ลุงกับป้าแบ็คแพ็ครอบโลก ตะลุยสหรัฐอเมริกา เม็กซิโก อเมริกากลาง อเมริกาใต้ และอัฟริกา 26 ประเทศ 74 วัน ตอนที่ 14 อุทยานแก่งชาติ และ พิรามิด Tikal มรดกโลก กัวเตมาลา
(ตอนอยู่ตปท. ภาพนิ่งล้นไอโฟน จึงลบออกหลังโพสต์เพจแล้ว ส่วนพันทิปโหลดหน้ารีวิวไม่ได้ ต้องกลับมาทำใทย ตอนนี้ขอให้ชมยูทูปไปก่อน ถ้ารีบชมภาพนิ่ง ให้ไปที่เพจ ลุงกับป้าแบ็คแพ็ครอบโลก)
https://www.youtube.com/watch?v=fk9Q5uru0RA&index=9&list=PLNNEpgjidh3oCKG68o2D1556PUm4cZ-IN
https://www.youtube.com/watch?v=6-VCkB99VAg&index=10&list=PLNNEpgjidh3oCKG68o2D1556PUm4cZ-IN
https://www.youtube.com/watch?v=D2wd0MfzMlI&index=11&list=PLNNEpgjidh3oCKG68o2D1556PUm4cZ-IN
https://www.youtube.com/watch?v=57n9861_wpg&index=12&list=PLNNEpgjidh3oCKG68o2D1556PUm4cZ-IN
https://www.youtube.com/watch?v=dyUsQEtxlwQ&index=13&list=PLNNEpgjidh3oCKG68o2D1556PUm4cZ-IN
https://www.youtube.com/watch?v=oGnV2v-1nS4&index=14&list=PLNNEpgjidh3oCKG68o2D1556PUm4cZ-IN
https://www.youtube.com/watch?v=VY2KzHffDzY&index=15&list=PLNNEpgjidh3oCKG68o2D1556PUm4cZ-IN
https://www.youtube.com/watch?v=73CbmG4LYgo&index=16&list=PLNNEpgjidh3oCKG68o2D1556PUm4cZ-IN
เสาร์ 25 มิ.ย. ตื่นเตรียมตัวรอรถมารับ ไฟดับก่อนรถมารับ ต้องออกไปรอข้างนอก บนฟ้ายังมีดาว ไฟดับคงเป็นเรื่องธรรมดาของคนบนเกาะนี้
น้องฝรั่งเศส กับ แคนาดา ไปรถคันเดียวกับเราด้วย
รถมารับ 04.40 น. วนเข้าซอยไปรับคนตามโรงแรม แล้วออกจากเกาะไปตามถนนที่วิ่งเรียบ ผ่านหมู่บ้านและป่าเขาไปเรื่อยๆ
ที่นั่งข้างคนขับสำรองไว้ 2 ที่ ที่นั่งหลังคนขับมี 3 ที่ แต่ผู้หญิงคนหนึ่งนั่งกลาง ทำท่าเหมือนคนขึ้นรถทางไกลในสหรัฐอเมริกา และเม็กซิโก ที่ทำท่าขวางไว้ เหมือนเจ้าของที่ยังไม่ขึ้นมา เรานั่งเบาะถัดไป มีนักท่องเที่ยวชายตัวผอมสูงขึ้นมานั่งข้างลุง สองสาวที่เรารู้จัก และคนอื่นๆ นั่งเบาะหลัง
ตอนแรกยังได้ยินเสียงคุย พอรถวิ่งออกจากตัวเมืองไปประมาณ 20 นาที ทุกอย่างก็เงียบ หนุ่มสาวด้านหลังหลับกันหมด
รถจอดรับคนขึ้นไปนั่งข้างหน้า 1 คน หญิงที่นั่งหลังคนขับยังไม่ยอมขยับ คนที่ขึ้นมาใหม่นั่งบนบันไดข้างประตู พอรถวิ่งไปได้สักครู่เขาขยับขึ้นมานั่งบนเบาะ ผู้หญิงคนนั้นมองด้วยสายตาไร้แวว อีกครู่หนึ่ง รถจอดรับผู้ชายอีกคนหนึ่งรูปร่างอ้วนใหญ่ 2 คน คนหนึ่งขึ้นข้างหน้า อีกคนหนึ่งขึ้นข้างหลัง ผู้หญิงยังคงนั่งเฉย
ผู้ชายที่ขึ้นมาใหม่แทรกตัวผ่านผู้ชายที่นั่งริม ก้าวข้ามผู้หญิงไปนั่งติดหน้าต่าง ข้างหน้าป้า ผู้หญิงมองด้วยสายตาไม่พอใจ ถนนและบรรยากาศรอบๆ ปกคลุมไปด้วยหมอกหนา ร้านค้าริมถนนก่อไฟฟืนในเตาดินที่ปั้นเองลุกโชน จนมีถ่านแดงๆ รถจอดที่ร้านหนึ่ง คนข้างหน้าเป็นขาประจำ พอรถจอดแม่ค้าก็เปิดกระติก หยิบแผ่นแป้งปิ้งใส่ถุงพลาสติกบางๆ คนอ้วนใหญ่ลงไปรับพร้อมกับจ่ายเงิน เขาเปิดถุงแป้งปิ้งหอมฉุย แจกกัน 3 คนข้างหน้ารถ ลุงแอบอิจฉาเพราะเป็นคนชอบของปิ้ง ย่าง อย่างข้าวจี่ ข้าวเกรียบว่าว ข้าวเกรียบเมืองเพชร
