ลุงกับป้าแบ็คแพ็ครอบโลก ตะลุยสหรัฐอเมริกา เม็กซิโก อเมริกากลาง อเมริกาใต้ และอัฟริกา 26 ประเทศ 74 วัน ตอนที่ 48 จากเมืองหลวงชิลี ลุยหิมะบนยอดเขาแอนดิส ถึงเมืองหลวงอาร์เจนตินา
(ตอนอยู่ตปท. ภาพนิ่งล้นไอโฟน จึงลบออกหลังโพสต์เพจแล้ว ส่วนพันทิปโหลดหน้ารีวิวไม่ได้ ต้องกลับมาทำใทย ตอนนี้ขอให้ชมยูทูปไปก่อน ถ้ารีบชมภาพนิ่ง ให้ไปที่เพจ ลุงกับป้าแบ็คแพ็ครอบโลก)
https://www.youtube.com/watch?v=_pn5GbFqkC4&index=48&list=PLNNEpgjidh3o3vU44K5Op2M1w_g3Pg5Jk
ถามจนท.ตร.แถวนั้น เดินไปถามเวลารถ กับค่าโดยสาร เขารับเป็นเงินเปโซ เท่านั้น ป้าจึงต้องหาที่แลกเงินเพิ่มจนท.ตร.คนเดิมพาไปรอหน้าออฟฟิศ บอกว่า อีกไม่กี่นาทีก็เปิดแล้ว ป้าแลกเงินเพิ่มอีก $130 รวมเป็น $330 กลับไปซื้อตั๋ว คนขายนับเงิน แล้วบอกไม่พอ เพราะรถวิ่งตรงหมดแล้ว ต้องไปต่อรถที่ Mendoza ค่ารถเพิ่ม จากคนละ 54,000 เป็น 61,500 ป้านับเงินแล้วพอ จึงตกลงตามนั้น...รถวิ่งตรงออกเวลา 10.00 น. วันนี้ ถึง บัวโนส ไอเรส พรุ่งนี้เช้า 07.30 น. แต่รถที่เราจะไป แวะที่เมนโดซ่า ก่อน และต่อรถอีกครั้งเวลา 20.30 น. แค่ถึงเวลาเท่ากัน .... เราอยากไปเที่ยวเมืองมรดกโลก Valparaiso แต่ต้องใช้เวลาเดินทาง ไป 2 ชม. เรามีเวลาเหลือแค่ 1 ชม. ก่อนขึ้นรถ จึงไปได้แค่กลางเมือง นั่งแท็กซี่ ไป- กลับ เป็นแท็กซี่มิเตอร์ บนถนนเดียวกัน ขาไปวิ่งตรงอย่างเดียว 3,350 เปโซ ขากลับเขาเลี้ยวข้ามถนนมาส่ง 3,700 เปโซ เราคงเที่ยวได้แค่นี้ สถานที่ที่ทัวร์นำเสนอ อย่าง เกาะ Easter ซึ่งมีอุทยาน Labanu เป็นมรดกโลก มีโมอาย 600 ตัว จากหิน 600 ก้อน กับ ถ้ำลาวา มี Mauga Ter Evaka เป็นจุดสูงสุด เราไม่ได้ไปแน่นอน
เที่ยวซานติอาโก้ ชิลี เป็นยิ่งกว่า ชะโงกทัวร์ เพราะมัน คือ กระโดดทัวร์😂😂😂😂
ผู้คนที่ชิลี เป็นมิตร และ มีน้ำใจ แท็กซี่ ก็ไม่ได้เอาเปรียบนักท่องเที่ยว ตรงไปตรงมา ตำรวจก็น่ารัก
😄😄😄😄😄
เราหวังว่า รถไปเมโดซ่า ตะพาเราวนรอบกรุงซานติอาโก้ เหมือนรถที่ออกจากลิม่า ไปกูสโก....แต่ผิดหวัง เพราะรถพาออกทางเลี่ยงเมือง ลงอุโมงค์ยาวๆ โปร่ง บ้าง ทึบ บ้าง ราว 2 กม. พอโผล่ออกจากอุโมงค์ ก็เจอภูเขาสูงขวางหน้า แต่มันไม่เหมือนภูเขาที่ผ่านมา มันดูชุ่มชื้น มีหญ้าสั้นๆ สีเขียวคลุมภูเขา เริ่มเห็นต้นไม้ ที่ผ่านการปกคลุมด้วยหิมะ มีต้นสน ปรากฏอยู่ข้างทาง มีป้ายยินดีต้อนรับสู่ San Elena เป็นเมืองที่มีต้นไม้ ดอกไม้ แม้จะไม่เท่าบ้านเรา ยุโรป หรืออเมริกากลาง แต่ก็ทำให้จิตใจที่ห่อเหี่ยวจากการเดินทางผ่านทะเลทราย หิน และหายใจเข้า ออกเต็มไปด้วยฝุ่น มาหลายวันหลายคืนแช่มชื่นเบิกบาน😊😊😊😊ตั้งแต่ 11.00 น. ก็ปรากฏภูเขาหิมะ คนบนรถส่วนใหญ่ตื่นเต้น เตรียมกล้องถ่ายรูปกันคึกคัก แต่ยิ่งผ่านไปหิมะก็ยิ่งใกล้ตัวยิ่งขึ้น มีกระเช้าลอยฟ้าให้นั่งข้ามเขาดูหิมะ มีรถโกยหิมะออกจากถนน😶😶😶😶เรื่องที่ตื่นเต้น กลายเป็นชักจะชะเง้อ เพราะต้องเข้าอุโมงค์หินลอดภูเขา รอการเคลียร์ถนน รถติดเป็นจุดๆ...เริ่มทยอยเข้าห้องน้ำกันแล้ว😐😐😐😐
