ขอบคุณทุกคนที่มาอ่านเรื่องนี้นะคะ
ขอบคุณ คุณ ป้าทุยบ้านทุ่ง, จารย์จี GTW, คุณนัน turtle_cheesecake, คุณดาว Lady Star 919, คุณโอ เขมปัณณ์, คุณ ออมอำพัน, คุณ สายป่านสีชมพู, คุณแอนนี่ annie <harmonica>, หญิงคนรองแห่งบ้านทรายทอง
ขอบคุณทุกคะแนนโหวตด้วยค่ะ
ถึงคุณออมนะคะ คุณออมคะ เข้าบล็อกของคุณออมทางไอคอนบล็อกข้างชื่อของคุณออมไม่ได้ล่ะค่ะ ไม่ทราบว่าทำไม เข้าได้ทางเดียวก็เวลาที่คุณออมเขียนบล็อกใหม่แล้วคลิกเข้าไปจากตรงนั้นเท่านั้นเองค่ะ จะเข้าไปขอเป็นเฟรนก็เข้าไม่ได้ คงต้องคอยเวลาคุณออมเขียนบล็อกใหม่นะคะ
บทก่อนๆ ค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้บทนำ - บทที่ ๑ http://ppantip.com/topic/35375611
บทที่ ๒ - บทที่ ๓ http://ppantip.com/topic/35379337
บทที่ ๔ http://ppantip.com/topic/35383294
บทที่ ๕ http://ppantip.com/topic/35386265
บทที่ ๖ http://ppantip.com/topic/35389519
บทที่ ๗ http://ppantip.com/topic/35392675
บทที่ ๘ http://ppantip.com/topic/35400069
บทที่ ๙ http://ppantip.com/topic/35407698
บทที่ ๑๐ http://ppantip.com/topic/35411784
บทที่ ๑๑ http://ppantip.com/topic/35422278
บทที่ ๑๒ http://ppantip.com/topic/35430211
บทที่ ๑๓ http://ppantip.com/topic/35437896
บทที่ ๑๔ http://ppantip.com/topic/35447627
บทที่ ๑๕ http://ppantip.com/topic/35454229
บทที่ ๑๖ http://ppantip.com/topic/35460996
บทที่ ๑๗ http://ppantip.com/topic/35467701
บทที่ ๑๘ http://ppantip.com/topic/35478177
บทที่ ๑๙ http://ppantip.com/topic/35484261
บทที่ ๒๐ http://ppantip.com/topic/35490729
บทที่ ๒๑ http://ppantip.com/topic/35500221
บทที่ ๒๒ http://ppantip.com/topic/35507830
บทที่ ๒๓ http://ppantip.com/topic/35514634
บทที่ ๒๔
ยังไม่ทันได้เอ่ยอะไร ประตูห้องน้ำเปิด ร่างสูงล่ำสันซึ่งมีเพียงผ้าขนหนูพันอยู่รอบเอวทำท่าจะก้าวออกมา เขาเห็นภรรยาก่อน กำลังจะถามว่าขึ้นมาตามลงไปใส่บาตรอย่างนั้นหรือ แต่พอใบหน้าหมดจดเผือดสีเหลียวมาสบตาเพียงแวบเดียวแล้วหันกลับไปมองอะไรบางอย่าง จึงได้มองตาม พอเห็นว่ามีใครอยู่ในห้องด้วยอีกคน ก็เข้าใจท่าทีนิ่งขึงและสีหน้าตื่นตระหนกของภรรยาว่าเกิดจากอะไร
