เปิดฉากมาที่การประกาศผลสอบ
บรรดานักเรียนห้อง 1-A ต่างพบชื่อตัวเองบนบอร์ดประกาศไปทีละคน
แต่ทว่า...
ไม่มี "บาคุโก"...
และไม่มี "โทโดโรกิ"
ตอนนั้นเอง อินาซะที่ก็สอบไม่ผ่านเช่นกันก็เดินมาหาโทโดโรกิ
ก่อนจะก้มหัวขอโทษจนหัวโขกพื้นอย่างแรง?!
อินาซะ : ที่นายต้องสอบไม่ผ่าน...
อินาซะ : มันเป็นความผิดของฉัน! มันเป็นเพราะจิตใจของฉันไม่เข้มแข็งพอ! ฉันต้องขอโทษด้วย!
โทโดโรกิ : จริงๆแล้วนี่มันเป็นเรื่องที่มีต้นเหตุมาจากการกระทำของฉันเอง...
โทโดโรกิ : เพราะงั้นพอแค่นี้เถอะ.
"ตลอดเวลาที่ผ่านมา ฉันเอาแต่หมกหมุ้นกับเรื่องที่ว่าเป็นลูกของเจ้านั่น มากกว่าความต้องการเป็นฮีโร่"
"แล้วฉันก็ปล่อยให้มันมาเหนี่ยวรั้งตัวเองเอาไว้"
โทโดโรกิ : นายเพียงแค่พูดสิ่งที่นายคิดออกมาตรงๆเท่านั้น แล้วก็ด้วยเหตุนั้น มันทำให้ฉันได้รู้ตัวถึงเรื่องสำคัญด้วย
หลังจากนั้นบรรดาพวกนักเรียนห้อง 1-A ต่างก็พูดคุยกันถึงเรื่องที่อันดับท็อป 1-2 ของห้องต่างก็สอบไม่ผ่านกันทั้งคู่เลย
(คิริชิมะแซวบาคุโกว่าที่ไม่ผ่านเป็นเพราะเขาพูดจาไม่เหมาะสมในระหว่างทำภารกิจกู้ภัยนั่นแหละ)
เมื่อทุกคนได้รู้ผลการสอบว่าใครผ่านใครตกแล้ว คณะกรรมการก็ทำการแจกจ่ายรายละเอียดการให้คะแนนอย่างละเอียดเป็นรายบุคคลให้แก่ผู้เข้าสอบแต่ละคนเพื่อให้สามารถวิเคราะห์การกระทำของตนเองระหว่างการสอบ
โดยแต่ละคนจะมีคะแนนเต็ม 100 และจะถูกหักลบลงไปเมื่อทำความผิดพลาดระหว่างการสอบ ซึ่งรายละเอียดที่ว่าถูกหักตอนไหนอย่างไรจะถูกเขียนไว้ในแผ่นรายละเอียดที่แจกจ่ายไปให้
โอจิโร่ : 61 คะแนน (ค่อนข้างคาบเส้น)
เซโระ : 84 คะแนน
โมโมะ : 94 คะแนน
อีดะ : 80 คะแนน
อิสึคุ : 71 คะแนน ซึ่งส่วนใหญ่ที่โดนหักมาจากตอนก่อนที่เขาจะลงมือทำการกู้ภัย เพราะตอนนั้นเขาเอาแต่ตกตะลึงจนลงมือช้าจึงโดนตัดแต้มไปค่อนข้างมาก
"แต่ว่า...มันมีอะไรแปลกๆ..."
"การสอบนี้ใช้ระบบหักคะแนนโดยไม่มีการให้คะแนนเสริมเพิ่มเลย...และคนที่เหลือน้อยกว่า 50 คะแนนก็จะสอบตกทันที"
"พวกนั้นใช้ระบบที่ไม่ยอมให้มีการแก้ตัวเลย แต่ว่า..."
"กลับยอมให้ทุกคนอยู่ในการสอบต่อจนจบโดยไม่บอกให้พวกที่สอบตกไปแล้วออกจากสนามสอบในตอนที่คะแนนลดจนต่ำกว่า 50 คะแนนไปแล้ว...?"
