[CR] ลุงกับป้าแบ็คแพ็ครอบโลก ตะลุยสหรัฐ เม็กซิโก เมกากลาง เมกาใต้ อัฟริกา 26 ประเทศ 74 วัน ตอน 10 เลียบอ่าวเม็กซิโก ไปยูกาตัง

ลุงกับป้าแบ็คแพ็ครอบโลก ตะลุยสหรัฐอเมริกา อเมริกากลาง อเมริกาใต้ และอัฟริกา 26 ประเทศ 74 วัน ตอนที่ 10 เลียบอ่าวเม็กซิโก ไปรัฐยูกาตัง
(ตอนอยู่ตปท. ภาพนิ่งล้นไอโฟน จึงลบออกหลังโพสต์เพจแล้ว ส่วนพันทิปโหลดหน้ารีวิวไม่ได้ ต้องกลับมาทำใทย ตอนนี้ขอให้ชมยูทูปไปก่อน ถ้ารีบชมภาพนิ่ง ให้ไปที่เพจ ลุงกับป้าแบ็คแพ็ครอบโลก)

https://www.youtube.com/watch?v=JJChzqeYizE&index=55&list=PLNNEpgjidh3peDayS3ikBCPP6tJVMso-6

ซื้อตั๋วจากเม็กศิโกซิตี้ไปลงที่ Merida ค่าตั๋ว 2 คน 1,848 เปโซ รถออก 17.30 น. เราได้ที่นั่งหลังสุด ติดห้องน้ำ ต้องกินยาแก้เมาดักไว้ก่อน ลุงที่นั่งข้างเราพอจะสื่อสารได้บ้าง บอกว่าเราจะไปถึงเมริดา วันพรุ่งนี้ เวลา 17.00 น.

บนรถเปิดทีวีเป็นหนังภาษาสเปน ป้าห่วงทำงาน จึงไม่ได้ดู อังคารที่ 21 มิ.ย. เวลา 07.55 น. รถจอดทำความสะอาด และเปลี่ยนคนขับ 20 นาที ไม่มีชื่อเมืองบอก มีอาหารขาย ราคาต่างจากในสหรัฐมาก แซนด์วิชที่เคยซื้อในสหรัฐ 4 ดอลล่าร์ 140 บาท ที่เม็กซิโก 26 เปโซ ไม่ถึง 60 บาท น้ำส้มแบบเดียวกันในสหรัฐ 2.69 ดอลล่าร์ 92 บาท ที่เม็กฯ 11 เปโซ 25 บาท

เวลา 08.20 น. เดินทางต่อ
ตอนนี้ได้เห็นคอกม้า และคอกวัว กลางแจ้งเหมือนในไทย มีแค่รั้วเหล็ก ไม้ หรือ ลวดหนามกั้นคอก ไม่เหมือนในสหรัฐ และยุโรป ที่มีโรงเรือนมิดชิด กันแดด ลม ฝน และหิมะ มีต้นไม้ผลที่คุ้นเคย มะม่วง มะนาว ส้ม มะละกอ มะพร้าว กล้วยใหญ่ ยาว ทั้งที่สุกแล้วเป็นสีเหลือง และสีแดง ปนม่วงคล้ำ น้อยโหน่ง ฯลฯ ส่วนไม้ดอก ไม้ประดับ ก็มีดอกเข็ม บานบุรี ดอกพุด คูน โกสน วาสนา ยูงทอง หูกวาง ยี่โถ หมากเตี้ย ฯลฯ บ้านเรือนแม้หลังคาไม่ได้ยกเหลี่ยม แต่ก็ดูดีกว่า ที่ผ่านมา พอผ่านไปทางตะวันออกเฉียงใต้เรื่อยๆ เห็นมีหลังคามุมป้าน บ้าง ลาดน้อยๆ บ้าง ทำจากสังกะสีลอนหนา เป็นบ้านในดงไม้ ดูร่มรื่นกว่าบ้านก่อด้วยซีเมนต์บล็อค ที่อยู่กลางแจ้งในเมืองอื่นๆ แต่ถนนแย่มาก รถต้องค่อยๆ ไป เป็นถนนลาดยางที่เต็มไปด้วยหลุมบ่อ ถนนด้านหนึ่งเลียบชายทะเล อีกด้านหนึ่งผ่านชุมชน มีโรงเรียน วิทยาลัย สนามกีฬา สนง.เทศบาล ดูเล็กๆ หมองๆ ดูเหมือนเป็นชุมชนเก่าแก่ มีโต๊ะหน้าบ้านตั้งขายมะม่วงสุก หมูที่เชือดเอง พืชผักที่เก็บจากหลังบ้าน

