ย้อนไปก่อนหน้านี้เล็กน้อย
อิสึคุโทรศัพท์คุยกับแม่ของเขา โดยบอกว่าตอนนี้ร่างกายของเขาสามารถเคลื่อนไหวได้แล้ว และคงจะกลับบ้านได้วันพรุ่งนี้หรือมะรืนนี้
(ปล.โกหก จริงๆกลับได้ตั้งแต่วันนี้แต่ตั้งใจว่าจะไปช่วยบาคุโกก่อนต่างหาก)
ทางโรงเรียนก็บอกว่าอยากจะให้พวกเขาเก็บตัวอยู่เงียบๆในช่วงนี้ และให้คำแนะนำในการรับมือกับสื่อมวลชนมาด้วย
ตอนนั้นเองแม่ของเขาก็พูดสิ่งที่ทำให้เขาต้องอึ้งออกมา...
แม่ : …อิสึคุ
แม่ : ลูกจะ...ไม่กลับไปที่ยูเอย์อีกได้ไหม?
ตัดมาที่ปัจจุบัน
พวกอิสึคุกำลังเดินออกจากโรงพยาบาลตอนกลางดึกเพื่อไปทำภารกิจช่วยเหลือบาคุโก
อีดะขอโทษอิสึคุที่ต่อยเขาไปก่อนหน้านี้ แต่อย่างไรเขาก็ไม่สามารถยอมรับสิ่งที่พวกอิสึคุกำลังจะทำได้ ที่เขามาด้วยก็เพื่อให้แน่ใจว่าหากเกิดสถานการณ์ที่มีความเป็นไปได้ที่จะมีการต่อสู้แม้แต่นิดเดียวเขาก็จะพาพวกอิสึคุกลับทันที
โมโมะก็คิดแบบเดียวกัน เพราะภารกิจช่วยเหลือบาคุโกนั้นเป็นหน้าที่ของพวกมือโปรมาตั้งแต่ต้น ดังนั้นจริงๆแล้วพวกเขาไม่มีความจำเป็นที่จะต้องทำอะไรเลยแม้แต่น้อย
แต่เธอก็เข้าใจความรู้สึกของพวกเขา ดังนั้นเธอจึงยอมที่จะรับข้อต่อรองของพวกเขาที่จะทำเรื่องนี้อย่างลับๆและไม่มีการต่อสู้
ทว่าลึกๆแล้วเธอก็คิดว่าการช่วยเหลือบาคุโกจากรังของวายร้ายโดยไม่ต้องทำการต่อสู้เลยนั้นเป็นสิ่งที่แทบเป็นไปไม่ได้เลย
จากเครื่องส่งสัญญาณที่โมโมะติดไว้ที่ตัวโนมุ บ่งบอกว่ารังของ Villians Alliance นั้นอยู่ที่แถบคามิโนะ เมืองโยโกฮาม่า จังหวัดคานางาวะ ซึ่งจากจังหวัดนางาโนะที่พวกเขาอยู่ในตอนนี้ถ้าไปด้วยรถไฟความเร็วสูงก็จะไปถึงในเวลาสองชั่วโมง ซึ่งจะเป็นเวลาประมาณสี่ทุ่ม
ระหว่างที่นั่งรถไฟ พวกเขานั่งคุยกันถึงแผนการนี้
โทโดโรกิกับคิริชิมะบอกว่าพวกเขาไม่ได้บอกคนอื่นๆในห้องเรื่องแผนการของพวกเขานี้ เพราะพวกนั้นต้องขัดขวางไม่ให้พวกเขาลงมือแน่
คิริชิมะนึกย้อนถึงสิ่งที่โอจาโกะบอกพวกเขาก่อนจะแยกย้ายกันว่า
โอจาโกะ : ฉันคิดว่า...บาคุโกต้องรู้สึกเสียศักดิ์ศรีมากๆแน่ถ้าต้องถูกคนอื่นช่วยเหลือน่ะ
โทโดโรกิก็บอกว่าสิ่งที่พวกเขากำลังทำอยู่นี้เป็นการกระทำเพื่อสนองทิฐิของตัวเองล้วนๆ ถ้ามีใครอยากจะถอนตัวในตอนนี้ก็ยังไม่สายเกินไป
คิริชิมะจึงตอบว่าถ้าเขาไม่ตั้งใจจริงเขาคงไม่มาอยู่ตรงนี้ตั้งแต่ต้นแล้ว เขาไม่สามารถทนดูพวกวายร้ายทำตามใจชอบได้หรอก
ส่วนอิสึคุก็นึกไปถึงสิ่งที่เขาคุยกับแม่ของเขาก่อนหน้านี้
อิสึคุ : แม่ครับ...ผม...