เมื่อทุกคนได้รับใบคะแนนของตัวเองจนครบแล้ว ทางคณะกรรมการก็ให้โอวาทก่อนจบว่า ตั้งแต่นี้ไปขึ้นอยู่กับสถานการณ์พวกเขาจะได้รับอำนาจหน้าที่เท่าเทียมกับฮีโร่อาชีพตัวจริง และพวกเขาสามารถลงมือปฏิบัติการได้โดยที่ไม่ต้องได้รับการอนุญาติจากฮีโร่มือโปรก่อนเหมือนที่ผ่านๆมา แต่เพราะอย่างนั้นภาระรับผิดชอบและผลที่เกิดขึ้นจากการกระทำของพวกเขาก็จะใหญ่ขึ้นตามไปด้วย ดังนั้นพวกเขาจึงต้องคิดเรื่องนี้ไว้ให้มาก
ในตอนนี้ที่ All Might ร่างกายทรุดโทรมจนไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้อีกต่อไปนั้น ตัวตนอันยิ่งใหญ่ของเขาที่คอยกดเหล่าคนชั่วไม่ให้ออกมาอาละวาดอย่างที่ผ่านมาก็หายไปด้วย และนั่นก็ทำให้ตอนนี้คือจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญของยุคสมัย พวกเด็กนักเรียนในตอนนี้จะกลายเป็นฮีโร่อาชีพที่จะเป็นผู้รับหน้าที่ต่อสู้และยับยั้งความชั่วร้ายแทนที่ และขอให้ทุกคนตั้งใจศึกษาเล่าเรียนอย่างเต็มที่ต่อไป
และสุดท้ายนี้...สำหรับพวกที่สอบตก...
พวกเขายังมีโอกาสแก้ตัวอยู่อีก! เพราะพวกเขาสามารถเข้าร่วมคอร์สฝึกฝนพิเศษที่จะมีขึ้นในเดือนมีนาคม ถ้าหากว่าพวกเขาทำผลงานได้ดีในการสอบที่จะมีขึ้นหลังจากนั้น พวกเขาก็สามารถที่จะได้รับใบอนุญาติชั่วคราวได้เช่นกัน!
ด้วยเหตุที่ว่าการสอบนี้มีไว้เพิ่อค้นหา "ฮีโร่ที่มีคุณภาพ" จำนวนมากที่สุดเท่าที่จะมากได้ ดังนั้นการสอบนี้จึงเรียกได้ว่าเป็นการ "กลั่นกรอง" เพื่อเฟ้นผู้มีความสามารถโดดเด่นเป็นพิเศษขึ้นมา
และด้วยเหตุนั้นคณะกรรมการจึงให้ทุกคนอยู่ในสนามสอบจนถึงท้ายที่สุด และจากการเฝ้าดูของคณะกรรมการก็พบว่าในบรรดาผู้ที่สอบตกนั้นไม่ได้เป็นเพราะขาดความสามารถแต่อย่างใด แต่เมื่อดูกันให้ดีๆแล้วก็มีผู้ที่มีความสามารถสูงยิ่งกว่าพวกที่สอบผ่านเสียอีกอยู่ด้วย
มันอาจเป็นการยากที่จะเข้าร่วมคอร์สฝึกฝนพิเศษไปพร้อมๆกับการเรียนปกติที่โรงเรียนของตนไปด้วย แต่ทางคณะกรรมการก็หวังว่าทุกคนที่สอบตกในครั้งนี้จะเข้าร่วมในการสอบครั้งต่อไปที่จะมีขึ้นในเดือนเมษายนกันทุกคน
ซึ่งแน่นอนว่าทุกคนต่างก็ยินดีรับโอกาสที่สองในครั้งนี้กันอย่างเต็มที่!!
หลังจากนั้น
อิสึคุมองดูใบอนุญาติชั่วคราวของเขาด้วยความซาบซึ้งยินดีจนน้ำตาซึม
โอจาโกะ : เดกุคุง นั่นร้องไห้อยู่เหรอ?!
อิสึคุ : ม-ไม่ แบบว่า...มันก็ใช่อยู่น่ะนะ...
อิสึคุ : ที่ผ่านมาฉันได้รับความช่วยเหลือจากคนมากมาย...
อิสึคุ : แล้วก็ก่อปัญหามากมายให้กับคนเหล่านั้นด้วย...เพราะอย่างนั้น...มันก็เลย...