อ้าววว! โดมนั่น....ขวางทางอยู่ รถติดเป็นแพ🙄🙄🙄🙄
อ๋อออ! ด่าน....นั่งคู่กันซะด้วย....เสร็จจากชิลี ก็ต่อแถวอาร์เจนติน่า ได้เลย แสดงว่า ชิลี ไม่ไว้ใจเปรู🙄🙄🙄🙄แต่ทั้งชิลี และ อาร์เจนติน่า ต่างไว้ใจซึ่งกันและกัน😄😄😄😄
ตอนนี้ก็ได้แต่หวังว่า เมื่อผ่านด่านไปแล้ว รถจะมุดอุโมงค์ที่เป็นเทือกเขาแอนดีส เมื่อพ้นจากเทือกเขานี้ไป เราจะเจอความอุดมสมบูรณ์ในอาร์เจนติน่า....เห็นลานหิมะแล้วสยอง...ใครอยากไปถ่ายรูปบนลาน เราก็ไม่สนใจแล้ว ได้พาสปอร์ตแล้ว ขอขึ้นรถไปอยู่กับฮีทเตอร์ก่อน...รีบพิมพ์ก่อนรถออก แล้วรีบปิดเครื่อง ประหยัดแบ็ตฯ ไว้พิมพ์รายงานข้างหน้า เพราะทิ้งไว้นานก็ลืม😀😀😀😀😀
ขั้นตอนที่ด่านใช้เวลา เกือบ 2 ชม. รถออกจริงๆ เวลา 13.30 น. ก่อนจะผ่านด่านสุดท้าย พนง.คนใหม่เอาถุงอาหารส่งให้จนท.ที่สูงวัยที่สุด จนท.หนุ่ม สาว มองตามกลืนน้ำลาย...แต่จนท.ผู้ใหญ่ ถือ ขึ้นไปนั่งหน้ารถ เปิดออก นั่งกินอยู่คนเดียว😐😐😐😐😐
สองข้างทางยังคงเต็มไปด้วยภูเขาหิมะ ที่เริ่มละลาย มีธารน้ำแข็งไหลลอดโพรงหิมะ....จนเวลาผ่านไป ครึ่งขั่วโมง ก็เป็นภูเขาหิน ทราย และธารหินที่มีน้ำเพียงเล็กน้อย... ความแห้งแล้งยังคงเข้ามาในสายตาต่อไป....มีช่วง 5 นาที เห็นป่าละเมาะทะเลทราย มีป้ายปักชื่อเจ้าของ และ 2 นาทีเท่านั้นที่เห็น มีแปลงพืชปลูกใหม่ ผ่านไปอีก 10 นาที เป็นการปลูกกิ่งตอนแอ๊ปเปิ้ลเป็นพื้นที่กว้าง โดยอีกด้านหนึ่งเป็นต้นแอ๊ปเปิ้ลที่มีแต่กิ่ง เพราะเพิ่งผ่านความหนาวเย็นจากการปกคลุมของหิมะมา .... แค่ 10 นาที ตรงนั้น แล้วก็เป็นความแห้งแล้งต่อ....แดดเริ่มแรง ฮีทเตอร์ทำงานเต็มที่ เราถอดเสื้อออกคนละ 2 ตัว ปิดม่านกันแดด คราวนี้ ป้าแพ้ฝุ่นม่านอีก นั่งฟุดฟิดดูหนังทีวีดีกว่าอยู่เปล่าๆ😐😐😐😐😐
ป้างีบหลับ ตอนที่ลุงบอกว่า มีทะเลสาบด้วย😀😀😀😀😀
น้ำยังไม่มาก เพราะหิมะเพิ่งละลาย....อยู่ห่างจากถนนประมาณ 1 กม. แต่เริ่มมีสัญญาณของความชุ่มชื้นให่เห็น คือ มีป่าไม้ที่ร้างใบ เพราะถูกหิมะกัดจนโกร๋น อยู่ริมทาง แม้ว่ามองไปไกลๆ จะยังเป็นภูเขาหินอยู่😊😊😊😊
เรื่องหนังแผ่นบนรถทัวร์นี่ก็แปลก ที่จริงคนเดินทางส่วนใหญ่น่าจะชอบดูหนังที่มีทิวทัศน์แปลกๆ หรือ ฉากธรรมชาติ สถานที่ท่องเที่ยว หรือ แนะนำโอท็อป หรือ ะไรก็ได้ระหว่างทาง หรือ ปลายทางที่ผู้โดยสารจะไป แต่บนรถมักจะมีแต่หนังที่คนรถชอบ ถ้าเป็นรถทัวร์ไทยก็เปิดตลกบ้าง ผีบ้าง คนเดินทางตอนกลางคืนแต่เปิดอะไรแบบนี้ ไม่รู้ว่า คนขับกับเด็กรถต้องการให้ผู้โดยสารอยู่เป็นเพื่อน หรือ อย่างไร🙄🙄🙄🙄ตอนที่ท้องอ่อนๆ นั่งรถทัวร์จากอุตรดิตถ์ไปปาดังเบซาร์ ดูหนังจีนจนเบื่อไปเลย เพราะเปิดเรื่องมา ก็มีการฆ่าผู้มีพระคุณ แล้วก็มีการฝึกวิทยายุทธ มีการแย่งเคล็ดวิชา ในที่สุดธรรมะ ก็ชนะอธรรม😐😐😐😐 เบื่อหนังจีนกำลังภายในตั้งแต่บัดนั้น....
