แตกประเด็นจาก
https://ppantip.com/topic/43171154
มีสาเหตุห้าหกประการครัช
1. แพทองธารมาเป็นนายกฯแบบคนไม่มี passion ในหน้าที่นี้ อันเป็นหน้าที่เพื่อประเทศชาติและประชาชน
ไม่มีความมุ่งมาดปรารถนาอะไรในการทำหน้าที่ให้บรรลุ ไม่รับรู้ถึงภาระอันยิ่งใหญ่และหนักหน่วงอะไร
การทำงานของเธอจึงเหมือนแค่การออกอีเว้นท์ใตแต่ละวัน เหมือนออกงานอวดแฟชั่นเสื้อผ้าหน้าผม
จบวันก็จบอีเว้นท์ จบโชว์ชุดถนิมพิมพาอาภรณ์ วันใหม่ก็อีเว้นท์ใหม่ อวดถนิมพิมพาอาภรณ์ใหม่
2. แพทองธาร ไม่มีวิสัยทัศน์ ตั้งแต่เป็นนายกฯมา เธอไม่ได้แสดงวิสัยทัศน์อะไรให้เห็นเลย
เห็นได้จากการท่องคำว่า มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี อยู่อย่างเดิม ทั้งที่โดนด่าโดนแซวตรึมเมือง
มีเกียรติมีศักดิ์ศรีแล้วมีเรื่องขุดดินขายมารวมด้วย มันตลกกลางเมืองมาก
เธอแค่พูดไปตามสคริปต์ ตามโพยที่ท่องไว้ ก็ยังดีที่ไม่อ่านไอแพด
3. แพทองธารไม่มี inspiration ขาดแรงบันดาลใจในการทำงานทำหน้าที่ในการรับภาระ
เอ้อระเหยไปวัน ๆ ดูเหมือนเธอมีแค่ว่า จะตอบสื่อยังไง จะตอบโต้คำติฉินยังไงเท่านั้น
การทำงานของเธอ แค่พูด ดำเนินการตามที่ทีมเบื้องหลังชงให้ ซึ่งยิ่งพยายามชงให้มีผลงานยิ่งดูไม่มี
4. แพทองธาร ขาดความรอบรู้ ขาดไหวพริบ ขามภูมิรู้พื้นฐาน
เหมือนเด็กในร่างคุณแม่ที่คุ้นเคยกับการที่มีคนอื่นทำให้ เธอแค่คอยชี้นิ้ว คอยรับสิ่งที่ต้องการ
ซึ่งในตำแหน่งนายกฯ อัตลักษณ์แบบนี้ไม่เหมาะสม ใช้ไม่ได้ การพยายามโชว์ฺว่ามีศักยภาพจึงยิ่งออกทะเล
5. แพทองธาร ไม่มีความขยัน ไม่มีความเอาใจใส่งาน อย่างที่บอกในข้อ 1 จบวัน จบอีเว้นท์ วันใหม่อีเว้นใหม่
ตั้งแต่วันขึ้นเวทีปราศรัยหาเสียง มาถึงวันแถลงนโยบายต่อรัฐสภา และจนถึงวันนี้ที่เธอเป็นนายกฯสี่เดือนแล้ว
ไม่มีเลยสักครั้งที่แพทองธารจะแสดงให้เห็นถึงความเอาใจใส่ในเรื่องงาน แค่พูดแล้ว แล้วไป เท่านั้นเอง
เรื่องงานทุกอย่าง เธอจะตอบสื่อแค่สั้น ๆ ตามโพยที่ท่องไว้ นอกนั้นคนอื่นตอบแทนหมด
และหลายครั้ง เวลาให้สัมภาษณ์สื่อ ยังต้องมีผู้ช่วยยืนประคองคอยตอบช่วย
แสดงให้เห็นว่า เธอไม่ได้เรียนรู้ศึกษาเรื่องงานใด ๆ เลย ลอยชายไปวัน ๆ
จูงลูกเคียงผัวไปทั่ว เท่านั้นเอง
(การอวดภาพกองแฟ้มงาน เหมือนเด็กอวดทำการบ้าน ถ้าคนอื่นทำให้ได้ก็คงไม่ทำเอง)
6. แพทองธาร มาเป็นนายกฯ แค่เพื่อสนอง need ของเธอเท่านั้น อันเป็นเหตุผลส่วนตัว
ส่วนอีกเหตุผล คือเหตุผลทางการเมือง ก็เพิ่อครองอำนาจรัฐ เพื่อพ่อ เพื่ออา (พ่ออุ้มให้เป็นเพื่อผลประโยชน์ต่อพ่อโดยตรง)
และไม่รู้จะเพื่อผลประโยชน์อื่นใดอีกไหม ซึ่งต้องคอยติดตาม
.
