ขอบคุณทุกๆ คนที่อ่านเรื่องนี้นะคะ
ขอบคุณ คุณ ริมแม่โขง, คุณนัน turtle_cheesecake, คุณ ป้าทุยบ้านทุ่ง, น้องดาว Lady Star 919, จารย์จี GTW, คุณ ออมอำพัน, คุณ สายป่านสีชมพู, คุณแอนนี่ annie <harmonica>
ขอบคุณคะแนนโหวตทุกคะแนนด้วยค่ะ
บทก่อนๆ ค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้บทนำ - บทที่ ๑ http://ppantip.com/topic/35375611
บทที่ ๒ - บทที่ ๓ http://ppantip.com/topic/35379337
บทที่ ๔ http://ppantip.com/topic/35383294
บทที่ ๕ http://ppantip.com/topic/35386265
บทที่ ๖ http://ppantip.com/topic/35389519
บทที่ ๗ http://ppantip.com/topic/35392675
บทที่ ๘ http://ppantip.com/topic/35400069
บทที่ ๙ http://ppantip.com/topic/35407698
บทที่ ๑๐ http://ppantip.com/topic/35411784
บทที่ ๑๑ http://ppantip.com/topic/35422278
บทที่ ๑๒ http://ppantip.com/topic/35430211
บทที่ ๑๓ http://ppantip.com/topic/35437896
บทที่ ๑๔ http://ppantip.com/topic/35447627
บทที่ ๑๕ http://ppantip.com/topic/35454229
บทที่ ๑๖ http://ppantip.com/topic/35460996
บทที่ ๑๗ http://ppantip.com/topic/35467701
บทที่ ๑๘ http://ppantip.com/topic/35478177
บทที่ ๑๙ http://ppantip.com/topic/35484261
บทที่ ๒๐ http://ppantip.com/topic/35490729
บทที่ ๒๑ http://ppantip.com/topic/35500221
บทที่ ๒๒ http://ppantip.com/topic/35507830
บทที่ ๒๓ http://ppantip.com/topic/35514634
บทที่ ๒๔ http://ppantip.com/topic/35524338
บทที่ ๒๕ http://ppantip.com/topic/35533699
บทที่ ๒๖ http://ppantip.com/topic/35542378
บทที่ ๒๗ http://ppantip.com/topic/35546044
บทที่ ๒๘
รามมองสองมือเล็กๆ ที่กำลังขยี้ผ้าในกะละมังอย่างคล่องแคล่ว ทำท่าจะลงนั่งข้างๆ บนพื้นลาดซีเมนต์ซึ่งใช้เป็นลานซักผ้า
สาวน้อยร้องห้ามเสียงหลง
"อย่านั่งกับพื้นค่ะ คุณราม ประเดี๋ยวกางเกงจะเปียก"
เธอเลื่อนม้าเตี้ยๆ ที่นั่งอยู่ให้ ม้าไม้ตัวนั้นเล็กนิดเดียวเมื่อเทียบกับขนาดรูปร่างของเขา อีกทั้งยังเตี้ยเสียจนเกือบติดพื้นอีกด้วย พอลงนั่ง ขายาวๆ ก็ค้ำขึ้นมาถึงหน้าอก จนต้องเหยียดออกไปข้างหน้า ตาดูภรรยานั่งยองๆ อย่างห่วงใย