"ต้องการอะไรหรือ แว่นแก้ว" จึงเอ่ยปากถามผู้เป็นสาเหตุนั้นเสียเอง
เสียงที่ถามออกเครียด มองเห็นปัญหาอยู่รำไร โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาการแต่งตัวที่ไม่ว่าจะดูในแง่ไหนก็ไม่เหมาะสมไปเสียทั้งสิ้น เมื่อเข้ามาอยู่ภายในห้องส่วนตัวของผู้ชายเช่นนี้ แม้จะเคยเห็นหล่อนแต่งเนื้อแต่งตัวลักษณะนี้มาบ่อยครั้ง บ่อยจนเห็นว่าเป็นเรื่องปกติธรรมดา แต่วันนี้การแต่งตัวประเภทที่คุณหญิงผู้เป็นมารดาเคยเรียกว่า 'แต่งล่อแร้ง' ลักษณะนี้กลับทำให้กระอักกระอ่วนใจอย่างไรชอบกล ก็ในเมื่อมีผู้หญิงอีกคนซึ่งเป็นภรรยาทั้งทางนิตินัยและพฤตินัยอยู่บริเวณนี้ด้วย
แว่นแก้วหลุบตาลงต่ำ แม้ไม่สะทกสะท้านกับสายตาตำหนิติเตียนของเขาก็ตาม รู้ว่าต้องยอมไปก่อน ถ้าแสดงท่าทีท้าทายหรือตัดพ้อต่อหน้าคนอื่นแม้เพียงน้อยนิด เขาจะต้องโกรธอย่างแน่นอน ในเวลานี้หล่อนยังไม่มีอะไรเป็นเครื่องต่อรองมากนัก มีก็เพียงโอกาสได้ใกล้ชิดเขาตามลำพังอีกสักครั้ง ตลอดสี่ห้าวันที่ผ่านมาก็พอมองเห็นบ้างแล้วว่าเขาไม่ได้แหนงหน่ายอะไรนักหนา เชื่อว่าเขายังมีใจให้บ้างไม่มากก็น้อย
"ดิฉันเอาเครื่องแบบขึ้นมาให้คุณรามค่ะ" หล่อนโกหกหน้าตาเฉย
รามหันไปดูราวไม้ซึ่งสมบุญมักใช้เป็นที่แขวนเครื่องแบบให้ในวันทำงาน
"ขอบใจ แต่เช้านี้คงไม่ต้องหรอก ฉันตั้งใจว่าจะไปทำงานบ่ายๆ เช้านี้มีอะไรให้ต้องจัดการมากเหลือเกิน" ชายตามองภรรยาแวบหนึ่ง เมื่อเห็นว่าสีหน้ายังไม่สู้ดีอยู่เช่นเดิม จึงเสริมขึ้นอีกนิด
"ไอรีนสบายขึ้นมากแล้ว ต่อไปคงไม่ต้องรบกวนเธออีกแล้ว ถึงอย่างไรก็ขอบใจล่ะที่ช่วยงานมาตลอดห้าวัน"
หญิงสาวชะม้ายชายตาขึ้นดูคนพูดด้วยสายตาชนิดที่ทำให้คนยืนมองอยู่เงียบๆ ขัดใจ หล่อนพึมพำคำตอบรับแผ่วเบา
"ค่ะ คุณราม"
รับปากดิบดีแล้วเยื้องกรายผ่านร่างบอบบางของภรรยาเจ้าของห้องไปที่ประตู ไม่วายยิ้มให้นิดหนึ่งก่อนก้าวออกไป
ไอรีนมองตามไปจนลับหลัง พอหันกลับมาทางเดิมก็ถึงกับสะดุ้งเมื่อร่างใหญ่ๆ ของสามีเข้ามายืนเสียจนแทบเรียกได้ว่าประชิด แผ่นอกกว้างตรงหน้ายังเปียกชื้น สองมือแข็งแรงประคับประคองใบหน้าอ่อนละมุนให้แหงนเงยขึ้นหา เสียงพูดอ่อนโยน
"เขาเพียงเอาเครื่องแบบของฉันมาให้เท่านั้นเอง ไม่มีอะไรหรอก"