นั่งรถ Cruz del Sur ค่อยยังชั่ว มีให้เลือกเหมือนบนเครื่องบิน อยากดู คอมเมดี้ ดราม่า แอ็คชั่น ไซไฟ หรือ จะฟังเพลง เล่นเกม ตามใจผู้โดยสาร😊😊😊
แต่รถ CATA วันนี้มีทีวีเครื่องเดียวทั้งรถ เก้าอี้วีไอพี ปรับเอนนอนเกือบราบ คนข้างหน้าไม่สนใจ ว่าคนข้างหลังจะขึ้นมาหรือยัง จะเข้าได้ไหม ส่วนคนข้างหลังก็จะดูทีวี เราจะนั่งดูวิว เขาก็ขอร้องให้เรานอน😣😣😣😣
แต่พอเราปรับเบาะนอน เจาก็หลับเงียบกริบ เพราะหนังเรื่องแรกพากษ์ภาษาอังกฤษ😄😄😄😄
ความจริง ทั้งคนข้างหน้าและข้างหลังเราก็น่ารัก พวกเขาแค่ไม่เคยนั่งเครื่องบินเท่านั้นเอง จึงไม่รู้ว่า เมื่อไรควรจะทำอย่างไร😊😊😊😊
เราเดาไม่ถูกว่า จะถึงเมนโดซ่ากี่โมง....รถในลาตินอเมริกา บอกแต่เวลาออก ไม่บอกเวลาถึง เราถามเวลาถึงบัวโนส ไอเรส แจ่ลืมถามเวลาถึง เมนโดซ่า ภาษาที่ใช้สื่อสารก็แสนจะยุ่งยาก😣😣😣😣
อาหารกลางวันที่เสิร์ฟบนรถเป็นแซนด์วิชแฮมชีส เราจึงเก็บไว้กินตอนเย็นเพราะไม่รู้ว่า บนรถจะมีเสิร์ฟ หรือ ไม่
เวลา 15.45 น. พนง. ก็มาเก็บหมอน และผ้าห่ม เราพอจะเดาได้ว่า ไม่นานก็คงถึง
รถเข้าสถานีเมนดูซ่า เวลา 16.25 น. ไปที่ออฟฟิศ CATA ถามหาที่ขึ้นรถ พนง.เขียนให้ ป้าถามพิกัด เธอชี้ให้...แต่ไม่จบ ลุงเกิดเห็นเต้าเสียบ 3 ตาเฉียงและแบน ให้ป้าไปหาซื้อมาให้ได้😣😣😣😣
ออกไปเดินรอบสถานี มีต้นไม้อยู่รอบสถานี และตามข้างถนน มิงแล้วสบายตา แสดงว่า ความแห้งแล้งคงจะหมดเสียที🏞🏞🏞ถามที่ซุปเปอร์ฯ พนง.หนุ่มบอกว่า ในสถานีนั่นแหละ...ป้านึกได้ว่า ต้องหาที่แลกเงินก่อน...จึงเดินไปอีกทางที่ยังไม่ได้ไป....ถามคนเดินสวนมา เขาบอกว่า ต้องเข้าไปที่ Centro ซึ่งไกลจากที่นั่นมาก😣😣😣😣
เดินกลับไปที่สถานี เดินวน ไปอีกด้าน สถานีเป็นวงเกือบกลม เดินนานจนร้อน ถามจนท.ปชส.เธอบอกว่า ให้เดินไปทางที่ลุงนั่งรออยู่....วนทั้งข้างนอกและข้างใน ปิดหมด😣😣😣😣
แต่ตอนที่วนไปถามปชส. เห็นร้านขายวัสดุ อุปกรณ์ ประเภทกรรไกร คีม คัทเตอร์ จึงลองเสี่ยงเข้าไปถาม...เขาเอามาให้ดู มันมีแค่ 2 ขาเฉียง ทั้งร้านเหลืออันเดียว แต่เขาทำท่าเสียบให้ดู....คิดว่า น่าจะได้...แต่ปัญหา คือ รูข้างบน มันกลมและเล็ก จึงขอเวลา กลับไปเอาปลั๊กยุโรปมาลอง...วิ่งไปครึ่งรอบ...กลับมา....ปรากฏว่า มันใช่เลย....ปัญหาต่อไป คือ ไม่มีเงินเปโซ😣😣😣😣เขาไม่ยอมขายให้ บอกให้ไปแลกเงินมาก่อน....