พอสว่างก็เห็นบ้านเรือนที่มีหลังคาสังกะสี มีการยกเหลี่ยมหลังคาเล็กน้อย บ้านเริ่มมีสีสัน แม้จะไม่ใหญ่โต แต่ละบ้านมีเปลยวนแขวนอยู่ รถไปถึงทางเข้าอุทยานเวลา 05.40 น. คนตัวอ้วนใหญ่เปิดประตูลงจากหน้ารถ มาเปิดประตูที่ผู้โดยสารส่วนใหญ่นั่งอยู่ เขาแนะนำตัวว่าเขา ชื่อ Samuel เป็นไกด์
เขาบอกว่า เราต้องรอเวลาอุทยานเปิดอีก 20 นาที พอไปถึง หลังรถจอดให้เราไปเข้าห้องน้ำ และกินอาหารเช้า ก่อนเข้าไปชมด้านใน ลุงเดินอ้าวๆ ข้ามถนน เดินไปตามทางเดินที่ลับตาเพื่อยิงกระต่าย ป้าตามไปเก็บดอกไม้ด้วย หลังจากที่เราเดินกลับออกมา มีคนอื่นๆ ทำตามบ้าง ไกด์ชี้ไปฝั่งตรงข้าม มีลิงห้อยโหนอยู่มากมาย
มีมาดามคนหนึ่งส่งกล้องส่องทางไกลให้ป้าลองส่องดู ป้าคิดว่า เธอมารถคันเดียวกัน แต่นั่งข้างหลัง ตอนขึ้นรถจึงรู้ว่า เธอมารถของตัวเองกับครอบครัว
พอไปถึงจุดที่ไกด์บอกทุกคนลงรถไปในร้านอาหารที่มีแซนด์วิชวางอยู่ในถาด กับอุปกรณ์ชงกาแฟ ทุกคนช่วยตัวเอง ลุงไม่ให้หยิบเพราะอยากกินอาหารท้องถิ่น แต่ความจริง คือ ไม่เสียตังค์ มารู้ทีหลัง ป้าโดนอีกดอก....แต่มีคนไม่รู้เหมือนเราเกินครึ่ง เพราะไกด์ไม่ได้บอกว่าฟรี มีไกด์อีกคนมารับช่วงต่อ
เขาเก่งมาก พาไปดูแผนที่เดินทาง แล้วพาไปตามจุดต่างๆ เริ่มตั้งแต่ต้นบาโอบาบ. .
...ต้นบาโอบาบ ต้นไม้ใหญ่ที่แทบจะไร้ใบ โคนต้นใหญ่ มีครีบกางออกทถกด้าน ส่วนยอดเป็นกิ่งที่แผ่ออกไปในระดับเดียวกันเหมือนการแบมือ กางนิ้วมือชี้ออกไป แล้วกระดกปลายนิ้วชี้นสู่สวรรค์ ตามความเชื่อที่ว่า สรรพสิ่งล้วนมีกำเนิดจากทะเล แล้วขึ้นสู่สรวงสวรรค์ เหมือนกษัตริย์ของมายัน ตามกิ่งของบาโอบาบ มีพืชอิงอาศัยชนิดหนึ่งเกาะอยู่เต็มไปหมด ทีลักษณะกึ่งหญ้า กึ่งกล้วยไม้ แต่ไม่มีดอก
ก่อนที่จะชมพลาซ่าที่แบ่งตามทิศ ไกด์พาไปชมภาพถ่ายทางอากาศ เพื่อให้ทราบพิกัด ของสิ่งก่อสร้างต่างๆ ที่อยู่ในดงไม้ของป่าในเขตร้อนชื้น
เขาบอกว่า คาบสมุทรยูคาตาน ประกอบด้วยที่ราบ ที่ราบสูง และภูเขา ที่มีหินมากมาย มายันอาศัยอยู่ตามส่วนต่างๆ โดยแบ่งพื้นที่ให้ชนชั้นล่างอยู่ที่ราบ ปลูกพืช เลี้ยงสัตว์ คนชั้นกลางอยู่ตามไหล่เขา ส่วนชนชั้นสูงอยู่บนที่ราบสูง คนชั้นกลางทำงานรับใช้ชนชั้นสูง แบกหินขึ้นเขาไปสร้างสิ่งก่อสร้างที่ทำด้วยหิน โดยใช้หินปูนที่มีอยู่มากมาย ไปสกัดเป็นรูปร่างต่างๆ จากเครื่องมือที่เป็นหินแกรนิต ทำให้กลมกลึงโดยการเจียน ส่วนขนาดก็ใช้สายตาเล็ง