"นั่งแบบนั้นไม่เมื่อยหรอกหรือ"
ไอรีนยิ้มให้นิดหนึ่ง
"ไม่หรอกค่ะ" อยากเอาใจเขาบ้าง ก็ในเมื่อยอมให้อยู่ที่นี่ต่ออีกสองวันแบบนี้
"หลังเรือนนี่แดดแรงค่ะ คุณราม ตากไว้ไม่นานก็แห้ง"
เธอเป็นคนบอกให้เขาเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นกางเกงแพรจีนและเสื้อผ้าป่านคอกลมของน้าชายซึ่งคุณลำไยค้นมาให้ กางเกงของคุณกรานตัวนั้นแม้จะเป็นตัวที่ยาวที่สุดแล้ว หากก็ยังสั้นเพียงแข้งของชายหนุ่ม ไอรีนเอาเสื้อกางเกงซึ่งเขาสวมมาจากกรุงเทพลงซักให้หลังรับประทานอาหารกลางวัน เพื่อที่ว่าเขาจะได้ใส่ชุดเดียวกันนี้ไปงานหมั้นลูกสาวผู้ใหญ่อุดมในวันรุ่งขึ้น
ว่าไปแล้วคุณลำไยเป็นคนจัดแจงเรื่องทั้งหมด หล่อนเห็นว่านี่เป็นโอกาสเหมาะที่คู่สามีภรรยาหนุ่มสาวจะได้มีโอกาสอยู่กันตามลำพัง ไม่มีเรื่องร้อนใจคุกคามใกล้ตัวเหมือนเช่นที่บ้าน เมื่อทั้งคู่ต่างก็ปลอดโปร่งโล่งใจเพียงพอ ก็คงปรับความเข้าใจกันได้ หล่อนเป็นเดือดเป็นร้อนแทนเมื่อพี่สะใภ้เล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ฟังในเชิงปรึกษา บอกด้วยว่าสองเดือนมาแล้วที่รามและไอรีนเสมือนแยกกันอยู่ คนเป็นภรรยานั้นปักหลักอยู่ในเรือนไม้หลังเล็ก จะจัดเตรียมเสื้อผ้าเครื่องใช้ให้สามีก็โดยผ่านบ่าวเด็กหนุ่ม ข้าวปลาอาหารก็แยกกันรับประทาน เช้าขึ้นก่อนเขาไปทำงาน เธอจัดเตรียมเครื่องแบบและอาหารเช้าไว้ให้ เย็นลงเขากลับบ้านก็ไม่ต่างอะไรกัน เสร็จแล้วก็ปิดประตูเงียบอยู่แต่ในห้องของตัว คนเป็นสามีไม่เคยกล้าเข้าไปรบกวน ด้วยรู้ว่าตัวทำความผิดเอาไว้
'อยู่กันอย่างนั้นอีกหน่อยพ่อรามก็คงเบื่อ เรื่องมันจะยิ่งไปกันใหญ่ พี่เองก็ไม่กล้าเตือนแม่ไอรีนเขา'
คุณกนกปรารภกับน้องสะใภ้ หล่อนไม่กล้าอบรมสั่งสอนใครตรงๆ ยิ่งตัวไม่เคยแต่งงานแต่งการ ไม่เคยมีครอบครัวก็ยิ่งไม่กล้า
'ประเดี๋ยวหลานมันจะย้อนให้ว่าน้ากนกรู้เรื่องผัวเรื่องเมียกับใครเขาที่ไหน'
คุณลำไยจึงรับเอาเรื่องนี้มาเป็นธุระของตัวเสียเอง
'ก็ค้างเสียสักสองคืนสินะพ่อราม พรุ่งนี้เช้าจะได้ไปงานแม่รื่นกัน พ่อดมคงชอบอกชอบใจถ้าได้ขุนนางชั้นผู้ใหญ่อย่างพ่อรามไปเป็นผู้ใหญ่ให้ฝ่ายเราอีกคน'