ป้าทำท่า บอกให้เขารู้ว่า ได้พยายามแล้ว ทุกที่ปิดหมด แล้วก็อ้อนวอนเขา ตอนแรก เขาไม่ยอม แต่พอป้าควักแบงค์ $1 ใหม่ออกมา เขาคว้าหมับเลย แล้วบอกว่า ราคามันไม่ถึง $1 หรอก แต่ไม่ทอนนะ....เง้ออออ! แต่ไม่มีปัญหาแล้ว ป้ารีบรวบของ บอกลา จังหวะที่มีลูกค้าคนใหม่เข้าร้านมาพอดี😄😄😄😄
ลุงดีใจมาก พอตั้งท่าเสียบ พนง.สูงวัยที่เชียร์แขกอยู่ก็โวยวาย เพราะมันหลายชั้น หลายสายมาก ชั้นแรกเป็นปลั๊กขาเฉียง ชั้นที่ 2 เป็นปลั๊กยุโรป ใช้ได้อันเดียว ชั้นที่ 3 เป็น 3 ตา ที่ใช้ในอเมริกา ญี่ปุ่น อาเซียน และไทย ชั้นที่ 4 เป็นอะแด็ปเตอร์ ทั้งคัวผู้และตัวเมีย 3 อัน😉😉😉
พนง.ทำท่าเหมือนจะไปฟ้องใคร แต่ลุงดื้อซะอย่าง...ความจริงไม่มีอะไรหรอก....เขา คง แค่ตกใจ เพราะไม่เคยเห็น😃😃😃😃
แต่ป้าร้อนมาก เพราะเดินเกือบชม.....
ยังไม่จบแค่นั้น ลุงให้ป้า ไปหาซื้อตั๋วรถที่จะไปชายแดนระหว่างอาร์เจนติน่า กับอุรุกวัย ที่มีสะพานข้ามช่วงกลาง เพื่อเดินไปถ่ายรูปอุรุกวัย เพราะเราไม่มีเวลาที่จะขอวีซ่า เข้าประเทศ....เฮ้อ!!!ชีวิตช่างลำเค็ญจริงๆ😣😣😣😣
พนง. CATA บอกว่า ต้องไปซื้อบริษัทอื่น แล้วเขาก็เขียนชื่อบริษัท และบอกที่ตั้งให้....สถานีนี้ มีบริษัทรถเยอะมาก....ป้าไปยืนรอ จนถึงคิว...พนง.ขายบอกว่า บริษัทเธอไม่มีบริการ....แต่มาดาม ท่าทางจะเป็นเจ้าของบริษัทอาสาพาไปหาบริษัทที่เธอคิดว่า มีตั๋วขาย เธออายุไม่ต่ำกว่า 70 แต่ท่าทางคล่องแคล่วมาก....บริษัทที่เธอพาไป บอกว่า ที่บัวโนส ไอเรส มีตั๋วเฉพาะเข้าอุรุกวัย ซึ่งต้องใช้พาสปอร์ต ไม่มีรถไปตรงชายแดนด้านนั้น😣😣😣😚
มาดามพาไปอีก 1 ที่ เขาก็พูดเหมือนกัน...ดังนั้น วิธีการที่จะไปให้ถึงจุดนั้น ก็ต้องไปรถจากบัวโนส ไอเรส ที่ไปถึงเมืองที่อยู่ใกล้ชายแดน แล้วนั่งรถท้องถิ่นไปชายแดน....นั่นแหละ เหตุการณ์จึงสงบ ป้านั่งพิมพ์รายงานได้...ขณะที่นั่งทำงานอยู่ ลุงบอกว่า ให้ป้า ไปถ่ายรูปข้างนอกมา ลุงจะนั่งเฝ้าอะไรๆ ที่กำลังชาร์จอยู่....เพราะป้าไม่ไป จึงไม่มีรูปเมนโดซ่า มาประกอบการรายงาน🌋
เวลา 20.00 น. ป้าไปห้องน้ำเตรียมตัวขึ้นรถ แล้วกลับมา ชวนลุงออกไปถ่ายรูป แต่มันมืด ไม่รู้จะถ่ายตรงไหน จึงชวนกันกลับ...เพราะลุงไม่เคยเดินออกไปไหนเลย พอบอกว่า กลับ! แทนที่ลุงจะกลับทางเดิม ก็ไปอีกทาง ป้าไปเอาเป้ ออกมายืนรอหน้าออฟฟิศ เวลาผ่านไปเรื่อยๆ แต่ลุงยังไม่มา...20.15 น. ลุงจึงโผล่มาให้เห็นไกลๆ ป้าต้องออกไปยืนโบกมือ🏤
ลุงยังไม่รู้ว่าจะตกรถ เพราะคิดว่า ขึ้นรถตรงหน้าออฟฟิศ ป้าเร่งให้เข้าไปเอาของ เราต้องไปขึ้นรถอีกทาง....วิ่งละค่ะ คราวนี้...พอไปถึง ลุงหาดูโลโก้ CATA บอกว่ารถยังไม่เข้า....ความจริง คือ CATA ส่งเราต่อให้ Chaulier ซึ่งจอดรออยู่ที่ช่อง 34 นั่นแหละ....อะไรที่เป๊ะ ลุงมักไม่ใส่ใจ....แต่อะไรที่คนรู้ภาษา คิดมาก ลุงมักจะคิดถูก...เพราะฉะนั้น อย่ากลัวว่า ใช้ภาษาไม่ได้จะไปเที่ยวต่างประเทศไม่ได้...ขอแค่เรามุ่งมั่นที่จะสื่อสาร และใช้ภาษาท่าทางที่เป็นสากลได้ ก็น่าจะช่วยเราได้มาก 🌍🌍🌍🌍