นี่คือ 6 เหตุผล ที่ทำให้แพทองธารไม่อายทื่จะลางาน ที่จะไม่แสดงความทุ่มเทใด ๆ ในหน้าที่
การทำงานของเธอ แค่การรักษาภาพ สร้างภาพ ไม่ให้ถูกด่าเท่านั้น
เช่น การลงใต้ดูน้ำท่วม การตรวจขนส่ง ฯลฯ
ในทางพุทธศาสนา เรียกว่า
อิทธิบาท 4 ที่แพทองธาร ไม่มีสักข้อ
ในตำแหน่งนายกฯของแพทองธาร จึงคือแค่การแสดง ไม่ใช่ "ภาระหน้าที่" ของ "ตำแหน่ง" นายกรัฐมนตรี
.
พ่อก็มีนี๊ดแบบสูงลิบ แทนที่จะอยู่เบื้องหลังเงียบ ๆ ทำหน้าที่ขวางส้มไม่ให้ถึง 150 ก็พอ
แต่เล่นบทผู้ยิ่งใหญ่ ผู้มีความสำคัญ แสดงบทบาทเก่ง รู้ มีพาวไปทุกเรื่อง
น่าห่วง ว่าสุดท้ายแล้ว ไอ้นี๊ดนี้แหละ จะพาไปพบชะตากรรมที่ไม่สวย
ลูก ก็นี๊ดอีกแบบ เหมือนเด็กสาวบ้านนอกอยากเป็นแดนเซอร์ เหมือนสาวในเมืองอยากเดินแคทวอล์ค
นอกนั้นไม่มีเลย
การทำตัวแบบไม่แคร์ใคร ข้าใหญ่ ข้าเหนือ สร้างฉาก สร้างภาพ เพื่อดึงติ่งไว้เป็นพลังหนุนเป็นกำลังต่อรอง
มันเป็นละครที่ยังไงก็ต้องถึงบทสุดท้าย
ซึ่งบทสุดท้ายจะเป็นอย่างไร "เส้น" จริงไหม "ไฟเขียว" แค่ไหน
อีกไม่นาน...
ตอบ ทำไมนายกฯไทยถึงขี้เกียจ และลาหยุดงานบ่อย ๆ
มีสาเหตุห้าหกประการครัช
1. แพทองธารมาเป็นนายกฯแบบคนไม่มี passion ในหน้าที่นี้ อันเป็นหน้าที่เพื่อประเทศชาติและประชาชน
ไม่มีความมุ่งมาดปรารถนาอะไรในการทำหน้าที่ให้บรรลุ ไม่รับรู้ถึงภาระอันยิ่งใหญ่และหนักหน่วงอะไร
การทำงานของเธอจึงเหมือนแค่การออกอีเว้นท์ใตแต่ละวัน เหมือนออกงานอวดแฟชั่นเสื้อผ้าหน้าผม
จบวันก็จบอีเว้นท์ จบโชว์ชุดถนิมพิมพาอาภรณ์ วันใหม่ก็อีเว้นท์ใหม่ อวดถนิมพิมพาอาภรณ์ใหม่
2. แพทองธาร ไม่มีวิสัยทัศน์ ตั้งแต่เป็นนายกฯมา เธอไม่ได้แสดงวิสัยทัศน์อะไรให้เห็นเลย
เห็นได้จากการท่องคำว่า มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี อยู่อย่างเดิม ทั้งที่โดนด่าโดนแซวตรึมเมือง
มีเกียรติมีศักดิ์ศรีแล้วมีเรื่องขุดดินขายมารวมด้วย มันตลกกลางเมืองมาก
เธอแค่พูดไปตามสคริปต์ ตามโพยที่ท่องไว้ ก็ยังดีที่ไม่อ่านไอแพด