บรรดาปิรามิดทั้งหลายที่เห็นอยู่ ไม่ได้ใช้อยู่อาศัย มีไว้สำหรับให้ชนชั้นสูงประกอบพิธีกรรม ต่างๆ รวมทั้งชมการแสดง สังเกตการณ์รอบเมือง และเป็นลานประหาร มีวัดอยู่ 6 ทิศ แต่ละวัดมีพลาซ่า หรือ ลานกว้างบนที่ราบสูงไร้ต้นไม้ บดบังทัศนียภาพเมื่อมองจากด้านบน พลาซ่าใหญ่ คาดว่า เป็นที่ฝังศพของกษัตริย์ที่ให้สร้างพลาซ่า เพราะข้างในปิรามิด เป็นอุโมงค์ใหญ่ ลึกลงไปเป็นหลุมฝังศพ บรรจุโลงศพที่ห่อด้วยวัตุมีพิษ ศพที่พบมีอัญมณีห่อหุ้ม ตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า มีหน้ากากด้วย ด้านหน้าปิรามิดกลาง เป็นจุดที่ตั้งอ่างหินกลม มีแผ่นหินใหญ่ตั้งอยู่ด้านหลัง ถ้าไปยืนตบมือตรงนั้น จะได้ยินเหมือนเสียงนกร้อง นกตัวใหญ่สีสวย เป็นสัญลักษณ์ของกัวเตมาลา ป้าฟังไม่ถนัดว่ามันชื่อนกอะไร
ในป่ามีลิงอยู่ 2 สายพันธุ์สีดำ กับสีน้ำตาล เสียงร้องของลิงเหมือนเสียงคำรามของสัตว์ร้ายที่เขาเอาไปทำเป็นเสียงประกอบในภาพยนตร์ บริเวณปิรามิดหมายเลข 9 เป็นที่ที่เขาทำบันไดเชือกไว้ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง สตาร์วอร์ เขาไม่ได้บอกว่าภาคไหน หรือบอกแต่ป้าฟังไม่ทัน 🙂
สิ่งก่อสร้างหลายส่วนสร้างมาประมาณ 1,890 ปี ได้รับการบูรณะหลายครั้ง ปิรามิดที่สูงที่สุดยูเนสโก ได้รวบรวมสถาปนิก และวิศวกรจากหลายชาติ มาช่วยกันเพื่อให้มีความคงทนตราบนานเท่านาน เขาพูดถึงชาตินั้นชาตินี้ พอพูดว่า ญี่ปุ่น เขามองหน้าป้า แล้วยักคิ้ว 🙂 เราเดินไปไหน มักจะได้ยินแต่เสียงทัก โอ่ไฮ้โย กับ คอมบังวะ
มีเรา 2 คนเท่านั้นที่เป็นมนุษย์แปลกปลอม ท่ามกลางคนอื่นๆ โดยเฉพาะคณะที่ขึ้นอุทยานแห่งชาติติกัลวันนี้ เป็นคนผิวขาวล้วนๆ เรานอกจากจะแปลกปลอมแล้ว เรายังใส่เสื้อแขนยาว กางเกงขายาว ในขณะที่คนอื่นใส่เสื้อผ้า ตัวเล็กๆ สาวๆ ใส่ชุดเหมือนจะไปเล่นน้ำ สาวคาซัคฯ อีกคนที่สวมปลอกแขน อีกคนเป็นหนุ่มเบลเยี่ยม ใส่ยีนส์ขายาว แต่เสื้อยืดแขนสั้น
โครงการนี้เริ่มตั้งแต่ปี 2004 ทำงานเฉพาะวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย วันละ 10 ชม. ใช้สลิงชักลอกวัสดุ ขึ้นไปซ่อม เพื่อไม่ให้ส่วนที่ยังสมบูรณ์อยู่หลุดร่วงลงมา
ทุกๆ พลาซ่า มีแมงมุมยักษ์อยู่ในรูใต้พื้นหญ้า เขาใช้ดอกหญ้าปั่นรู เพื่อให้แมงมุมคิดว่า มีแมลงตัวเล็กหลุดรอดเข้าไป สักครู่ก็มีแมงมุมยักษ์ติดดอกหญ้าขึ้นมา เขาจับมันวางบนมือ ให้มันเดินไปมา เขาบอกว่า ตัวผู้ไม่ทำร้ายคน และไม่มีพิษ แต่ตัวเมียดุ และมีพิษ
มีหญ้าไมยราพต้นเล็กๆ ที่คนทั่วไปไม่รู้จัก พากันลองแตะที่ใบ พอมันหุบก็ตื่นเต้น คนเกิดชนบทอย่างเรา เห็นแล้วเฉยๆ
มีต้นบอลที่เขาเอาลูกมันไปเล่นเกม ที่เราเห็นสถานที่ชมการแข่งขันบอลเกม มีอัฒจันทร์ 2 ด้าน สำหรับกษัตริย์ และชนชั้นสูง ที่ เมืองเก่า ชิเช่น อิทซ่า ในเม็กซิโก
กษัตริย์มายาบอกว่า ต้นตระกูลเป็นผู้เนรมิตข้าวโพดสารพัดสี ให้ผุดขึ้นมาเลี้ยงโลก ชาวมายัน เอาข้าวโพดทุกสีมาบด รวมกับมันสำปะหลัง ใส่ถั่ว กับเครื่องปรุงอย่างอื่นแต่งกลิ่นด้วยใบพากินไพน์ ออกมาเป็นแก๊สกาเล็ต แพนเค้ก พื้นเมืองแสนอร่อย
ก่อนจะไปชมจุดที่ 2 และพลาซ่าหลัก ไกด์บอกว่า ตรงทางแยกเป็น จุดที่เรียกว่า The Lost World เพราะมีคนหายไป 5 คน เมื่อ 7 ปีที่แล้ว คนที่หายไปนานที่สุด เป็นชาวสวีเดน เขามีอาหาร และน้ำติดเป้ไป ประทังขีวิตแค่วันเดียว