แม่รื่นคือลูกสาวคนโตของผู้ใหญ่อุดม
'พี่กนกก็มานอนกับฉันเสียที่เรือนนี้ ให้พ่อรามกับแม่ไอรีนได้อยู่กันที่เรือนโน้น' หล่อนวางแผนต่อเสร็จสรรพ
'ที่จริงค้างกันหลายๆ คืนก็ได้นะ พ่อราม ถึงที่นี่จะไม่สะดวกสบายเหมือนเมืองกรุง แต่ก็พออยู่กันได้ดอก'
ปัญหาคือรามไม่ได้เตรียมตัวจะมาค้างคืนที่นี่ จึงไม่ได้จัดเตรียมเสื้อผ้ามาผลัดเปลี่ยน ดีหน่อยที่กางเกงแพรของคุณกรานไม่ได้ตัดเย็บเข้ารูปเข้าทรง จึงพอสวมใส่แก้ขัดไปได้พลางๆ เสื้อนั้นไม่เป็นปัญหาอยู่แล้ว เสื้อผ้าป่านตัวที่สวม แม้ชายจะสั้นไปหน่อยเพราะลำตัวคุณกรานสั้นกว่ามาก แต่ขนาดก็พอสวมได้สบายๆ
รามพิจารณาแขนเรียวบางของภรรยาก็เห็นว่าแดดลามเลียจนคร้ามไปไม่น้อย
"ที่นี่แดดจัดจริงๆ นะ"
"ค่ะ ยิ่งบ้านอยู่กลางทุ่ง ไม่มีร่มไม้อย่างนี้ รับแดดเต็มที่เลยค่ะ" เธอพลอยเออออไปด้วย
"เธอคงไปอำเภอบ่อยสินะ" เขาชวนคุย
สาวน้อยหันมองสามีแวบหนึ่ง มือบิดกางเกงของเขาจนหมาดน้ำสบู่ แล้วใส่ลงในอีกกะละมังซึ่งมีน้ำสะอาดอยู่ครึ่งๆ เสื้อของเขาลงไปแช่อยู่ในนั้นก่อนหน้าแล้ว
ตกลงกันไว้ว่าบ่ายนี้หลังจากที่เธอซักผ้าให้เขาเสร็จแล้วก็จะเข้าไปในตัวอำเภอกัน เพื่อเขาจะได้หาซื้อกางเกงมาไว้ใส่ชั่วคราวอีกสักตัวสองตัว
"ไม่บ่อยหรอกค่ะ เคยไปกับน้าลำไยครั้งเดียว พอรู้ทางก็ไปเองอีกสองครั้งค่ะ"
รามเคยมาแถวนี้ครั้งหนึ่งเมื่อหลายปีมาแล้ว แต่ไม่เคยเข้าไปในตัวอำเภอเมืองจากที่นี่เลย จึงมองไม่ออกว่าในเมื่อรอบด้านไม่มีถนนให้เห็นแบบนี้ จะไปกันได้อย่างไรนอกจากทางเรือ
"แล้วเราจะไปอำเภอกันอย่างไรละนี่"
ถามพลางเหลียวมองไปรอบตัว บ้านหลังนี้ตั้งเด่นอยู่กลางทุ่งเลยทีเดียว มีรั้วไม้ระแนงโปร่งๆ กั้นล้อมไว้โดยรอบพอเป็นพิธี จากตัวเรือนซึ่งอยู่ด้านหลังมองผ่านรั้วออกไปเห็นสวนของคุณกอบ คุณกรานนั้นรับราชการอย่างเดียว ไม่สนใจเรื่องทำไร่ทำสวนมาแต่ไหนแต่ไร คุณกนกก็ตัวคนเดียว ไม่มีครอบครัว เรือกสวนไร่นาทั้งหมดจึงกลายเป็นมรดกตกทอดมาถึงคุณกอบผู้เป็นน้องชายคนเล็กแต่เพียงผู้เดียว
"คงเอาเรือไปได้นะ"
"เอาเรือไปลำบากค่ะ" สาวน้อยค้าน "ถึงตลาดแล้วไม่รู้ว่าจะทิ้งเรือไว้ที่ไหน"
