค็ตสึที่พบกันระหว่างการสอบรอบที่แล้ว...
ซึ่งเมื่อพวกมิเนตะรู้ว่าเซโระไปเจอเจ้าหล่อนนุ่งลมห่มฟ้าอยู่กับอิสึคุหลังก้อนหิน ทั้งสองก็เกิดอิจฉาตาร้อนจนมาโวยใส่อิสึคุกันเป็นการใหญ่
สถานการณ์มันยิ่งมั่วหนักขึ้นเมื่อเจ้าหล่อนหันมายิ้มพร้อมโบกไม้โบกมือให้อิสึคุ ทำให้พวกมิเนตะยิ่งตาร้อนหนักขึ้นไปอีก!
ตอนนั้นเองบรรดานักเรียนของโรงเรียนชิเค็ตสึนำโดยนายขนดกก็มาหาบาคุโก พร้อมทั้งกล่าวขอโทษที่ชิชิคุระพรรคพวกของเขามาหาเรื่องบาคุโกก่อนหน้านี้
พร้อมบอกว่าทางชิเค็ตสึอยากจะรักษาความสัมพันธ์อันดีต่อยูเอย์เอาไว้ และดังนั้นพวกเขาจึงขอโทษบาคุ
โกด้วย
ซึ่งแน่นอนว่าถึงแม้จะพูดเช่นนั้น แต่จะให้ทางฝ่ายยูเอย์เชื่อทันทีก็เป็นเรื่องที่ยากจะทำได้
ถึงตอนนี้โทโดโรกิที่สังเกตุเห็นอินาซะก็จำได้ว่าอีกฝ่ายหันมามองเขาด้วยสายตาไม่เป็นมิตรก่อนหน้านี้ แล้วเข้าไปถามว่าเขาเคยไปทำให้อีกฝ่ายไม่พอใจมาก่อนหรือ?
ซึ่งอินาซะก็บอกออกมาตรงๆว่าเหตุผลคือเขาเกลียด Endeavor พ่อของโทโดโรกิ และนั่นทำให้เขาเกลียดโทโดโรกิไปด้วย เพราะถึงแม้ความประพฤติของโทโดโรกิจะแตกต่างไปจากก่อนหน้านี้ก็ตาม แต่ดวงตาของเขาก็ยังเหมือนกับ Endeavor อยู่ดี
ซึ่งคำพูดนั้นก็ทำให้โทโดโรกิต้องคิดหนัก...
ดีกด้านหนึ่ง โอจาโกะที่เห็นเคมิมาทักทายเล่นหูเล่นตากับอิสึคุก็รู้สึกสับสนในใจ...
ทันใดนั้นเสียงไซเรนก็ดังขึ้นพร้อมการประกาศแจ้งเตือนภัยตามแบบที่ใช้ในสถานการณ์ฉุกเฉินของจริง!
การสอบรอบที่สองเริ่มขึ้นแล้ว!!
บรรดาผู้เข้าสอบต่างคิดถึงสิ่งที่ได้รับแจ้งมาก่อนหน้านี้
"ให้ถูกต้อง! จะต้องทำให้ถูกต้องที่สุด...!!"
"แต่ว่า เมื่อตอนที่เราได้รับแจ้งว่ามีการให้คะแนนนั้น..."
"ไม่มีการพูดถึงมาตรฐานการให้คะแนนเลย ดังนี้ที่จะสามารถทำได้ก็คือ..."
"ถ้าไม่แน่ใจ ให้ยึดตามที่ฝึกมา..."
เมื่อเข้ามาถึงสนามสอบ พวกอิสึคุก็เจอเข้ากับเด็กที่บาดเจ็บคนหนึ่ง เขาบอกว่าปู่ของเขาถูกซากตึกถล่มทับอยู่
แต่เมื่ออิสึคุแสดงท่าทีตกใจแล้วถามว่าปู่ที่ว่าอยู่ไหน? เด็กที่ร้องไห้อยู่ก่อนหน้านี้กลับหันมาทำหน้าดุใส่แล้วบอกว่า คำพูดแบบนั้นใช้ไม่ได้ แล้วตัดแต้มอิสึคุ?!
