สวัสดีค่ะชาวพันทิปทุกท่าน วันนี้เราจะมาเล่าเรื่องตามหัวข้อเลยค่ะ เราอยากทราบความคิดเห็นของทุกท่านที่ได้เข้ามาอ่านมามีความคิดอย่างไรค่ะ เริ่มเลยนะค่ะ>>>
พ่อกับแม่ของสามีเราหย่ากันค่ะ โดยเหตุผลที่ว่ามีช่วงหนึ่งที่แม่โดนผีเข้าบ่อยๆทำให้ท่านกลายเป็นคนไร้ความสามารถค่ะ พ่อจึงพาแม่กลับส่งที่บ้านให้คุณตาเป็นคนดูแล ตอนนั้นสามีเราอยู่ป.6 ตอนนี้ก็อายุ25 ซึ่งพ่อก็มีครอบครัวใหม่ และเค้าก็อาศัยอยู่กับปู่ย่ามาตลอด นานๆทีจะมาเจอเค้า เรื่องความทรงจำในวัยรุ่นของเค้าส่วนมากจะเล่าแต่เรื่องคุณย่า เค้าเป็นวัยรุ่นที่มีปัญหาครอบครัว เรียนจบม.3 ติดเกมส์ ติดยาจนถูกจับและพ่อก็ไปประกันตัวเขาออกมา (อันนี้คือเค้าเล่าให้ฟังบ้าง ฟังจากย่าเค้าบ้าง เพื่อนเค้าบ้าง) ตอนที่เราเจอกับเค้าๆเลิกยาแล้วค่ะ แต่มีดื่มเหล้า ดูดบุหรี่ เที่ยวบ้าง เค้าไม่มีรถ ไม่มีโทรศัพท์ บ้านก็บ้านย่าซึ่งเป็นของคุณอา ทำงานหาเช้ากินค่ำ ก่อนที่เราจะคบกันเค้าบอกว่าเค้าไม่มีอะไรสักอย่าง ถ้าเกิดวันหนึ่งเราคบถึงขั้นที่จะแต่งงานกันบอกไว้เลยว่าครอบครัวเค้าไม่มีเงินมาแต่งแต่เค้าจะพยายามหา เราก็รับได้ค่ะเพราะเราก็ไม่ได้คบคนที่ตรงนั้น ตลอดเวลาที่คบกันไปไหนมาไหนรถเราค่ะ(มอไซค์นะค่ะ)โทรศัพท์เค้าก็ไปขอเพื่อนเค้ามาโทรคุยกับเรา เค้าเป็นคนขยันซึ่งผิดกับเรามากกกกกกกก เราขี้เกียจสุดๆเลยค่ะ ตอนนั้นเราทำงานเราอยู่บ้านนอกเลยต้องเข้ามาอยู่หอกับเพื่อนๆ พอเราคบกันเค้าเข้ามาทำงานบ้านทุกอย่างให้เราค่ะ ซักผ้า ล้างจาน ทำกับข้าว กวาดบ้าน ฯลฯ เราไม่ได้บอกนะค่ะ แต่เวลาเลิกงานมาจะกลับมาเห็น เค้าก็ให้เพื่อนเขามารับทำงาน เลิกงานเราก็ไปรับ กินข้าว คบกันได้ปีสองปีเราก็ลาออกจากงานไปทำงานกับเค้าที่ต่างจ. เงินเดือน2คนก็ห้าหมื่น++ ไม่รวมค่าห้องกับค่ากับข้าว เพราะทางบ.มีสวิสดิการให้ ตลอดเวลาที่เป็นแฟนกันถ้าพวกเราเดือดร้อนไม่เคยพ่อเค้าอยู่ในหัวเลยค่ะ พวกเราไม่เคยคิดที่จะขอท่านเพราะรู้ว่าท่านไม่มีและไม่ค่อยได้เลี้ยงเค้ามาตั้งแต่แรก แต่เวลาท่านเดือดร้อน ท่านก็จะโทรมาขอ 3000 บ้าง 4000 บ้าง เราก็ให้ค่ะเพราะคิดว่ายังไงก็พ่อเค้าท่านคงมีปัญหาจริงๆถึงโทรมาขอ วันนึงเค้าบอกเขาอยากมีลูก พ่อก็อยากได้หลาน เค้าบอกว่าพ่อเค้าจะเลี้ยงให้ เรายังไม่อยากได้จึงพูดไปว่าถ้าเค้าเลิกเหล้ากับบุหรี่ได้เราจะมีให้ค่ะ จนเค้าเลิกได้3เดือนเค้าก็มาทวงสัญญา เราจึงยอมเพราะเค้าทำได้ซึ่งเราคิดว่าเค้าจะทำไม่ได้เราท้อง2เดือน