อิสึคุ : นี่คือข้อพิสูจน์ว่าฉันเติบโตขึ้นและพัฒนาขึ้นแล้ว ซึ่งเมื่อคิดแบบนั้นแล้วฉันก็รู้สึกดีใจมากเลย
ว่าแล้วอิสึคุก็หยิบโทรศัพท์ออกมาถ่ายรูปใบอนุญาติของเขาเพื่อเตรียมส่งต่อ
ในขณะที่โอจาโกะก็มองเขาด้วยรอยยิ้มที่อบอุ่น
โอจาโกะ : ใช่แล้ว เธอพูดถูกแล้วล่ะ
ขณะเดียวกันนั้น Ms.Joke ก็เข้ามาหาอ.ไอซาว่าเพื่อเสนอว่าให้นักเรียนของเธอกับนักเรียนห้อง 1-A มาทำการฝึกฝนร่วมกันเป็นครั้งคราว ซึ่งอ.ไอซาว่าก็เห็นด้วย
ทางอินาซะก็เข้ามาบอกโทโดโรกิว่าไว้เจอกันใหม่ตอนเข้าคอร์สพิเศษ พร้อมบอกออกมาว่าเขาก็ยังไม่ค่อยชอบโทโดโรกิเท่าไหร่อยู่ดี ดังนั้นจึงขอโทษไว้ก่อนล่วงหน้า
อิสึคุที่เห็นพวกนักเรียนชิเค็ตสึก็นึกเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้ แล้วก็เข้าไปถามนายขนดกหัวหน้ากลุ่มนักเรียนชิเค็ตสึถึงวิธีการฝึกฝนที่พวกเขาใช้ลบตัวตนในการเข้าหาคู่ต่อสู้?
แต่นายขนดกกลับบอกว่าที่โรงเรียนพวกเขาไม่มีการฝึกสอนเรื่องนั้น(?) อิสึคุจึงถามถึงเคมิ ผู้หญิงที่เขาพบในการสอบ ซึ่งนายขนดกก็บอกว่าเธอรู้สึกไม่ค่อยดีเลยขอนั่งแท็กซี่กลับบ้านไปก่อนแล้ว
แต่เมื่อคิดดูแล้ว นายขนดกก็บอกว่าในช่วงสามวันที่ผ่านมาเจ้าหล่อนออกจะทำตัวแปลกๆอยู่ เหมือนจะมีอะไรบางอย่างของเจ้าหล่อนที่แตกต่างไปจากปกติ...
กลางดึกคืนนั้น
เคมิ(?) ก็รับโทรศัพท์จากใครบางคน...
พร้อมกับที่ใบหน้าของเธอเปลี่ยนไป...
[ในที่สุดก็รับสายเสียทีนะ! เธอไปทำอะไรอยู่ตั้งนานสองนานกันเนี่ย?]
[โทกะ!]
โทกะ ฮิมิโกะ : อัตลักษณ์ : Metamorphosis : เมื่อเธอกินเลือดของคนอื่น เธอก็จะสามารถเปลี่ยนรูปลักษณ์ของตัวเองให้เหมือนคนๆนั้นได้...
โทกะ : ฉันไปเล่นเกมสนุกๆมาน่ะ!
[อย่าลืมที่จะติดต่อมาตามกำหนดสิ! ถ้ามีพวกเราคนไหนโดนจับเข้าล่ะก็มันจะทำให้ทุกคนตกอยู่ในอันตรายนะ!]
โทกะ : อย่าห่วงไปเลยน่า ไม่มีปัญหาหรอก ฉันสามารถหลบหลีกการจับกุมมาได้จนถึงตอนนี้เลยนี่นา แถมครั้งนี้ฉันยังได้ผลลัพธ์ที่ดีมากๆด้วย โทมูระจังต้องดีใจแน่ๆเลย! อยากรู้ไหมว่าคืออะไร?
ในมือของโทกะคือขวดแก้วที่มีหยดเลือดเล็กๆอยู่ภายใน...
โทกะ : ฉันได้เลือดของอิสึคุจังมาแล้วล่ะ!
(ในตอนที่บุกค่ายเก็บตัว...โทกะมีชุดอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับสูบเลือดของคู่ต่อสู้อยู่กับตัว)
(ในตอนนั้นเธอสูบเลือดจากโอจาโกะไปได้...)
(ในตอนสอบ..."เคมิ" ออกไปคนเดียวโดยไม่ยอมรวมกลุ่มกับคนของโรงเรียนเดียวกันเลย...เพราะไม่ต้องการให้คนอื่นสังเกตุเห็นว่าอัตลักษณ์ไม่เหมือนกัน!!)
(นี่คือสาเหตุที่ตัวละครอย่าง Mystique แห่งซีรีย์ X-Men จึงเป็นภัยคุกคามที่น่ากลัวเสมอ...)