อิสึคุ : ผมได้รับทุกสิ่งทุกอย่างที่มีอยู่ในตอนนี้มาจากออลไมท์
อิสึคุ : ตั้งแต่ตอนที่ผมได้พบกับเขา...
อิสึคุ : ผมก็ไม่มีทางหันหลังกลับแน่นอน
หลังจากนั้นพวกเขาก็มาถึงแถบคามิโนะ
แต่ปัญหาคือที่นี่คือถิ่นของศัตรูและพวกมันก็รู้จักหน้าตาของพวกเขาแล้วด้วย พวกเขาจึงต้องดำเนินการอย่างระมัดระวัง
ดังนั้นพวกเขาจึงเข้าไปที่ร้าน Don Quijote (Donki) ซึ่งเป็นร้านที่ขายของสารพัดอย่าง รวมถึง...ชุดคอสเพลย์ด้วย!
(ร้านนี้มีจริงในญี่ปุ่นนะครับ และเขาก็ขายสารพัดอย่างรวมถึงชุดคอสเพลย์จริงๆด้วย)
แล้วพวกอิสึคุก็แปลงโฉมออกมาตนแทบจะจำกันไม่ได้
โมโมะอธิบายว่าในย่านการค้ากลางคืนแบบนี้เด็กวัยรุ่นจะดูเด่นสะดุดตาดังนั้นพวกเขาจึงต้องปลอมตัวให้ดูเป็นผู้ใหญ่เข้าไว้
แต่โทโดโรกิก็เกิดสงสัยขึ้นมาว่าทำไมโมโมะถึงไม่ใช้อัตลักษณ์ของเธอสร้างอุปกรณ์ปลอมตัวขึ้นมา แทนที่จะต้องมาซื้อเอาแบบนี้ล่ะ?
โมโมะเลยรีบลนลานอธิบายว่าถ้าเธอใช้อัตลักษณ์สร้างของที่เธอต้องการขึ้นมาโดยไม่ระมัดระวังมันก็จำส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศได้(?)
คิริชิมะคิดในใจว่าจริงๆแล้วเจ้าหล่อนก็แค่อย่างจะเข้าไปซื้อของในร้าน Donki ก็เท่านั้นเองแหละนะ
ทันใดนั้นก็มีข่าวออกทีวีจอยักษ์บนตึกใกล้ๆ
อ.ใหญ่, อ.ไอซาว่า และอ.Vlad ออกแถลงข่าวขออภัยผ่านสื่อให้สังคมได้รับทราบ ในกรณีที่การเข้าค่ายเกิดความผิดพลาดอย่างใหญ่หลวงและทำให้มีนักเรียนได้รับบาดเจ็บถึง 27 คน
ซึ่งพวกอิสึคุต่างก็รู้สึกไม่สบายใจและไม่พอใจอย่างมากที่ทั้งสื่อมวลชนและผู้คนในสังคมต่างก็ปฏิบัติเหมือนกับว่าทางโรงเรียนยูเอย์เป็นอาชญากรเสียเองแบบนี้
ตัดไปที่รังของ Villians Alliance
บาคุโกที่ถูกมัดอยู่ถูกรุมล้อมด้วยบรรดาเหล่าร้ายที่นำโดยชิคารากิ และทุกคนก็กำลังดูการถ่ายทอดข่าวเดียวกันนั้นอยู่
ชิคารากิกล่าวถึงความไร้สาระของสังคมที่ฮีโร่เพียงแค่ทำพลาดแค่ครั้งเดียวก็ถูกปฏิบัติราวกับเป็นอาชญากรเสียเอง ฮีโร่ในทุกวันนี้ต้องทำตามมาตรฐานที่ถูกตั้งไว้เสียสูงลิบลิ่ว
พวกชิคารากิต้องการตั้งคำถามให้กับสังคมว่าฮีโร่คืออะไร? ความยุติธรรมคืออะไร? สังคมนี่ถูกต้องจริงหรือไม่? พวกตนต้องการให้ทุกคนตั้งคำถามเกี่ยวกับเรื่องนี้แ และพวกตนก็ตั้งใจที่จะชนะในการต่อสู้นี้ด้วย
ชิคารากิ : นายเองก็...ชอบที่จะเป็นผู้ชนะด้วยใช่ไหมล่ะ?