เห็นเขาปล่อยให้มะม่วงสุกร่วงเกลื่อนแล้วเสียดายแทน น่าจะเป็นมะม่วงสุกแล้วก็เปรี้ยว ถ้าเป็นที่บ้านคงเอามากวน ตัดเกลือเล็กน้อย ทำเป็นแผ่น
บางๆ ตากแดด เอามาตัด ม้วน เคี้ยวกินหนุบหนับ

เวลาผ่านไปจนถึง 09.30 น. ทะเลวกกลับมาอยู่อีกด้านหนึ่ง มีต้นมะพร้าวเตี้ยริมทะเล แต่ไม่มีหาด น้ำปริ่มมาจนถึงโคนต้นมะพร้าว แล้วก็เป็นค่ายทหารเล็กๆ ตามด้วยด่าน ที่มีน้ำขังอยู่บริเวณที่จอดรถ พอผ่านด่าน เป็นสะพานข้ามทะเล น้ำค่อนข้างขุ่น มีเรือลำใหญ่ ไม่แน่ใจว่าเป็นเรือทหาร หรือเรือบรรทุกสินค้า ลอยลำอยู่ในทะเล 3-4 ลำ เห็นริมฝั่งมีเรือสินค้าและเรืออื่นๆ จอดอยู่ ใกล้ๆ กับหัวสะพานมีสะพานท่าน้ำตื้นยื่นออกมาให้คนออกไปเดินเล่น บนฝั่งเหมือนมีถนนให้เดินเลียบฝั่ง มีกำแพงเตี้ยๆ กันน้ำเซาะ เลียบทะเล ลงจากสะพานเป็นเมือง Medario สถานีขนส่งอยู่ไม่ไกลจากสะพาน ป้าถามตาที่นั่งข้างหน้า ว่า เมืองนี้ชื่ออะไร ตาสูบบุหรี่อยู่บอกว่า 10 นาที ไม่เกินนั้น

ห้องน้ำขาออกที่สถานีขนส่งทุกที่ ต้องจ่ายเงิน 5 เปโซ ดังนั้น ดูเหมือนว่าผู้โดยสารใช้ห้องน้ำบนรถ ตอนก่อนที่รถจะจอดทำความสะอาด มันเริ่มส่งกลิ่น จนป้าต้องเอายาเหลืองป้ายจมูก หลังจากทำความสะอาดแล้ว ก็หายใจโล่งขึ้น
คนเม็กฯ มีธรรมเนียมเคาะประตูห้องน้ำก่อนเข้า คงเป็นเพราะห้องน้ำส่วนใหญ่ล็อคไม่ได้นั่นเอง. ป้าเจอมากับตัวเอง ตั้งแต่ที่ด่านแล้ว ก๊อกน้ำก็แปลกดี มีก้านอยู่ปลายก๊อก เวลาใช้โยกปลายก้าน ตอนแรกงง ไม่รู้ใช้อย่างไร จนมีคนทำให้ดู ได้ถ่ายรูปมา พร้อมกับคนทำความสะอาดห้องน้ำด้วย
เขาเรียกพวกเราว่า ไถ่แล้นเดีย (Thailandia)

