เด็กใจแตก.... หมดทางเยียวยาแล้วใช่ไหม

กระทู้สนทนา
http://ppantip.com/topic/32838856

จากกระทู้นี้ เราเคยปรึกษาเรื่องย่าของตัวเองเมื่อปลายปีก่อน และได้รับคำแนะนำไปบางส่วน ต้องขอขอบคุณมากนะคะ สำหรับผู้ที่เคยเข้ามารับฟัง
สำหรับคนที่ไม่ทราบเรื่อง รบกวนช่วยกลับไปอ่านเหตุการณ์คราวก่อนให้หน่อยค่ะ เพราะตอนนี้ดูเหมือนปัญหามันจะเกิดขึ้นมาอีกแล้ว

และคราวนี้ เราพิมพ์แบบด้นสด ไม่ได้มีการพิมพ์ในเวิร์ดก่อนล่วงหน้าใดใด เพราะเรื่องนี้ต้องการคำปรึกษาแบบเร่งด่วน ได้ติดต่อสอบถามไปทางมูลนิธิกระจกเงาเพื่อขอคำปรึกษาแล้ว แต่ทางมูลนิธิก็มีเคสดูแลมากเลยไม่ได้คุยกันสักที ก็เลยอยากได้ความเห็นจากคนอื่นด้วยเช่นกันค่ะ  

หากข้อความพิมพ์ยาวเกินไป เราจะตัดขึ้นข้อความต่อไปในความเห็นนะคะ ไม่งั้น สิ่งที่พิมพ์ไปมันจะหายถ้าจำนวนคำเกินค่ะ
เราคงใช้เวลาและพิมพ์บรรยายให้จบทั้งหมดภายในวันนี้ ไม่ต้องการเรียกระแสใดใดทั้งสิ้น แค่อยากได้คำปรึกษาและความเห็นจริงๆค่ะ
แต่เนื่องจากพิมพ์สด ขอความกรุณาช่วยรับฟังเราหน่อยนะคะ

##########

จากโพสที่แล้ว ในที่สุดก็ได้ข้อสรุปแล้ว คือ ย่า (ยายทวดของหลาน) ต้องการกลับบ้าน เราก็ให้กลับ โดยทางเราเองก็หาคนดูแลลูกสาวช่วงเลิกเรียนได้ โดยฝากคุณป้าที่อยู่ในบริเวณใกล้กันช่วยดูแลลูกสาว วันละประมาณ 30 นาที โดยให้ค่าตอบแทนแก่นิดๆหน่อยๆ เพื่อให้สบายใจทั้งสองฝ่าย

ในส่วนของครอบครัวเราเอง ไม่เจอปัญหาใดๆ หลังจากย่ากลับไป ถ้าวันไหนเป็นวันหยุดของลูก เราก็จะหยุดสลับกับสามี หรือฝากป้าบ้างนานๆทีค่ะ
ส่วนในช่วงปิดเทอม เราก็ให้ลุกสาวไปเรียนซัมเมอร์ (ไม่ได้เน้นวิชาการ เน้นกิจกรรมทั่วๆไป แต่เป็นหลักสูตรแบบ English camp เพื่อให้ได้ภาษาไปในตัวแบบนี้ และช่วยแบ่งเบาภาระของพ่อแม่ที่ต้องไปทำงาน จะได้มีคนช่วยดูแลลูกได้)

ขอเข้าเรื่องของหลานสาว (ตอนนี้อายุ 13 ย่าง 14) ปกติ เวลานี้หลานควรได้เข้าเรียนชั้น ม.2 แต่เหตุการณ์กลับไม่เป็นแบบนั้น
เริ่มจากช่วงต้นปี หลวงตา ที่เป็นคนดูแลค่าใช้จ่ายให้หลานหลักๆ ได้ล้มป่วยและเสียชีวิตจากโรคร้าย บวกกับยายที่ทะเลาะกับลูกสาวเรื่องหลานสาว

เพราะแม่เด็กอยากแยกเด็กออกจากยายก่อน เพื่อให้สามารถสอนลูกตัวเองได้ แต่เนื่องจากยายมองว่า ลูกเขยใช้ความรุนแรงกับเด็ก
ลงโทษเด็กในการกระทำผิด เรื่องลักเล็กขโมยน้อย ประเด็นที่ยายเน้นคือ การทำโทษเด็กรุนแรง แต่ไม่เคยกล่าวโทษเรื่องพฤติกรรมลักขโมยของเด็กเลย