จากนั้นเจ้าเด็กคนเจ็บปลอมก็สาธยายยาวเหยียดสิ่งที่ควรทำขั้นแรกในสถานการณ์นี้คือตรวจดูว่าคนเจ็บสามารถเดินเองได้หรือไม่? บาดเจ็บตรงไหนบ้าง? แล้วจากตรวจสอบสถานการณ์แล้วก็นั้นต้องสามารถลงมือปฏิบัติได้ทันที!
ถึงตรงนี้พวกอิสึคุก็รู้ตัวว่าคนที่ให้คะแนนในการสอบรอบนี้ก็คือบรรดาพนักงานของ HUC นั่นเอง?!
และตรงนี้เองความแตกต่างของเวลาที่ทำการรียนและฝึกฝนปรากฎขึ้นมา...
บรรดาผู้เข้าสอบคนอื่นๆที่เป็นเด็กปี 2 ขึ้นไปเป็นส่วนใหญ่ต่างก็สามารถรับมือสถานการณ์ได้อย่างรอบคอบและเยือกเย็นกว่ามาก
ไอซาว่า : อย่างที่คิดไว้เลยแฮะ...ตรงนี้แหละที่พวกนั้นจะเสียเปรียบสุดๆ
ไอซาว่า : ไม่ใช่เพียงแค่ช่วยเหลือและกู้ภัยเท่านั้น จนกว่าหน่วยดับเพลิงหรือตำรวจจะมาถึงที่เกิดเหตุ ทุกอย่างก็อยู่ในความรับผิดชอบของพวกฮีโร่ที่อยู่ตรงนั้น ซึ่งเมื่อเป็นเช่นนั้นก็ต้องปฏิบัติการณ์ได้อย่างลื่นไหล
ไอซาว่า : ในการช่วยเหลือผู้คน ฮีโร่จะต้องเก่งให้ได้รอบด้าน
หลังถูกเด็กพูดสั่งสอนแทงใจเสียยืดยาวอิสึคุก็นึกถึง All Might และเริ่มตั้งสติใหม่!
"ใจเย็นไว้! นี่เรากำลังทำอะไรอยู่?!"
"ต้องเปิดสวิทซ์ใหัได้!"
"ทั้งการได้ใบอนุญาติชั่วคราวและการสอบนี้มันไม่ใช่แค่ทางผ่านนะ"
"ทั้งหมดนี้เป็นส่วนหนึ่ง..."
"ของการทำตามความฝันของฉัน!"
ว่าแล้วอิสึคุก็ทำตามแบบที่ All Might ทำ เข้าหาผู้ประสบภัยพร้อมกับร้อยยิ้มที่จะให้ความมั่นใจแก่คนที่กำลังเจ็บปวดและหวาดกลัวว่าทุกอย่างจะต้องเรียบร้อย และตรวจสอบอาการคนเจ็บพร้อมมอบหมายให้พรรคพวกปฏิบัติการช่วยเหลือคนที่ติดอยู่ในซากปรักหักพังในขณะที่เขาพาคนเจ็บไปส่งศูนย์กู้ภัย
(เจ้าเด็กคนเจ็บปลอมก็สมเป็นมืออาชีพ กลับไปสวมบทบาทผู้ประสบภัยต่อได้อย่างสมบูรณ์แบบโดยไม่มีติดขัดเลยสักนิด)
เมื่อมองแผ่นหลังของอิสึคุที่วิ่งเอาคนเจ็บไปส่ง โอจาโกะก็คิดถึงตัวเองบ้าง...
"นี่ฉัน...ทำอะไรอยู่?!"
"ความรู้สึกนี้...ฉันจะต้องปิดมันไปก่อน"
"เหตุผลที่ฉันคิดว่าเดกุนั้นเท่ห์...ก็เป็นเพราะว่าเพื่อทำสิ่งที่เข้าตั้งเป้าหมายเอาไว้"
"เขาจะทำทุกสิ่งที่ทำได้โดยไม่ย่อท้อ"
"ฉนจะต้องทำให้ดีที่สุด ให้เหมือนกับเขา และด้วยเหตุนั้น..."
"ฉันจะต้องเก็บความรู้สึกเหล่านี้ไว้ก่อน"
ขณะเดียวกันนั้น...กรรมการคุมสอบก็เตรียมพร้อมทำอะไรบางอย่าง...