[CR] ลุงกับป้าแบ็คแพ็ครอบโลก ตะลุยสหรัฐ เม็กฯ อเมริกากลาง เมกาใต้ อัฟริกา 26 ประเทศ74 วัน ตอน 48 ลุยหิมะจากชิลี ไปอาร์เจนตินา
(ตอนอยู่ตปท. ภาพนิ่งล้นไอโฟน จึงลบออกหลังโพสต์เพจแล้ว ส่วนพันทิปโหลดหน้ารีวิวไม่ได้ ต้องกลับมาทำใทย ตอนนี้ขอให้ชมยูทูปไปก่อน ถ้ารีบชมภาพนิ่ง ให้ไปที่เพจ ลุงกับป้าแบ็คแพ็ครอบโลก)
https://www.youtube.com/watch?v=_pn5GbFqkC4&index=48&list=PLNNEpgjidh3o3vU44K5Op2M1w_g3Pg5Jk
ถามจนท.ตร.แถวนั้น เดินไปถามเวลารถ กับค่าโดยสาร เขารับเป็นเงินเปโซ เท่านั้น ป้าจึงต้องหาที่แลกเงินเพิ่มจนท.ตร.คนเดิมพาไปรอหน้าออฟฟิศ บอกว่า อีกไม่กี่นาทีก็เปิดแล้ว ป้าแลกเงินเพิ่มอีก $130 รวมเป็น $330 กลับไปซื้อตั๋ว คนขายนับเงิน แล้วบอกไม่พอ เพราะรถวิ่งตรงหมดแล้ว ต้องไปต่อรถที่ Mendoza ค่ารถเพิ่ม จากคนละ 54,000 เป็น 61,500 ป้านับเงินแล้วพอ จึงตกลงตามนั้น...รถวิ่งตรงออกเวลา 10.00 น. วันนี้ ถึง บัวโนส ไอเรส พรุ่งนี้เช้า 07.30 น. แต่รถที่เราจะไป แวะที่เมนโดซ่า ก่อน และต่อรถอีกครั้งเวลา 20.30 น. แค่ถึงเวลาเท่ากัน .... เราอยากไปเที่ยวเมืองมรดกโลก Valparaiso แต่ต้องใช้เวลาเดินทาง ไป 2 ชม. เรามีเวลาเหลือแค่ 1 ชม. ก่อนขึ้นรถ จึงไปได้แค่กลางเมือง นั่งแท็กซี่ ไป- กลับ เป็นแท็กซี่มิเตอร์ บนถนนเดียวกัน ขาไปวิ่งตรงอย่างเดียว 3,350 เปโซ ขากลับเขาเลี้ยวข้ามถนนมาส่ง 3,700 เปโซ เราคงเที่ยวได้แค่นี้ สถานที่ที่ทัวร์นำเสนอ อย่าง เกาะ Easter ซึ่งมีอุทยาน Labanu เป็นมรดกโลก มีโมอาย 600 ตัว จากหิน 600 ก้อน กับ ถ้ำลาวา มี Mauga Ter Evaka เป็นจุดสูงสุด เราไม่ได้ไปแน่นอน
เที่ยวซานติอาโก้ ชิลี เป็นยิ่งกว่า ชะโงกทัวร์ เพราะมัน คือ กระโดดทัวร์😂😂😂😂
ผู้คนที่ชิลี เป็นมิตร และ มีน้ำใจ แท็กซี่ ก็ไม่ได้เอาเปรียบนักท่องเที่ยว ตรงไปตรงมา ตำรวจก็น่ารัก
😄😄😄😄😄
เราหวังว่า รถไปเมโดซ่า ตะพาเราวนรอบกรุงซานติอาโก้ เหมือนรถที่ออกจากลิม่า ไปกูสโก....แต่ผิดหวัง เพราะรถพาออกทางเลี่ยงเมือง ลงอุโมงค์ยาวๆ โปร่ง บ้าง ทึบ บ้าง ราว 2 กม. พอโผล่ออกจากอุโมงค์ ก็เจอภูเขาสูงขวางหน้า แต่มันไม่เหมือนภูเขาที่ผ่านมา มันดูชุ่มชื้น มีหญ้าสั้นๆ สีเขียวคลุมภูเขา เริ่มเห็นต้นไม้ ที่ผ่านการปกคลุมด้วยหิมะ มีต้นสน ปรากฏอยู่ข้างทาง มีป้ายยินดีต้อนรับสู่ San Elena เป็นเมืองที่มีต้นไม้ ดอกไม้ แม้จะไม่เท่าบ้านเรา ยุโรป หรืออเมริกากลาง แต่ก็ทำให้จิตใจที่ห่อเหี่ยวจากการเดินทางผ่านทะเลทราย หิน และหายใจเข้า ออกเต็มไปด้วยฝุ่น มาหลายวันหลายคืนแช่มชื่นเบิกบาน😊😊😊😊ตั้งแต่ 11.00 น. ก็ปรากฏภูเขาหิมะ คนบนรถส่วนใหญ่ตื่นเต้น เตรียมกล้องถ่ายรูปกันคึกคัก แต่ยิ่งผ่านไปหิมะก็ยิ่งใกล้ตัวยิ่งขึ้น มีกระเช้าลอยฟ้าให้นั่งข้ามเขาดูหิมะ มีรถโกยหิมะออกจากถนน😶😶😶😶เรื่องที่ตื่นเต้น กลายเป็นชักจะชะเง้อ เพราะต้องเข้าอุโมงค์หินลอดภูเขา รอการเคลียร์ถนน รถติดเป็นจุดๆ...เริ่มทยอยเข้าห้องน้ำกันแล้ว😐😐😐😐