แต่สาวน้อยโต้กลับเสียงกระด้าง
"คุณรามเคยบอกว่าเขาอยู่ส่วนเขา จะไม่มาวุ่นวายที่นี่อย่างไรเล่าคะ" กังวานเสียงนั้นระคายหูเสียจนคนพูดเองก็ตกใจเมื่อได้ยิน
สองมือแข็งแรงจึงตกลงข้างตัว
"เอาเถอะ คราวนี้เป็นครั้งสุดท้ายแล้ว เขาคงไม่กล้าเข้ามาอีกหรอก ห้าหกวันมานี่มีแต่เรื่องยุ่งๆ เขาก็เลยมาช่วยทำโน่นทำนี่ให้ ก็เท่านั้นเอง"
คำอธิบายเหล่านั้นแฝงความรำคาญเสียจนคำถามต่อมาที่ว่าทำไมจึงปล่อยให้ผู้หญิงแต่งตัวแบบนั้นเข้ามาอยู่กับเขาตามลำพังถูกกลืนหายลงไปเสียในลำคอ
พอเขาผละไปที่ตู้เสื้อผ้าเพื่อหาเสื้อกางเกงมาสวมใส่ นั่นแหละไอรีนจึงตั้งสติได้ ถลาตัดหน้าเขาไปเลือกได้กางเกงขายาวสีดำและเสื้อมัสกรีสีขาวแขนสั้น หันกลับมาเพื่อจะส่งให้ก็ปะทะเข้ากับแผงอกกว้างซึ่งไม่ยอมถอยออกห่าง คราวนี้ชายหนุ่มใช้สองมือยันกรอบตู้ไว้ทั้งสองด้าน เป็นการปิดกั้นไม่ให้หนีไปไหนได้ คงติดอยู่ระหว่างเรือนกายกำยำและตู้เสื้อผ้านั่นเอง
ใบหน้าคมคายของคนเป็นสามีก้มลงหาจนใกล้
"โกรธจริงๆ หรือนี่" เสียงห้าวๆ ฟังดูล้อเลียน
"ก็คุณรามเคยบอกว่าเขาจะไม่เข้ามาวุ่นวายที่นี่นี่คะ" เธอกระเง้ากระงอด
คนฟังหัวเราะหึหึในลำคอ เพิ่งจะเป็นครั้งแรกที่ได้เห็นภรรยาของตัวแสดงอาการตระแหน่แง่งอนเช่นนี้
"เขาเพียงตั้งใจเอาเครื่องแบบของฉันมาให้เท่านั้นแหละ ไม่มีอะไรหรอก" ยังคงย้ำความคิดเดิมอีกครั้ง
"สมบุญหรอกค่ะที่เอาเครื่องแบบขึ้นมาให้คุณราม"
เมื่ออยู่กันตามลำพังจึงกล้าชี้ให้เห็นความจริงในเรื่องนั้น ต่อหน้าคนอื่นเธอไม่ทำเช่นนี้เด็ดขาด มีก็แต่จะสงบปากสงบคำ ด้วยไม่ต้องการให้ใครเข้าใจไปว่าตัวไม่ให้ความเคารพสามีซึ่งเป็นทั้งผู้นำครอบครัวและสูงวัยกว่ามาก
รามยิ้มกว้างจนนัยน์ตาคมลึกส่งประกายแพรวพราว นับแต่รู้จักและแต่งงานกันมายังไม่เคยเห็นสาวน้อยแสดงอาการตะบึงตะบอนอย่างนี้มาก่อนเลย เห็นแล้วก็ให้รู้สึกว่าน่าเอ็นดูดีเหมือนกัน จึงคิดอยากเย้าแหย่ต่อไปอีก
"สมบุญหรือใครก็เหมือนกันนั่นแหละ เขาอาจจะเข้ามาดูว่าสมบุญเอาเครื่องแบบมาให้ฉันแล้วหรือยังก็ได้"
เมื่อยังขุ่นมัวในใจ หญิงสาวจึงมองไม่เห็นว่าเขาเพียงล้อเล่น กลับคิดว่ากำลังแก้ตัวแทนผู้หญิงซึ่งว่าไปแล้วก็เป็นเสมือนเมียเก็บของเขา จึงอดรนทนไม่ได้ โต้กลับไปอีก