เขาอยู่ในจุดที่ห่างจาก เดอะลอสต์เวิร์ล 9 ไมล์ สิ่งที่เขาใช้ทำเครื่องหมายคือกระดาษจากแผนที่ เขียนบอกว่า เขาหลงทาง เขาทำเครื่องหมายจนกระดาษหมด มีชีวิตด้วยน้ำ จากน้ำตก และผลไม้ป่าที่กืนเลียนแบบสัตว์ สัตว์ป่าชุกชุมมาก ถนนดีๆ ในกัวเตมาลา มีคลื่นจำกัดความเร็วเป็นระยะโดยไม่ต้องเขียนบอก แต่ทางขึ้นอุทยานแห่งขาติติกัล เขียนบอกบริเวณที่สัตว์มักเดินผ่าน โดยให้จำกัดความเร็วไม่เกิน 50 กม/ชม
ผู้หญิงคนที่นั่งข้างหน้าเรา ขอให้เราถ่ายรูปให้ เธอมาจากคาชัคสถาน ที่เราทายว่า เราทายว่าเธอมาจากที่ที่ชอบนั่งขวางที่นั่งไว้าำหรับนอน เป็นการทายผิด
ตอนหลังเธอประกบไกด์แบบที่ใช้ตัวเข้าแลก เป็นอะไรที่แปลกสำหรับคนที่ร่วมคณะ ดูเหมือนทุกคนจะรู้ ตอนหลังจึงไม่มีใครอยู่ใกล้ไกด์ พอฟังบรรยายเสร็จ ต่างก็แยกย้ายกันไป ให้ห่างๆ มีแต่ลุงที่ไม่เคยสังเกตใคร สงสัยอะไรก็บอกให้ป้าไปถามไกด์ๆ 😞
ที่จุดสุดท้ายนอกจากจะมีปิรามิดสูง ใหญ่ 4 ทิศ แล้ว ยังมีต้นไม้ใหญ่ที่มีเคราฤาษี แขวนระโยงระยาง บ่งบอกว่า มีความชื้นสูง อีกด้วย
พอไกด์บอกว่า จุดสุดท้ายแล้ว ใครที่จะกลับรถเที่ยวแรก เวลา 11.00 น. ให้ออกจากที่นั่นไม่เกิน 10.15 น. เราใช้วิธีบอกลาไกด์ ที่นั่งอยู่สองคนกับหญิงคาซัคฯ ในระยะ 100 เมตร โดยการโบกมือ เมื่อเห็นเขาโบกมือตอบ เราก็ออกเดินกลับ เจอคนพื้นเมืองมาขายของ เราใช้วิธีเนียนแอบถ่ายรูป
วันนี้วันเสาร์มีคนมาหลายคณะ แต่ไกด์บอกว่า ตัวไกด์เองต้องเก็บของกลับ เพราะวันจันทร์มหาวิทยาลัยเปิด พรุ่งนี้ต้องกลับไปเตรียมตัวต้อนรับเปิดเทอม มิน่าล่ะ ถึงรู้ดี เขาบรรยาย และยกตัวอย่างประกอบได้สุดยอด 🙂
ตอนเดินออกมา เจอไกด์อีกหลายคณะ มีไกด์คนหนึ่ง ถือ ไม้เหมือนไม้เท้ากายาสิทธิ์ เราสวนกับคณะของเขาอยู่หน้ต้นบาโอบาบ เขาอธิบาย และออกท่าทาง น่าตื่นเต้น ป้าจึงให้ลุงบันทึกภาพไว้ สวนกับคนกัวเตมาลา ไปเที่ยวกันเองไม่มีไกด์ ป้าจำเขา ทักทาย โอ๊ลา โอ๊ลา กับ อาดิเยิส บอกลา ไปตลอดทาง สนุกดี พวกที่พูดภาษาสเปน นี่เหมือนเมียนม่าร์ กับคนไทยในชนบท ห่างไกล ที่เห็นใครก็ยิ้ม ทักทาย แล้วคุยกันน้ำไหลไฟดับ ราวกับว่า รู้จักกันมาเป็น 10 ปี เหมือนน้องฝรั่งเศสกับ แคนาดา ที่เจอกันเมื่อวาน คุยกันตั้งแต่ขึ้นรถ จนลงรถยังไม่หยุดคุย แต่เมื่อเช้า คุยกันตอนขึ้นรถ แล้วเงียบเพราะหลับ คงคุยกันต่อตอนกลางคืนจนหมดเรื่องคุยไปแล้ว 🙂
ขากลับรถไปรับตรงเวลา อยู่ดีๆ คนขับก็เบรก คนที่จัดคิวขึ้นรถ บอกว่า ชะมด กำลังขนครอบครัว ข้ามถนน ... ว้าววว! น่ารักมาก...มีทั้งพ่อ แม่ ลูกตัวเล็กๆ หลายครอบครัว กว่าจะข้ามหมด ก็หลายนาที
ขาไปใช้เวลา ชั่วโมงครึ่ง เพราะวนไปรับคน ตอนฟ้ายังไม่เปิด และขึ้นเขา แต่ขากลับ รถลงเขา และวิ่งยาว ใช้เวลาแค่ชั่วโมงเดียวตอนอยู่บนรถ คนส่วนใหญ่ก็หลับกันอีก เพราะเมื่อวานเดินทางไกล เช้านี้ยังตื่นแต่เช้า ...แต่มันเป็นประสบการณ์ที่คุ้มค่า ด้วยราคาตนละ ประมาณ 1,500 บาท ไม่รวมค่าที่พัก ค่าเครื่องบิน และค่าอาหาร
(ยังมีต่อ)