ว่าแล้วบาคุโกก็สั่งให้ดาบิถอดเครื่องพันธนาการของบาคุโกออก ซึ่งแม้ดาบิจะไม่เห็นด้วย แต่ชิคารากิคิดว่าควรจะปฏิบัติต่อบาคุโกอย่างเท่าเทียมถ้าต้องการจะชวนเขามาร่วมกับองค์กร อีกทั้งตัวบาคุโกเองก็น่าที่จะรู้ว่าในสถานการณ์เช่นนี้ถ้าเขาอาละวาดขึ้นมาล่ะก็เขาก็ไม่มีทางชนะได้เลย
แต่ทันทีที่บาคุโกหลุดจากเครื่องพันธนาการ เขาก็พุ่งเข้าหาชิคารากิแล้วใช้พลังระเบิดใส่หน้ามันทันที!!!
บาคุโก : พอฉันไม่พูดแกก็เอาแต่พล่ามไม่ยอมหยุดเลยนะ…!
บาคุโก : พวกงี่เง่าก็งี้ล่ะ ไม่รู้จักวิธีสรุปความเลยต้องพูดไปเรื่อย
บาคุโก : สรุปแล้วที่แกอยากพูดก็คือ "เราอยากให้ผู้คนเกลียดเรา เพราะงั้นได้โปรดมาเข้าร่วมกับเราที!" ใช่ไหมล่ะ?!
บาคุโก : เปล่าประโยชน์ว่ะ
บาคุโก : คืองี้แน่ะ
บาคุโก : ฉันน่ะตัดสินใจมั่นแน่นอนไปเรียบร้อยแล้ว
บาคุโก : ตั้งแต่ตอนที่ได้เห็นออลไมท์
บาคุโก : ในตอนที่เขาได้รับชัยชนะ!!
บาคุโก : พวกแกจะพูดยังไงก็ได้ตามใจเลย แต่ว่า...
บาคุโก : ไม่มีอะไรมาเปลี่ยนความคิดของฉันได้หรอก!!
Spoil Boku no Hero Academia 85 : เหล่าคนโง่เขลา
อิสึคุโทรศัพท์คุยกับแม่ของเขา โดยบอกว่าตอนนี้ร่างกายของเขาสามารถเคลื่อนไหวได้แล้ว และคงจะกลับบ้านได้วันพรุ่งนี้หรือมะรืนนี้
(ปล.โกหก จริงๆกลับได้ตั้งแต่วันนี้แต่ตั้งใจว่าจะไปช่วยบาคุโกก่อนต่างหาก)
ทางโรงเรียนก็บอกว่าอยากจะให้พวกเขาเก็บตัวอยู่เงียบๆในช่วงนี้ และให้คำแนะนำในการรับมือกับสื่อมวลชนมาด้วย
ตอนนั้นเองแม่ของเขาก็พูดสิ่งที่ทำให้เขาต้องอึ้งออกมา...
แม่ : …อิสึคุ
แม่ : ลูกจะ...ไม่กลับไปที่ยูเอย์อีกได้ไหม?
