วันก่อนเมย์กับแฟนได้มีโอกาสมาทำธุระแถวซอยวัดคงคาที่อยู่ในย่านบางใหญ่ค่ะ กว่าจะเสร็จอะไรเรียบร้อยก็มืดค่ำเต็มทีละ ท้องก็หิวแต่มองสองข้างทางแล้ว เอ่อ ! ชาวบ้านแถวนี้นอนกันเร็วจริงๆ แทบจะไม่มีอะไรให้รองท้องกันได้เลยค่ะ

    ขับไปขับมาก็เริ่มเหมือนจะเข้าป่าไปทุกทีๆ ลืมบอกไปว่ามาด้วยรถมอไซด์คันน้อยๆ ค่ะ ลูกหมูสองตัวกับยามาฮ่ามีโอรุ่นดึกดำบรรพ์ ตอนนี้ในใจคิดแล้วว่าขอให้เจอร้านอาหารสักทีเถอะ เวลานี้จะชายสี่หรือส้มตำอะไรก็ได้แล้ว แต่สวรรค์ก็เหมือนจะเข้าข้างค่ะ เห็นไฟป้ายร้านอยู่ร้านนึงเปิดอยู่ อ้าว ! ร้านนมนี่หว่า ปรึกษากับแฟนสักพักก็เห็นตรงกันว่าดีกว่าไม่มีอะไรให้กิน ก็เลยแวะเข้าไปค่ะ ชื่อร้านว่า “หนมนมคาเฟ่”


    พอเข้าร้านมาปุ๊บ ความคิดแรกแว๊บเข้ามาเลยค่ะ “ทำไมไม่มีคนเลยวะ” แต่อย่างว่าแหละตอนขับรถบนถนนเส้นนี้ก็แทบจะไม่เห็นรถผ่านเลย นานๆ จะมีรถสวนมาสักคัน แถมยังฝนตกพรำๆ ก็ไม่น่าแปลก จะว่าไปร้านก็ตกแต่งสวยดีค่ะ เห็นตุ๊กตาหมีนั่งแทนลูกค้า 555+ เมย์ก็เลยเลือกนั่งโต๊ะ 4 ที่อยู่ใกล้ๆ เคาน์เตอร์ จะได้เห็นเมนูชัดๆ




    ที่นี่ก็เหมือนร้านนมคาเฟ่ทั่วไปค่ะ มีเมนูพวกนม กาแฟ สมูทตี้ และฟรีไวไฟ แต่จะมีอาหารแนวพิซซ่ากับสปาเก็ตตี้ขายด้วย และยังมีเมนูข้าวอีกด้วย




    วินาทีนั้นเหมือนวิญญาณชูชกเข้าสิงแล้วค่ะ เรียกได้ว่าเห็นอะไรก็อยากกินไปหมด ของเมย์สั่งเซ็ตนักเก็ตกับสปาเก็ตตี้คาโบนาร่า แฟนสั่งเฟ็ตตูชินี่ขี้เมากะเพรากรอบ ส่วนพิซซ่าดับเบิ้ลชีสค่อยหารสองค่ะ แล้วก็สั่งนมทาวเวอร์เป็นรสช็อกโกแลตของเมย์กับคาราเมลของแฟน

    แถ่น...แท้น...นมทาวเวอร์มาก่อนจ้า พร้อมแก้วน้ำแข็งทรงไวน์ เมนูนี้ปกติ 199 บาทค่ะ แต่ถ้าเช็คอินด้วยจะ [ ลดเหลือ 129 บาท ] ที่สำคัญคือทาวเวอร์นึงสั่งได้ 2 รสชาติค่ะ จะได้ปริมาณข้างละครึ่งลิตร


    ด้วยความที่ไม่เคยกินสไตล์นี้จ้า มันต้องกดตรงไหนถึงจะไหลออกมา (วะ) เนี่ย เห็นปุ่มกลมๆ ข้างบนที่จับมั้ยคะ กดไปเถอะ กดยังไงก็ไม่ออก อ่ะ ! สงสัยใช้ระบบเดียวกับที่เติมน้ำมันตามปั๊ม ลองกดตรงแง่งข้างล่างดูก็ยังไม่ออกอีก จนสักพักนมมาละเว้ยยยย ตรูนี่บ้านนอกจริง...จริ๊งงงงงง