[CR] ลุงกับป้าแบ็คแพ็ครอบโลก ตะลุยสหรัฐ เม็กฯ เมกากลาง เมกาใต้ อัฟริกา 26 ประเทศ 74วัน ตอน 14 พิรามิด Tikal มรดกโลก กัวเตมาลา
(ตอนอยู่ตปท. ภาพนิ่งล้นไอโฟน จึงลบออกหลังโพสต์เพจแล้ว ส่วนพันทิปโหลดหน้ารีวิวไม่ได้ ต้องกลับมาทำใทย ตอนนี้ขอให้ชมยูทูปไปก่อน ถ้ารีบชมภาพนิ่ง ให้ไปที่เพจ ลุงกับป้าแบ็คแพ็ครอบโลก)
https://www.youtube.com/watch?v=fk9Q5uru0RA&index=9&list=PLNNEpgjidh3oCKG68o2D1556PUm4cZ-IN
https://www.youtube.com/watch?v=6-VCkB99VAg&index=10&list=PLNNEpgjidh3oCKG68o2D1556PUm4cZ-IN
https://www.youtube.com/watch?v=D2wd0MfzMlI&index=11&list=PLNNEpgjidh3oCKG68o2D1556PUm4cZ-IN
https://www.youtube.com/watch?v=57n9861_wpg&index=12&list=PLNNEpgjidh3oCKG68o2D1556PUm4cZ-IN
https://www.youtube.com/watch?v=dyUsQEtxlwQ&index=13&list=PLNNEpgjidh3oCKG68o2D1556PUm4cZ-IN
https://www.youtube.com/watch?v=oGnV2v-1nS4&index=14&list=PLNNEpgjidh3oCKG68o2D1556PUm4cZ-IN
https://www.youtube.com/watch?v=VY2KzHffDzY&index=15&list=PLNNEpgjidh3oCKG68o2D1556PUm4cZ-IN
https://www.youtube.com/watch?v=73CbmG4LYgo&index=16&list=PLNNEpgjidh3oCKG68o2D1556PUm4cZ-IN
เสาร์ 25 มิ.ย. ตื่นเตรียมตัวรอรถมารับ ไฟดับก่อนรถมารับ ต้องออกไปรอข้างนอก บนฟ้ายังมีดาว ไฟดับคงเป็นเรื่องธรรมดาของคนบนเกาะนี้
น้องฝรั่งเศส กับ แคนาดา ไปรถคันเดียวกับเราด้วย
รถมารับ 04.40 น. วนเข้าซอยไปรับคนตามโรงแรม แล้วออกจากเกาะไปตามถนนที่วิ่งเรียบ ผ่านหมู่บ้านและป่าเขาไปเรื่อยๆ
ที่นั่งข้างคนขับสำรองไว้ 2 ที่ ที่นั่งหลังคนขับมี 3 ที่ แต่ผู้หญิงคนหนึ่งนั่งกลาง ทำท่าเหมือนคนขึ้นรถทางไกลในสหรัฐอเมริกา และเม็กซิโก ที่ทำท่าขวางไว้ เหมือนเจ้าของที่ยังไม่ขึ้นมา เรานั่งเบาะถัดไป มีนักท่องเที่ยวชายตัวผอมสูงขึ้นมานั่งข้างลุง สองสาวที่เรารู้จัก และคนอื่นๆ นั่งเบาะหลัง
ตอนแรกยังได้ยินเสียงคุย พอรถวิ่งออกจากตัวเมืองไปประมาณ 20 นาที ทุกอย่างก็เงียบ หนุ่มสาวด้านหลังหลับกันหมด
รถจอดรับคนขึ้นไปนั่งข้างหน้า 1 คน หญิงที่นั่งหลังคนขับยังไม่ยอมขยับ คนที่ขึ้นมาใหม่นั่งบนบันไดข้างประตู พอรถวิ่งไปได้สักครู่เขาขยับขึ้นมานั่งบนเบาะ ผู้หญิงคนนั้นมองด้วยสายตาไร้แวว อีกครู่หนึ่ง รถจอดรับผู้ชายอีกคนหนึ่งรูปร่างอ้วนใหญ่ 2 คน คนหนึ่งขึ้นข้างหน้า อีกคนหนึ่งขึ้นข้างหลัง ผู้หญิงยังคงนั่งเฉย
ผู้ชายที่ขึ้นมาใหม่แทรกตัวผ่านผู้ชายที่นั่งริม ก้าวข้ามผู้หญิงไปนั่งติดหน้าต่าง ข้างหน้าป้า ผู้หญิงมองด้วยสายตาไม่พอใจ ถนนและบรรยากาศรอบๆ ปกคลุมไปด้วยหมอกหนา ร้านค้าริมถนนก่อไฟฟืนในเตาดินที่ปั้นเองลุกโชน จนมีถ่านแดงๆ รถจอดที่ร้านหนึ่ง คนข้างหน้าเป็นขาประจำ พอรถจอดแม่ค้าก็เปิดกระติก หยิบแผ่นแป้งปิ้งใส่ถุงพลาสติกบางๆ คนอ้วนใหญ่ลงไปรับพร้อมกับจ่ายเงิน เขาเปิดถุงแป้งปิ้งหอมฉุย แจกกัน 3 คนข้างหน้ารถ ลุงแอบอิจฉาเพราะเป็นคนชอบของปิ้ง ย่าง อย่างข้าวจี่ ข้าวเกรียบว่าว ข้าวเกรียบเมืองเพชร