กรรมการ : เอาละ
กรรมการ : มันก็แน่อยู่แล้วล่ะนะ...ว่าวิธีการทั่วไปน่ะมันไม่เพียงพอสำหรับงานนี้หรอก...
อุปสรรค์ใหม่กำลังจะถูกส่งลงไปยังสนามสอบแล้ว!!
Spoil Boku no Hero Academia 109 : ปฏิบัติการกู้ภัย
บรรดาผู้เข้าสอบที่มองดูสนามสอบรอบแรกถูกถล่มพังพินาศ พร้อมกับที่กรรมการคุมสอบประกาศออกมาว่า
[ในฐานะผู้พบเห็นเหตุการณ์ในสถานที่เกิดเหตุภัยพิบัติ…]
[เราจะให้ทุกท่านทำภารกิจกู้ภัย]
[ไม่ใช่ในฐานะประชาชนธรรมดา แต่ให้คิดว่าตัวเองอยู่ในฐานะของผู้ที่ได้รับใบอนุญาติมาแล้ว…]
[เราจะทดสอบความสามารถในการปฏิบัติการกู้ภัยของพวกคุณ]
ตอนนั้นเองพวกคนห้อง A ก็สังเกตุเห็นว่ามีคนอยู่ในกองซากปรักหักพัง มีทั้งเด็กและคนแก่?!
[คนเหล่านี้ล้วนได้รับการฝึกมาเป็นอย่างดี และกำลังเป็นที่ต้องการตัวอย่างมาก!]
[พวกเขาคือบุคลากรจากบริษัท HUC ซึ่งย่อมาจาก "Help Us Company"]
[ด้วยการปลอมตัวเป็นเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายที่ได้รับบาดเจ็บ สมาชิกของ HUC จะกระจายไปตามสนามสอบ]
[และทุกท่านก็จะเป็นผู้ที่ทำหน้าที่เข้าช่วยเหลือพวกเขา]
[ยิ่งไปกว่านั้นในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่กู้ภัยนั้นจะมีการให้คะแนนแก่ผู้เข้าสอบควบคู่ไปด้วย]
[ในตอนที่การสอบสิ้นสุด ผู้ที่ได้รับคะแนนสูงกว่าค่ามาตรฐานจะถือว่าสอบผ่าน เราจะเริ่มในอีกสอบนาทีข้างหน้า ในตอนนี้จึงขอให้ทุกท่านไปเข้าห้องน้ำหรือทำธุระต่างๆให้เรียบร้อย]
ในขณะที่บรรดาผู้เข้าสอบคนอื่นต่างวิพากษ์วิจารณ์เนื้อหา หรือบรรดาเจ้าหน้าที่จากบริษัท HUC อิสึคุกับอีดะกลับมีความรู้สึกที่แตกต่างไป...
อีดะ : มิโดริยะ...
อิสึคุ : ใช่..
อิสึคุ : บางทีพวกนั้นอาจจะใช้เรื่องที่เมืองคามิโนะเป็นต้นแบบของการสอบนี้
อีดะ : ในตอนนั้นพวกเราทำสิ่งที่เราสามารถทำได้เพื่อช่วยบาคุโกจากพวกวายร้าย เราตั้งใจที่จะไม่เข้าไปขวางมือขวางเท้าพวกมืออาชีพ
อีดะ : ท่ามกลางความวุ่นวายนั่นมีผู้เคราะห์ร้ายมากมาย...
อิสึคุ : เรามาทำให้ดีที่สุดกันเถอะ
ตัดไปที่อีกด้านหนึ่ง
เซโระได้เรียกมิเนตะกับคามินาริมาคุยเรื่องของเคมิ สาวจากชิเค็ตสึที่พบกันระหว่างการสอบรอบที่แล้ว...
ซึ่งเมื่อพวกมิเนตะรู้ว่าเซโระไปเจอเจ้าหล่อนนุ่งลมห่มฟ้าอยู่กับอิสึคุหลังก้อนหิน ทั้งสองก็เกิดอิจฉาตาร้อนจนมาโวยใส่อิสึคุกันเป็นการใหญ่
สถานการณ์มันยิ่งมั่วหนักขึ้นเมื่อเจ้าหล่อนหันมายิ้มพร้อมโบกไม้โบกมือให้อิสึคุ ทำให้พวกมิเนตะยิ่งตาร้อนหนักขึ้นไปอีก!