"แล้วจะไปกันอย่างไรล่ะ จะเดินกันไปอย่างนั้นหรือ"
คุณกนก คุณลำไย และเด็กชายสุชัยลงจากเรือนมาได้ยินเข้าพอดี จึงแอบยิ้มให้กัน
"จากนี่ไปตลาดไม่ยากหรอกพ่อราม ไอรีนไปจนคล่องแล้ว" รอยยิ้มยังไม่จางหายจากริมฝีปากคุณลำไย
รามเห็นผู้มีศักดิ์เป็นน้าทั้งสองคนหอบอะไรต่ออะไรกันให้พะรุงพะรัง แถมยังมีร่มกันอีกคนละคัน จึงเอ่ยปากถาม
"จะไปไหนกันครับ"
"จะไปดูบ้านโน้นเขาหน่อยว่ามีอะไรจะให้ช่วยอีกไหม" หล่อนหมายถึงบ้านผู้ใหญ่อุดมซึ่งจะเป็นบ้านงานในวันรุ่งขึ้น สอดหูตะกร้าสานคล้องไว้กับแขนแล้วกางร่ม
รามขยับลุกทันควัน ตรงเข้ามารับตะกร้าจากทั้งคุณลำไยและคุณกนกมาถือไว้แทน
"จะไปกันอย่างไรละครับ"
"ก็เดินไปสิพ่อราม เดินไปตามคันนานี่แหละ" คุณลำไยตอบราวเป็นเรื่องปกติธรรมดาเสียเหลือเกิน
นายพันเอกหนุ่มมองผ่านทุ่งนาไปทางบ้านญาติผู้ใหญ่ซึ่งเห็นอยู่ไกลๆ อย่างคาดคะเน ปกติเขาคุ้นเคยกับการเดินทางที่สะดวกสบายในพระนคร จะไปไหนไกลๆ ถ้าไม่ขับเรือก็ขับรถไป บ้านหลังนั้นแม้มองเห็นกัน แต่กะระยะทางแล้วไกลพอดู ยิ่งถ้าต้องเดินฝ่าแดดร้อนๆ ไปอย่างนี้ ก็ยิ่งให้ความรู้สึกว่าไกลมากทีเดียว
"ผมเอาเรือไปส่งดีกว่าครับ"
"ไม่ต้องหรอกพ่อราม" คนเป็นน้ายั้งไว้ "น้าเดินกันไปได้ เดินคุยกันไป เดี๋ยวเดียวก็ถึง"
คุณลำไยเหลือบมองจักรยานสองคันซึ่งพิงอยู่ใต้ถุนเรือนแวบหนึ่ง แล้วยิ้มกับคุณกนกอีกครั้งอย่างมีเลศนัย ก่อนหันกลับมาถามหลานชาย
"พ่อรามถีบรถเป็นใช่ไหม"
ชายหนุ่มยังคิดไปไม่ถึงว่าคำถามลักษณะนั้นหมายความว่าอย่างไร
"เป็นครับ"
"ดีแล้ว น้าทิ้งไว้ให้ทั้งสองคันนี่แหละ"
รามมองตามสายตาผู้สูงวัยกว่า คราวนี้พอปะติดปะต่ออะไรได้ลางๆ บ้างแล้ว ก้มลงดูภรรยา ก็เห็นว่าเธอทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ บิดเสื้อของเขาแล้วลุกขึ้น เอาทั้งเสื้อและกางเกงไปตากไว้กับราวซึ่งขึงตึงระหว่างเสาหลักสองต้นนอกชายคาเรือน
ส่วนคุณกนกนั้นกลั้นหัวเราะแทบไม่อยู่ พยักหน้าเป็นสัญญาณบอกน้องสะใภ้ว่าควรไปกันได้แล้ว รู้ว่าถ้าขืนโอ้เอ้ต่อไปอีกก็คงได้หัวเราะหลานชายต่อหน้าเจ้าตัวเป็นแน่แท้
"ไปกันเถอะ แม่ลำไย แม่เรินคงคอยแล้ว"