เราจึงคุยกับแม่ แม่เลยบอกว่าจะแต่งมั้ย เราก็บอกแม่ตามที่เค้าเคยบอกเราค่ะ อีกอย่างเราไม่อยากจัดงานอะไรสิ้นเปลืองเปล่าๆ แม่จึงบอกว่าจัดเล็กๆก็ได้ เก็บเงินได้แค่ไหนก็จัดแค่นั้นแหละ เราเก็บเงินได้ก้อนหนึ่งซึ่งหลังจากจัดงานเสร็จเรียบร้อยก็เหลือเงินอีกก้อนหนึ่งกับ เงินขวัญถุงที่แม่เราให้อีก 20,000 แต่พวกเราไม่เอาค่ะแม่จึงเก็บไว้ เราตกลงกันไว้ว่าจะเอาที่เหลือไว้คลอดลูก ตอนจัดงานทางฝ่ายสามีไม่ได้ทำอะไรสักอย่าง สินสอดทองหมั้นทางเราจัดการเองหมด ทางเค้าแค่มาถือไปแห่ กินแล้วก็กลับ ซึ่งตอนนั้นไม่ได้บอกแม่เค้านะค่ะเพราะเค้าไม่อยากให้แม่มาเจอกับพ่อ และเราต้องย้ายกลับมาอยู่บ้านค่ะ เราเลิกทำงานและเค้าก็ทำงานคนเดียว สักพักเค้ามีปัญหากับหัวหน้างานเลยออกจากงาน เค้าตกงานอยู่พักใหญ่ๆจนเงินเก็บเราหมด แม่เราก็ เอา เงินที่ให้เป็นเงินขวัญถุงมาให้เราใช้ พวกเราก็ใช้อยู่สักพักหนึ่งก็เริ่มจะหมดอีกแล้ว แต่สงสัยลูกช่วยมั้งค่ะ เค้าก็ได้งานทำแต่เงินเดือนไม่ถึง 10,000 ก่อนเข้าทำงานต้องมีชุดยูนิฟอร์มยายเราก็เป็นคนช่วยค่ะ ในตอนนั้นเราก็คลอดลูกพอดีเราเอาทองที่เป็นของหมั้นเรา ไปขายมาใช้จ่ายในการคลอดลูก และช่วงนี้ลูกกินนมเรา ค่าใช้จ่ายจึงไม่เยอะเท่าไหร่แต่ก็ยังมีค่า อื่นๆอีกมากมายตามมาซึ่งมันไม่พอกับรายรับของเขา พอลูก ได้ประมาณสามเดือนน้ำนมเราก็เริ่มไม่มีแม่เราก็ช่วยตลอด เค้าเริ่มเห็นว่าแบบนี้คงไม่ไหวจึง ไปสมัครงานใหม่ที่ได้เงินดีกว่านี้และเค้าก็ได้ เราก็ทำงาน หาเงินช่วยเค้าและฝากลูกไว้ให้แม่เราเลี้ยง บางเดือนค่าใช้จ่ายก็พอบางเดือนค่าใช้จ่ายก็ไม่พอแม่เราก็ช่วยอีกตามเคยทำมาเรื่อยๆเราคิดว่าถ้าเป็นแบบนี้ต่อคงไม่ไหวเพราะเราไม่อยากรบกวนแม่เราอีก ทางพ่อของสามีไม่เคย ที่จะมาช่วย หรือถามไถ่ ท่านมาหาหลานตอนที่อยู่โรงพยาบาลแค่วันเดียว แต่ท่านเป็นคนบอกเองว่าท่านอยากได้หลาน เราก็ไม่ได้หวังอะไรจากท่านหรอกค่ะ ถ้าจะให้ท่านเลี้ยงเราก็ไม่ให้เลี้ยงเพราะเราคิดว่าขนาดลูกเค้ายังไม่สนใจเลยนับประสาอะไรกับหลาน พวกเราก็มีโอกาสไปกราบแม่เค้าแม่ก็สบายดี ท่านร้องไห้เพราะท่านบอกคิดถึงลูกชาย เราเห็นเราก็สงสารจับใจ เราตัดสินใจคุยกับสามีว่าจะให้เค้าไปทำงานที่ต่างประเทศเราถามเค้าว่าเค้าโอเคไหมเค้าบอกว่าโอเคมากเลยเพราะถ้าอยู่แบบนี้ต่อไปก็คงรบกวนแม่อยู่แบบนี้และ เราอยากให้แม่เค้าอยู่สบายกว่านี้ เราจึงเอาเรื่องนี้ไปคุยกับยายเรา ยายจึงไปคุยกับพ่อซึ่งพ่อก็เป็นพ่อเลี้ยงของเรานะคะพ่อเลี้ยงกับแม่เราตกลงกันว่าจะเลี้ยงลูกติดของแต่ละคนเองแต่พอคุณมีช่วยแม่เลี้ยงเราเลี้ยงหลานบ้างค่ะ พ่อจึงให้เรายืมเงินไปจำนวนหนึ่งก่อนจะไปเราก็พาเค้าไปลา ครอบครัวทางฝ่ายเค้าๆไปทำงานได้สักพักงานต่างประเทศเงินเดือนก็ดีหน่อยทุกวันนี้เราไม่ได้รบกวนแม่เราเรื่องเงินเหมือนเดิมแล้วแต่ก็ยังรบกวนให้ท่านเลี้ยงหลานอยู่เหมือนเดิม เราให้แม่ เราและแม่เค้าใช้เดือนละเท่าๆกันไปช่วงแรกๆเราก็ต้องใช้หนี้ก่อนและกว่าอะไรจะลงตัวก็ใช้เวลาไปหลายเดือนเหมือนกัน เวลาเทศกาลเราจะให้เงินทุกคนเท่าๆกันทั้งพ่อแม่ฝ่ายเราฝ่ายเขาย่ายายคือทุกคนได้เท่ากันหมด พอไปได้ประมาณครึ่งปีพ่อเค้าก็โทรมาขอเงินหมื่นห้า เราก็ไม่อยากให้เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมาเราไม่เคยขอความช่วยเหลือจากท่านเลย เวลาปกติก็ไม่เคยเห็นมาถามไถ่ และท่านก็ไม่แม้แต่จะมาเยี่ยมหลานของท่านตั้งแต่เกิดมาตอนนี้ก็เป็นเวลาสองปีกว่าๆแล้ว เราก็ทะเลาะกันเค้าก็บอกว่าเค้าพ่อของเค้าๆอยากตอบแทนบ้างพ่อแม่ใครใครก็รักจริงมั้ย เราก็หาเหตุผลร้อยแปดมาอ้างค่ะเราก็ยอมให้พ่อเค้าแค่ 10,000 เดียวพอ หลังจากที่ให้เงินไปแล้ว ประมาณห้าเดือน เราก็ไม่รู้ความจริงว่า พ่อไม่ได้เอาเงินที่ขอพวกเราไปทำในสิ่งที่ท่านขอแต่ท่านเอาเงินไปทำอย่างอื่น เราโกรธมากเลยค่ะตอนนี้ท่านก็อายุ 50 กว่าแล้วแต่ยังไม่มีบ้านเป็นของตัวเอง ไม่มีรถยนต์ ชอบกินเหล้ากินเบียร์ ชอบเล่นการพนัน เราชอบทะเลาะกับสามีเรื่องท่านประจำ ด้วยเหตุผลคิดว่าท่านมาขอเงินบ้างสามีเราอยากเอาเงินให้ทันบ้าง เราไม่ได้จะอคติอะไร เพียงแต่ตอนนี้เรากำลังสร้างตัวสร้างครอบครัวด้วยกันอยู่เราต้องเก็บเงินซื้อบ้านซื้อรถและสำหรับอนาคตลูก แต่พ่อของเค้าก็ไม่เคยนึกถึงจุดจุดนี้เลย มีครั้งหนึ่งที่เราทะเลาะกันเราเลยบอกพ่อเค้าไปว่าเราเลิกกันแล้ว พ่อเขาไม่แม้แต่จะถามเหตุผลหรืออะไรเลยผ่านมาประมาณเดือนนึงพอเขาจึง LINE มาถามว่าได้เมียใหม่แล้วเหรอ ผิดกับแม่เรามากที่เวลาเราทะเลาะกันแม่เราบอกให้ใช้ความอดทนและให้นึกถึงลูกไว้เสมอ อยากให้ลูกเป็นเหมือนตัวเองมั้ย คืดเอา เราก็คิดว่าทำไมพ่อเค้าถึงพูดแบบนี้ก้ได้แต่น้อยใจแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรไป และเค้าเคยขอเราว่าจะให้เงินพอเค้าทุกๆเดือนเท่ากับของพวกเรา