บันทึกคุณหญิงไอรีน (บทที่ ๑๖)

ขอบคุณทุกๆ คนที่มาอ่านนะคะ
ขอบคุณ คุณดาว Lady Star 919, คุณแอนนี่ annie <harmonica>, คุณนัน turtle_cheesecake, คุณโอ เขมปัณณ์, คุณ ป้าทุยบ้านทุ่ง, จารย์จี Psycho man

ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวตทุกคะแนนด้วยค่ะ

บทก่อนๆ ค่ะ
บทนำ - บทที่ ๑  http://ppantip.com/topic/35375611
บทที่ ๒ - บทที่ ๓  http://ppantip.com/topic/35379337
บทที่ ๔  http://ppantip.com/topic/35383294
บทที่ ๕  http://ppantip.com/topic/35386265
บทที่ ๖  http://ppantip.com/topic/35389519
บทที่ ๗  http://ppantip.com/topic/35392675
บทที่ ๘  http://ppantip.com/topic/35400069
บทที่ ๙  http://ppantip.com/topic/35407698
บทที่ ๑๐ http://ppantip.com/topic/35411784
บทที่ ๑๑ http://ppantip.com/topic/35422278
บทที่ ๑๒ http://ppantip.com/topic/35430211
บทที่ ๑๓ http://ppantip.com/topic/35437896
บทที่ ๑๔ http://ppantip.com/topic/35447627
บทที่ ๑๕ http://ppantip.com/topic/35454229


บทที่ ๑๖  



    พิธีส่งตัวเจ้าสาวใช้เวลาไม่นาน ในเมื่อฝ่ายเจ้าสาวไม่ได้มีผู้ใหญ่มาส่งตัวจริงๆ มีก็เพียงพี่ชาย พี่สาว และผู้ซึ่งเคยเป็นมารดาเลี้ยงซึ่งก็ยังคงอยู่ในวัยสาวอยู่มาก จึงไม่มีใครมาให้ศีลให้พรหรืออบรมสั่งสอนเรื่องการปฏิบัติตัวต่อสามีหรือการวางตัวในฐานะภรรยาที่ดีเช่นคู่อื่นๆ พิธีท้ายสุดของงานแต่งจึงมีเพียงสั้นๆ และรวบรัด

    ไอรีนลุกนั่งทันทีที่ประตูห้องปิดตามหลังคุณกนกซึ่งก้าวล่วงออกไปเป็นคนสุดท้าย ตะขิดตะขวงใจที่จะนอนเคียงข้างผู้ชายแบบนี้ แม้เมื่อครู่ที่คุณสำรวยบอกให้ลงนอนทางฝั่งซ้ายของเตียง...เคียงข้าง ‘เขา’...จะเป็นไปตามประเพณีก็ตาม แต่ตั้งแต่เกิดมาเป็นตัวเป็นตน เคยเสียที่ไหนที่จะนอนข้างใครซึ่งไม่ใช่ผู้หญิงด้วยกัน

    คนซึ่งถูกบอกให้นอนทางฝั่งขวายิ้มอยู่ในหน้า ขยับลุกแล้วคว้าร่างบอบบางไว้ได้ก่อนจะทันเลื่อนตัวลงจากเตียง

    “จะรีบไปไหนล่ะ”

    เสียงห้าวๆ ฟังดูเกือบเหมือนหัวเราะ ร่างใหญ่โตเบี่ยงตัวลงนั่งที่ขอบเตียงก่อน แล้วโอบร่างน้อยๆ ซึ่งทั้งแข็งทั้งขืนให้เลื่อนขึ้นมานั่งบนตัก

    ไอรีนมีเรี่ยวแรงเพียงน้อยนิดปานนี้หรือจะสู้ผู้ชายซึ่งยังอยู่ในวัยหนุ่มฉกรรจ์ ตัวก็ทั้งใหญ่ทั้งแข็งแรง เจ้าสาวซึ่งเพิ่งถูกส่งตัวเข้าหอสดๆ  ร้อนๆจึงจำต้องยอม แม้จะเกร็งไปหมด ก็จำต้องปล่อยให้เขากอดไว้หลวมๆ ไม่กล้าเหลียวไปมอง รู้ว่าใบหน้าคมคายนั้นอยู่ใกล้เพียงไร จึงได้แต่หันข้างให้ พร้อมกับคิดหาข้ออ้างลงจากตักของเขาให้วุ่นวายไปหมด

    “จะเปลี่ยนเสื้อค่ะ”