ตอนนั้นเองบรรดานักเรียนของโรงเรียนชิเค็ตสึนำโดยนายขนดกก็มาหาบาคุโก พร้อมทั้งกล่าวขอโทษที่ชิชิคุระพรรคพวกของเขามาหาเรื่องบาคุโกก่อนหน้านี้
พร้อมบอกว่าทางชิเค็ตสึอยากจะรักษาความสัมพันธ์อันดีต่อยูเอย์เอาไว้ และดังนั้นพวกเขาจึงขอโทษบาคุ
โกด้วย
ซึ่งแน่นอนว่าถึงแม้จะพูดเช่นนั้น แต่จะให้ทางฝ่ายยูเอย์เชื่อทันทีก็เป็นเรื่องที่ยากจะทำได้
ถึงตอนนี้โทโดโรกิที่สังเกตุเห็นอินาซะก็จำได้ว่าอีกฝ่ายหันมามองเขาด้วยสายตาไม่เป็นมิตรก่อนหน้านี้ แล้วเข้าไปถามว่าเขาเคยไปทำให้อีกฝ่ายไม่พอใจมาก่อนหรือ?
ซึ่งอินาซะก็บอกออกมาตรงๆว่าเหตุผลคือเขาเกลียด Endeavor พ่อของโทโดโรกิ และนั่นทำให้เขาเกลียดโทโดโรกิไปด้วย เพราะถึงแม้ความประพฤติของโทโดโรกิจะแตกต่างไปจากก่อนหน้านี้ก็ตาม แต่ดวงตาของเขาก็ยังเหมือนกับ Endeavor อยู่ดี
ซึ่งคำพูดนั้นก็ทำให้โทโดโรกิต้องคิดหนัก...
ดีกด้านหนึ่ง โอจาโกะที่เห็นเคมิมาทักทายเล่นหูเล่นตากับอิสึคุก็รู้สึกสับสนในใจ...
ทันใดนั้นเสียงไซเรนก็ดังขึ้นพร้อมการประกาศแจ้งเตือนภัยตามแบบที่ใช้ในสถานการณ์ฉุกเฉินของจริง!
การสอบรอบที่สองเริ่มขึ้นแล้ว!!
บรรดาผู้เข้าสอบต่างคิดถึงสิ่งที่ได้รับแจ้งมาก่อนหน้านี้
"ให้ถูกต้อง! จะต้องทำให้ถูกต้องที่สุด...!!"
"แต่ว่า เมื่อตอนที่เราได้รับแจ้งว่ามีการให้คะแนนนั้น..."
"ไม่มีการพูดถึงมาตรฐานการให้คะแนนเลย ดังนี้ที่จะสามารถทำได้ก็คือ..."
"ถ้าไม่แน่ใจ ให้ยึดตามที่ฝึกมา..."
เมื่อเข้ามาถึงสนามสอบ พวกอิสึคุก็เจอเข้ากับเด็กที่บาดเจ็บคนหนึ่ง เขาบอกว่าปู่ของเขาถูกซากตึกถล่มทับอยู่
แต่เมื่ออิสึคุแสดงท่าทีตกใจแล้วถามว่าปู่ที่ว่าอยู่ไหน? เด็กที่ร้องไห้อยู่ก่อนหน้านี้กลับหันมาทำหน้าดุใส่แล้วบอกว่า คำพูดแบบนั้นใช้ไม่ได้ แล้วตัดแต้มอิสึคุ?!
จากนั้นเจ้าเด็กคนเจ็บปลอมก็สาธยายยาวเหยียดสิ่งที่ควรทำขั้นแรกในสถานการณ์นี้คือตรวจดูว่าคนเจ็บสามารถเดินเองได้หรือไม่? บาดเจ็บตรงไหนบ้าง? แล้วจากตรวจสอบสถานการณ์แล้วก็นั้นต้องสามารถลงมือปฏิบัติได้ทันที!