อ้าววว! โดมนั่น....ขวางทางอยู่ รถติดเป็นแพ🙄🙄🙄🙄
อ๋อออ! ด่าน....นั่งคู่กันซะด้วย....เสร็จจากชิลี ก็ต่อแถวอาร์เจนติน่า ได้เลย แสดงว่า ชิลี ไม่ไว้ใจเปรู🙄🙄🙄🙄แต่ทั้งชิลี และ อาร์เจนติน่า ต่างไว้ใจซึ่งกันและกัน😄😄😄😄
ตอนนี้ก็ได้แต่หวังว่า เมื่อผ่านด่านไปแล้ว รถจะมุดอุโมงค์ที่เป็นเทือกเขาแอนดีส เมื่อพ้นจากเทือกเขานี้ไป เราจะเจอความอุดมสมบูรณ์ในอาร์เจนติน่า....เห็นลานหิมะแล้วสยอง...ใครอยากไปถ่ายรูปบนลาน เราก็ไม่สนใจแล้ว ได้พาสปอร์ตแล้ว ขอขึ้นรถไปอยู่กับฮีทเตอร์ก่อน...รีบพิมพ์ก่อนรถออก แล้วรีบปิดเครื่อง ประหยัดแบ็ตฯ ไว้พิมพ์รายงานข้างหน้า เพราะทิ้งไว้นานก็ลืม😀😀😀😀😀
ขั้นตอนที่ด่านใช้เวลา เกือบ 2 ชม. รถออกจริงๆ เวลา 13.30 น. ก่อนจะผ่านด่านสุดท้าย พนง.คนใหม่เอาถุงอาหารส่งให้จนท.ที่สูงวัยที่สุด จนท.หนุ่ม สาว มองตามกลืนน้ำลาย...แต่จนท.ผู้ใหญ่ ถือ ขึ้นไปนั่งหน้ารถ เปิดออก นั่งกินอยู่คนเดียว😐😐😐😐😐
สองข้างทางยังคงเต็มไปด้วยภูเขาหิมะ ที่เริ่มละลาย มีธารน้ำแข็งไหลลอดโพรงหิมะ....จนเวลาผ่านไป ครึ่งขั่วโมง ก็เป็นภูเขาหิน ทราย และธารหินที่มีน้ำเพียงเล็กน้อย... ความแห้งแล้งยังคงเข้ามาในสายตาต่อไป....มีช่วง 5 นาที เห็นป่าละเมาะทะเลทราย มีป้ายปักชื่อเจ้าของ และ 2 นาทีเท่านั้นที่เห็น มีแปลงพืชปลูกใหม่ ผ่านไปอีก 10 นาที เป็นการปลูกกิ่งตอนแอ๊ปเปิ้ลเป็นพื้นที่กว้าง โดยอีกด้านหนึ่งเป็นต้นแอ๊ปเปิ้ลที่มีแต่กิ่ง เพราะเพิ่งผ่านความหนาวเย็นจากการปกคลุมของหิมะมา .... แค่ 10 นาที ตรงนั้น แล้วก็เป็นความแห้งแล้งต่อ....แดดเริ่มแรง ฮีทเตอร์ทำงานเต็มที่ เราถอดเสื้อออกคนละ 2 ตัว ปิดม่านกันแดด คราวนี้ ป้าแพ้ฝุ่นม่านอีก นั่งฟุดฟิดดูหนังทีวีดีกว่าอยู่เปล่าๆ😐😐😐😐😐
ป้างีบหลับ ตอนที่ลุงบอกว่า มีทะเลสาบด้วย😀😀😀😀😀
น้ำยังไม่มาก เพราะหิมะเพิ่งละลาย....อยู่ห่างจากถนนประมาณ 1 กม. แต่เริ่มมีสัญญาณของความชุ่มชื้นให่เห็น คือ มีป่าไม้ที่ร้างใบ เพราะถูกหิมะกัดจนโกร๋น อยู่ริมทาง แม้ว่ามองไปไกลๆ จะยังเป็นภูเขาหินอยู่😊😊😊😊
เรื่องหนังแผ่นบนรถทัวร์นี่ก็แปลก ที่จริงคนเดินทางส่วนใหญ่น่าจะชอบดูหนังที่มีทิวทัศน์แปลกๆ หรือ ฉากธรรมชาติ สถานที่ท่องเที่ยว หรือ แนะนำโอท็อป หรือ ะไรก็ได้ระหว่างทาง หรือ ปลายทางที่ผู้โดยสารจะไป แต่บนรถมักจะมีแต่หนังที่คนรถชอบ ถ้าเป็นรถทัวร์ไทยก็เปิดตลกบ้าง ผีบ้าง คนเดินทางตอนกลางคืนแต่เปิดอะไรแบบนี้ ไม่รู้ว่า คนขับกับเด็กรถต้องการให้ผู้โดยสารอยู่เป็นเพื่อน หรือ อย่างไร🙄🙄🙄🙄ตอนที่ท้องอ่อนๆ นั่งรถทัวร์จากอุตรดิตถ์ไปปาดังเบซาร์ ดูหนังจีนจนเบื่อไปเลย เพราะเปิดเรื่องมา ก็มีการฆ่าผู้มีพระคุณ แล้วก็มีการฝึกวิทยายุทธ มีการแย่งเคล็ดวิชา ในที่สุดธรรมะ ก็ชนะอธรรม😐😐😐😐 เบื่อหนังจีนกำลังภายในตั้งแต่บัดนั้น....