"ผมไปส่งดีกว่าครับน้า" ชายหนุ่มยืนกราน คิดว่าจะลองไปดูบ้านนั้นด้วยว่าพอมีพาหนะใดที่จะขอยืมเพื่อเข้าตัวเมืองได้บ้าง
ไอรีนเช็ดมือกับผ้าถุงที่สวม แล้วเดินตามสามีมาส่งถึงเรือ
"บางทีคืนนี้น้ากับพี่กนกจะค้างกันที่บ้านพ่อดม" คุณลำไยแสร้งเกริ่นขึ้นลอยๆ ทั้งที่จริงหล่อนกับพี่สะใภ้วางแผนกันไว้ล่วงหน้าเรียบร้อยแล้ว
ประโยคหลังบอกหญิงสาวซึ่งตามมาส่งที่เรือ
"ไอรีน ถ้าน้าค้างกันที่บ้านโน้น ก็ช่วยทำสำรับเย็นไว้ให้น้ากรานเขาด้วยนะลูก จะทำอะไรก็ได้ ตามสบาย กุ้งหมูปูปลามีอยู่พร้อมแล้ว"
หญิงสาวรับคำ มองตามเรือซึ่งสามีเป็นผู้ขับแล่นออกห่างจากสะพานไปครู่หนึ่ง แล้วกลับไปหลังเรือนเพื่อเทน้ำซักผ้าทิ้ง ก่อนขึ้นไปปิดประตูเรือนชั้นบนหมดทุกบาน
บันทึกคุณหญิงไอรีน (บทที่ ๒๘)
ขอบคุณ คุณ ริมแม่โขง, คุณนัน turtle_cheesecake, คุณ ป้าทุยบ้านทุ่ง, น้องดาว Lady Star 919, จารย์จี GTW, คุณ ออมอำพัน, คุณ สายป่านสีชมพู, คุณแอนนี่ annie <harmonica>
ขอบคุณคะแนนโหวตทุกคะแนนด้วยค่ะ
บทก่อนๆ ค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
รามมองสองมือเล็กๆ ที่กำลังขยี้ผ้าในกะละมังอย่างคล่องแคล่ว ทำท่าจะลงนั่งข้างๆ บนพื้นลาดซีเมนต์ซึ่งใช้เป็นลานซักผ้า
สาวน้อยร้องห้ามเสียงหลง
"อย่านั่งกับพื้นค่ะ คุณราม ประเดี๋ยวกางเกงจะเปียก"
เธอเลื่อนม้าเตี้ยๆ ที่นั่งอยู่ให้ ม้าไม้ตัวนั้นเล็กนิดเดียวเมื่อเทียบกับขนาดรูปร่างของเขา อีกทั้งยังเตี้ยเสียจนเกือบติดพื้นอีกด้วย พอลงนั่ง ขายาวๆ ก็ค้ำขึ้นมาถึงหน้าอก จนต้องเหยียดออกไปข้างหน้า ตาดูภรรยานั่งยองๆ อย่างห่วงใย
"นั่งแบบนั้นไม่เมื่อยหรอกหรือ"
ไอรีนยิ้มให้นิดหนึ่ง
"ไม่หรอกค่ะ" อยากเอาใจเขาบ้าง ก็ในเมื่อยอมให้อยู่ที่นี่ต่ออีกสองวันแบบนี้
"หลังเรือนนี่แดดแรงค่ะ คุณราม ตากไว้ไม่นานก็แห้ง"
เธอเป็นคนบอกให้เขาเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นกางเกงแพรจีนและเสื้อผ้าป่านคอกลมของน้าชายซึ่งคุณลำไยค้นมาให้ กางเกงของคุณกรานตัวนั้นแม้จะเป็นตัวที่ยาวที่สุดแล้ว หากก็ยังสั้นเพียงแข้งของชายหนุ่ม ไอรีนเอาเสื้อกางเกงซึ่งเขาสวมมาจากกรุงเทพลงซักให้หลังรับประทานอาหารกลางวัน เพื่อที่ว่าเขาจะได้ใส่ชุดเดียวกันนี้ไปงานหมั้นลูกสาวผู้ใหญ่อุดมในวันรุ่งขึ้น