อ้อมๆ  แอ้มๆตอบ ขณะกวาดตาไปรอบห้อง ทำเป็นมองหาหีบใส่เสื้อและของใช้ของตัวเองซึ่งเขาส่งคนไปขนมาให้จากบ้านเมื่อสามสี่วันก่อนหน้า แต่ก็ไม่เห็นว่าตั้งอยู่ที่ใดภายในห้อง ทั้งห้องมีก็เพียงเตียงขนาดใหญ่ที่นั่งอยู่นี้ ชั้นเตี้ยๆ ตัวหนึ่ง มีอ่างเคลือบสีขาวนวลวางอยู่ตอนบน ในอ่างมีเหยือกเคลือบสีเดียวกัน ด้านข้างวาดลวดลายสีน้ำเงิน มองแต่ไกลเห็นว่าเป็นทิวทัศน์ของทุ่งกว้างในเมืองหนาว ดูก็รู้ว่าคงมาจากประเทศแถบตะวันตกที่ไหนสักแห่ง ข้างหน้าต่างซึ่งมีม่านสีขาวบางเบาฉลุลายอ่อนพลิ้วเป็นโต๊ะเขียนหนังสือพร้อมเก้าอี้เข้าชุดกัน

    “ไม่ต้องรีบก็ได้นี่ เพิ่งจะหัวค่ำเท่านั้น ฉันมีเรื่องจะพูดด้วย พูดกันให้รู้เรื่องเสียก่อน…จะได้ไหม” เสียงห้าวๆ นุ่มนวล อ่อนโยน ทิ้งคำถามท้ายประโยคตามความเคยชิน

    พอเห็นอีกฝ่ายเอาแต่ก้มดูมือของตัวเองอยู่เงียบๆ จึงเข้าเรื่องที่ตั้งใจจะพูดด้วยอยู่นาน…นานจนแทบจะคอยให้ 'ผู้ใหญ่' ออกไปจากห้องให้หมดไม่ไหว

    “ฉันเสียใจที่เมื่อครู่…เขาจะไม่มาวุ่นวายบริเวณนี้หรอกนะ ฉันสั่งห้ามไว้แล้ว ที่อยู่ของเขาอยู่ฝั่งโน้น ฝั่งนี้เป็นของเธอ...เป็นของเรา...เขาก็จะอยู่ส่วนเขา เขาอยู่กับวิไล วิไลไม่มีเพื่อนที่ไหนอีก”

    ลักษณะการพูดเป็นช่วงๆ ไม่ค่อยจะปะติดปะต่อกัน สะท้อนความวุ่นวายใจของคนพูด ออกจะเสียใจอยู่ไม่น้อยเมื่อสิ่งแรกๆ ที่สาวน้อยซึ่งตัวห่วงหาอาทรอยู่เสมอมาเห็นในบ้านหลังนี้คือคนซึ่งเธอคงไม่อยากเห็นสักเท่าไรนัก

“หรือเธออยากให้เขาไปเสีย ฉันจะพูดกับวิไล เขามีญาติพี่น้องอยู่ทางเหนือ” ยังอดไม่ได้ที่จะย้ำถามอีกครั้ง ปฏิกริยาเมื่อครู่บอกชัดแจ้งอยู่แล้วว่าเธอรู้สึกเช่นไร

สองแขนล่ำสันเลื่อนลงมาโอบรอบเอวบางของภรรยา

    แต่อีกฝ่ายยังคงเอาแต่เงียบ ว่าไปตามจริงแล้วไม่อยากได้ยิน ไม่อยากรับรู้อะไรที่เกี่ยวข้องกับผู้หญิงคนนั้นด้วยซ้ำ

    "เคืองหรืออายกันละนี่"

    เมื่อนั่งอยู่บนตักของเขาแบบนี้ ใบหน้าของเธอและของเขาจึงอยู่ในระดับเดียวกัน แต่เมื่อเธอเอาแต่ก้มหน้าก้มตาไม่ยอมหันมามอง รามจึงแสร้งเอียงหน้าเพื่อให้เห็นนัยน์ตาสีน้ำตาลใสคู่นั้น หัวเราะหึหึในลำคออย่างล้อเลียนเมื่ออีกฝ่ายก้มหน้างุดต่ำลงอีก

    ร่างน้อยๆ ในอ้อมแขนนี้นุ่มละมุนไปเสียทุกส่วน นุ่มนวล เปราะบาง ความรู้สึกว่าตัวเองเป็นเจ้าของทั้งหมดนี้มาพร้อมกับความหวงแหนอย่างรุนแรง อยากทะนุถนอม อยากปกป้องคุ้มครอง