ทั้งยายและเด็กอ้างว่า ถูกตีอย่างรุนแรง แต่อีกทางหนึ่งคือ แม่และพ่อเลี้ยง กลับให้การไปอีกอย่าง (ข้อเท็จจริง ไม่ได้รับการพิสูจน์)
เราเคยสอบถามว่า ถ้าเด็กถูกทำร้ายรุนแรงจนเลือดตกยากออกจริง ทำไมไม่ถ่ายภาพไว้เป็นหลักฐาน ในเมื่อคุณก็มีมือถือ เล่นเฟสได้นี่นา (เราไม่ได้รับคำตอบในส่วนนี้ อีกทั้ง หลังเกิดเหตุที่พ่อเลี้ยงทำร้ายเด็ก ยายของเด็กพาหลานไปบ้านญาติ (พี่สาวของยาย) พี่สาวของยายเล่าว่า ไม่เห็นว่า ตามเนื้อตัวจะมีรอบฟกช้ำอะไร ที่บอกว่า เลือดออก ปากฉีกไม่มีร่องรอย ท่าทางของเด็กก็ปกติ

(เหตุการณ์ที่กล่าวอ้างว่า เด็กถูกทำร้ายร่างกายรุนแรง มีพ่อเลี้ยงเด็ก แม่เด็ก แต่ยายไม่ได้อยู่
ทั้งพ่อเลี้ยงและแม่เด็กให้การว่า ไม่ได้ทำร้ายรุนแรง ใช้ไม้ตีที่ก้นเด็ก ก่อนตีได้สอบถามด้วยว่า ความผิดนี้ควรตีกี่ที แล้วตีที่ก้นเด็ก
แต่ยายได้ฟังจากเด็ก โดยไ่ได้อยู่ในเหตุการณ์ เด็กเล่าว่า ถูกทำร้ายอย่างรุนแรง ยายเชื่อเด็ก โดยไม่มีร่องรอยที่พิสูจน์การทำร้ายรุนแรง นอกจากรอยถูกตีเป็นแนวที่ก้น บวมแดง แต่ไม่มีปากฉีก เลือดออก (เด็กอ้างว่า ถูกตบปากฉีก))

จากเหตุการณ์ข้างต้น ยายเด็กไม่ให้เด็กกับแม่ ตัดสินพาหลานย้ายออกมาอยู่เองกันสองคน

นั่นคือ เรื่องราวที่เราได้รับฟังเกี่ยวกับยายและหลานคู่นี้ (เรามีศักดิ์เป็นป้า เพราะเป็นลูกพี่ลูกน้องกับแม่เด็ก)
จนกระทั่ง เมือวานนี้ เราได้รับโทรศัพท์จากย่าอีกครั้ง

############

ย่าเริ่มต้นจากการบอกขอโทษเราที่ไม่ได้มาหาตอนช่วงที่ลูกเราปิดเทอม เราก็ไม่ได้ว่าอะไร ย่าสบายใจที่จะอยู่ที่ไหน ก็แล้วแต่ย่า อยากให้ย่าอยู่ที่ที่แกจะสบายใจที่สุด

แล้วย่าก็เริ่มเล่าเรื่อง หลานคนนี้ให้ฟัง พร้อมกับบอกว่า อยากพาหลานมาหลบที่บ้านเราสักพักหนึ่ง

นี่คือ สิ่งที่ย่าเล่าให้ฟัง

###########

หลังจากปิดเทอมได้ไม่นาน ก็มีเหตุการณ์ทำให้หลานหนีออกจากบ้านอีก (คาดว่า น่าจะเกิดจากตัวยายเด็กอีกแล้ว)
เด็กหนีไปอยู่กับกลุ่มเพื่อนใจแตก ทั้งสูบบุหรี่ เป็นเด็กแว๊นส์ และลักขโมยของ จนมีคนมาด่าย่าถึงที่บ้าน เพราะเค้าเห็นเด็กเข้าออกบ้านนี้

(ย่าอยู่บ้านพ่อเรา ส่วนหลานกับยายของหลานอยู่บ้านเช่าที่ห่างออกไปไม่มาก)

จนเป็นเหตุให้แม่เลี้ยงเราโมโหมาก และห้ามไม่ให้หลานมาวุ่นวายกับที่บ้านอีก เพราะนำเอาปัญหาเข้ามาที่บ้านตลอด

ภายหลังเมื่อยายเด็กตามตัวเด็กเจอ ก็พาเด็กไปฝากไว้ที่มูลนิธิสงเคราะห์แห่งหนึ่ง โดยให้เหตุผลว่า เด็กดื้อ ไม่ยอมดูแล ช่วยดูแลเด็กให้หน่อย กลัวเด็กจะเตลิดไปอีก
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่