ต่อจากตอนที่แล้ว
บรรดาเด็กห้อง 1-A ต่างงุนงงกับเรื่องของนายอินาซะ โยอาราชิ ซึ่งแสดงออกมาอย่างชัดเจนว่าเขาชอบโรงเรียนยูเอย์ แต่กลับปฏิเสธที่จะเข้าเรียนทั้งที่สอบผ่านด้วยคะแนนสูงสุด แล้วไปเข้าโรงเรียนชิเค็ตสึที่เป็นเหมือนคู่แข่งของยูเอย์แทน?!
ซึ่งอ.ไอซาว่าก็บอกว่าถึงจะเป็นคนพิลึกแต่ก็เป็นคนที่มีความสามารถของจริงดังนั้นพวกเขาควรจะระวังเอาไว้ให้ดี
ตอนนั้นเองก็มีคนเรียกทักอ.ไอซาว่า
ซึ่งเมื่ออ.ไอซาว่าหันไปมองก็ทำหน้าบูดขึ้นมาทันที
คนที่มาคือหญิงสาวที่สวมผ้าพันศรีษะคนหนึ่ง
อิสึคุจำได้ทันทีว่าเธอคือ "Smile Hero : Ms.Joke"
อัตลักษณ์ของเธอ "Roaring Laughter" สามารถทำให้คนรอบตัวหัวเราะ ซึ่งนั่นจะทำให้การเคลื่อนไหวและตอบโต้ของคนเหล่านั้นหยุดชะงัก และง่ายต่อการจับกุม
ซึ่งคำแรกที่ Ms.Joke พูดออกมาคือ ชวนอ.ไอซาว่าแต่งงานกัน(?!)...แน่นอนว่าเขาปฏิเสธทันควัน
ปรากฎว่าสมัยก่อนสำนักงานของทั้งสองคนอยู่ใกล้ๆกัน ทำให้พวกเขาร่วมงานกันบ่อย
แต่ตอนนี้ต่างฝ่ายต่างก็ผันตัวมาเป็นอ.โรงเรียนฮีโร่กันทั้งคู่
ว่าแล้ว Ms.Joke ก็เรียกนักเรียนของเธอมาทำความรู้จักกับบรรดานักเรียนจากโรงเรียนยูเอย์
ตอนนี้เธอคืออ.ประจำชั้นของห้อง 2-2 ของโรงเรียนเค็ตสึบุตสึ (ปกตินักเรียนที่มาสอบใบอนุญาติชั่วคราวมักจะเป็นปี 2 ขึ้นไป แต่ในปีนี้ทางยูเอย์เร่งกำหนดการให้เร็วขึ้น)
นักเรียนที่ดูเป็นหัวหน้ากลุ่มของเค็ตสึบุตสึ "ชินโด" เข้าทักทายนักเรียนห้อง 1-A ทุกคนอย่างเป็นมิตร
แต่เมื่อมาถึงบาคุโก เมื่อชินโดยื่นมามาขอจับมือด้วย บาคุโกกลับปฏิเสธ พร้อมบอกว่าคำพูดที่ออกมาจากปากของชินโดนั้นไปคนละทางกับสายตาท้าทายของเขาเห็นๆเลย!
ส่วนนักเรียนเค็ตสึบุตสึคนอื่นๆก็เข้าหาพวกนักเรียนยูเอย์เหมือนได้พบดารา ซึ่งพวกเขาก็รู้สึกเขินว่าเมื่ออยู่ต่อหน้าคนนอกโรงเรียนแบบนี้พวกเขาดูจะโด่งดังเอาการอยู่
ตรงนี้เอง Ms.Joke ก็สังเกตุถึงบางอย่าง...
Ms.Joke : หรือว่า...นายไม่ได้บอกพวกเขางั้นหรืออีเรเซอร์?
หลังจากนั้น ที่หอประชุมของสนามสอบ
พวกอิสึคุที่เปลี่ยนชุดเรียบร้อยแล้วก็มาอยู่ข้างในพร้อมกับบรรดาผู้เข้าสอบจำนวนเป็นพันคน!!