"ก่อนที่ดิฉันจะมาอยู่ที่นี่ สมบุญก็ช่วยดูแลเสื้อผ้าของคุณรามอยู่แล้วไม่ใช่หรือคะ ทำไมตอนนี้เขาต้องเข้ามาดูอีกต่อด้วย" เน้นคำว่า ‘เขา’ เสียชัดแจ้ง
เห็นภรรยาสาวน้อยยิ่งแสดงอาการหึงหวงหนักขึ้นเท่าไร รามยิ่งอยากยั่วเย้ามากขึ้นเท่านั้น หารู้ไม่ว่านั่นเท่ากับเปิดบาดแผลในใจของหญิงสาวให้กว้างขึ้นอีก
"เมื่อก่อนเขาก็มาช่วยดูอีกต่ออยู่บ้างเหมือนกัน"
แสร้งสร้างเรื่องไปอย่างนั้นเอง จริงแล้วไม่เคยให้แว่นแก้วเข้ามาวุ่นวายกับเสื้อผ้าของตัวเองมาก่อนเลย
"แต่งตัวอย่างนั้นเข้ามาดูหรือคะ" เสียงใสๆ คราวนี้แหลมสูงทีเดียว
หากนายพันเอกหนุ่มก็ยังคิดไปไม่ถึง
"ก็อย่างนั้นซี เขาตื่นเช้าฉันก็เห็นเขาแต่งตัวอย่างนั้นทุกที"
ไอรีนร้อนวูบไปทั้งหน้าเมื่อได้ยิน
"คุณรามตื่นเช้าพร้อมเขาอย่างนั้นหรือคะ" พยายามยัดเยียดเสื้อกางเกงในมือให้ แต่อีกฝ่ายก็ยังไม่ยอมรับท่าเดียว
"ถ้าคุณรามชอบอย่างนั้น ต่อไปก็ให้เขาดูแลเรื่องเสื้อผ้าของคุณรามแทนดิฉันเถอะค่ะ"
กระเง้ากระงอดแล้วหันไปวางเสื้อผ้าของเขากลับลงบนชั้นในตู้ตามเดิม
รามฉวยโอกาสนั้นรวบร่างน้อยๆ มาไว้ในวงแขน ก้มลงหาจนริมฝีปากไล้ไปมาตามเรือนผมสีน้ำตาลนุ่มราวกลุ่มไหม
"หึงเป็นเหมือนกันหรือนี่" เสียงพูดกลั้วหัวเราะ
สาวน้อยพยายามเบี่ยงตัวหนีเท่าไรก็ไม่ได้ผล ก็สู้แรงของเขาได้เสียที่ไหน
"ดิฉันไม่ได้หึงค่ะ" ปากยังคงเถียงเสียงแข็ง "เพียงแต่คิดว่าไม่เหมาะสม หรือคุณรามอยากยกย่องเขาอีกคน" ประชดประชันก็เป็นเหมือนกัน
อีกฝ่ายยังไม่ยอมเลิกราง่ายๆ ถือคติว่าหึงมากก็แสดงว่ารักมาก จึงได้ชอบอกชอบใจเสียนักหนาที่เห็นว่าภรรยาสาวน้อยหึงหวงตัวถึงขนาดนี้
"อะไรไม่เหมาะสม ที่แว่นแก้วเข้ามาในห้องนี้โดยที่เธอไม่รู้อย่างนั้นหรือ"
บันทึกคุณหญิงไอรีน (บทที่ ๒๔)
ขอบคุณ คุณ ป้าทุยบ้านทุ่ง, จารย์จี GTW, คุณนัน turtle_cheesecake, คุณดาว Lady Star 919, คุณโอ เขมปัณณ์, คุณ ออมอำพัน, คุณ สายป่านสีชมพู, คุณแอนนี่ annie <harmonica>, หญิงคนรองแห่งบ้านทรายทอง
ขอบคุณทุกคะแนนโหวตด้วยค่ะ
ถึงคุณออมนะคะ คุณออมคะ เข้าบล็อกของคุณออมทางไอคอนบล็อกข้างชื่อของคุณออมไม่ได้ล่ะค่ะ ไม่ทราบว่าทำไม เข้าได้ทางเดียวก็เวลาที่คุณออมเขียนบล็อกใหม่แล้วคลิกเข้าไปจากตรงนั้นเท่านั้นเองค่ะ จะเข้าไปขอเป็นเฟรนก็เข้าไม่ได้ คงต้องคอยเวลาคุณออมเขียนบล็อกใหม่นะคะ
บทก่อนๆ ค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ยังไม่ทันได้เอ่ยอะไร ประตูห้องน้ำเปิด ร่างสูงล่ำสันซึ่งมีเพียงผ้าขนหนูพันอยู่รอบเอวทำท่าจะก้าวออกมา เขาเห็นภรรยาก่อน กำลังจะถามว่าขึ้นมาตามลงไปใส่บาตรอย่างนั้นหรือ แต่พอใบหน้าหมดจดเผือดสีเหลียวมาสบตาเพียงแวบเดียวแล้วหันกลับไปมองอะไรบางอย่าง จึงได้มองตาม พอเห็นว่ามีใครอยู่ในห้องด้วยอีกคน ก็เข้าใจท่าทีนิ่งขึงและสีหน้าตื่นตระหนกของภรรยาว่าเกิดจากอะไร
"ต้องการอะไรหรือ แว่นแก้ว" จึงเอ่ยปากถามผู้เป็นสาเหตุนั้นเสียเอง
เสียงที่ถามออกเครียด มองเห็นปัญหาอยู่รำไร โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาการแต่งตัวที่ไม่ว่าจะดูในแง่ไหนก็ไม่เหมาะสมไปเสียทั้งสิ้น เมื่อเข้ามาอยู่ภายในห้องส่วนตัวของผู้ชายเช่นนี้ แม้จะเคยเห็นหล่อนแต่งเนื้อแต่งตัวลักษณะนี้มาบ่อยครั้ง บ่อยจนเห็นว่าเป็นเรื่องปกติธรรมดา แต่วันนี้การแต่งตัวประเภทที่คุณหญิงผู้เป็นมารดาเคยเรียกว่า 'แต่งล่อแร้ง' ลักษณะนี้กลับทำให้กระอักกระอ่วนใจอย่างไรชอบกล ก็ในเมื่อมีผู้หญิงอีกคนซึ่งเป็นภรรยาทั้งทางนิตินัยและพฤตินัยอยู่บริเวณนี้ด้วย
แว่นแก้วหลุบตาลงต่ำ แม้ไม่สะทกสะท้านกับสายตาตำหนิติเตียนของเขาก็ตาม รู้ว่าต้องยอมไปก่อน ถ้าแสดงท่าทีท้าทายหรือตัดพ้อต่อหน้าคนอื่นแม้เพียงน้อยนิด เขาจะต้องโกรธอย่างแน่นอน ในเวลานี้หล่อนยังไม่มีอะไรเป็นเครื่องต่อรองมากนัก มีก็เพียงโอกาสได้ใกล้ชิดเขาตามลำพังอีกสักครั้ง ตลอดสี่ห้าวันที่ผ่านมาก็พอมองเห็นบ้างแล้วว่าเขาไม่ได้แหนงหน่ายอะไรนักหนา เชื่อว่าเขายังมีใจให้บ้างไม่มากก็น้อย
"ดิฉันเอาเครื่องแบบขึ้นมาให้คุณรามค่ะ" หล่อนโกหกหน้าตาเฉย
รามหันไปดูราวไม้ซึ่งสมบุญมักใช้เป็นที่แขวนเครื่องแบบให้ในวันทำงาน
"ขอบใจ แต่เช้านี้คงไม่ต้องหรอก ฉันตั้งใจว่าจะไปทำงานบ่ายๆ เช้านี้มีอะไรให้ต้องจัดการมากเหลือเกิน" ชายตามองภรรยาแวบหนึ่ง เมื่อเห็นว่าสีหน้ายังไม่สู้ดีอยู่เช่นเดิม จึงเสริมขึ้นอีกนิด
"ไอรีนสบายขึ้นมากแล้ว ต่อไปคงไม่ต้องรบกวนเธออีกแล้ว ถึงอย่างไรก็ขอบใจล่ะที่ช่วยงานมาตลอดห้าวัน"
หญิงสาวชะม้ายชายตาขึ้นดูคนพูดด้วยสายตาชนิดที่ทำให้คนยืนมองอยู่เงียบๆ ขัดใจ หล่อนพึมพำคำตอบรับแผ่วเบา