พอสว่างก็เห็นบ้านเรือนที่มีหลังคาสังกะสี มีการยกเหลี่ยมหลังคาเล็กน้อย บ้านเริ่มมีสีสัน แม้จะไม่ใหญ่โต แต่ละบ้านมีเปลยวนแขวนอยู่ รถไปถึงทางเข้าอุทยานเวลา 05.40 น. คนตัวอ้วนใหญ่เปิดประตูลงจากหน้ารถ มาเปิดประตูที่ผู้โดยสารส่วนใหญ่นั่งอยู่ เขาแนะนำตัวว่าเขา ชื่อ Samuel เป็นไกด์
เขาบอกว่า เราต้องรอเวลาอุทยานเปิดอีก 20 นาที พอไปถึง หลังรถจอดให้เราไปเข้าห้องน้ำ และกินอาหารเช้า ก่อนเข้าไปชมด้านใน ลุงเดินอ้าวๆ ข้ามถนน เดินไปตามทางเดินที่ลับตาเพื่อยิงกระต่าย ป้าตามไปเก็บดอกไม้ด้วย หลังจากที่เราเดินกลับออกมา มีคนอื่นๆ ทำตามบ้าง ไกด์ชี้ไปฝั่งตรงข้าม มีลิงห้อยโหนอยู่มากมาย
มีมาดามคนหนึ่งส่งกล้องส่องทางไกลให้ป้าลองส่องดู ป้าคิดว่า เธอมารถคันเดียวกัน แต่นั่งข้างหลัง ตอนขึ้นรถจึงรู้ว่า เธอมารถของตัวเองกับครอบครัว
พอไปถึงจุดที่ไกด์บอกทุกคนลงรถไปในร้านอาหารที่มีแซนด์วิชวางอยู่ในถาด กับอุปกรณ์ชงกาแฟ ทุกคนช่วยตัวเอง ลุงไม่ให้หยิบเพราะอยากกินอาหารท้องถิ่น แต่ความจริง คือ ไม่เสียตังค์ มารู้ทีหลัง ป้าโดนอีกดอก....แต่มีคนไม่รู้เหมือนเราเกินครึ่ง เพราะไกด์ไม่ได้บอกว่าฟรี มีไกด์อีกคนมารับช่วงต่อ
เขาเก่งมาก พาไปดูแผนที่เดินทาง แล้วพาไปตามจุดต่างๆ เริ่มตั้งแต่ต้นบาโอบาบ. .
...ต้นบาโอบาบ ต้นไม้ใหญ่ที่แทบจะไร้ใบ โคนต้นใหญ่ มีครีบกางออกทถกด้าน ส่วนยอดเป็นกิ่งที่แผ่ออกไปในระดับเดียวกันเหมือนการแบมือ กางนิ้วมือชี้ออกไป แล้วกระดกปลายนิ้วชี้นสู่สวรรค์ ตามความเชื่อที่ว่า สรรพสิ่งล้วนมีกำเนิดจากทะเล แล้วขึ้นสู่สรวงสวรรค์ เหมือนกษัตริย์ของมายัน ตามกิ่งของบาโอบาบ มีพืชอิงอาศัยชนิดหนึ่งเกาะอยู่เต็มไปหมด ทีลักษณะกึ่งหญ้า กึ่งกล้วยไม้ แต่ไม่มีดอก
ก่อนที่จะชมพลาซ่าที่แบ่งตามทิศ ไกด์พาไปชมภาพถ่ายทางอากาศ เพื่อให้ทราบพิกัด ของสิ่งก่อสร้างต่างๆ ที่อยู่ในดงไม้ของป่าในเขตร้อนชื้น
เขาบอกว่า คาบสมุทรยูคาตาน ประกอบด้วยที่ราบ ที่ราบสูง และภูเขา ที่มีหินมากมาย มายันอาศัยอยู่ตามส่วนต่างๆ โดยแบ่งพื้นที่ให้ชนชั้นล่างอยู่ที่ราบ ปลูกพืช เลี้ยงสัตว์ คนชั้นกลางอยู่ตามไหล่เขา ส่วนชนชั้นสูงอยู่บนที่ราบสูง คนชั้นกลางทำงานรับใช้ชนชั้นสูง แบกหินขึ้นเขาไปสร้างสิ่งก่อสร้างที่ทำด้วยหิน โดยใช้หินปูนที่มีอยู่มากมาย ไปสกัดเป็นรูปร่างต่างๆ จากเครื่องมือที่เป็นหินแกรนิต ทำให้กลมกลึงโดยการเจียน ส่วนขนาดก็ใช้สายตาเล็ง
บรรดาปิรามิดทั้งหลายที่เห็นอยู่ ไม่ได้ใช้อยู่อาศัย มีไว้สำหรับให้ชนชั้นสูงประกอบพิธีกรรม ต่างๆ รวมทั้งชมการแสดง สังเกตการณ์รอบเมือง และเป็นลานประหาร มีวัดอยู่ 6 ทิศ แต่ละวัดมีพลาซ่า หรือ ลานกว้างบนที่ราบสูงไร้ต้นไม้ บดบังทัศนียภาพเมื่อมองจากด้านบน พลาซ่าใหญ่ คาดว่า เป็นที่ฝังศพของกษัตริย์ที่ให้สร้างพลาซ่า เพราะข้างในปิรามิด เป็นอุโมงค์ใหญ่ ลึกลงไปเป็นหลุมฝังศพ บรรจุโลงศพที่ห่อด้วยวัตุมีพิษ ศพที่พบมีอัญมณีห่อหุ้ม ตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า มีหน้ากากด้วย ด้านหน้าปิรามิดกลาง เป็นจุดที่ตั้งอ่างหินกลม มีแผ่นหินใหญ่ตั้งอยู่ด้านหลัง ถ้าไปยืนตบมือตรงนั้น จะได้ยินเหมือนเสียงนกร้อง นกตัวใหญ่สีสวย เป็นสัญลักษณ์ของกัวเตมาลา ป้าฟังไม่ถนัดว่ามันชื่อนกอะไร