ที่บนเวที นายเมระจากคณะกรรมการความปลอดภัยฮีโร่สาธารณะเป็นผู้ดำเนินการสอบในครั้งนี้
(นายเมระบอกว่าเนื่องจากงานที่ทำนั้นหนักมากทำให้เขานอนไม่พอ และตอนนี้ก็กำลังง่วงสุดๆ)
ในการสอบครั้งนี้มีผู้เข้าสอบ 1,540 คน และการสอบครั้งนี้จะมีเพื่อลดจำนวนพวกเขาลง
ในยุคที่ฮีโร่กำลังเฟื่องฟูอย่างในตอนนี้นั้น เหตุการณ์เรื่องของ Hero Killer Stain ได้ทำให้เกิดการตั้งคำถามต่อการเป็นฮีโร่ขึ้นมา...
"ฮีโร่นั้นจะต้องไม่หวังสิ่งตอบแทนต่อสิ่งที่ตนทำลงไป"
"มันคือตำแหน่งที่แต่ละคนจะต้องทุ่มเทและเสียสละตนอย่างที่สุดเพื่อที่จะได้มา"
ไม่ว่าแต่ละคนจะมีเหตุผลส่วนตัวอย่างใดก็ตาม การเอาชีวิตตัวเองเข้าเสี่ยงเพื่อผู้อื่นแต่กลับ "ห้ามหวังสิ่งตอบแทน" นั้นเป็นเรื่องที่ยากเย็นมากสำหรับสังคมสมัยนี้...
ถึงกระนั้นไม่ว่าจะทำเพื่อผลตอบแทนหรือทำเพื่อความถูกต้องก็ตาม ฮีโร่มากมายก็ทุ่มเทและเสียสละตนเพื่อช่วยเหลือผู้อื่นและจับกุมเหล่าร้าย
ตั้งแต่เหตุร้ายเกิดขึ้นจนถึงตอนที่มันจบลง ช่วงเวลานั้นจะสั้นและเร่งรีบมากๆ
เหล่าผู้ที่ได้รับใบอนุญาติชั่วคราวจะต้องถูกส่งเข้าไปอยู่ในสถานการณ์เช่นนั้น และผู้ไม่สามารถรับมือกับสถานการณ์เหล่านั้นได้...
ดังนั้นในการสอบรอบแรกนี้จะเป็นการทดสอบความเร็ว ผู้ที่สามารถผ่านเงื่อนไขการสอบ 100 คนแรกก็จะผ่านเข้าสู่การสอบรอบต่อไป
จาก 1,540 เหลือ 100 เรียกว่าจำนวนผู้สอบผ่านรอบแรกจะมีไม่ถึง 5% เท่านั้น!
เงื่อนไขการสอบคือ
1. ผู้เข้าสอบแต่ละคนจะต้องติดเป้าที่ร่างกายคนละสามชิ้น จะติดที่ไหนก็ได้แต่ต้องเป็นที่เปิดเผยเท่านั้น จุดมิดชิดเช่นใต้ฝ่าเท้าหรือรักแร้ไม่อนุญาติ
2. ทุกคนจะมีลูกบอล 6 ลูกติดตัว ซึ่งเมื่อลูกบอลกระทบเป้าที่ติดไว้เป้าก็จะติดไฟสว่างขึ้น ใครก็ตามที่ไฟติดครบสามจุดถือว่าตกรอบ
3. ผู้ที่โยนบอลกระทบเป้าที่สามจะได้แต้ม "Take Down" ซึ่งผู้ที่ได้สอง Take Down จะผ่านเข้ารอบต่อไป
พวกอิสึคุที่ฟังอยู่ก็คิดวิเคราะห์เงื่อนไขการสอบ
"มันคล้ายกับการสอบเข้าแต่ว่า..."
