คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 13
ตถาคตถามว่า ‘...เราจักถามพวกท่านนั่นแลว่าพวกท่านเข้าใจอย่างใด ควรตอบอย่างนั้น พวกท่านเข้าใจความข้อนั้นว่าอย่างไร
พระเจ้าพิมพิสารจอมทัพแคว้นมคธไม่ทรงเคลื่อนไหวพระวรกาย ไม่มีพระดำรัสสามารถเสวยสุขโดยส่วนเดียวอยู่ตลอด ๗ คืน ๗ วันหรือ’
พวกนิครนถ์ตอบว่า ‘ท่านพระโคดม ข้อนี้มิได้เป็นดังนั้น’
ตถาคตถามว่า ‘พวกท่านเข้าใจความข้อนั้นว่าอย่างไร พระเจ้าพิมพิสารจอมทัพแคว้นมคธไม่ทรงเคลื่อนไหวพระวรกาย ไม่มีพระดำรัส
สามารถเสวยสุขโดยส่วนเดียวอยู่ตลอด ๖ คืน ๖ วัน ... ๕ คืน ๕ วัน ... ๔ คืน ๔ วัน ...๓ คืน ๓ วัน ... ๒ คืน ๒ วัน
พระเจ้าพิมพิสารจอมทัพแคว้นมคธไม่ทรงเคลื่อนไหวพระวรกาย ไม่มีพระดำรัส สามารถเสวยสุขโดยส่วนเดียวอยู่ตลอด ๑ คืน ๑ วันได้หรือ’
พวกนิครนถ์ตอบว่า ‘ท่านพระโคดม ข้อนี้มิได้เป็นดังนั้น’
ตถาคตถามว่า ‘เราไม่เคลื่อนไหวกาย ไม่พูด สามารถเสวยสุขโดยส่วนเดียวอยู่ตลอด ๑ คืน ๑ วัน ... ๒ คืน ๒ วัน ... ๓ คืน ๓ วัน ... ๔ คืน ๔
วัน ... ๕ คืน ๕ วัน ... ๖ คืน ๖ วัน เราไม่เคลื่อนไหวกาย ไม่พูดสามารถเสวยสุขโดยส่วนเดียวอยู่ตลอด ๗ คืน ๗ วัน พวกท่านเข้าใจความข้อ
นั้นว่าอย่างไร เมื่อเป็นเช่นนี้ ใครเล่าจะอยู่เป็นสุขกว่ากัน พระเจ้าพิมพิสารจอมทัพแคว้นมคธหรือเราเอง’
พวกนิครนถ์ตอบว่า ‘เมื่อเป็นเช่นนี้ ท่านพระโคดมเท่านั้น อยู่เป็นสุขกว่าพระเจ้าพิมพิสารจอมทัพแคว้นมคธ”
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka2/m_siri.php?B=12&siri=14
**********************************
ลองถามตัวคุณเองที่ต้องผลุดลุกผลุดนั่ง เดินไปเดินมา ทำนั้นทำนี้ ฯลฯ เพื่ออะไร?
--- เพื่อแก้ทุกข์เฉพาะหน้า(เช่น ง่วง หิว เมื่อย เป็นต้น) ใช่หรือเปล่า? --- แล้วคนรวยมีทุกข์แบบนี้หรือเปล่า?
ปล. การเปลี่ยนแปลงของอริยาบถเป็นสิ่งปกปิดทุกข์ไว้
พระเจ้าพิมพิสารจอมทัพแคว้นมคธไม่ทรงเคลื่อนไหวพระวรกาย ไม่มีพระดำรัสสามารถเสวยสุขโดยส่วนเดียวอยู่ตลอด ๗ คืน ๗ วันหรือ’
พวกนิครนถ์ตอบว่า ‘ท่านพระโคดม ข้อนี้มิได้เป็นดังนั้น’
ตถาคตถามว่า ‘พวกท่านเข้าใจความข้อนั้นว่าอย่างไร พระเจ้าพิมพิสารจอมทัพแคว้นมคธไม่ทรงเคลื่อนไหวพระวรกาย ไม่มีพระดำรัส
สามารถเสวยสุขโดยส่วนเดียวอยู่ตลอด ๖ คืน ๖ วัน ... ๕ คืน ๕ วัน ... ๔ คืน ๔ วัน ...๓ คืน ๓ วัน ... ๒ คืน ๒ วัน
พระเจ้าพิมพิสารจอมทัพแคว้นมคธไม่ทรงเคลื่อนไหวพระวรกาย ไม่มีพระดำรัส สามารถเสวยสุขโดยส่วนเดียวอยู่ตลอด ๑ คืน ๑ วันได้หรือ’
พวกนิครนถ์ตอบว่า ‘ท่านพระโคดม ข้อนี้มิได้เป็นดังนั้น’
ตถาคตถามว่า ‘เราไม่เคลื่อนไหวกาย ไม่พูด สามารถเสวยสุขโดยส่วนเดียวอยู่ตลอด ๑ คืน ๑ วัน ... ๒ คืน ๒ วัน ... ๓ คืน ๓ วัน ... ๔ คืน ๔
วัน ... ๕ คืน ๕ วัน ... ๖ คืน ๖ วัน เราไม่เคลื่อนไหวกาย ไม่พูดสามารถเสวยสุขโดยส่วนเดียวอยู่ตลอด ๗ คืน ๗ วัน พวกท่านเข้าใจความข้อ
นั้นว่าอย่างไร เมื่อเป็นเช่นนี้ ใครเล่าจะอยู่เป็นสุขกว่ากัน พระเจ้าพิมพิสารจอมทัพแคว้นมคธหรือเราเอง’
พวกนิครนถ์ตอบว่า ‘เมื่อเป็นเช่นนี้ ท่านพระโคดมเท่านั้น อยู่เป็นสุขกว่าพระเจ้าพิมพิสารจอมทัพแคว้นมคธ”
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka2/m_siri.php?B=12&siri=14
**********************************
ลองถามตัวคุณเองที่ต้องผลุดลุกผลุดนั่ง เดินไปเดินมา ทำนั้นทำนี้ ฯลฯ เพื่ออะไร?
--- เพื่อแก้ทุกข์เฉพาะหน้า(เช่น ง่วง หิว เมื่อย เป็นต้น) ใช่หรือเปล่า? --- แล้วคนรวยมีทุกข์แบบนี้หรือเปล่า?
ปล. การเปลี่ยนแปลงของอริยาบถเป็นสิ่งปกปิดทุกข์ไว้
แสดงความคิดเห็น
คนที่รวยและมีทุกอย่างที่ต้องการ(สมมุติ) ยังต้องอยู่ใต้กฎ "ทุกขัง" หนึ่งในไตรลักษณ์ไหม
เรื่องอนัตตา ไม่ว่าจะมีทุกอย่างที่ต้องการย่อมอยู่ใต้กฎนี้
แต่เรื่องทุกขัง ถ้ามีทุกอย่างที่ต้องการยังจะอยู่ใต้กฎนี้ด้วยหรือ(ถ้าเป็นไปตามกฎนี้ กรุณาอธิบาย แบบยกตัวอย่าง)
ขอบคุณมาก