นั่งรถ Cruz del Sur ค่อยยังชั่ว มีให้เลือกเหมือนบนเครื่องบิน อยากดู คอมเมดี้ ดราม่า แอ็คชั่น ไซไฟ หรือ จะฟังเพลง เล่นเกม ตามใจผู้โดยสาร😊😊😊
แต่รถ CATA วันนี้มีทีวีเครื่องเดียวทั้งรถ เก้าอี้วีไอพี ปรับเอนนอนเกือบราบ คนข้างหน้าไม่สนใจ ว่าคนข้างหลังจะขึ้นมาหรือยัง จะเข้าได้ไหม ส่วนคนข้างหลังก็จะดูทีวี เราจะนั่งดูวิว เขาก็ขอร้องให้เรานอน😣😣😣😣
แต่พอเราปรับเบาะนอน เจาก็หลับเงียบกริบ เพราะหนังเรื่องแรกพากษ์ภาษาอังกฤษ😄😄😄😄
ความจริง ทั้งคนข้างหน้าและข้างหลังเราก็น่ารัก พวกเขาแค่ไม่เคยนั่งเครื่องบินเท่านั้นเอง จึงไม่รู้ว่า เมื่อไรควรจะทำอย่างไร😊😊😊😊
เราเดาไม่ถูกว่า จะถึงเมนโดซ่ากี่โมง....รถในลาตินอเมริกา บอกแต่เวลาออก ไม่บอกเวลาถึง เราถามเวลาถึงบัวโนส ไอเรส แจ่ลืมถามเวลาถึง เมนโดซ่า ภาษาที่ใช้สื่อสารก็แสนจะยุ่งยาก😣😣😣😣
อาหารกลางวันที่เสิร์ฟบนรถเป็นแซนด์วิชแฮมชีส เราจึงเก็บไว้กินตอนเย็นเพราะไม่รู้ว่า บนรถจะมีเสิร์ฟ หรือ ไม่
เวลา 15.45 น. พนง. ก็มาเก็บหมอน และผ้าห่ม เราพอจะเดาได้ว่า ไม่นานก็คงถึง
รถเข้าสถานีเมนดูซ่า เวลา 16.25 น. ไปที่ออฟฟิศ CATA ถามหาที่ขึ้นรถ พนง.เขียนให้ ป้าถามพิกัด เธอชี้ให้...แต่ไม่จบ ลุงเกิดเห็นเต้าเสียบ 3 ตาเฉียงและแบน ให้ป้าไปหาซื้อมาให้ได้😣😣😣😣
ออกไปเดินรอบสถานี มีต้นไม้อยู่รอบสถานี และตามข้างถนน มิงแล้วสบายตา แสดงว่า ความแห้งแล้งคงจะหมดเสียที🏞🏞🏞ถามที่ซุปเปอร์ฯ พนง.หนุ่มบอกว่า ในสถานีนั่นแหละ...ป้านึกได้ว่า ต้องหาที่แลกเงินก่อน...จึงเดินไปอีกทางที่ยังไม่ได้ไป....ถามคนเดินสวนมา เขาบอกว่า ต้องเข้าไปที่ Centro ซึ่งไกลจากที่นั่นมาก😣😣😣😣
เดินกลับไปที่สถานี เดินวน ไปอีกด้าน สถานีเป็นวงเกือบกลม เดินนานจนร้อน ถามจนท.ปชส.เธอบอกว่า ให้เดินไปทางที่ลุงนั่งรออยู่....วนทั้งข้างนอกและข้างใน ปิดหมด😣😣😣😣
แต่ตอนที่วนไปถามปชส. เห็นร้านขายวัสดุ อุปกรณ์ ประเภทกรรไกร คีม คัทเตอร์ จึงลองเสี่ยงเข้าไปถาม...เขาเอามาให้ดู มันมีแค่ 2 ขาเฉียง ทั้งร้านเหลืออันเดียว แต่เขาทำท่าเสียบให้ดู....คิดว่า น่าจะได้...แต่ปัญหา คือ รูข้างบน มันกลมและเล็ก จึงขอเวลา กลับไปเอาปลั๊กยุโรปมาลอง...วิ่งไปครึ่งรอบ...กลับมา....ปรากฏว่า มันใช่เลย....ปัญหาต่อไป คือ ไม่มีเงินเปโซ😣😣😣😣เขาไม่ยอมขายให้ บอกให้ไปแลกเงินมาก่อน....