"การต่อสู้กับมนุษย์นั้นมันต่างกับการสู้กับหุ่นยนต์ชนิดคนละเรื่อง"
"จำนวนบอลที่แต่ละคนมีนั้นน้อยมาก"
"อีกทั้งการสอบนี้ยังเปิดช่องให้ฉวยโอกาสแย่งเป้าที่สามเพียงอันเดียวก็สอบผ่านด้วย"
"เทียบกับการสอบเข้าแล้วนั้น"
"เงื่อนไขนี้โหดกว่ากันมาก"
เมื่อทุกคนได้รับเป้าและลูกบอลจนครบแล้ว การสอบจะเริ่มขึ้นใน 1 นาทีหลังจากที่ทุกคนแยกย้ายกันไปเรียบร้อยแล้ว
ว่าแล้วผนังหอประชุมก็เปิดออก เผยให้เห็นว่าภายในสนามสอบแบ่งเป็นโซนต่างๆมากมาย ทั้งตึกระฟ้า, เมือง, หุบเขา, ป่า, โรงงาน ฯลฯ
บนที่นั่งคนดู Ms.Joke สังเกตุว่าคนในห้อง 1-A นั้นมีอยู่ครบ 20 คน นั่นหมายความว่าอ.ไอซาว่าไม่ได้ไล่ใครออกเลยตั้งแต่เริ่มเปิดเรียนมา เขาน่าจะชอบเด็กรุ่นนี้มากทีเดียว
ตัดไปที่สนามสอบ
อิสึคุเสนอว่าหากสิ่งสำคัญคือการเคลียร์เงื่อนไขให้เร็วที่สุดล่ะก็ พวกเขาก็ไม่มีเหตุผลที่จะต้องไปสู้กันเอง แผนการที่ดีที่สุดคือการที่พวกเขาที่ต่างก็รู้ความสามารถของกันและกันดีควรจะร่วมมือกัน เขาจึงบอกให้ทุกคนอยู่รวมกันไว้และอย่าแตกกลุ่ม
อนิจจา...พูดยังไม่ทันขาดคำก็มีแตกกลุ่มไปทันทีสองคน
บาคุโก : นี่ไม่ได้มาเที่ยวกันนะเฟ้ยเจ้าโง่! ไว้เจอกัน!
โทโดโรกิ : ฉันก็ไปเหมือนกัน ถ้าอยู่รวมเป็นกลุ่มใหญ่ฉันจะใช้พลังเต็มที่ไม่ได้
อิสึคุ : ฉันไม่คิดว่าการออกไปตามลำพังมันจะเป็นความคิดที่ดีเลย แต่ว่า...
มิเนตะ : ทำไมเหรอ?
อิสึคุ : แบบว่า ลองคิดดูสิ! ทุกคนที่นี่รู้เรื่องของเรากันหมดแล้ว!
อิสึคุ : แผนการรบที่ฉันพูดถึง...ฉันแน่ใจว่าโรงเรียนอื่นๆต่างก็คิดเหมือนๆกัน...
อิสึคุ : มันจะต้องกลายเป็นการต่อสู้ระหว่างโรงเรียน...และเมื่อเป็นแบบนั้นสิ่งสำคัญคือจะตั้งเป้าไปที่โรงเรียนไหน
อิสึคุ : ในบรรดาโรงเรียนที่มาจากทั่วประเทศนั้น มีเพียงโรงเรียนเดียวที่ไม่มีข้อได้เปรียบที่โรงเรียนอื่นมี...ที่ว่าไม่มีใครรู้ว่าตัวเองมีอัตลักษณ์อะไร
อิสึคุ : โรงเรียนอันดับท็อบที่จัดงานแข่งกีฬาใหญ่โตให้ทุกคนได้เห็น ทั้งอัตลักษณ์ที่ใช้, จุดอ่อน และวิธีการต่อสู้...
ตัดไปที่พวกอาจารย์
Ms.Joke : ในการสอบใบอนุญาติชั่วคราวทุกปีนั้น...มันมีสิ่งที่เหมือนเป็นประเพณีประจำไปแล้วอยู่...
Ms.Joke : มันไม่เป็นไรหรอกนะที่นายจะยอมรับว่าตัวเองผูกพันกับนักเรียนพวกนั้นน่ะ
Ms.Joke : เพราะทุกปีมันจะเริ่มขึ้นเหมือนๆกันทุกครั้ง...