3. แพทองธารไม่มี inspiration ขาดแรงบันดาลใจในการทำงานทำหน้าที่ในการรับภาระ
เอ้อระเหยไปวัน ๆ ดูเหมือนเธอมีแค่ว่า จะตอบสื่อยังไง จะตอบโต้คำติฉินยังไงเท่านั้น
การทำงานของเธอ แค่พูด ดำเนินการตามที่ทีมเบื้องหลังชงให้ ซึ่งยิ่งพยายามชงให้มีผลงานยิ่งดูไม่มี
4. แพทองธาร ขาดความรอบรู้ ขาดไหวพริบ ขามภูมิรู้พื้นฐาน
เหมือนเด็กในร่างคุณแม่ที่คุ้นเคยกับการที่มีคนอื่นทำให้ เธอแค่คอยชี้นิ้ว คอยรับสิ่งที่ต้องการ
ซึ่งในตำแหน่งนายกฯ อัตลักษณ์แบบนี้ไม่เหมาะสม ใช้ไม่ได้ การพยายามโชว์ฺว่ามีศักยภาพจึงยิ่งออกทะเล
5. แพทองธาร ไม่มีความขยัน ไม่มีความเอาใจใส่งาน อย่างที่บอกในข้อ 1 จบวัน จบอีเว้นท์ วันใหม่อีเว้นใหม่
ตั้งแต่วันขึ้นเวทีปราศรัยหาเสียง มาถึงวันแถลงนโยบายต่อรัฐสภา และจนถึงวันนี้ที่เธอเป็นนายกฯสี่เดือนแล้ว
ไม่มีเลยสักครั้งที่แพทองธารจะแสดงให้เห็นถึงความเอาใจใส่ในเรื่องงาน แค่พูดแล้ว แล้วไป เท่านั้นเอง
เรื่องงานทุกอย่าง เธอจะตอบสื่อแค่สั้น ๆ ตามโพยที่ท่องไว้ นอกนั้นคนอื่นตอบแทนหมด
และหลายครั้ง เวลาให้สัมภาษณ์สื่อ ยังต้องมีผู้ช่วยยืนประคองคอยตอบช่วย
แสดงให้เห็นว่า เธอไม่ได้เรียนรู้ศึกษาเรื่องงานใด ๆ เลย ลอยชายไปวัน ๆ
จูงลูกเคียงผัวไปทั่ว เท่านั้นเอง
(การอวดภาพกองแฟ้มงาน เหมือนเด็กอวดทำการบ้าน ถ้าคนอื่นทำให้ได้ก็คงไม่ทำเอง)
6. แพทองธาร มาเป็นนายกฯ แค่เพื่อสนอง need ของเธอเท่านั้น อันเป็นเหตุผลส่วนตัว
ส่วนอีกเหตุผล คือเหตุผลทางการเมือง ก็เพิ่อครองอำนาจรัฐ เพื่อพ่อ เพื่ออา (พ่ออุ้มให้เป็นเพื่อผลประโยชน์ต่อพ่อโดยตรง)
และไม่รู้จะเพื่อผลประโยชน์อื่นใดอีกไหม ซึ่งต้องคอยติดตาม
นี่คือ 6 เหตุผล ที่ทำให้แพทองธารไม่อายทื่จะลางาน ที่จะไม่แสดงความทุ่มเทใด ๆ ในหน้าที่
การทำงานของเธอ แค่การรักษาภาพ สร้างภาพ ไม่ให้ถูกด่าเท่านั้น
เช่น การลงใต้ดูน้ำท่วม การตรวจขนส่ง ฯลฯ
ในทางพุทธศาสนา เรียกว่า อิทธิบาท 4 ที่แพทองธาร ไม่มีสักข้อ
ในตำแหน่งนายกฯของแพทองธาร จึงคือแค่การแสดง ไม่ใช่ "ภาระหน้าที่" ของ "ตำแหน่ง" นายกรัฐมนตรี