    นมช็อกโกแลตค่อนข้างหวานมากค่ะ พอใส่แก้วแล้วต้องรอให้น้ำแข็งละลายอีกนิดถึงจะได้รสชาติพอดี รสสัมผัสมีความเป็นนมดีค่ะ ไม่ใสแจ๋วเหมือนนมพาสเจอร์ไรส์บางยี่ห้อ แต่ก็ไม่ได้เข้มข้นจนคาวเกินไป ส่วนนมคาราเมล...แฟนบอกว่าหอมคาราเมลดีค่ะ ไม่หวานแสบคอ แต่มีกลิ่นหอมอวลๆ ตอนกำลังดื่ม

    ต่อมาเป็นอาหารคาวบ้างคะ ต้องบอกก่อนว่าร้านนี้ค่อนข้างทำช้านะคะ เพราะเท่าที่เห็นคือมีแค่เจ้าของร้าน 2 คนสามีภรรยาเท่านั้น เริ่มที่เฟ็ตตูชินี่ขี้เมากะเพราะกรอบของแฟน [ จานละ 89 บาท ] เป็นเส้นพาสต้าแบบเส้นหมึกดำค่ะ เมย์ไม่ได้ทานเองเพราะว่าแพ้อาหารทะเล จึงแย่งมาจกกินไม่ได้เลย เห็นนางบอกว่าเส้นค่อนข้างนิ่มไปหน่อย แต่เครื่องทะเลสดมาก ผัดสุกพอดีๆ ไม่แข็ง ไม่เหนียว หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ตัวใหญ่มาก ส่วนที่ปลื้มปริ่มคือรสชาติจัดจ้านและใบกะเพรากรอบมากกกก


    อีกจานนึงจะเป็นสปาเก็ตตี้คาโบนาราของเมย์เอง [ จานละ 79 บาท ] ตอนแรกที่เห็นเหมือนว่ามันจะน้อย หิวจนตาลายจริงๆ ค่ะ แต่พอคลุกเคล้าเส้นแล้วมันก็พอดีเนอะ ใส่ผงชีสเยอะดีค่ะ คิดว่าน่าจะเป็นพาเมซานชีส เพราะกลิ่นหอมเด่นเตะจมูกเลย ลวกเส้นแข็งพอดีๆ แต่รสชาติไม่ใช่แบบอิตาเลี่ยนจ๋าค่ะ มันประมาณว่ารสเข้มข้นที่ไม่ใช่เลี่ยนๆ สไตล์ดั้งเดิม เหมือนกับว่าปรับสูตรให้เข้ากับรสชาติคนไทยค่ะ

    พิซซ่าดับเบิ้ลชีส...ส...ส [ ถาดนี้ 99 บาท ] เป็นแป้งขนมปังแบนๆ แต่ไม่ใช่แบบบางกรอบ ไม่มีหน้าอะไรทั้งสิ้น ตรงขอบจะเป็นไส้กรอกสไลด์บางๆ ส่วนตรงกลางคือชีสสสสสนั่นเอง หลังจากที่ใส่ซอสมะเขือเทศกับออริกาโน่แล้ว ผิดคาดกว่าที่คิดไว้นิดนึงคือ มันไม่จืดเลยค่ะ เหมือนกับมีรสอะไรสักอย่างซ่อนอยู่ อร่อยดีค่ะ กินแป๊บๆ อ้าวหมดซะแล้ว





    มาถึงเมนูของโปรดเมย์จ้า เซ็ตนักเกตที่เสิร์ฟในกระทะเล็กๆ รองด้วยกระดาษซับน้ำมัน [ ราคา 79 บาท ] ที่ชอบมากคือ ใช้เฟร้นฟรายแท่งใหญ่ค่ะ เวลาทอดกรอบพอดีๆ มันจะอร่อยแบบกรอบนอกนุ่มใน ได้รสชาติของแป้งมันฝรั่งจริงๆ ส่วนนักเกต 4 ชิ้นน่าจะเลือกแบรนด์ที่ค่อนข้างดี หรือไม่ก็ฝีมือทอดดีมากค่ะ กรอบนอกนุ่มใน พอกัดแล้วข้างในยังฉ่ำๆ ไม่แห้ง