ว่าไปแล้วคุณลำไยเป็นคนจัดแจงเรื่องทั้งหมด หล่อนเห็นว่านี่เป็นโอกาสเหมาะที่คู่สามีภรรยาหนุ่มสาวจะได้มีโอกาสอยู่กันตามลำพัง ไม่มีเรื่องร้อนใจคุกคามใกล้ตัวเหมือนเช่นที่บ้าน เมื่อทั้งคู่ต่างก็ปลอดโปร่งโล่งใจเพียงพอ ก็คงปรับความเข้าใจกันได้ หล่อนเป็นเดือดเป็นร้อนแทนเมื่อพี่สะใภ้เล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ฟังในเชิงปรึกษา บอกด้วยว่าสองเดือนมาแล้วที่รามและไอรีนเสมือนแยกกันอยู่ คนเป็นภรรยานั้นปักหลักอยู่ในเรือนไม้หลังเล็ก จะจัดเตรียมเสื้อผ้าเครื่องใช้ให้สามีก็โดยผ่านบ่าวเด็กหนุ่ม ข้าวปลาอาหารก็แยกกันรับประทาน เช้าขึ้นก่อนเขาไปทำงาน เธอจัดเตรียมเครื่องแบบและอาหารเช้าไว้ให้ เย็นลงเขากลับบ้านก็ไม่ต่างอะไรกัน เสร็จแล้วก็ปิดประตูเงียบอยู่แต่ในห้องของตัว คนเป็นสามีไม่เคยกล้าเข้าไปรบกวน ด้วยรู้ว่าตัวทำความผิดเอาไว้
'อยู่กันอย่างนั้นอีกหน่อยพ่อรามก็คงเบื่อ เรื่องมันจะยิ่งไปกันใหญ่ พี่เองก็ไม่กล้าเตือนแม่ไอรีนเขา'
คุณกนกปรารภกับน้องสะใภ้ หล่อนไม่กล้าอบรมสั่งสอนใครตรงๆ ยิ่งตัวไม่เคยแต่งงานแต่งการ ไม่เคยมีครอบครัวก็ยิ่งไม่กล้า
'ประเดี๋ยวหลานมันจะย้อนให้ว่าน้ากนกรู้เรื่องผัวเรื่องเมียกับใครเขาที่ไหน'
คุณลำไยจึงรับเอาเรื่องนี้มาเป็นธุระของตัวเสียเอง
'ก็ค้างเสียสักสองคืนสินะพ่อราม พรุ่งนี้เช้าจะได้ไปงานแม่รื่นกัน พ่อดมคงชอบอกชอบใจถ้าได้ขุนนางชั้นผู้ใหญ่อย่างพ่อรามไปเป็นผู้ใหญ่ให้ฝ่ายเราอีกคน'
แม่รื่นคือลูกสาวคนโตของผู้ใหญ่อุดม
'พี่กนกก็มานอนกับฉันเสียที่เรือนนี้ ให้พ่อรามกับแม่ไอรีนได้อยู่กันที่เรือนโน้น' หล่อนวางแผนต่อเสร็จสรรพ
'ที่จริงค้างกันหลายๆ คืนก็ได้นะ พ่อราม ถึงที่นี่จะไม่สะดวกสบายเหมือนเมืองกรุง แต่ก็พออยู่กันได้ดอก'
ปัญหาคือรามไม่ได้เตรียมตัวจะมาค้างคืนที่นี่ จึงไม่ได้จัดเตรียมเสื้อผ้ามาผลัดเปลี่ยน ดีหน่อยที่กางเกงแพรของคุณกรานไม่ได้ตัดเย็บเข้ารูปเข้าทรง จึงพอสวมใส่แก้ขัดไปได้พลางๆ เสื้อนั้นไม่เป็นปัญหาอยู่แล้ว เสื้อผ้าป่านตัวที่สวม แม้ชายจะสั้นไปหน่อยเพราะลำตัวคุณกรานสั้นกว่ามาก แต่ขนาดก็พอสวมได้สบายๆ