แต่เราไม่ยอมค่ะ เราไม่รู้ว่าพ่อกับลูกเขาพูดอะไรกันแต่เราก็น้อยใจเพราะตลอดเวลาที่ลำบาก ทางฝ่ายเราจะเป็นคนช่วยเสมอและไม่เคยคิดที่จะหวังผลตอบแทนอะไรในเวลาที่แม่เราลำบากแม่เราก็ไม่ได้มาขอความช่วยเหลือจากพวกเราแต่แม่หาทางแก้ไขปัญหาเอง ถึงแม้ว่าเราจะ บอกว่าให้ พวกเราช่วยก็ได้แม่เราก็จะบอกว่าไม่เป็นไรเอาครอบครัวของตัวเองให้รอดก่อนถ้าแม่เอาเงินของพวกเรามาเดี๋ยวพวกเราไม่ได้ในสิ่งที่ตัวเองหวังสักที ขอแค่ลูกไม่มารบกวนแม่แม่ก็พอใจละ แม่เราจะเอาบ้านให้เราจะเอาที่นาทำกินให้พวกเรา แต่เราไม่ได้น้อยใจที่พ่อเขาไม่มีให้ เราแค่ไม่พอใจที่ว่ารบกวนเราบ่อยๆ โกหกบ้าง เราบอกกับสามีเราเสมอว่าตอนนี้ท่านพอมีแรงกายก็ให้โทรหาไปก่อนได้มั้ยไม่ใช่ว่าเค้าจะไม่ให้ตัวให้พอเลยแต่ตอนนี้เราก็กำลังสร้างเนื้อสร้างตัวเหมือนกัน เราอยากให้เรามีพร้อมถึงจะไม่ทุกอย่างแต่ก็ให้มีในระดับหนึ่งแล้วเราจึงจะยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือท่านตอนที่ท่านแก่ก็จะไม่ใช่เรานี่หรอที่เป็นดูแล เค้าก็จะว่าเราไม่รักพ่อเราบ้าง เราก็เคยพูดว่าลองให้นึกดูว่าถ้าเป็นเราเค้าจะน้อยใจไหมบอกว่าอยากได้หลานแต่ตอนนี้หลาน อายุสองขวบกว่าๆแล้วท่านยังไม่เคยที่จะมาเยี่ยมเลย เค้าบอกว่าพ่อเค้าไม่มีเงินถึงไม่ได้มาหา เราก็บอกไปว่าให้ไป 10,000 นึงเอาไปทำอะไรเสียค่ารถมาหาหลานไม่ถึงห้าร้อยด้วยซ้ำทำไมไม่มาก็เคยบอกไปแล้วด้วยว่าถ้ามาก็มาเลยเดี๋ยวยังไงจะให้ค่ารถอีกที ก็ไม่เห็นจะมาหาสักที งานแต่งก็ไม่ช่วยอะไรสักอย่าง(ในส่วนของฝ่ายชาย) เวลาจะไปหาย่า แม่ของเค้าแม่กับพ่อเลี้ยงเราก็จะเป็นคนพาไปตลอดเพราะเราขับรถไม่เป็นแล้วรถก็เป็นของพ่อเลี้ยงแล้ว เราอยากไปไหนอยากพาลูกไปทำอะไรเวลาลูกไม่สบายโทรเลี้ยงเราขับรถพาไปตลอด ผิดกับพ่อเค้ามากค่ะ แค่Line มาหาหลานยังไม่มีแต่เวลาอยากได้เงินโทรมาเลยค่ะ เราจึงไม่ชอบเอามากๆเลย
*** สามีเราเป็นคนขยัน เป็นคนดี เงินเดือนให้ครบตลอดบางเดือนอาจเยอะกว่าเดิมแต่ไม่มีน้อยลงจากที่เคยให้ ตามใจเราอยากได้อะไรซื้อให้แต่เรื่องพ่อของเค้านี่แหละค่ะที่ทำให้เราทะเลาะกันตลอดเราดีใจนะคะที่เค้าเป็นคนกตัญญูแต่ บางทีก็มากไปจนลืมนึกถึงจิตใจของเรา เราเต็มใจจะให้หากพ่อเค้าตั้งใจทำมาหากิน แต่นี่พ่อเค้าเล่นการพนัน ดื่มเหล้าดื่มเบียร์ทุกวันเราจึงไม่มีความศรัทธาในตัวท่านแล้ว รู้สึกไม่ชอบเอามากๆแต่ก็ ยอมรับเพราะ ท่านคือพ่อของสามีเรา แล้ว ถ้าเป็นคุณคุณมีความคิดเห็นอย่างไรคะ
เราไม่ชอบพ่อสามีเอามากๆ ถ้าเกิดพ่อสามีคุณเป็นแบบนี้คุณจะรู้สึกยังไงค่ะ