Spoil Boku no Hero Academia 114 : ภายหลังการประกาศผลสอบ...
บรรดานักเรียนห้อง 1-A ต่างพบชื่อตัวเองบนบอร์ดประกาศไปทีละคน
แต่ทว่า...
ไม่มี "บาคุโก"...
และไม่มี "โทโดโรกิ"
ตอนนั้นเอง อินาซะที่ก็สอบไม่ผ่านเช่นกันก็เดินมาหาโทโดโรกิ
ก่อนจะก้มหัวขอโทษจนหัวโขกพื้นอย่างแรง?!
อินาซะ : ที่นายต้องสอบไม่ผ่าน...
อินาซะ : มันเป็นความผิดของฉัน! มันเป็นเพราะจิตใจของฉันไม่เข้มแข็งพอ! ฉันต้องขอโทษด้วย!
โทโดโรกิ : จริงๆแล้วนี่มันเป็นเรื่องที่มีต้นเหตุมาจากการกระทำของฉันเอง...
โทโดโรกิ : เพราะงั้นพอแค่นี้เถอะ.
"ตลอดเวลาที่ผ่านมา ฉันเอาแต่หมกหมุ้นกับเรื่องที่ว่าเป็นลูกของเจ้านั่น มากกว่าความต้องการเป็นฮีโร่"
"แล้วฉันก็ปล่อยให้มันมาเหนี่ยวรั้งตัวเองเอาไว้"
โทโดโรกิ : นายเพียงแค่พูดสิ่งที่นายคิดออกมาตรงๆเท่านั้น แล้วก็ด้วยเหตุนั้น มันทำให้ฉันได้รู้ตัวถึงเรื่องสำคัญด้วย
หลังจากนั้นบรรดาพวกนักเรียนห้อง 1-A ต่างก็พูดคุยกันถึงเรื่องที่อันดับท็อป 1-2 ของห้องต่างก็สอบไม่ผ่านกันทั้งคู่เลย
(คิริชิมะแซวบาคุโกว่าที่ไม่ผ่านเป็นเพราะเขาพูดจาไม่เหมาะสมในระหว่างทำภารกิจกู้ภัยนั่นแหละ)
เมื่อทุกคนได้รู้ผลการสอบว่าใครผ่านใครตกแล้ว คณะกรรมการก็ทำการแจกจ่ายรายละเอียดการให้คะแนนอย่างละเอียดเป็นรายบุคคลให้แก่ผู้เข้าสอบแต่ละคนเพื่อให้สามารถวิเคราะห์การกระทำของตนเองระหว่างการสอบ
โดยแต่ละคนจะมีคะแนนเต็ม 100 และจะถูกหักลบลงไปเมื่อทำความผิดพลาดระหว่างการสอบ ซึ่งรายละเอียดที่ว่าถูกหักตอนไหนอย่างไรจะถูกเขียนไว้ในแผ่นรายละเอียดที่แจกจ่ายไปให้
โอจิโร่ : 61 คะแนน (ค่อนข้างคาบเส้น)
เซโระ : 84 คะแนน
โมโมะ : 94 คะแนน
อีดะ : 80 คะแนน
อิสึคุ : 71 คะแนน ซึ่งส่วนใหญ่ที่โดนหักมาจากตอนก่อนที่เขาจะลงมือทำการกู้ภัย เพราะตอนนั้นเขาเอาแต่ตกตะลึงจนลงมือช้าจึงโดนตัดแต้มไปค่อนข้างมาก
"แต่ว่า...มันมีอะไรแปลกๆ..."
"การสอบนี้ใช้ระบบหักคะแนนโดยไม่มีการให้คะแนนเสริมเพิ่มเลย...และคนที่เหลือน้อยกว่า 50 คะแนนก็จะสอบตกทันที"
"พวกนั้นใช้ระบบที่ไม่ยอมให้มีการแก้ตัวเลย แต่ว่า..."
"กลับยอมให้ทุกคนอยู่ในการสอบต่อจนจบโดยไม่บอกให้พวกที่สอบตกไปแล้วออกจากสนามสอบในตอนที่คะแนนลดจนต่ำกว่า 50 คะแนนไปแล้ว...?"