Ms.Joke : มันจะเริ่มขึ้นด้วยการ "ขยี้ยูเอย์" เสมอ
ที่ด้านล่าง บรรดาผู้เข้าสอบจำนวนมาก รวมถึงโรงเรียนเค็ตสึบุตสึที่นำโดยนายชินโดก็ระดมขว้างบอลใส่พวกนักเรียนยูเอย์เป็นการใหญ่!!
ชินโด : "พละกำลังมหาศาลที่ทำลายแม้แต่ร่างกายของผู้ใช้..."
ชินโด : ถ้างั้นล่ะก็...
ชินโด : เมื่อตะปูมันโผล่ออกมาก็ต้องตอกมันลงไปซะ!!
ไอซาว่า : ที่ฉันไม่ได้บอกเรื่อง "ขยี้ยูเอย์" น่ะมันก็ไม่มีเหตุผลเป็นพิเศษหรอก
ไอซาว่า : เพราะท้ายที่สุดแล้วสิ่งที่พวกเขาต้องทำมันก็ไม่เปลี่ยนไป
ไอซาว่า : พวกเขาก็แค่ต้องเอาชนะอุปสรรคที่ขวางหน้าให้ได้
ไอซาว่า : การเป็นฮีโร่ก็หมายถึงการเอาตัวเองไปอยู่ในสถานการณ์อันตราย
ไอซาว่า : เมื่อเป็นมือโปรไปแล้ว การที่คนทั้งโลกรู้อัตลักษณ์ของตัวเองก็เป็นเรื่องธรรมดา
ไอซาว่า : แย่หน่อยที่ต้องขอบอกว่าพวกเรามองการณ์ไกลกว่าทุกคนเลยล่ะ
ที่ในสนามสอบ บรรดานักเรียนยูเอย์ทุกคนต่างใช้ท่าไม้ตายใหม่ของตนรับมือบรรดาลูกบอลที่ถูกระดมขว้างมาเอาไว้ได้ทั้งหมด!!
อิสึคุ : ทุกคน เตรียมตัวให้พร้อมนะ!!
Spoil Boku no Hero Academia 103 : The Exam
บรรดาเด็กห้อง 1-A ต่างงุนงงกับเรื่องของนายอินาซะ โยอาราชิ ซึ่งแสดงออกมาอย่างชัดเจนว่าเขาชอบโรงเรียนยูเอย์ แต่กลับปฏิเสธที่จะเข้าเรียนทั้งที่สอบผ่านด้วยคะแนนสูงสุด แล้วไปเข้าโรงเรียนชิเค็ตสึที่เป็นเหมือนคู่แข่งของยูเอย์แทน?!
ซึ่งอ.ไอซาว่าก็บอกว่าถึงจะเป็นคนพิลึกแต่ก็เป็นคนที่มีความสามารถของจริงดังนั้นพวกเขาควรจะระวังเอาไว้ให้ดี
ตอนนั้นเองก็มีคนเรียกทักอ.ไอซาว่า
ซึ่งเมื่ออ.ไอซาว่าหันไปมองก็ทำหน้าบูดขึ้นมาทันที
คนที่มาคือหญิงสาวที่สวมผ้าพันศรีษะคนหนึ่ง
อิสึคุจำได้ทันทีว่าเธอคือ "Smile Hero : Ms.Joke"
อัตลักษณ์ของเธอ "Roaring Laughter" สามารถทำให้คนรอบตัวหัวเราะ ซึ่งนั่นจะทำให้การเคลื่อนไหวและตอบโต้ของคนเหล่านั้นหยุดชะงัก และง่ายต่อการจับกุม
ซึ่งคำแรกที่ Ms.Joke พูดออกมาคือ ชวนอ.ไอซาว่าแต่งงานกัน(?!)...แน่นอนว่าเขาปฏิเสธทันควัน
ปรากฎว่าสมัยก่อนสำนักงานของทั้งสองคนอยู่ใกล้ๆกัน ทำให้พวกเขาร่วมงานกันบ่อย
แต่ตอนนี้ต่างฝ่ายต่างก็ผันตัวมาเป็นอ.โรงเรียนฮีโร่กันทั้งคู่
ว่าแล้ว Ms.Joke ก็เรียกนักเรียนของเธอมาทำความรู้จักกับบรรดานักเรียนจากโรงเรียนยูเอย์
ตอนนี้เธอคืออ.ประจำชั้นของห้อง 2-2 ของโรงเรียนเค็ตสึบุตสึ (ปกตินักเรียนที่มาสอบใบอนุญาติชั่วคราวมักจะเป็นปี 2 ขึ้นไป แต่ในปีนี้ทางยูเอย์เร่งกำหนดการให้เร็วขึ้น)
นักเรียนที่ดูเป็นหัวหน้ากลุ่มของเค็ตสึบุตสึ "ชินโด" เข้าทักทายนักเรียนห้อง 1-A ทุกคนอย่างเป็นมิตร
แต่เมื่อมาถึงบาคุโก เมื่อชินโดยื่นมามาขอจับมือด้วย บาคุโกกลับปฏิเสธ พร้อมบอกว่าคำพูดที่ออกมาจากปากของชินโดนั้นไปคนละทางกับสายตาท้าทายของเขาเห็นๆเลย!