ในป่ามีลิงอยู่ 2 สายพันธุ์สีดำ กับสีน้ำตาล เสียงร้องของลิงเหมือนเสียงคำรามของสัตว์ร้ายที่เขาเอาไปทำเป็นเสียงประกอบในภาพยนตร์ บริเวณปิรามิดหมายเลข 9 เป็นที่ที่เขาทำบันไดเชือกไว้ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง สตาร์วอร์ เขาไม่ได้บอกว่าภาคไหน หรือบอกแต่ป้าฟังไม่ทัน 🙂
สิ่งก่อสร้างหลายส่วนสร้างมาประมาณ 1,890 ปี ได้รับการบูรณะหลายครั้ง ปิรามิดที่สูงที่สุดยูเนสโก ได้รวบรวมสถาปนิก และวิศวกรจากหลายชาติ มาช่วยกันเพื่อให้มีความคงทนตราบนานเท่านาน เขาพูดถึงชาตินั้นชาตินี้ พอพูดว่า ญี่ปุ่น เขามองหน้าป้า แล้วยักคิ้ว 🙂 เราเดินไปไหน มักจะได้ยินแต่เสียงทัก โอ่ไฮ้โย กับ คอมบังวะ
มีเรา 2 คนเท่านั้นที่เป็นมนุษย์แปลกปลอม ท่ามกลางคนอื่นๆ โดยเฉพาะคณะที่ขึ้นอุทยานแห่งชาติติกัลวันนี้ เป็นคนผิวขาวล้วนๆ เรานอกจากจะแปลกปลอมแล้ว เรายังใส่เสื้อแขนยาว กางเกงขายาว ในขณะที่คนอื่นใส่เสื้อผ้า ตัวเล็กๆ สาวๆ ใส่ชุดเหมือนจะไปเล่นน้ำ สาวคาซัคฯ อีกคนที่สวมปลอกแขน อีกคนเป็นหนุ่มเบลเยี่ยม ใส่ยีนส์ขายาว แต่เสื้อยืดแขนสั้น
โครงการนี้เริ่มตั้งแต่ปี 2004 ทำงานเฉพาะวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย วันละ 10 ชม. ใช้สลิงชักลอกวัสดุ ขึ้นไปซ่อม เพื่อไม่ให้ส่วนที่ยังสมบูรณ์อยู่หลุดร่วงลงมา
ทุกๆ พลาซ่า มีแมงมุมยักษ์อยู่ในรูใต้พื้นหญ้า เขาใช้ดอกหญ้าปั่นรู เพื่อให้แมงมุมคิดว่า มีแมลงตัวเล็กหลุดรอดเข้าไป สักครู่ก็มีแมงมุมยักษ์ติดดอกหญ้าขึ้นมา เขาจับมันวางบนมือ ให้มันเดินไปมา เขาบอกว่า ตัวผู้ไม่ทำร้ายคน และไม่มีพิษ แต่ตัวเมียดุ และมีพิษ
มีหญ้าไมยราพต้นเล็กๆ ที่คนทั่วไปไม่รู้จัก พากันลองแตะที่ใบ พอมันหุบก็ตื่นเต้น คนเกิดชนบทอย่างเรา เห็นแล้วเฉยๆ
มีต้นบอลที่เขาเอาลูกมันไปเล่นเกม ที่เราเห็นสถานที่ชมการแข่งขันบอลเกม มีอัฒจันทร์ 2 ด้าน สำหรับกษัตริย์ และชนชั้นสูง ที่ เมืองเก่า ชิเช่น อิทซ่า ในเม็กซิโก
กษัตริย์มายาบอกว่า ต้นตระกูลเป็นผู้เนรมิตข้าวโพดสารพัดสี ให้ผุดขึ้นมาเลี้ยงโลก ชาวมายัน เอาข้าวโพดทุกสีมาบด รวมกับมันสำปะหลัง ใส่ถั่ว กับเครื่องปรุงอย่างอื่นแต่งกลิ่นด้วยใบพากินไพน์ ออกมาเป็นแก๊สกาเล็ต แพนเค้ก พื้นเมืองแสนอร่อย
ก่อนจะไปชมจุดที่ 2 และพลาซ่าหลัก ไกด์บอกว่า ตรงทางแยกเป็น จุดที่เรียกว่า The Lost World เพราะมีคนหายไป 5 คน เมื่อ 7 ปีที่แล้ว คนที่หายไปนานที่สุด เป็นชาวสวีเดน เขามีอาหาร และน้ำติดเป้ไป ประทังขีวิตแค่วันเดียว
