คือว่าเรามีอาการของโรคซึมเศร้า​จริงไหม?

คือเราเหมือนมีอาการของโรคซึมเศร้า​ค่ะ เราไปทดสอบมา เขาบอกมีภาวะปานกลาง แต่เราไม่แน่ใจที่เราสังเกตุ​ตีวเรามานะคะ คือเรานอนดึก หลับๆตื่นๆ เดี๋ยว​หิวเดี๋ยว​ไม่หิว กินเยอะบ้าง กินน้ิยบ้าง  บางครั้งก็รู้สึกเหนื่อยกับชีวิต อยากตายบ้าง อยากอยู่บ้าง ตอนนี้เราอายุ14ปี2เดือน จะขึ้นม.3แล้ว เราเราจะทนไปอีก1ปีก็จะได้จบม.3

*เราถึงความเป็นมา

ตอนเด็กๆประมาณ​อนุบาล เราอยู่กับน้าและยาย พ่อแม่เลิกทางกัน แต่ยังติดต่อกันได้ แต่ก็มาอยู่ฝ่ายแม่แต่แม่ก็ทิ้งให้อยู่กับยายและน้า ตอนอนุบาลนั้นคือเราเป็นเด็กเงียบๆไม่พูดไม่จา ชอบเล่นคนเดียวไม่ยิ้มแย้มเหมือนคนอื่น เวลากลับบ้านมาน้าจะคอยสอนการบ้าน หรือบังคับให้อ่านเอบีซี เวลาเราอ่านไม่ได้อ่านผิดก็จะใช้ไม้แขวนเสื้อตีจนหลังลาย แต่มียายคอยห้ามตลอดเป็นแบบนี้จนเราอยู่ป.1ก็ย้ายไปอยู่กับย่า อยู่กับย่าดีทุกอย่างแต่ก็ลำบากเพราะพ่อไม่ค่อยส่งเงิน แล้วมีเราเป็นภาระเพิ่มอีก เราเลยย้ายไปอยู่กับแม่และพ่อเลี้ยงตอนป.3-5ก็ดีนิดหน่อยแม่เริ่มมีน้องมาก็สนใจแต่น้องเราก็เข้าใจว่าน้องยังเด็ก จนวันนึงเราโดนพ่อเลี้ยงจะข่มขืนโดนลวนลาม​แต่เราตื่นก่อนเพราะรู้สึกตัวเราเลยออกจากห้องแม่มาเพราะเราไปรอแม่ที่ห้อง เราไปอยู่ในห้องน้ำสักพักแม่ก็กลับมาแต่เราไม่กล้าบอกแม่ เราเลยรอพน. แต่พอพน.เราทะเลาะกับพ่อเลี้ยงเรื่องเมื่อคืนเราก็เลยพูดจารุนแรง แม่ก็เดินเข้ามาจะตบหน้าเรา ตอนนั้นเราเสียใจมาก พอมาป.6ก็อยู่กับยายดีทุกอย่าง จนเราม.1เราย้ายไปอยู่กับย่าต่อจนม.2ย้ายกลับเพราะปู่ชอบกินเหล้าแล้วมาโวยว้าย เราย้ายไปหายายต่อจนตอนนี้เรารู้สึกยายเปลี่ยนไปยายเอาแต่ด่าแต่ว่าเราไม่ถามเหตุผลเรา มาใช้เราตอนที่เราใกล้ตาย ไม่ค่อยอยากพาไปส่งโรงพยาบาล​ปล่อยให้เจียนตายจนแม่โทรมาบอกให้พาไปก็ไป และก็กลับบ้านมาต่อว่าเราต่อ เราเริ่มรู้สึกว่าทุกอย่างมันเริ่มแย่ลงทุกวันเราเหนื่อย เราท้อ เราเครียด เราอยากตายมากแต่เราก็ยังมีแฟนอยู่คบกันมา6-7เดือนคอยแลกปัญหา​ชีวิตกันตลอด เวลาเราเศร้าเค้าก็อยู่เป็นเพื่อน แต่ว่าเราสองคนอยู่ต่างจังหวัดกันเลยได้แค่ปลอบ ที่เรายังทนมาได้ก็ดพราะแฟน ตอนเราป.6เราก็ยังไม่มีความรู้สึกนึกคิดมาก จนมาม.1-3เราลองทบทวนก็รุ้สึกทุกอย่างเรามีความคิดเป็นของตัวเอง

#เราเป็นโรคซึมเศร้าเพราะเรื่องพวกนี้รึเปล่า ถ้าเราเป็นเราจะแก้ยังไง ขอร้องทุกคนช่วยทีนะคะ ขอบคุณ​ค่ะ🤕😊
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 3
แบบคัดกรองคือการประเมินเบื้องต้น หากอยู่ในขั้นปานกลาง คิดในแง่ดี ยังป้องกันไม่ให้เป็นโรคได้ค่ะ

จากที่เล่า จขกท มีชีวิตที่ยุ่งยากเอาเรื่อง ต้องเปลี่ยนที่อยู่อาศัยหลายครั้ง รู้สึกเห็นใจค่ะ แต่แม้จะยุ่งยาก สิ่งที่ได้ อาจคือความสามารถในการปรับตัว

จขกท เล่าว่ายายเปลี่ยนไป มองจากมุมคนนอก เชื่อ จขกท ก็เปลี่ยนแปลงไม่น้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หลังจากมีคนรัก ส่วนยายนั้น เมื่อแก่ลง อาจหงุดหงิดง่ายขึ้น เพราะร่างกายเริ่มไม่แข็งแรง ทำอะไรได้ไม่มากอย่างที่เคยทำได้ ช่วงเวลานี้เอง ที่ยายต้องการกำลังและความช่วยเหลือจากลูกหลาน

อายุยังน้อย เลือกคบหาคนที่ดี ไม่ว่าจะเพื่อนชาย และหรือกลุ่มเพื่อนชายหญิง ตั้งใจเรียนให้มาก และช่วยเหลือและดูแลยาย อย่างไรเสียท่านก็เลี้ยงดู จขกท มา หากคนเราทำหน้าที่ของตนเองถูกต้อง สุขภาพจิตจะแข็งแรงโดยอัตโนมัติ เพราะตนนับถือตนเองได้

เป็นทัศนะหนึ่งเท่านั้นค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่