พ่อกับแม่ของสามีเราหย่ากันค่ะ โดยเหตุผลที่ว่ามีช่วงหนึ่งที่แม่โดนผีเข้าบ่อยๆทำให้ท่านกลายเป็นคนไร้ความสามารถค่ะ พ่อจึงพาแม่กลับส่งที่บ้านให้คุณตาเป็นคนดูแล ตอนนั้นสามีเราอยู่ป.6 ตอนนี้ก็อายุ25 ซึ่งพ่อก็มีครอบครัวใหม่ และเค้าก็อาศัยอยู่กับปู่ย่ามาตลอด นานๆทีจะมาเจอเค้า เรื่องความทรงจำในวัยรุ่นของเค้าส่วนมากจะเล่าแต่เรื่องคุณย่า เค้าเป็นวัยรุ่นที่มีปัญหาครอบครัว เรียนจบม.3 ติดเกมส์ ติดยาจนถูกจับและพ่อก็ไปประกันตัวเขาออกมา (อันนี้คือเค้าเล่าให้ฟังบ้าง ฟังจากย่าเค้าบ้าง เพื่อนเค้าบ้าง) ตอนที่เราเจอกับเค้าๆเลิกยาแล้วค่ะ แต่มีดื่มเหล้า ดูดบุหรี่ เที่ยวบ้าง เค้าไม่มีรถ ไม่มีโทรศัพท์ บ้านก็บ้านย่าซึ่งเป็นของคุณอา ทำงานหาเช้ากินค่ำ ก่อนที่เราจะคบกันเค้าบอกว่าเค้าไม่มีอะไรสักอย่าง ถ้าเกิดวันหนึ่งเราคบถึงขั้นที่จะแต่งงานกันบอกไว้เลยว่าครอบครัวเค้าไม่มีเงินมาแต่งแต่เค้าจะพยายามหา เราก็รับได้ค่ะเพราะเราก็ไม่ได้คบคนที่ตรงนั้น ตลอดเวลาที่คบกันไปไหนมาไหนรถเราค่ะ(มอไซค์นะค่ะ)โทรศัพท์เค้าก็ไปขอเพื่อนเค้ามาโทรคุยกับเรา เค้าเป็นคนขยันซึ่งผิดกับเรามากกกกกกกก เราขี้เกียจสุดๆเลยค่ะ ตอนนั้นเราทำงานเราอยู่บ้านนอกเลยต้องเข้ามาอยู่หอกับเพื่อนๆ พอเราคบกันเค้าเข้ามาทำงานบ้านทุกอย่างให้เราค่ะ ซักผ้า ล้างจาน ทำกับข้าว กวาดบ้าน ฯลฯ เราไม่ได้บอกนะค่ะ แต่เวลาเลิกงานมาจะกลับมาเห็น เค้าก็ให้เพื่อนเขามารับทำงาน เลิกงานเราก็ไปรับ กินข้าว คบกันได้ปีสองปีเราก็ลาออกจากงานไปทำงานกับเค้าที่ต่างจ. เงินเดือน2คนก็ห้าหมื่น++ ไม่รวมค่าห้องกับค่ากับข้าว เพราะทางบ.มีสวิสดิการให้ ตลอดเวลาที่เป็นแฟนกันถ้าพวกเราเดือดร้อนไม่เคยพ่อเค้าอยู่ในหัวเลยค่ะ พวกเราไม่เคยคิดที่จะขอท่านเพราะรู้ว่าท่านไม่มีและไม่ค่อยได้เลี้ยงเค้ามาตั้งแต่แรก แต่เวลาท่านเดือดร้อน ท่านก็จะโทรมาขอ 3000 บ้าง 4000 บ้าง เราก็ให้ค่ะเพราะคิดว่ายังไงก็พ่อเค้าท่านคงมีปัญหาจริงๆถึงโทรมาขอ วันนึงเค้าบอกเขาอยากมีลูก พ่อก็อยากได้หลาน เค้าบอกว่าพ่อเค้าจะเลี้ยงให้ เรายังไม่อยากได้จึงพูดไปว่าถ้าเค้าเลิกเหล้ากับบุหรี่ได้เราจะมีให้ค่ะ จนเค้าเลิกได้3เดือนเค้าก็มาทวงสัญญา เราจึงยอมเพราะเค้าทำได้ซึ่งเราคิดว่าเค้าจะทำไม่ได้เราท้อง2เดือน เราจึงคุยกับแม่ แม่เลยบอกว่าจะแต่งมั้ย เราก็บอกแม่ตามที่เค้าเคยบอกเราค่ะ อีกอย่างเราไม่อยากจัดงานอะไรสิ้นเปลืองเปล่าๆ แม่จึงบอกว่าจัดเล็กๆก็ได้ เก็บเงินได้แค่ไหนก็จัดแค่นั้นแหละ เราเก็บเงินได้ก้อนหนึ่งซึ่งหลังจากจัดงานเสร็จเรียบร้อยก็เหลือเงินอีกก้อนหนึ่งกับ เงินขวัญถุงที่แม่เราให้อีก 20,000 แต่พวกเราไม่เอาค่ะแม่จึงเก็บไว้ เราตกลงกันไว้ว่าจะเอาที่เหลือไว้คลอดลูก ตอนจัดงานทางฝ่ายสามีไม่ได้ทำอะไรสักอย่าง สินสอดทองหมั้นทางเราจัดการเองหมด ทางเค้าแค่มาถือไปแห่ กินแล้วก็กลับ ซึ่งตอนนั้นไม่ได้บอกแม่เค้านะค่ะเพราะเค้าไม่อยากให้แม่มาเจอกับพ่อ และเราต้องย้ายกลับมาอยู่บ้านค่ะ เราเลิกทำงานและเค้าก็ทำงานคนเดียว สักพักเค้ามีปัญหากับหัวหน้างานเลยออกจากงาน เค้าตกงานอยู่พักใหญ่ๆจนเงินเก็บเราหมด แม่เราก็ เอา เงินที่ให้เป็นเงินขวัญถุงมาให้เราใช้ พวกเราก็ใช้อยู่สักพักหนึ่งก็เริ่มจะหมดอีกแล้ว แต่สงสัยลูกช่วยมั้งค่ะ เค้าก็ได้งานทำแต่เงินเดือนไม่ถึง 10,000 ก่อนเข้าทำงานต้องมีชุดยูนิฟอร์มยายเราก็เป็นคนช่วยค่ะ ในตอนนั้นเราก็คลอดลูกพอดีเราเอาทองที่เป็นของหมั้นเรา ไปขายมาใช้จ่ายในการคลอดลูก และช่วงนี้ลูกกินนมเรา ค่าใช้จ่ายจึงไม่เยอะเท่าไหร่แต่ก็ยังมีค่า อื่นๆอีกมากมายตามมาซึ่งมันไม่พอกับรายรับของเขา พอลูก ได้ประมาณสามเดือนน้ำนมเราก็เริ่มไม่มีแม่เราก็ช่วยตลอด เค้าเริ่มเห็นว่าแบบนี้คงไม่ไหวจึง ไปสมัครงานใหม่ที่ได้เงินดีกว่านี้และเค้าก็ได้ เราก็ทำงาน หาเงินช่วยเค้าและฝากลูกไว้ให้แม่เราเลี้ยง บางเดือนค่าใช้จ่ายก็พอบางเดือนค่าใช้จ่ายก็ไม่พอแม่เราก็ช่วยอีกตามเคยทำมาเรื่อยๆเราคิดว่าถ้าเป็นแบบนี้ต่อคงไม่ไหวเพราะเราไม่อยากรบกวนแม่เราอีก ทางพ่อของสามีไม่เคย ที่จะมาช่วย หรือถามไถ่ ท่านมาหาหลานตอนที่อยู่โรงพยาบาลแค่วันเดียว แต่ท่านเป็นคนบอกเองว่าท่านอยากได้หลาน เราก็ไม่ได้หวังอะไรจากท่านหรอกค่ะ ถ้าจะให้ท่านเลี้ยงเราก็ไม่ให้เลี้ยงเพราะเราคิดว่าขนาดลูกเค้ายังไม่สนใจเลยนับประสาอะไรกับหลาน พวกเราก็มีโอกาสไปกราบแม่เค้าแม่ก็สบายดี ท่านร้องไห้เพราะท่านบอกคิดถึงลูกชาย เราเห็นเราก็สงสารจับใจ เราตัดสินใจคุยกับสามีว่าจะให้เค้าไปทำงานที่ต่างประเทศเราถามเค้าว่าเค้าโอเคไหมเค้าบอกว่าโอเคมากเลยเพราะถ้าอยู่แบบนี้ต่อไปก็คงรบกวนแม่อยู่แบบนี้และ เราอยากให้แม่เค้าอยู่สบายกว่านี้ เราจึงเอาเรื่องนี้ไปคุยกับยายเรา