ส่วนนักเรียนเค็ตสึบุตสึคนอื่นๆก็เข้าหาพวกนักเรียนยูเอย์เหมือนได้พบดารา ซึ่งพวกเขาก็รู้สึกเขินว่าเมื่ออยู่ต่อหน้าคนนอกโรงเรียนแบบนี้พวกเขาดูจะโด่งดังเอาการอยู่
ตรงนี้เอง Ms.Joke ก็สังเกตุถึงบางอย่าง...
Ms.Joke : หรือว่า...นายไม่ได้บอกพวกเขางั้นหรืออีเรเซอร์?
หลังจากนั้น ที่หอประชุมของสนามสอบ
พวกอิสึคุที่เปลี่ยนชุดเรียบร้อยแล้วก็มาอยู่ข้างในพร้อมกับบรรดาผู้เข้าสอบจำนวนเป็นพันคน!!
ที่บนเวที นายเมระจากคณะกรรมการความปลอดภัยฮีโร่สาธารณะเป็นผู้ดำเนินการสอบในครั้งนี้
(นายเมระบอกว่าเนื่องจากงานที่ทำนั้นหนักมากทำให้เขานอนไม่พอ และตอนนี้ก็กำลังง่วงสุดๆ)
ในการสอบครั้งนี้มีผู้เข้าสอบ 1,540 คน และการสอบครั้งนี้จะมีเพื่อลดจำนวนพวกเขาลง
ในยุคที่ฮีโร่กำลังเฟื่องฟูอย่างในตอนนี้นั้น เหตุการณ์เรื่องของ Hero Killer Stain ได้ทำให้เกิดการตั้งคำถามต่อการเป็นฮีโร่ขึ้นมา...
"ฮีโร่นั้นจะต้องไม่หวังสิ่งตอบแทนต่อสิ่งที่ตนทำลงไป"
"มันคือตำแหน่งที่แต่ละคนจะต้องทุ่มเทและเสียสละตนอย่างที่สุดเพื่อที่จะได้มา"
ไม่ว่าแต่ละคนจะมีเหตุผลส่วนตัวอย่างใดก็ตาม การเอาชีวิตตัวเองเข้าเสี่ยงเพื่อผู้อื่นแต่กลับ "ห้ามหวังสิ่งตอบแทน" นั้นเป็นเรื่องที่ยากเย็นมากสำหรับสังคมสมัยนี้...
ถึงกระนั้นไม่ว่าจะทำเพื่อผลตอบแทนหรือทำเพื่อความถูกต้องก็ตาม ฮีโร่มากมายก็ทุ่มเทและเสียสละตนเพื่อช่วยเหลือผู้อื่นและจับกุมเหล่าร้าย
ตั้งแต่เหตุร้ายเกิดขึ้นจนถึงตอนที่มันจบลง ช่วงเวลานั้นจะสั้นและเร่งรีบมากๆ
เหล่าผู้ที่ได้รับใบอนุญาติชั่วคราวจะต้องถูกส่งเข้าไปอยู่ในสถานการณ์เช่นนั้น และผู้ไม่สามารถรับมือกับสถานการณ์เหล่านั้นได้...