ตัดมาที่ปัจจุบัน
พวกอิสึคุกำลังเดินออกจากโรงพยาบาลตอนกลางดึกเพื่อไปทำภารกิจช่วยเหลือบาคุโก
อีดะขอโทษอิสึคุที่ต่อยเขาไปก่อนหน้านี้ แต่อย่างไรเขาก็ไม่สามารถยอมรับสิ่งที่พวกอิสึคุกำลังจะทำได้ ที่เขามาด้วยก็เพื่อให้แน่ใจว่าหากเกิดสถานการณ์ที่มีความเป็นไปได้ที่จะมีการต่อสู้แม้แต่นิดเดียวเขาก็จะพาพวกอิสึคุกลับทันที
โมโมะก็คิดแบบเดียวกัน เพราะภารกิจช่วยเหลือบาคุโกนั้นเป็นหน้าที่ของพวกมือโปรมาตั้งแต่ต้น ดังนั้นจริงๆแล้วพวกเขาไม่มีความจำเป็นที่จะต้องทำอะไรเลยแม้แต่น้อย
แต่เธอก็เข้าใจความรู้สึกของพวกเขา ดังนั้นเธอจึงยอมที่จะรับข้อต่อรองของพวกเขาที่จะทำเรื่องนี้อย่างลับๆและไม่มีการต่อสู้
ทว่าลึกๆแล้วเธอก็คิดว่าการช่วยเหลือบาคุโกจากรังของวายร้ายโดยไม่ต้องทำการต่อสู้เลยนั้นเป็นสิ่งที่แทบเป็นไปไม่ได้เลย
จากเครื่องส่งสัญญาณที่โมโมะติดไว้ที่ตัวโนมุ บ่งบอกว่ารังของ Villians Alliance นั้นอยู่ที่แถบคามิโนะ เมืองโยโกฮาม่า จังหวัดคานางาวะ ซึ่งจากจังหวัดนางาโนะที่พวกเขาอยู่ในตอนนี้ถ้าไปด้วยรถไฟความเร็วสูงก็จะไปถึงในเวลาสองชั่วโมง ซึ่งจะเป็นเวลาประมาณสี่ทุ่ม
ระหว่างที่นั่งรถไฟ พวกเขานั่งคุยกันถึงแผนการนี้
โทโดโรกิกับคิริชิมะบอกว่าพวกเขาไม่ได้บอกคนอื่นๆในห้องเรื่องแผนการของพวกเขานี้ เพราะพวกนั้นต้องขัดขวางไม่ให้พวกเขาลงมือแน่
คิริชิมะนึกย้อนถึงสิ่งที่โอจาโกะบอกพวกเขาก่อนจะแยกย้ายกันว่า
โอจาโกะ : ฉันคิดว่า...บาคุโกต้องรู้สึกเสียศักดิ์ศรีมากๆแน่ถ้าต้องถูกคนอื่นช่วยเหลือน่ะ
โทโดโรกิก็บอกว่าสิ่งที่พวกเขากำลังทำอยู่นี้เป็นการกระทำเพื่อสนองทิฐิของตัวเองล้วนๆ ถ้ามีใครอยากจะถอนตัวในตอนนี้ก็ยังไม่สายเกินไป
คิริชิมะจึงตอบว่าถ้าเขาไม่ตั้งใจจริงเขาคงไม่มาอยู่ตรงนี้ตั้งแต่ต้นแล้ว เขาไม่สามารถทนดูพวกวายร้ายทำตามใจชอบได้หรอก
ส่วนอิสึคุก็นึกไปถึงสิ่งที่เขาคุยกับแม่ของเขาก่อนหน้านี้
อิสึคุ : แม่ครับ...ผม...
อิสึคุ : ผมได้รับทุกสิ่งทุกอย่างที่มีอยู่ในตอนนี้มาจากออลไมท์
อิสึคุ : ตั้งแต่ตอนที่ผมได้พบกับเขา...
อิสึคุ : ผมก็ไม่มีทางหันหลังกลับแน่นอน
หลังจากนั้นพวกเขาก็มาถึงแถบคามิโนะ
แต่ปัญหาคือที่นี่คือถิ่นของศัตรูและพวกมันก็รู้จักหน้าตาของพวกเขาแล้วด้วย พวกเขาจึงต้องดำเนินการอย่างระมัดระวัง
ดังนั้นพวกเขาจึงเข้าไปที่ร้าน Don Quijote (Donki) ซึ่งเป็นร้านที่ขายของสารพัดอย่าง รวมถึง...ชุดคอสเพลย์ด้วย!
(ร้านนี้มีจริงในญี่ปุ่นนะครับ และเขาก็ขายสารพัดอย่างรวมถึงชุดคอสเพลย์จริงๆด้วย)
แล้วพวกอิสึคุก็แปลงโฉมออกมาตนแทบจะจำกันไม่ได้
โมโมะอธิบายว่าในย่านการค้ากลางคืนแบบนี้เด็กวัยรุ่นจะดูเด่นสะดุดตาดังนั้นพวกเขาจึงต้องปลอมตัวให้ดูเป็นผู้ใหญ่เข้าไว้
แต่โทโดโรกิก็เกิดสงสัยขึ้นมาว่าทำไมโมโมะถึงไม่ใช้อัตลักษณ์ของเธอสร้างอุปกรณ์ปลอมตัวขึ้นมา แทนที่จะต้องมาซื้อเอาแบบนี้ล่ะ?