    ริมฝีปากบางอบอุ่นแนบลงกับลำแขนกลมกลึง เมื่อชายตาขึ้นมองก็ทันได้เห็นแก้มเนียนซ่านซับสีเลือด มือสากๆ ไล้ไปตามแผ่นหลัง นั่นเองที่ความกังวลเข้าจู่โจม ร่างน้อยๆ นี้บอบบางเสียเหลือเกิน บางขนาดนี้จะทนทานอะไรได้มากมายกัน คงหักทำลายเสียง่ายดายถ้าจับต้องรุนแรง   เมื่อครั้งที่เห็นในคืนแรกนั้นพึงใจอย่างไม่เคยรู้สึกกับใครมาก่อน อยากได้มาเป็นของตัวเสียจนไม่คิดถึงเรื่องอื่นใด คิดอยู่แต่ว่าทำอย่างไรจึงจะได้มา แต่พอมาตอนนี้...เมื่อได้มาแล้ว…จะทำอย่างไรเล่าจึงจะไม่ทำให้แตกสลายคามือไปเสีย

    ความคับข้องใจถึงปัญหาที่เพิ่งตระหนักทำให้ยอมปล่อยมือแต่โดยดี

    "ยังไม่อยากตอบก็ไม่เป็นไร วันหลังจะถามอีก" จึงแสร้งให้เห็นเป็นเรื่องขบขันไปเสีย

    ไอรีนขยับลุกยืนทันควัน เขาลุกตาม ยังไม่วายคว้าเอาร่างน้อยมาโอบไว้ ยังไม่อยากปล่อยให้ห่างตัวไปง่ายๆ แม้จะอยู่ด้วยกันตามลำพังแล้วอย่างนี้ก็เถอะ

    “เสื้อผ้าข้าวของของเธอคงรวมอยู่กับของฉัน อยู่ในห้องข้างๆ นี่ แต่เขาไม่ให้ออกจากห้องหอหลังส่งตัวแล้วไม่ใช่หรือ” เสียงห้าวๆ วนเวียนอยู่ข้างแก้มที่กลับเรื่อสีโลหิตเข้มจัดขึ้นอีกครั้ง

    “แล้วจะเปลี่ยนเสื้ออย่างไรละคะ” เสียงใสพึมๆ พำๆ ถาม

    คราวนี้คุณพระหนุ่มหัวเราะออกมาได้ ความกังวลพอจะเลือนไปบ้างเมื่อได้ยินเสียงพูดที่เกือบเป็นปกติแล้ว

“ห้องแต่งตัวอยู่ติดกับห้องนอน คงไม่เป็นไรกระมัง คงยังถือว่าเป็นห้องเดียวกันได้" เขาสรุปเอาเองในเมื่อตัวก็ไม่รู้แน่เช่นกัน

"ถ้ายังแต่งตัวกันเต็มยศอย่างนี้ จะนอนได้อย่างไร จริงไหม” เขาชี้ไปที่ประตูไม้สองบานซึ่งเปิดให้เห็นอยู่ครึ่งๆ แล้วเดินนำไปทางนั้น

“ห้องนี้”

ผลักบานประตูบานหนึ่งให้กว้างขึ้น แล้วก้าวออกไปก่อน

'ห้องแต่งตัว' มีขนาดไม่ใหญ่นัก หน้าต่างบานเดียวมีม่านสีขาวเช่นเดียวกับห้องนอน ข้างหน้าต่างเป็นตู้ไม้สองหลัง ลับแลผ้าขึงตึงวาดลวดลายทิวทัศน์ตามแบบญี่ปุ่นตั้งอยู่ข้างโต๊ะเครื่องแป้งแบบฝรั่ง โต๊ะตัวนั้นเข้าชุดกับตู้หนึ่งในสองหลัง และดูใหม่เอี่ยมเหมือนเพิ่งเอามาวางไว้ไม่นาน กระจกรูปกลม กรอบสลักลายละเอียด บนโต๊ะว่างเปล่า บนพื้นชิดผนังห้องฝั่งตรงข้ามมีหีบใส่เสื้อผ้าใบใหญ่ซึ่งเขาส่งคนไปขนมาจากบ้านเมื่อวันก่อน

“สมบุญไม่กล้าจัดเสื้อเข้าตู้ให้เธอ ก็เลยยกเอาหีบมาวางไว้ให้เฉยๆ"

รามบอกขณะเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าใบใหม่ให้ดู ภายในว่างเปล่า

    "ตู้ใส่เสื้อผ้าของเธอ ถ้าเล็กเกินไป ฉันจะหามาให้อีกหลัง" เหลียวมองรอบห้องราวประเมินว่ายังขาดอะไรอีกบ้าง

    "ไม่มีใครมาวุ่นวายบริเวณนี้หรอกนะ นอกจากสมบุญกับช้อง ช้องเป็นคนทำความสะอาดห้องทางฝั่งนี้ ส่วนสมบุญเป็นคนจัดการเรื่องเสื้อผ้าของฉัน ฉันไม่ชอบให้ใครหลายๆ คนมาวุ่นวายกับเสื้อผ้าของใช้ของฉัน ก็เลยยกให้สมบุญเป็นคนจัดการคนเดียว"