ตอนรถจอดที่สถานี Medario ซื้อน้ำเปล่าขวดลิตร 12 เปโซ ออกจากตัวเมืองเป็นป่าส่วนใหญ่เป็นกระถินยักษ์ สลับกับดงมะพร้าวเลียบชายฝั่งทะเลในอ่าวเม็กซิโก แล้วก็เป็นหาดแคบยาวมากกว่า 100 กม. เพราะอ่าวเม็กซิโก ใหญ่กว่าอ่าวไทยมาก มีอยู่ที่หนึ่งคล้ายหาดแม่พิมพ์ ที่บ้านเพ ระยอง ตลอดแนวส่วนใหญ่มีกั้นคลื่นเซาะชายฝั่งด้วยไม้ บนปลายไม้มีนกทะเลตัวใหญ่สีออกน้ำตาล จองเป็นระยะ บางที่ใช้หินก่อเป็นกำแพง คาดทับด้วยแผงลวดสาน บางที่ใช้บล็อคซีเมนต์เหมือนในญี่ปุ่น กับ เกาะเจจู ในเกาหลี มีทั้งนกใหญ่ นกเล็กเกาะอยู่ที่ปลายบล็อคบ้าง อยู่กันบนพื้นทรายเป็นกลุ่มบ้าง มีศาลามุงด้วยหญ้า กับร้านค้าร้างเป็นระยะ นึกถึงอ่างซับเหล็ก ที่ลพบุรี ที่คนค้าขายต้องบอกลา เหลือแต่ศาลากันแดด กันฝน กับร้านค้าเก่าๆ ที่ซบเซา รถข้ามสะพานข้ามทะเลที่อีกด้านหนึ่งยังสร้างไม่เสร็จ ดูเหมือนงบจะหมด เพราะเสาที่ตั้งไว้สนิมจับหนาเตอะ มองเห็นหาดทรายกว้างยาว มีศาลาหลังคาหญ้า ร้าง ไร้ผู้คน อยู่ฝั่งที่เรากำลังข้ามไป น่าแปลกใจ ทะเลใส มีหาดทราย แต่ไร้นักท่องเที่ยว เราไม่แน่ใจว่า เป็นเพราะน้ำทะเลมันเย็นจัด หรือเพราะไม่ใช่วันหยุด หรือว่า มันไกลเกินกว่าที่คนไม่มีรถเองไปเที่ยวไม่ได้ นอกจากนั้นยังอาจไม่มีรถประจำทาง

รัฐที่เลียบชายทะเล ก่อนถึง รัฐยูกันตัง ได้แก่ วรากรูซ ดาบัสโก และ กัมเปเซ เส้นทางนี้เป็นเส้นทางสวยงามตามธรรมชาติ อีกเส้นทางหนึ่งในเม็กซิโก
13.35 น. รถจอดทำความสะอาดอีกครั้งที่ Terminal De Autobuses Campeche คราวนี้สะอาดจริงๆ คราวก่อนแค่ห้องน้ำที่เดียว ของที่สถานีนี้แพงกว่า สถานีที่ผ่านมาอย่างเห็นได้ชัด เทียบได้จากราคาน้ำดื่ม ขนาด 650 ml ที่หนึ่งขาย 11 อีกที่ขาย 9 เปโซ. ตาน่ารักมาก ก่อนลงรถที่ Terminal De Campache ตาบอกว่า 20 นาที อีก 2 ชม. ครึ่งก็ถึงเมริด้า แล้ว

แต่รถจอดนานไปหน่อย จึงถึงเมริด้า วลา 16.15 น.
พอเข้าเขตเมริด้า ตาหันมา บอกว่า ยินดีต้อนรับสู่เมริด้า อีก 20 นาที ก็จะถึง ตายอดว่าที่นี่ ปลอดภัยทุกอย่าง บ้านเมืองสวยงาม ผู้คนอัธยาศัยดีมาก ไม่เหมือนที่เม็กซิโกซิตี้ ผู้คนไว้ใจไม่ได้ เดินถนนไม่ปลอดภัย อต่เราก็เห็นว่าปลอดภัยดี

ป้าถามว่า ตาอยู่ที่เมริด้า เหรอ คราวนี้ตา ตอบได้ว่า ไม่ บ้านตาอยู่ที่เม็กซิโกซิตี้ แต่ลูกชาย 2 คนของตาอยู่ที่เมริด้า ตาจะอยู่ที่เมริด้า 2-3 สัปดาห์
ป้าเอารูปปิรามิด Chichen Itza 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ ของโลก ให้ตาดู ตาบอกว่า ชิเช่น อิ๊ทซ่า มีรถบัสหน้าสถานี วิ่งทั้งวัน ถ้าไม่นอนที่เมริด้า ไปเที่ยวแล้วก็กลับทัน

พอรถเข้าเขตเมือง เราขอบคุณและบอกลา รีบเดินไปนั่งข้างหน้า
พอรถเข้าสถานี เรารีบวิ่งไปติดต่อซื้อตั๋ว แต่ตั๋วหมด จนท.ขายตั๋วหันจอให้ดู ว่า มีตั๋วเที่ยวแรกวันพรุ่งนี้ เวลา 08.00 น. เธอถามว่า อยากไปวันนี้ หรือ พรุ่งนี้ ป้าบอกว่า วันนี้ เธอขี้ไปข้างนอก

ป้าออกไปเจอจนท. สถานี เดินกินแบร์นิโต เคี้ยวตุ้ยๆ ถามว่า เขาพูดภาษาอังกฤษได้มั้ย เขาทำมือเอานิ้วชี้กับนิ้วโป้ง หนีบกัน แสดงว่า ได้นิดหน่อย ป้าบอกเขาว่า ต้องการไป Chichen Itza วันนี้ แต่จนท.ขายตั๋ว บอกว่า ที่นี่หมด ให้ไปซื้อข้างนอก