    เมนูของหวานล้างปากวันนี้คือฮันนี่โทสต์ แต่ต้องรอนานหน่อยค่ะ พอดีมีลูกค้าโต๊ะอื่นเข้ามาและทำช้าด้วย ก็เลยสั่งเครื่องดื่มเพิ่มคือโค้ก [ 20 บาท ] แต่เจ้าของร้านใจดีบอกว่า ตั้งแต่เปิดร้านมาเพิ่งเคยเห็นโต๊ะน้องนี่แหละกินเยอะที่สุดแล้ว ก็เลยแถมสมูทตี้มาให้แก้วนึง เป็นสมูทตี้ส้มยูซุค่ะ

    หน้าตาธรรมดาเหมือนสมูทตี้ทั่วไปก็คือโยเกิร์ตปั่นกับน้ำผลไม้ แต่สมูทตี้อันนี้เป็นโยเกิร์ตปั่นกับซอสส้มยูซุค่ะ ปกติเมย์ไม่ค่อยชอบทานสมูทตี้เท่าไร เนื่องจากท้องไม่ค่อยดีและไม่ชอบทานโยเกิร์ต แต่อันนี้อร่อยพอทานได้ค่ะ เปรี้ยวๆ หวานๆ และมีเนื้อเปลือกส้มให้เคี้ยวด้วย หอมอวลๆ กลิ่นส้มดีค่ะ

    นั่งย่อยกันสักพักก็ได้ฮันนี่โทสต์พอดี  [ เซ็ตละ 99 บาท ] หน้าตาดีเหมือนร้านเบเกอรี่ชื่อดังเลยค่ะ โทสต์อบมาจนข้างนอกกรอบหน่อยๆ แต่ข้างในกลิ่นหอมและเนื้อนุ่ม วางไอติมข้างบนแล้วเนื้อขนมปังก็ยังไม่เละ วิปปิ้งครีมที่นี่ใช้วิปปิ้งนมมาตี ส่วนน้ำผึ้งที่ราดไม่แน่ใจว่าเป็นไซรัปหรือว่าผสมกับอะไร แต่รสชาติกำลังดี ราดเยอะก็ไม่หวานแหลมจนบาดคอค่ะ ทานกันสองคนอิ่มพอดีๆ คุ้มค่าเกินราคามาก เรียกได้ว่าเป็นเมนูแนะนำที่ต้องมาลองให้ได้ค่ะ

    วันนี้จ่ายค่าเสียหายไปเกือบ 600 บาทค่ะ สมกับที่วิญญาณชูชกเข้าสิงจริงๆ อิ่มจนหนังท้องตึงหนังตาจะหย่อน แอร์เย็นๆ กับเพลงยุคไนน์ตี้คลอเบาๆ โดยรวมรสชาติดีเลยค่ะ อาหารหลากหลายครบทั้งของคาวของหวาน ตกแต่งจานสวยทุกจาน ไม่งกแอร์ เปิดเพลงเพราะ แต่มีข้อติตรงที่ทำช้านี่แหละ คิดว่าพี่ผู้ชายน่าจะทำเมนูของคาว ส่วนพี่ผู้หญิงทำเมนูของหวาน แต่พอมาเสิร์ฟแล้วเห็นหน้ากับได้ชิมรสชาติแล้ว ไม่ผิดหวังเลยค่ะ และเมนูส่วนใหญ่ราคาไม่ถึงร้อยด้วยซ้ำ

    ร้านนี้อยู่ลึกจากถนนใหญ่ค่ะ ถ้ามาทางเส้นทางหลวงหมายเลข 9 จากนั้นต้องไปกลับรถบนเกือกม้า เพื่อเข้าซอยวัดคงคา แล้วโทรสอบถามทางไปร้านอีกที เพราะมีหลายเลี้ยวมากค่ะ เพื่อไปถนนบางกรวย – ไทรน้อย หรือถามว่าไปการไฟฟ้าฯ บางใหญ่ยังไง ร้านจะอยู่ใกล้ที่นี่มากสุด

    รับรองว่า...อีกไม่นานต้องมาซ้ำที่นี่แน่นอนค่ะ

เพจ : หนมนมคาเฟ่
โทร.  082 - 3212277
www.facebook.com/Nhomnomcafe

แก้ไขเพิ่มเติม : เมย์ลงเบอร์โทรกับเพจร้านไว้ เผื่อมีใครสนใจไปทานจะได้สอบถามทางถูกค่ะ ตอนแรกเมย์ขับมาตามทางเรื่อยๆ จนเห็นร้านนี้ร้านเดียวที่ยังเปิดอยู่ ณ เวลานั้น เพราะถ้ามาอีกรอบก็จำทางไม่ได้แน่นอนค่ะ