ถึงตรงนี้พวกอิสึคุก็รู้ตัวว่าคนที่ให้คะแนนในการสอบรอบนี้ก็คือบรรดาพนักงานของ HUC นั่นเอง?!
และตรงนี้เองความแตกต่างของเวลาที่ทำการรียนและฝึกฝนปรากฎขึ้นมา...
บรรดาผู้เข้าสอบคนอื่นๆที่เป็นเด็กปี 2 ขึ้นไปเป็นส่วนใหญ่ต่างก็สามารถรับมือสถานการณ์ได้อย่างรอบคอบและเยือกเย็นกว่ามาก
ไอซาว่า : อย่างที่คิดไว้เลยแฮะ...ตรงนี้แหละที่พวกนั้นจะเสียเปรียบสุดๆ
ไอซาว่า : ไม่ใช่เพียงแค่ช่วยเหลือและกู้ภัยเท่านั้น จนกว่าหน่วยดับเพลิงหรือตำรวจจะมาถึงที่เกิดเหตุ ทุกอย่างก็อยู่ในความรับผิดชอบของพวกฮีโร่ที่อยู่ตรงนั้น ซึ่งเมื่อเป็นเช่นนั้นก็ต้องปฏิบัติการณ์ได้อย่างลื่นไหล
ไอซาว่า : ในการช่วยเหลือผู้คน ฮีโร่จะต้องเก่งให้ได้รอบด้าน
หลังถูกเด็กพูดสั่งสอนแทงใจเสียยืดยาวอิสึคุก็นึกถึง All Might และเริ่มตั้งสติใหม่!
"ใจเย็นไว้! นี่เรากำลังทำอะไรอยู่?!"
"ต้องเปิดสวิทซ์ใหัได้!"
"ทั้งการได้ใบอนุญาติชั่วคราวและการสอบนี้มันไม่ใช่แค่ทางผ่านนะ"
"ทั้งหมดนี้เป็นส่วนหนึ่ง..."
"ของการทำตามความฝันของฉัน!"
ว่าแล้วอิสึคุก็ทำตามแบบที่ All Might ทำ เข้าหาผู้ประสบภัยพร้อมกับร้อยยิ้มที่จะให้ความมั่นใจแก่คนที่กำลังเจ็บปวดและหวาดกลัวว่าทุกอย่างจะต้องเรียบร้อย และตรวจสอบอาการคนเจ็บพร้อมมอบหมายให้พรรคพวกปฏิบัติการช่วยเหลือคนที่ติดอยู่ในซากปรักหักพังในขณะที่เขาพาคนเจ็บไปส่งศูนย์กู้ภัย
(เจ้าเด็กคนเจ็บปลอมก็สมเป็นมืออาชีพ กลับไปสวมบทบาทผู้ประสบภัยต่อได้อย่างสมบูรณ์แบบโดยไม่มีติดขัดเลยสักนิด)
เมื่อมองแผ่นหลังของอิสึคุที่วิ่งเอาคนเจ็บไปส่ง โอจาโกะก็คิดถึงตัวเองบ้าง...
"นี่ฉัน...ทำอะไรอยู่?!"
"ความรู้สึกนี้...ฉันจะต้องปิดมันไปก่อน"
"เหตุผลที่ฉันคิดว่าเดกุนั้นเท่ห์...ก็เป็นเพราะว่าเพื่อทำสิ่งที่เข้าตั้งเป้าหมายเอาไว้"
"เขาจะทำทุกสิ่งที่ทำได้โดยไม่ย่อท้อ"
"ฉนจะต้องทำให้ดีที่สุด ให้เหมือนกับเขา และด้วยเหตุนั้น..."
"ฉันจะต้องเก็บความรู้สึกเหล่านี้ไว้ก่อน"
ขณะเดียวกันนั้น...กรรมการคุมสอบก็เตรียมพร้อมทำอะไรบางอย่าง...
กรรมการ : เอาละ
กรรมการ : มันก็แน่อยู่แล้วล่ะนะ...ว่าวิธีการทั่วไปน่ะมันไม่เพียงพอสำหรับงานนี้หรอก...
อุปสรรค์ใหม่กำลังจะถูกส่งลงไปยังสนามสอบแล้ว!!