โมโมะเลยรีบลนลานอธิบายว่าถ้าเธอใช้อัตลักษณ์สร้างของที่เธอต้องการขึ้นมาโดยไม่ระมัดระวังมันก็จำส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศได้(?)
คิริชิมะคิดในใจว่าจริงๆแล้วเจ้าหล่อนก็แค่อย่างจะเข้าไปซื้อของในร้าน Donki ก็เท่านั้นเองแหละนะ
ทันใดนั้นก็มีข่าวออกทีวีจอยักษ์บนตึกใกล้ๆ
อ.ใหญ่, อ.ไอซาว่า และอ.Vlad ออกแถลงข่าวขออภัยผ่านสื่อให้สังคมได้รับทราบ ในกรณีที่การเข้าค่ายเกิดความผิดพลาดอย่างใหญ่หลวงและทำให้มีนักเรียนได้รับบาดเจ็บถึง 27 คน
ซึ่งพวกอิสึคุต่างก็รู้สึกไม่สบายใจและไม่พอใจอย่างมากที่ทั้งสื่อมวลชนและผู้คนในสังคมต่างก็ปฏิบัติเหมือนกับว่าทางโรงเรียนยูเอย์เป็นอาชญากรเสียเองแบบนี้
ตัดไปที่รังของ Villians Alliance
บาคุโกที่ถูกมัดอยู่ถูกรุมล้อมด้วยบรรดาเหล่าร้ายที่นำโดยชิคารากิ และทุกคนก็กำลังดูการถ่ายทอดข่าวเดียวกันนั้นอยู่
ชิคารากิกล่าวถึงความไร้สาระของสังคมที่ฮีโร่เพียงแค่ทำพลาดแค่ครั้งเดียวก็ถูกปฏิบัติราวกับเป็นอาชญากรเสียเอง ฮีโร่ในทุกวันนี้ต้องทำตามมาตรฐานที่ถูกตั้งไว้เสียสูงลิบลิ่ว
พวกชิคารากิต้องการตั้งคำถามให้กับสังคมว่าฮีโร่คืออะไร? ความยุติธรรมคืออะไร? สังคมนี่ถูกต้องจริงหรือไม่? พวกตนต้องการให้ทุกคนตั้งคำถามเกี่ยวกับเรื่องนี้แ และพวกตนก็ตั้งใจที่จะชนะในการต่อสู้นี้ด้วย
ชิคารากิ : นายเองก็...ชอบที่จะเป็นผู้ชนะด้วยใช่ไหมล่ะ?
ว่าแล้วบาคุโกก็สั่งให้ดาบิถอดเครื่องพันธนาการของบาคุโกออก ซึ่งแม้ดาบิจะไม่เห็นด้วย แต่ชิคารากิคิดว่าควรจะปฏิบัติต่อบาคุโกอย่างเท่าเทียมถ้าต้องการจะชวนเขามาร่วมกับองค์กร อีกทั้งตัวบาคุโกเองก็น่าที่จะรู้ว่าในสถานการณ์เช่นนี้ถ้าเขาอาละวาดขึ้นมาล่ะก็เขาก็ไม่มีทางชนะได้เลย
แต่ทันทีที่บาคุโกหลุดจากเครื่องพันธนาการ เขาก็พุ่งเข้าหาชิคารากิแล้วใช้พลังระเบิดใส่หน้ามันทันที!!!
บาคุโก : พอฉันไม่พูดแกก็เอาแต่พล่ามไม่ยอมหยุดเลยนะ…!
บาคุโก : พวกงี่เง่าก็งี้ล่ะ ไม่รู้จักวิธีสรุปความเลยต้องพูดไปเรื่อย
บาคุโก : สรุปแล้วที่แกอยากพูดก็คือ "เราอยากให้ผู้คนเกลียดเรา เพราะงั้นได้โปรดมาเข้าร่วมกับเราที!" ใช่ไหมล่ะ?!
บาคุโก : เปล่าประโยชน์ว่ะ
บาคุโก : คืองี้แน่ะ
บาคุโก : ฉันน่ะตัดสินใจมั่นแน่นอนไปเรียบร้อยแล้ว
บาคุโก : ตั้งแต่ตอนที่ได้เห็นออลไมท์
บาคุโก : ในตอนที่เขาได้รับชัยชนะ!!
บาคุโก : พวกแกจะพูดยังไงก็ได้ตามใจเลย แต่ว่า...
บาคุโก : ไม่มีอะไรมาเปลี่ยนความคิดของฉันได้หรอก!!