ดังนั้นในการสอบรอบแรกนี้จะเป็นการทดสอบความเร็ว ผู้ที่สามารถผ่านเงื่อนไขการสอบ 100 คนแรกก็จะผ่านเข้าสู่การสอบรอบต่อไป
จาก 1,540 เหลือ 100 เรียกว่าจำนวนผู้สอบผ่านรอบแรกจะมีไม่ถึง 5% เท่านั้น!
เงื่อนไขการสอบคือ
1. ผู้เข้าสอบแต่ละคนจะต้องติดเป้าที่ร่างกายคนละสามชิ้น จะติดที่ไหนก็ได้แต่ต้องเป็นที่เปิดเผยเท่านั้น จุดมิดชิดเช่นใต้ฝ่าเท้าหรือรักแร้ไม่อนุญาติ
2. ทุกคนจะมีลูกบอล 6 ลูกติดตัว ซึ่งเมื่อลูกบอลกระทบเป้าที่ติดไว้เป้าก็จะติดไฟสว่างขึ้น ใครก็ตามที่ไฟติดครบสามจุดถือว่าตกรอบ
3. ผู้ที่โยนบอลกระทบเป้าที่สามจะได้แต้ม "Take Down" ซึ่งผู้ที่ได้สอง Take Down จะผ่านเข้ารอบต่อไป
พวกอิสึคุที่ฟังอยู่ก็คิดวิเคราะห์เงื่อนไขการสอบ
"มันคล้ายกับการสอบเข้าแต่ว่า..."
"การต่อสู้กับมนุษย์นั้นมันต่างกับการสู้กับหุ่นยนต์ชนิดคนละเรื่อง"
"จำนวนบอลที่แต่ละคนมีนั้นน้อยมาก"
"อีกทั้งการสอบนี้ยังเปิดช่องให้ฉวยโอกาสแย่งเป้าที่สามเพียงอันเดียวก็สอบผ่านด้วย"
"เทียบกับการสอบเข้าแล้วนั้น"
"เงื่อนไขนี้โหดกว่ากันมาก"
เมื่อทุกคนได้รับเป้าและลูกบอลจนครบแล้ว การสอบจะเริ่มขึ้นใน 1 นาทีหลังจากที่ทุกคนแยกย้ายกันไปเรียบร้อยแล้ว
ว่าแล้วผนังหอประชุมก็เปิดออก เผยให้เห็นว่าภายในสนามสอบแบ่งเป็นโซนต่างๆมากมาย ทั้งตึกระฟ้า, เมือง, หุบเขา, ป่า, โรงงาน ฯลฯ
บนที่นั่งคนดู Ms.Joke สังเกตุว่าคนในห้อง 1-A นั้นมีอยู่ครบ 20 คน นั่นหมายความว่าอ.ไอซาว่าไม่ได้ไล่ใครออกเลยตั้งแต่เริ่มเปิดเรียนมา เขาน่าจะชอบเด็กรุ่นนี้มากทีเดียว
ตัดไปที่สนามสอบ
อิสึคุเสนอว่าหากสิ่งสำคัญคือการเคลียร์เงื่อนไขให้เร็วที่สุดล่ะก็ พวกเขาก็ไม่มีเหตุผลที่จะต้องไปสู้กันเอง แผนการที่ดีที่สุดคือการที่พวกเขาที่ต่างก็รู้ความสามารถของกันและกันดีควรจะร่วมมือกัน เขาจึงบอกให้ทุกคนอยู่รวมกันไว้และอย่าแตกกลุ่ม
อนิจจา...พูดยังไม่ทันขาดคำก็มีแตกกลุ่มไปทันทีสองคน
บาคุโก : นี่ไม่ได้มาเที่ยวกันนะเฟ้ยเจ้าโง่! ไว้เจอกัน!