"ค่ะ คุณราม"
รับปากดิบดีแล้วเยื้องกรายผ่านร่างบอบบางของภรรยาเจ้าของห้องไปที่ประตู ไม่วายยิ้มให้นิดหนึ่งก่อนก้าวออกไป
ไอรีนมองตามไปจนลับหลัง พอหันกลับมาทางเดิมก็ถึงกับสะดุ้งเมื่อร่างใหญ่ๆ ของสามีเข้ามายืนเสียจนแทบเรียกได้ว่าประชิด แผ่นอกกว้างตรงหน้ายังเปียกชื้น สองมือแข็งแรงประคับประคองใบหน้าอ่อนละมุนให้แหงนเงยขึ้นหา เสียงพูดอ่อนโยน
"เขาเพียงเอาเครื่องแบบของฉันมาให้เท่านั้นเอง ไม่มีอะไรหรอก"
แต่สาวน้อยโต้กลับเสียงกระด้าง
"คุณรามเคยบอกว่าเขาอยู่ส่วนเขา จะไม่มาวุ่นวายที่นี่อย่างไรเล่าคะ" กังวานเสียงนั้นระคายหูเสียจนคนพูดเองก็ตกใจเมื่อได้ยิน
สองมือแข็งแรงจึงตกลงข้างตัว
"เอาเถอะ คราวนี้เป็นครั้งสุดท้ายแล้ว เขาคงไม่กล้าเข้ามาอีกหรอก ห้าหกวันมานี่มีแต่เรื่องยุ่งๆ เขาก็เลยมาช่วยทำโน่นทำนี่ให้ ก็เท่านั้นเอง"
คำอธิบายเหล่านั้นแฝงความรำคาญเสียจนคำถามต่อมาที่ว่าทำไมจึงปล่อยให้ผู้หญิงแต่งตัวแบบนั้นเข้ามาอยู่กับเขาตามลำพังถูกกลืนหายลงไปเสียในลำคอ
พอเขาผละไปที่ตู้เสื้อผ้าเพื่อหาเสื้อกางเกงมาสวมใส่ นั่นแหละไอรีนจึงตั้งสติได้ ถลาตัดหน้าเขาไปเลือกได้กางเกงขายาวสีดำและเสื้อมัสกรีสีขาวแขนสั้น หันกลับมาเพื่อจะส่งให้ก็ปะทะเข้ากับแผงอกกว้างซึ่งไม่ยอมถอยออกห่าง คราวนี้ชายหนุ่มใช้สองมือยันกรอบตู้ไว้ทั้งสองด้าน เป็นการปิดกั้นไม่ให้หนีไปไหนได้ คงติดอยู่ระหว่างเรือนกายกำยำและตู้เสื้อผ้านั่นเอง
ใบหน้าคมคายของคนเป็นสามีก้มลงหาจนใกล้
"โกรธจริงๆ หรือนี่" เสียงห้าวๆ ฟังดูล้อเลียน
"ก็คุณรามเคยบอกว่าเขาจะไม่เข้ามาวุ่นวายที่นี่นี่คะ" เธอกระเง้ากระงอด
คนฟังหัวเราะหึหึในลำคอ เพิ่งจะเป็นครั้งแรกที่ได้เห็นภรรยาของตัวแสดงอาการตระแหน่แง่งอนเช่นนี้
"เขาเพียงตั้งใจเอาเครื่องแบบของฉันมาให้เท่านั้นแหละ ไม่มีอะไรหรอก" ยังคงย้ำความคิดเดิมอีกครั้ง
"สมบุญหรอกค่ะที่เอาเครื่องแบบขึ้นมาให้คุณราม"
เมื่ออยู่กันตามลำพังจึงกล้าชี้ให้เห็นความจริงในเรื่องนั้น ต่อหน้าคนอื่นเธอไม่ทำเช่นนี้เด็ดขาด มีก็แต่จะสงบปากสงบคำ ด้วยไม่ต้องการให้ใครเข้าใจไปว่าตัวไม่ให้ความเคารพสามีซึ่งเป็นทั้งผู้นำครอบครัวและสูงวัยกว่ามาก