เมื่อทุกคนได้รับใบคะแนนของตัวเองจนครบแล้ว ทางคณะกรรมการก็ให้โอวาทก่อนจบว่า ตั้งแต่นี้ไปขึ้นอยู่กับสถานการณ์พวกเขาจะได้รับอำนาจหน้าที่เท่าเทียมกับฮีโร่อาชีพตัวจริง และพวกเขาสามารถลงมือปฏิบัติการได้โดยที่ไม่ต้องได้รับการอนุญาติจากฮีโร่มือโปรก่อนเหมือนที่ผ่านๆมา แต่เพราะอย่างนั้นภาระรับผิดชอบและผลที่เกิดขึ้นจากการกระทำของพวกเขาก็จะใหญ่ขึ้นตามไปด้วย ดังนั้นพวกเขาจึงต้องคิดเรื่องนี้ไว้ให้มาก
ในตอนนี้ที่ All Might ร่างกายทรุดโทรมจนไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้อีกต่อไปนั้น ตัวตนอันยิ่งใหญ่ของเขาที่คอยกดเหล่าคนชั่วไม่ให้ออกมาอาละวาดอย่างที่ผ่านมาก็หายไปด้วย และนั่นก็ทำให้ตอนนี้คือจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญของยุคสมัย พวกเด็กนักเรียนในตอนนี้จะกลายเป็นฮีโร่อาชีพที่จะเป็นผู้รับหน้าที่ต่อสู้และยับยั้งความชั่วร้ายแทนที่ และขอให้ทุกคนตั้งใจศึกษาเล่าเรียนอย่างเต็มที่ต่อไป
และสุดท้ายนี้...สำหรับพวกที่สอบตก...
พวกเขายังมีโอกาสแก้ตัวอยู่อีก! เพราะพวกเขาสามารถเข้าร่วมคอร์สฝึกฝนพิเศษที่จะมีขึ้นในเดือนมีนาคม ถ้าหากว่าพวกเขาทำผลงานได้ดีในการสอบที่จะมีขึ้นหลังจากนั้น พวกเขาก็สามารถที่จะได้รับใบอนุญาติชั่วคราวได้เช่นกัน!
ด้วยเหตุที่ว่าการสอบนี้มีไว้เพิ่อค้นหา "ฮีโร่ที่มีคุณภาพ" จำนวนมากที่สุดเท่าที่จะมากได้ ดังนั้นการสอบนี้จึงเรียกได้ว่าเป็นการ "กลั่นกรอง" เพื่อเฟ้นผู้มีความสามารถโดดเด่นเป็นพิเศษขึ้นมา
และด้วยเหตุนั้นคณะกรรมการจึงให้ทุกคนอยู่ในสนามสอบจนถึงท้ายที่สุด และจากการเฝ้าดูของคณะกรรมการก็พบว่าในบรรดาผู้ที่สอบตกนั้นไม่ได้เป็นเพราะขาดความสามารถแต่อย่างใด แต่เมื่อดูกันให้ดีๆแล้วก็มีผู้ที่มีความสามารถสูงยิ่งกว่าพวกที่สอบผ่านเสียอีกอยู่ด้วย
มันอาจเป็นการยากที่จะเข้าร่วมคอร์สฝึกฝนพิเศษไปพร้อมๆกับการเรียนปกติที่โรงเรียนของตนไปด้วย แต่ทางคณะกรรมการก็หวังว่าทุกคนที่สอบตกในครั้งนี้จะเข้าร่วมในการสอบครั้งต่อไปที่จะมีขึ้นในเดือนเมษายนกันทุกคน
ซึ่งแน่นอนว่าทุกคนต่างก็ยินดีรับโอกาสที่สองในครั้งนี้กันอย่างเต็มที่!!
หลังจากนั้น
อิสึคุมองดูใบอนุญาติชั่วคราวของเขาด้วยความซาบซึ้งยินดีจนน้ำตาซึม
โอจาโกะ : เดกุคุง นั่นร้องไห้อยู่เหรอ?!
อิสึคุ : ม-ไม่ แบบว่า...มันก็ใช่อยู่น่ะนะ...
อิสึคุ : ที่ผ่านมาฉันได้รับความช่วยเหลือจากคนมากมาย...
อิสึคุ : แล้วก็ก่อปัญหามากมายให้กับคนเหล่านั้นด้วย...เพราะอย่างนั้น...มันก็เลย...