โทโดโรกิ : ฉันก็ไปเหมือนกัน ถ้าอยู่รวมเป็นกลุ่มใหญ่ฉันจะใช้พลังเต็มที่ไม่ได้
อิสึคุ : ฉันไม่คิดว่าการออกไปตามลำพังมันจะเป็นความคิดที่ดีเลย แต่ว่า...
มิเนตะ : ทำไมเหรอ?
อิสึคุ : แบบว่า ลองคิดดูสิ! ทุกคนที่นี่รู้เรื่องของเรากันหมดแล้ว!
อิสึคุ : แผนการรบที่ฉันพูดถึง...ฉันแน่ใจว่าโรงเรียนอื่นๆต่างก็คิดเหมือนๆกัน...
อิสึคุ : มันจะต้องกลายเป็นการต่อสู้ระหว่างโรงเรียน...และเมื่อเป็นแบบนั้นสิ่งสำคัญคือจะตั้งเป้าไปที่โรงเรียนไหน
อิสึคุ : ในบรรดาโรงเรียนที่มาจากทั่วประเทศนั้น มีเพียงโรงเรียนเดียวที่ไม่มีข้อได้เปรียบที่โรงเรียนอื่นมี...ที่ว่าไม่มีใครรู้ว่าตัวเองมีอัตลักษณ์อะไร
อิสึคุ : โรงเรียนอันดับท็อบที่จัดงานแข่งกีฬาใหญ่โตให้ทุกคนได้เห็น ทั้งอัตลักษณ์ที่ใช้, จุดอ่อน และวิธีการต่อสู้...
ตัดไปที่พวกอาจารย์
Ms.Joke : ในการสอบใบอนุญาติชั่วคราวทุกปีนั้น...มันมีสิ่งที่เหมือนเป็นประเพณีประจำไปแล้วอยู่...
Ms.Joke : มันไม่เป็นไรหรอกนะที่นายจะยอมรับว่าตัวเองผูกพันกับนักเรียนพวกนั้นน่ะ
Ms.Joke : เพราะทุกปีมันจะเริ่มขึ้นเหมือนๆกันทุกครั้ง...
Ms.Joke : มันจะเริ่มขึ้นด้วยการ "ขยี้ยูเอย์" เสมอ
ที่ด้านล่าง บรรดาผู้เข้าสอบจำนวนมาก รวมถึงโรงเรียนเค็ตสึบุตสึที่นำโดยนายชินโดก็ระดมขว้างบอลใส่พวกนักเรียนยูเอย์เป็นการใหญ่!!
ชินโด : "พละกำลังมหาศาลที่ทำลายแม้แต่ร่างกายของผู้ใช้..."
ชินโด : ถ้างั้นล่ะก็...
ชินโด : เมื่อตะปูมันโผล่ออกมาก็ต้องตอกมันลงไปซะ!!
ไอซาว่า : ที่ฉันไม่ได้บอกเรื่อง "ขยี้ยูเอย์" น่ะมันก็ไม่มีเหตุผลเป็นพิเศษหรอก
ไอซาว่า : เพราะท้ายที่สุดแล้วสิ่งที่พวกเขาต้องทำมันก็ไม่เปลี่ยนไป
ไอซาว่า : พวกเขาก็แค่ต้องเอาชนะอุปสรรคที่ขวางหน้าให้ได้
ไอซาว่า : การเป็นฮีโร่ก็หมายถึงการเอาตัวเองไปอยู่ในสถานการณ์อันตราย
ไอซาว่า : เมื่อเป็นมือโปรไปแล้ว การที่คนทั้งโลกรู้อัตลักษณ์ของตัวเองก็เป็นเรื่องธรรมดา
ไอซาว่า : แย่หน่อยที่ต้องขอบอกว่าพวกเรามองการณ์ไกลกว่าทุกคนเลยล่ะ
ที่ในสนามสอบ บรรดานักเรียนยูเอย์ทุกคนต่างใช้ท่าไม้ตายใหม่ของตนรับมือบรรดาลูกบอลที่ถูกระดมขว้างมาเอาไว้ได้ทั้งหมด!!
อิสึคุ : ทุกคน เตรียมตัวให้พร้อมนะ!!