ยายจึงไปคุยกับพ่อซึ่งพ่อก็เป็นพ่อเลี้ยงของเรานะคะพ่อเลี้ยงกับแม่เราตกลงกันว่าจะเลี้ยงลูกติดของแต่ละคนเองแต่พอคุณมีช่วยแม่เลี้ยงเราเลี้ยงหลานบ้างค่ะ พ่อจึงให้เรายืมเงินไปจำนวนหนึ่งก่อนจะไปเราก็พาเค้าไปลา ครอบครัวทางฝ่ายเค้าๆไปทำงานได้สักพักงานต่างประเทศเงินเดือนก็ดีหน่อยทุกวันนี้เราไม่ได้รบกวนแม่เราเรื่องเงินเหมือนเดิมแล้วแต่ก็ยังรบกวนให้ท่านเลี้ยงหลานอยู่เหมือนเดิม เราให้แม่ เราและแม่เค้าใช้เดือนละเท่าๆกันไปช่วงแรกๆเราก็ต้องใช้หนี้ก่อนและกว่าอะไรจะลงตัวก็ใช้เวลาไปหลายเดือนเหมือนกัน เวลาเทศกาลเราจะให้เงินทุกคนเท่าๆกันทั้งพ่อแม่ฝ่ายเราฝ่ายเขาย่ายายคือทุกคนได้เท่ากันหมด พอไปได้ประมาณครึ่งปีพ่อเค้าก็โทรมาขอเงินหมื่นห้า เราก็ไม่อยากให้เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมาเราไม่เคยขอความช่วยเหลือจากท่านเลย เวลาปกติก็ไม่เคยเห็นมาถามไถ่ และท่านก็ไม่แม้แต่จะมาเยี่ยมหลานของท่านตั้งแต่เกิดมาตอนนี้ก็เป็นเวลาสองปีกว่าๆแล้ว เราก็ทะเลาะกันเค้าก็บอกว่าเค้าพ่อของเค้าๆอยากตอบแทนบ้างพ่อแม่ใครใครก็รักจริงมั้ย เราก็หาเหตุผลร้อยแปดมาอ้างค่ะเราก็ยอมให้พ่อเค้าแค่ 10,000 เดียวพอ หลังจากที่ให้เงินไปแล้ว ประมาณห้าเดือน เราก็ไม่รู้ความจริงว่า พ่อไม่ได้เอาเงินที่ขอพวกเราไปทำในสิ่งที่ท่านขอแต่ท่านเอาเงินไปทำอย่างอื่น เราโกรธมากเลยค่ะตอนนี้ท่านก็อายุ 50 กว่าแล้วแต่ยังไม่มีบ้านเป็นของตัวเอง ไม่มีรถยนต์ ชอบกินเหล้ากินเบียร์ ชอบเล่นการพนัน เราชอบทะเลาะกับสามีเรื่องท่านประจำ ด้วยเหตุผลคิดว่าท่านมาขอเงินบ้างสามีเราอยากเอาเงินให้ทันบ้าง เราไม่ได้จะอคติอะไร เพียงแต่ตอนนี้เรากำลังสร้างตัวสร้างครอบครัวด้วยกันอยู่เราต้องเก็บเงินซื้อบ้านซื้อรถและสำหรับอนาคตลูก แต่พ่อของเค้าก็ไม่เคยนึกถึงจุดจุดนี้เลย มีครั้งหนึ่งที่เราทะเลาะกันเราเลยบอกพ่อเค้าไปว่าเราเลิกกันแล้ว พ่อเขาไม่แม้แต่จะถามเหตุผลหรืออะไรเลยผ่านมาประมาณเดือนนึงพอเขาจึง LINE มาถามว่าได้เมียใหม่แล้วเหรอ ผิดกับแม่เรามากที่เวลาเราทะเลาะกันแม่เราบอกให้ใช้ความอดทนและให้นึกถึงลูกไว้เสมอ อยากให้ลูกเป็นเหมือนตัวเองมั้ย คืดเอา เราก็คิดว่าทำไมพ่อเค้าถึงพูดแบบนี้ก้ได้แต่น้อยใจแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรไป และเค้าเคยขอเราว่าจะให้เงินพอเค้าทุกๆเดือนเท่ากับของพวกเรา แต่เราไม่ยอมค่ะ เราไม่รู้ว่าพ่อกับลูกเขาพูดอะไรกันแต่เราก็น้อยใจเพราะตลอดเวลาที่ลำบาก ทางฝ่ายเราจะเป็นคนช่วยเสมอและไม่เคยคิดที่จะหวังผลตอบแทนอะไรในเวลาที่แม่เราลำบากแม่เราก็ไม่ได้มาขอความช่วยเหลือจากพวกเราแต่แม่หาทางแก้ไขปัญหาเอง ถึงแม้ว่าเราจะ บอกว่าให้ พวกเราช่วยก็ได้แม่เราก็จะบอกว่าไม่เป็นไรเอาครอบครัวของตัวเองให้รอดก่อนถ้าแม่เอาเงินของพวกเรามาเดี๋ยวพวกเราไม่ได้ในสิ่งที่ตัวเองหวังสักที ขอแค่ลูกไม่มารบกวนแม่แม่ก็พอใจละ แม่เราจะเอาบ้านให้เราจะเอาที่นาทำกินให้พวกเรา แต่เราไม่ได้น้อยใจที่พ่อเขาไม่มีให้ เราแค่ไม่พอใจที่ว่ารบกวนเราบ่อยๆ โกหกบ้าง เราบอกกับสามีเราเสมอว่าตอนนี้ท่านพอมีแรงกายก็ให้โทรหาไปก่อนได้มั้ยไม่ใช่ว่าเค้าจะไม่ให้ตัวให้พอเลยแต่ตอนนี้เราก็กำลังสร้างเนื้อสร้างตัวเหมือนกัน เราอยากให้เรามีพร้อมถึงจะไม่ทุกอย่างแต่ก็ให้มีในระดับหนึ่งแล้วเราจึงจะยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือท่านตอนที่ท่านแก่ก็จะไม่ใช่เรานี่หรอที่เป็นดูแล เค้าก็จะว่าเราไม่รักพ่อเราบ้าง เราก็เคยพูดว่าลองให้นึกดูว่าถ้าเป็นเราเค้าจะน้อยใจไหมบอกว่าอยากได้หลานแต่ตอนนี้หลาน อายุสองขวบกว่าๆแล้วท่านยังไม่เคยที่จะมาเยี่ยมเลย เค้าบอกว่าพ่อเค้าไม่มีเงินถึงไม่ได้มาหา เราก็บอกไปว่าให้ไป 10,000 นึงเอาไปทำอะไรเสียค่ารถมาหาหลานไม่ถึงห้าร้อยด้วยซ้ำทำไมไม่มาก็เคยบอกไปแล้วด้วยว่าถ้ามาก็มาเลยเดี๋ยวยังไงจะให้ค่ารถอีกที ก็ไม่เห็นจะมาหาสักที งานแต่งก็ไม่ช่วยอะไรสักอย่าง(ในส่วนของฝ่ายชาย) เวลาจะไปหาย่า แม่ของเค้าแม่กับพ่อเลี้ยงเราก็จะเป็นคนพาไปตลอดเพราะเราขับรถไม่เป็นแล้วรถก็เป็นของพ่อเลี้ยงแล้ว เราอยากไปไหนอยากพาลูกไปทำอะไรเวลาลูกไม่สบายโทรเลี้ยงเราขับรถพาไปตลอด ผิดกับพ่อเค้ามากค่ะ แค่Line มาหาหลานยังไม่มีแต่เวลาอยากได้เงินโทรมาเลยค่ะ เราจึงไม่ชอบเอามากๆเลย
*** สามีเราเป็นคนขยัน เป็นคนดี เงินเดือนให้ครบตลอดบางเดือนอาจเยอะกว่าเดิมแต่ไม่มีน้อยลงจากที่เคยให้ ตามใจเราอยากได้อะไรซื้อให้แต่เรื่องพ่อของเค้านี่แหละค่ะที่ทำให้เราทะเลาะกันตลอดเราดีใจนะคะที่เค้าเป็นคนกตัญญูแต่ บางทีก็มากไปจนลืมนึกถึงจิตใจของเรา เราเต็มใจจะให้หากพ่อเค้าตั้งใจทำมาหากิน แต่นี่พ่อเค้าเล่นการพนัน ดื่มเหล้าดื่มเบียร์ทุกวันเราจึงไม่มีความศรัทธาในตัวท่านแล้ว รู้สึกไม่ชอบเอามากๆแต่ก็ ยอมรับเพราะ ท่านคือพ่อของสามีเรา แล้ว ถ้าเป็นคุณคุณมีความคิดเห็นอย่างไรคะ