อิสึคุ : นี่คือข้อพิสูจน์ว่าฉันเติบโตขึ้นและพัฒนาขึ้นแล้ว ซึ่งเมื่อคิดแบบนั้นแล้วฉันก็รู้สึกดีใจมากเลย
ว่าแล้วอิสึคุก็หยิบโทรศัพท์ออกมาถ่ายรูปใบอนุญาติของเขาเพื่อเตรียมส่งต่อ
ในขณะที่โอจาโกะก็มองเขาด้วยรอยยิ้มที่อบอุ่น
โอจาโกะ : ใช่แล้ว เธอพูดถูกแล้วล่ะ
ขณะเดียวกันนั้น Ms.Joke ก็เข้ามาหาอ.ไอซาว่าเพื่อเสนอว่าให้นักเรียนของเธอกับนักเรียนห้อง 1-A มาทำการฝึกฝนร่วมกันเป็นครั้งคราว ซึ่งอ.ไอซาว่าก็เห็นด้วย
ทางอินาซะก็เข้ามาบอกโทโดโรกิว่าไว้เจอกันใหม่ตอนเข้าคอร์สพิเศษ พร้อมบอกออกมาว่าเขาก็ยังไม่ค่อยชอบโทโดโรกิเท่าไหร่อยู่ดี ดังนั้นจึงขอโทษไว้ก่อนล่วงหน้า
อิสึคุที่เห็นพวกนักเรียนชิเค็ตสึก็นึกเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้ แล้วก็เข้าไปถามนายขนดกหัวหน้ากลุ่มนักเรียนชิเค็ตสึถึงวิธีการฝึกฝนที่พวกเขาใช้ลบตัวตนในการเข้าหาคู่ต่อสู้?
แต่นายขนดกกลับบอกว่าที่โรงเรียนพวกเขาไม่มีการฝึกสอนเรื่องนั้น(?) อิสึคุจึงถามถึงเคมิ ผู้หญิงที่เขาพบในการสอบ ซึ่งนายขนดกก็บอกว่าเธอรู้สึกไม่ค่อยดีเลยขอนั่งแท็กซี่กลับบ้านไปก่อนแล้ว
แต่เมื่อคิดดูแล้ว นายขนดกก็บอกว่าในช่วงสามวันที่ผ่านมาเจ้าหล่อนออกจะทำตัวแปลกๆอยู่ เหมือนจะมีอะไรบางอย่างของเจ้าหล่อนที่แตกต่างไปจากปกติ...
กลางดึกคืนนั้น
เคมิ(?) ก็รับโทรศัพท์จากใครบางคน...
พร้อมกับที่ใบหน้าของเธอเปลี่ยนไป...
[ในที่สุดก็รับสายเสียทีนะ! เธอไปทำอะไรอยู่ตั้งนานสองนานกันเนี่ย?]
[โทกะ!]
โทกะ ฮิมิโกะ : อัตลักษณ์ : Metamorphosis : เมื่อเธอกินเลือดของคนอื่น เธอก็จะสามารถเปลี่ยนรูปลักษณ์ของตัวเองให้เหมือนคนๆนั้นได้...
โทกะ : ฉันไปเล่นเกมสนุกๆมาน่ะ!
[อย่าลืมที่จะติดต่อมาตามกำหนดสิ! ถ้ามีพวกเราคนไหนโดนจับเข้าล่ะก็มันจะทำให้ทุกคนตกอยู่ในอันตรายนะ!]
โทกะ : อย่าห่วงไปเลยน่า ไม่มีปัญหาหรอก ฉันสามารถหลบหลีกการจับกุมมาได้จนถึงตอนนี้เลยนี่นา แถมครั้งนี้ฉันยังได้ผลลัพธ์ที่ดีมากๆด้วย โทมูระจังต้องดีใจแน่ๆเลย! อยากรู้ไหมว่าคืออะไร?
ในมือของโทกะคือขวดแก้วที่มีหยดเลือดเล็กๆอยู่ภายใน...
โทกะ : ฉันได้เลือดของอิสึคุจังมาแล้วล่ะ!
(ในตอนที่บุกค่ายเก็บตัว...โทกะมีชุดอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับสูบเลือดของคู่ต่อสู้อยู่กับตัว)
(ในตอนนั้นเธอสูบเลือดจากโอจาโกะไปได้...)
(ในตอนสอบ..."เคมิ" ออกไปคนเดียวโดยไม่ยอมรวมกลุ่มกับคนของโรงเรียนเดียวกันเลย...เพราะไม่ต้องการให้คนอื่นสังเกตุเห็นว่าอัตลักษณ์ไม่เหมือนกัน!!)
(นี่คือสาเหตุที่ตัวละครอย่าง Mystique แห่งซีรีย์ X-Men จึงเป็นภัยคุกคามที่น่ากลัวเสมอ...)