เขาบอกว่า ใช่ ไปซื้อตรงนั้นไง เขาชี้ไปฝั่งตรงข้าม ป้ามองไปถามว่า เข้าตรงไหน เขาชี้ตรงแล้วทำมืออ้อมตรงมุมถนน บอกว่า มันคือ สถานีรถบัส อีกสถานีหนึ่ง เป็นอันเข้าใจ

ที่สถานีใหม่ จนท. บอกว่า ตั๋ววันนี้หมดตั้งแต่บ่ายโมงแล้ว รถเที่ยวสุดท้ายกำลังจะออก (16.30 น.) ตอนนี้ 16.25 น. ปกติมีรถตั้งแต่ 05.00 น.
เราได้ตั๋ว 07.00 น. ราคาตั๋ว 198 เปโซ

ต้องหาที่นอนก่อน ลุงเจอปลั๊กชาร์จแบ็ต ขออยู่ต่อ ป้าไปหาโรงแรม ได้หน้าสถานี ชื่อ Ado ห้องกว้างขวาง เตียงใหญ่ 2 เตียง นอนได้เตียงละ 2 คน ไม่มีแอร์ อากาศร้อนมาก ป้าเข้าห้อง เปิดพัดลม ลองใช้ wifi สัญญาณแรงมาก เด้งดึ๋งๆ ทันใจ เลยเพลินอยู่ในห้อง เห็นลุงโพสต์เฟสบุ๊ก เลยสบายใจ หายห่วง พอออกไปตาม ลุงบอกให้ป้า ไปก่อน ขอทำงานเสร็จจะตามไป

ป้าเดินไปตลาดระยะทางประมาณ 2 กม. ผู้คนมากมาย ไม่รู้ตลาดสดอยู่ไหน แต่มีอาหาร เสื้อผ้า ผลไม้ มากมาย ตอนนี้ 17.00 น. แดดเปรี้ยง ป้าเดินกางร่มไปขากลับ ต้องทนร้อนเพราะซื้อของเยอะ ไม่ได้ถุงใส่ หอบพะรุงพะรัง อะไรก็น่าซื้อไปหมด มะม่วงกองใหญ่โต กล้วยหอมลูกใหญ่สีเหลืองทอง ฯลฯ ป้าลองซื้อมะม่วงลูกป้อมๆ สีส้มอมม่วงแดง ที่เขาปอกฝานใส่ถุงแถมมะนาว 1 ซีก กับพริกบ๊วย ถุงละ 10 เปโซ กล้วยหอม 2 ใบ 5 เปโซ ไก่ย่างครึ่งตัว แถมข้าวผัดถ้วยเล็ก 2 ถ้วย 58 เปโซ ทาโค 2 แผ่น 14 เปโซ ขนมปังเนย 4 อัน 20 เปโซ น้ำ 1 ขวดลิตร 8 เปโซ เห็นผลไม้ชนิดหนึ่งหน้าตาแปลกๆ ลูกเล็กๆ เขียวๆ เหมือนมะนาว ขายเป็นพวงๆ ละ 10 เปโซ ซื้อแล้วให้เขาบอกวิธีกิน เขาเอามีดเฉือนตรงกลางแล้วแยะเอาเปลือกออก มันคือ ลูกที่เขาปอกใส่ถุง ใส่พริกเกลือ วางไว้ข้างๆ ตะกร้าลูกที่ขายเป็นพวงนั่นเอง ขากลับมองหาคนที่ท่าทางใจดี เอามะม่วง กับ กล้วย ให้เขาดู แล้วบอกชื่อ ชี้ที่พวง ถามว่า มันขื่ออะไร สาวตุ้ยนุ้ยบอกว่า วาอาย่า ถามว่า สะกด อย่างไร เธอส่ายหน้า ป้าเดาเอาว่า Waalla มั้ง! ขอสารภาพว่า ตอนที่ถาม ป้าเดินเลยที่พักไปแล้ว มองไปฝั่งตรงข้าม เป็นสุดเขตสถานี ต้องเดินย้อนกลับมา ไม่กล้าบอกลุง เพราะลุงชอบว่า ป้าหลงทิศ ประจำ...อันนี้ เรื่องจริง
ชื่อสินค้า:   อ่าวเม็กซิโก รัฐยูกาตัง เม็กซิโก
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่