รามยิ้มกว้างจนนัยน์ตาคมลึกส่งประกายแพรวพราว นับแต่รู้จักและแต่งงานกันมายังไม่เคยเห็นสาวน้อยแสดงอาการตะบึงตะบอนอย่างนี้มาก่อนเลย เห็นแล้วก็ให้รู้สึกว่าน่าเอ็นดูดีเหมือนกัน จึงคิดอยากเย้าแหย่ต่อไปอีก
"สมบุญหรือใครก็เหมือนกันนั่นแหละ เขาอาจจะเข้ามาดูว่าสมบุญเอาเครื่องแบบมาให้ฉันแล้วหรือยังก็ได้"
เมื่อยังขุ่นมัวในใจ หญิงสาวจึงมองไม่เห็นว่าเขาเพียงล้อเล่น กลับคิดว่ากำลังแก้ตัวแทนผู้หญิงซึ่งว่าไปแล้วก็เป็นเสมือนเมียเก็บของเขา จึงอดรนทนไม่ได้ โต้กลับไปอีก
"ก่อนที่ดิฉันจะมาอยู่ที่นี่ สมบุญก็ช่วยดูแลเสื้อผ้าของคุณรามอยู่แล้วไม่ใช่หรือคะ ทำไมตอนนี้เขาต้องเข้ามาดูอีกต่อด้วย" เน้นคำว่า ‘เขา’ เสียชัดแจ้ง
เห็นภรรยาสาวน้อยยิ่งแสดงอาการหึงหวงหนักขึ้นเท่าไร รามยิ่งอยากยั่วเย้ามากขึ้นเท่านั้น หารู้ไม่ว่านั่นเท่ากับเปิดบาดแผลในใจของหญิงสาวให้กว้างขึ้นอีก
"เมื่อก่อนเขาก็มาช่วยดูอีกต่ออยู่บ้างเหมือนกัน"
แสร้งสร้างเรื่องไปอย่างนั้นเอง จริงแล้วไม่เคยให้แว่นแก้วเข้ามาวุ่นวายกับเสื้อผ้าของตัวเองมาก่อนเลย
"แต่งตัวอย่างนั้นเข้ามาดูหรือคะ" เสียงใสๆ คราวนี้แหลมสูงทีเดียว
หากนายพันเอกหนุ่มก็ยังคิดไปไม่ถึง
"ก็อย่างนั้นซี เขาตื่นเช้าฉันก็เห็นเขาแต่งตัวอย่างนั้นทุกที"
ไอรีนร้อนวูบไปทั้งหน้าเมื่อได้ยิน
"คุณรามตื่นเช้าพร้อมเขาอย่างนั้นหรือคะ" พยายามยัดเยียดเสื้อกางเกงในมือให้ แต่อีกฝ่ายก็ยังไม่ยอมรับท่าเดียว
"ถ้าคุณรามชอบอย่างนั้น ต่อไปก็ให้เขาดูแลเรื่องเสื้อผ้าของคุณรามแทนดิฉันเถอะค่ะ"
กระเง้ากระงอดแล้วหันไปวางเสื้อผ้าของเขากลับลงบนชั้นในตู้ตามเดิม
รามฉวยโอกาสนั้นรวบร่างน้อยๆ มาไว้ในวงแขน ก้มลงหาจนริมฝีปากไล้ไปมาตามเรือนผมสีน้ำตาลนุ่มราวกลุ่มไหม
"หึงเป็นเหมือนกันหรือนี่" เสียงพูดกลั้วหัวเราะ
สาวน้อยพยายามเบี่ยงตัวหนีเท่าไรก็ไม่ได้ผล ก็สู้แรงของเขาได้เสียที่ไหน
"ดิฉันไม่ได้หึงค่ะ" ปากยังคงเถียงเสียงแข็ง "เพียงแต่คิดว่าไม่เหมาะสม หรือคุณรามอยากยกย่องเขาอีกคน" ประชดประชันก็เป็นเหมือนกัน
อีกฝ่ายยังไม่ยอมเลิกราง่ายๆ ถือคติว่าหึงมากก็แสดงว่ารักมาก จึงได้ชอบอกชอบใจเสียนักหนาที่เห็นว่าภรรยาสาวน้อยหึงหวงตัวถึงขนาดนี้
"อะไรไม่เหมาะสม ที่แว่นแก้วเข้ามาในห้องนี้โดยที่เธอไม่รู้อย่างนั้นหรือ"