รามพิจารณาแขนเรียวบางของภรรยาก็เห็นว่าแดดลามเลียจนคร้ามไปไม่น้อย
"ที่นี่แดดจัดจริงๆ นะ"
"ค่ะ ยิ่งบ้านอยู่กลางทุ่ง ไม่มีร่มไม้อย่างนี้ รับแดดเต็มที่เลยค่ะ" เธอพลอยเออออไปด้วย
"เธอคงไปอำเภอบ่อยสินะ" เขาชวนคุย
สาวน้อยหันมองสามีแวบหนึ่ง มือบิดกางเกงของเขาจนหมาดน้ำสบู่ แล้วใส่ลงในอีกกะละมังซึ่งมีน้ำสะอาดอยู่ครึ่งๆ เสื้อของเขาลงไปแช่อยู่ในนั้นก่อนหน้าแล้ว
ตกลงกันไว้ว่าบ่ายนี้หลังจากที่เธอซักผ้าให้เขาเสร็จแล้วก็จะเข้าไปในตัวอำเภอกัน เพื่อเขาจะได้หาซื้อกางเกงมาไว้ใส่ชั่วคราวอีกสักตัวสองตัว
"ไม่บ่อยหรอกค่ะ เคยไปกับน้าลำไยครั้งเดียว พอรู้ทางก็ไปเองอีกสองครั้งค่ะ"
รามเคยมาแถวนี้ครั้งหนึ่งเมื่อหลายปีมาแล้ว แต่ไม่เคยเข้าไปในตัวอำเภอเมืองจากที่นี่เลย จึงมองไม่ออกว่าในเมื่อรอบด้านไม่มีถนนให้เห็นแบบนี้ จะไปกันได้อย่างไรนอกจากทางเรือ
"แล้วเราจะไปอำเภอกันอย่างไรละนี่"
ถามพลางเหลียวมองไปรอบตัว บ้านหลังนี้ตั้งเด่นอยู่กลางทุ่งเลยทีเดียว มีรั้วไม้ระแนงโปร่งๆ กั้นล้อมไว้โดยรอบพอเป็นพิธี จากตัวเรือนซึ่งอยู่ด้านหลังมองผ่านรั้วออกไปเห็นสวนของคุณกอบ คุณกรานนั้นรับราชการอย่างเดียว ไม่สนใจเรื่องทำไร่ทำสวนมาแต่ไหนแต่ไร คุณกนกก็ตัวคนเดียว ไม่มีครอบครัว เรือกสวนไร่นาทั้งหมดจึงกลายเป็นมรดกตกทอดมาถึงคุณกอบผู้เป็นน้องชายคนเล็กแต่เพียงผู้เดียว
"คงเอาเรือไปได้นะ"
"เอาเรือไปลำบากค่ะ" สาวน้อยค้าน "ถึงตลาดแล้วไม่รู้ว่าจะทิ้งเรือไว้ที่ไหน"
"แล้วจะไปกันอย่างไรล่ะ จะเดินกันไปอย่างนั้นหรือ"
คุณกนก คุณลำไย และเด็กชายสุชัยลงจากเรือนมาได้ยินเข้าพอดี จึงแอบยิ้มให้กัน
"จากนี่ไปตลาดไม่ยากหรอกพ่อราม ไอรีนไปจนคล่องแล้ว" รอยยิ้มยังไม่จางหายจากริมฝีปากคุณลำไย
รามเห็นผู้มีศักดิ์เป็นน้าทั้งสองคนหอบอะไรต่ออะไรกันให้พะรุงพะรัง แถมยังมีร่มกันอีกคนละคัน จึงเอ่ยปากถาม
"จะไปไหนกันครับ"
"จะไปดูบ้านโน้นเขาหน่อยว่ามีอะไรจะให้ช่วยอีกไหม" หล่อนหมายถึงบ้านผู้ใหญ่อุดมซึ่งจะเป็นบ้านงานในวันรุ่งขึ้น สอดหูตะกร้าสานคล้องไว้กับแขนแล้วกางร่ม
รามขยับลุกทันควัน ตรงเข้ามารับตะกร้าจากทั้งคุณลำไยและคุณกนกมาถือไว้แทน
"จะไปกันอย่างไรละครับ"