เขาอยู่ในจุดที่ห่างจาก เดอะลอสต์เวิร์ล 9 ไมล์ สิ่งที่เขาใช้ทำเครื่องหมายคือกระดาษจากแผนที่ เขียนบอกว่า เขาหลงทาง เขาทำเครื่องหมายจนกระดาษหมด มีชีวิตด้วยน้ำ จากน้ำตก และผลไม้ป่าที่กืนเลียนแบบสัตว์ สัตว์ป่าชุกชุมมาก ถนนดีๆ ในกัวเตมาลา มีคลื่นจำกัดความเร็วเป็นระยะโดยไม่ต้องเขียนบอก แต่ทางขึ้นอุทยานแห่งขาติติกัล เขียนบอกบริเวณที่สัตว์มักเดินผ่าน โดยให้จำกัดความเร็วไม่เกิน 50 กม/ชม
ผู้หญิงคนที่นั่งข้างหน้าเรา ขอให้เราถ่ายรูปให้ เธอมาจากคาชัคสถาน ที่เราทายว่า เราทายว่าเธอมาจากที่ที่ชอบนั่งขวางที่นั่งไว้าำหรับนอน เป็นการทายผิด
ตอนหลังเธอประกบไกด์แบบที่ใช้ตัวเข้าแลก เป็นอะไรที่แปลกสำหรับคนที่ร่วมคณะ ดูเหมือนทุกคนจะรู้ ตอนหลังจึงไม่มีใครอยู่ใกล้ไกด์ พอฟังบรรยายเสร็จ ต่างก็แยกย้ายกันไป ให้ห่างๆ มีแต่ลุงที่ไม่เคยสังเกตใคร สงสัยอะไรก็บอกให้ป้าไปถามไกด์ๆ 😞
ที่จุดสุดท้ายนอกจากจะมีปิรามิดสูง ใหญ่ 4 ทิศ แล้ว ยังมีต้นไม้ใหญ่ที่มีเคราฤาษี แขวนระโยงระยาง บ่งบอกว่า มีความชื้นสูง อีกด้วย
พอไกด์บอกว่า จุดสุดท้ายแล้ว ใครที่จะกลับรถเที่ยวแรก เวลา 11.00 น. ให้ออกจากที่นั่นไม่เกิน 10.15 น. เราใช้วิธีบอกลาไกด์ ที่นั่งอยู่สองคนกับหญิงคาซัคฯ ในระยะ 100 เมตร โดยการโบกมือ เมื่อเห็นเขาโบกมือตอบ เราก็ออกเดินกลับ เจอคนพื้นเมืองมาขายของ เราใช้วิธีเนียนแอบถ่ายรูป
วันนี้วันเสาร์มีคนมาหลายคณะ แต่ไกด์บอกว่า ตัวไกด์เองต้องเก็บของกลับ เพราะวันจันทร์มหาวิทยาลัยเปิด พรุ่งนี้ต้องกลับไปเตรียมตัวต้อนรับเปิดเทอม มิน่าล่ะ ถึงรู้ดี เขาบรรยาย และยกตัวอย่างประกอบได้สุดยอด 🙂
ตอนเดินออกมา เจอไกด์อีกหลายคณะ มีไกด์คนหนึ่ง ถือ ไม้เหมือนไม้เท้ากายาสิทธิ์ เราสวนกับคณะของเขาอยู่หน้ต้นบาโอบาบ เขาอธิบาย และออกท่าทาง น่าตื่นเต้น ป้าจึงให้ลุงบันทึกภาพไว้ สวนกับคนกัวเตมาลา ไปเที่ยวกันเองไม่มีไกด์ ป้าจำเขา ทักทาย โอ๊ลา โอ๊ลา กับ อาดิเยิส บอกลา ไปตลอดทาง สนุกดี พวกที่พูดภาษาสเปน นี่เหมือนเมียนม่าร์ กับคนไทยในชนบท ห่างไกล ที่เห็นใครก็ยิ้ม ทักทาย แล้วคุยกันน้ำไหลไฟดับ ราวกับว่า รู้จักกันมาเป็น 10 ปี เหมือนน้องฝรั่งเศสกับ แคนาดา ที่เจอกันเมื่อวาน คุยกันตั้งแต่ขึ้นรถ จนลงรถยังไม่หยุดคุย แต่เมื่อเช้า คุยกันตอนขึ้นรถ แล้วเงียบเพราะหลับ คงคุยกันต่อตอนกลางคืนจนหมดเรื่องคุยไปแล้ว 🙂
ขากลับรถไปรับตรงเวลา อยู่ดีๆ คนขับก็เบรก คนที่จัดคิวขึ้นรถ บอกว่า ชะมด กำลังขนครอบครัว ข้ามถนน ... ว้าววว! น่ารักมาก...มีทั้งพ่อ แม่ ลูกตัวเล็กๆ หลายครอบครัว กว่าจะข้ามหมด ก็หลายนาที
ขาไปใช้เวลา ชั่วโมงครึ่ง เพราะวนไปรับคน ตอนฟ้ายังไม่เปิด และขึ้นเขา แต่ขากลับ รถลงเขา และวิ่งยาว ใช้เวลาแค่ชั่วโมงเดียวตอนอยู่บนรถ คนส่วนใหญ่ก็หลับกันอีก เพราะเมื่อวานเดินทางไกล เช้านี้ยังตื่นแต่เช้า ...แต่มันเป็นประสบการณ์ที่คุ้มค่า ด้วยราคาตนละ ประมาณ 1,500 บาท ไม่รวมค่าที่พัก ค่าเครื่องบิน และค่าอาหาร
(ยังมีต่อ)
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น