    ร่างสูงๆ หมุนตัวกลับมาหา

    "ต่อไปนี้เธอจะช่วยดูๆ ให้แทนได้ไหม สมบุญขี้หลงขี้ลืม แต่ก็ทำงานคล่อง" เขาเริ่มมอบหมายหน้าที่ให้

    "ค่ะ"

    เสียงตอบรับดังพอได้ยิน สงสัยอยู่ว่าจะต้องลงไปข้างล่างละหรือถ้าต้องการจะอาบน้ำ ถ้าลงไปก็หมายถึงต้องออกจากห้องหอ แต่ถ้าไม่อาบน้ำเสียเลยก็คงนอนไม่หลับเป็นแน่ ก็ในเมื่อสวมใส่เสื้อผ้าร้อนๆ อึดอัดชุดนี้มาทั้งวันแล้ว

    รามเปิดประตูอีกด้านของห้องให้ดูราวรู้ใจ

    "ห้องน้ำอยู่นี่ ฉันเตรียมทุกอย่างไว้ให้เท่าที่นึกได้ จะขาดเหลืออะไรอีกหรือเปล่าก็ไม่รู้ ก็ไม่รู้นี่นะว่าผู้หญิงเวลาอาบน้ำแต่งตัวเขาใช้อะไรกันบ้าง"

    น้ำเสียงอ่อนโยน เอื้อเอ็นดู และเอาใจใส่ ช่วยลดความประหม่าของไอรีนลงได้มากทีเดียว แม้การรับรู้ที่ว่าในเวลานี้ตัวมีเจ้าของ และชีวิตกลายเป็นส่วนหนึ่งของผู้ชายคนหนึ่งแล้วนั้นจะแจ่มชัดขึ้นทุกชั่วเวลานาที แต่พอเขาแสดงความเป็นผู้ใหญ่ที่คอยเฝ้าเอาใจใส่ คอยเป็นห่วงเป็นใย ช่วยให้ความหวาดผวาเมื่อเห็นผู้หญิงคนเมื่อครู่ลดน้อยลง นี่เขาแสดงให้เห็นแล้วว่าได้พยายามเพียงไรที่จะไม่ทำร้ายจิตใจเธอ เมื่อมาถึงขั้นนี้แล้วก็สมควรต้องปรับตัวให้ยอมรับเรื่องนั้นให้ได้ด้วย เขาได้ให้ความเป็นธรรมแล้ว จะเรียกร้องอะไรไปมากกว่านี้อีกก็ใช่ที่

    "ขาดเหลืออะไรก็บอก" บอกแล้วมองเข้าไปภายในแวบหนึ่งเพื่อตรวจดูให้แน่ใจ

"บ้านนี้เป็นบ้านของเธอแล้ว เธอไม่ใช่แค่ผู้อยู่อาศัยเท่านั้นนะ ไอรีน ตึกหลังนี้เป็นของฉัน ตอนนี้เป็นของเธอด้วยเช่นกัน"

    ไอรีนไม่เคยมีห้องน้ำอยู่ติดกับห้องนอนและใช้ได้เป็นส่วนตัวแบบนี้มาก่อนเลยในชีวิต ตึกหลังนี้สร้างแบบฝรั่งไปเสียทุกกระเบียดนิ้ว รวมไปถึงห้องน้ำด้วย เท่าที่จำได้ไม่เคยเห็นบ้านใครมีห้องน้ำเป็นส่วนตัวอยู่ชั้นบนของบ้านแบบนี้มาก่อน ตอนที่พ่อต่อชั้นล่างของเรือนออกไปเป็นห้องอาบน้ำ ก็รู้สึกว่านั่นเป็นห้องน้ำที่ทันสมัยมากแล้ว นี่ไม่เพียงจะมีห้องน้ำมาอยู่ติดกับห้องนอนและห้องแต่งตัวเท่านั้น แม้เครื่องสุขภัณฑ์ภายในก็เป็นแบบฝรั่งทั้งหมด มีตั้งแต่อ่างอาบน้ำ ฝักบัวสำหรับอาบน้ำ โถส้วมแบบมีถังชักโครก มีแม้แต่อ่างล้างหน้าเป็นกระเบื้องเคลือบ พื้นห้องปูกระเบื้อง น้ำก็คงต่อท่อมาจากท่อประปาซึ่งสำหรับไอรีนแล้วยังถือว่าเป็นของใหม่ น้ำประปาที่ชาวบ้านทั่วไปยังใช้อยู่จนถึงทุกวันนี้ส่วนใหญ่จะได้มาจากท่อรวม ซึ่งมักจะจ้างเจ๊กหาบมาให้ถึงบ้านกันทั้งนั้น บ้านซึ่งอยู่ริมคลองหลายๆ แห่งยังคงตักน้ำคลองขึ้นมาแกว่งสารส้มให้ตกตะกอน เพื่อเป็นน้ำใช้และน้ำอาบเสียด้วยซ้ำ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่