"ก็เดินไปสิพ่อราม เดินไปตามคันนานี่แหละ" คุณลำไยตอบราวเป็นเรื่องปกติธรรมดาเสียเหลือเกิน
นายพันเอกหนุ่มมองผ่านทุ่งนาไปทางบ้านญาติผู้ใหญ่ซึ่งเห็นอยู่ไกลๆ อย่างคาดคะเน ปกติเขาคุ้นเคยกับการเดินทางที่สะดวกสบายในพระนคร จะไปไหนไกลๆ ถ้าไม่ขับเรือก็ขับรถไป บ้านหลังนั้นแม้มองเห็นกัน แต่กะระยะทางแล้วไกลพอดู ยิ่งถ้าต้องเดินฝ่าแดดร้อนๆ ไปอย่างนี้ ก็ยิ่งให้ความรู้สึกว่าไกลมากทีเดียว
"ผมเอาเรือไปส่งดีกว่าครับ"
"ไม่ต้องหรอกพ่อราม" คนเป็นน้ายั้งไว้ "น้าเดินกันไปได้ เดินคุยกันไป เดี๋ยวเดียวก็ถึง"
คุณลำไยเหลือบมองจักรยานสองคันซึ่งพิงอยู่ใต้ถุนเรือนแวบหนึ่ง แล้วยิ้มกับคุณกนกอีกครั้งอย่างมีเลศนัย ก่อนหันกลับมาถามหลานชาย
"พ่อรามถีบรถเป็นใช่ไหม"
ชายหนุ่มยังคิดไปไม่ถึงว่าคำถามลักษณะนั้นหมายความว่าอย่างไร
"เป็นครับ"
"ดีแล้ว น้าทิ้งไว้ให้ทั้งสองคันนี่แหละ"
รามมองตามสายตาผู้สูงวัยกว่า คราวนี้พอปะติดปะต่ออะไรได้ลางๆ บ้างแล้ว ก้มลงดูภรรยา ก็เห็นว่าเธอทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ บิดเสื้อของเขาแล้วลุกขึ้น เอาทั้งเสื้อและกางเกงไปตากไว้กับราวซึ่งขึงตึงระหว่างเสาหลักสองต้นนอกชายคาเรือน
ส่วนคุณกนกนั้นกลั้นหัวเราะแทบไม่อยู่ พยักหน้าเป็นสัญญาณบอกน้องสะใภ้ว่าควรไปกันได้แล้ว รู้ว่าถ้าขืนโอ้เอ้ต่อไปอีกก็คงได้หัวเราะหลานชายต่อหน้าเจ้าตัวเป็นแน่แท้
"ไปกันเถอะ แม่ลำไย แม่เรินคงคอยแล้ว"
"ผมไปส่งดีกว่าครับน้า" ชายหนุ่มยืนกราน คิดว่าจะลองไปดูบ้านนั้นด้วยว่าพอมีพาหนะใดที่จะขอยืมเพื่อเข้าตัวเมืองได้บ้าง
ไอรีนเช็ดมือกับผ้าถุงที่สวม แล้วเดินตามสามีมาส่งถึงเรือ
"บางทีคืนนี้น้ากับพี่กนกจะค้างกันที่บ้านพ่อดม" คุณลำไยแสร้งเกริ่นขึ้นลอยๆ ทั้งที่จริงหล่อนกับพี่สะใภ้วางแผนกันไว้ล่วงหน้าเรียบร้อยแล้ว
ประโยคหลังบอกหญิงสาวซึ่งตามมาส่งที่เรือ
"ไอรีน ถ้าน้าค้างกันที่บ้านโน้น ก็ช่วยทำสำรับเย็นไว้ให้น้ากรานเขาด้วยนะลูก จะทำอะไรก็ได้ ตามสบาย กุ้งหมูปูปลามีอยู่พร้อมแล้ว"
หญิงสาวรับคำ มองตามเรือซึ่งสามีเป็นผู้ขับแล่นออกห่างจากสะพานไปครู่หนึ่ง แล้วกลับไปหลังเรือนเพื่อเทน้ำซักผ้าทิ้ง ก่อนขึ้นไปปิดประตูเรือนชั้นบนหมดทุกบาน