ป้าทำท่า บอกให้เขารู้ว่า ได้พยายามแล้ว ทุกที่ปิดหมด แล้วก็อ้อนวอนเขา ตอนแรก เขาไม่ยอม แต่พอป้าควักแบงค์ $1 ใหม่ออกมา เขาคว้าหมับเลย แล้วบอกว่า ราคามันไม่ถึง $1 หรอก แต่ไม่ทอนนะ....เง้ออออ! แต่ไม่มีปัญหาแล้ว ป้ารีบรวบของ บอกลา จังหวะที่มีลูกค้าคนใหม่เข้าร้านมาพอดี😄😄😄😄
ลุงดีใจมาก พอตั้งท่าเสียบ พนง.สูงวัยที่เชียร์แขกอยู่ก็โวยวาย เพราะมันหลายชั้น หลายสายมาก ชั้นแรกเป็นปลั๊กขาเฉียง ชั้นที่ 2 เป็นปลั๊กยุโรป ใช้ได้อันเดียว ชั้นที่ 3 เป็น 3 ตา ที่ใช้ในอเมริกา ญี่ปุ่น อาเซียน และไทย ชั้นที่ 4 เป็นอะแด็ปเตอร์ ทั้งคัวผู้และตัวเมีย 3 อัน😉😉😉
พนง.ทำท่าเหมือนจะไปฟ้องใคร แต่ลุงดื้อซะอย่าง...ความจริงไม่มีอะไรหรอก....เขา คง แค่ตกใจ เพราะไม่เคยเห็น😃😃😃😃
แต่ป้าร้อนมาก เพราะเดินเกือบชม.....
ยังไม่จบแค่นั้น ลุงให้ป้า ไปหาซื้อตั๋วรถที่จะไปชายแดนระหว่างอาร์เจนติน่า กับอุรุกวัย ที่มีสะพานข้ามช่วงกลาง เพื่อเดินไปถ่ายรูปอุรุกวัย เพราะเราไม่มีเวลาที่จะขอวีซ่า เข้าประเทศ....เฮ้อ!!!ชีวิตช่างลำเค็ญจริงๆ😣😣😣😣
พนง. CATA บอกว่า ต้องไปซื้อบริษัทอื่น แล้วเขาก็เขียนชื่อบริษัท และบอกที่ตั้งให้....สถานีนี้ มีบริษัทรถเยอะมาก....ป้าไปยืนรอ จนถึงคิว...พนง.ขายบอกว่า บริษัทเธอไม่มีบริการ....แต่มาดาม ท่าทางจะเป็นเจ้าของบริษัทอาสาพาไปหาบริษัทที่เธอคิดว่า มีตั๋วขาย เธออายุไม่ต่ำกว่า 70 แต่ท่าทางคล่องแคล่วมาก....บริษัทที่เธอพาไป บอกว่า ที่บัวโนส ไอเรส มีตั๋วเฉพาะเข้าอุรุกวัย ซึ่งต้องใช้พาสปอร์ต ไม่มีรถไปตรงชายแดนด้านนั้น😣😣😣😚
มาดามพาไปอีก 1 ที่ เขาก็พูดเหมือนกัน...ดังนั้น วิธีการที่จะไปให้ถึงจุดนั้น ก็ต้องไปรถจากบัวโนส ไอเรส ที่ไปถึงเมืองที่อยู่ใกล้ชายแดน แล้วนั่งรถท้องถิ่นไปชายแดน....นั่นแหละ เหตุการณ์จึงสงบ ป้านั่งพิมพ์รายงานได้...ขณะที่นั่งทำงานอยู่ ลุงบอกว่า ให้ป้า ไปถ่ายรูปข้างนอกมา ลุงจะนั่งเฝ้าอะไรๆ ที่กำลังชาร์จอยู่....เพราะป้าไม่ไป จึงไม่มีรูปเมนโดซ่า มาประกอบการรายงาน🌋
เวลา 20.00 น. ป้าไปห้องน้ำเตรียมตัวขึ้นรถ แล้วกลับมา ชวนลุงออกไปถ่ายรูป แต่มันมืด ไม่รู้จะถ่ายตรงไหน จึงชวนกันกลับ...เพราะลุงไม่เคยเดินออกไปไหนเลย พอบอกว่า กลับ! แทนที่ลุงจะกลับทางเดิม ก็ไปอีกทาง ป้าไปเอาเป้ ออกมายืนรอหน้าออฟฟิศ เวลาผ่านไปเรื่อยๆ แต่ลุงยังไม่มา...20.15 น. ลุงจึงโผล่มาให้เห็นไกลๆ ป้าต้องออกไปยืนโบกมือ🏤
ลุงยังไม่รู้ว่าจะตกรถ เพราะคิดว่า ขึ้นรถตรงหน้าออฟฟิศ ป้าเร่งให้เข้าไปเอาของ เราต้องไปขึ้นรถอีกทาง....วิ่งละค่ะ คราวนี้...พอไปถึง ลุงหาดูโลโก้ CATA บอกว่ารถยังไม่เข้า....ความจริง คือ CATA ส่งเราต่อให้ Chaulier ซึ่งจอดรออยู่ที่ช่อง 34 นั่นแหละ....อะไรที่เป๊ะ ลุงมักไม่ใส่ใจ....แต่อะไรที่คนรู้ภาษา คิดมาก ลุงมักจะคิดถูก...เพราะฉะนั้น อย่ากลัวว่า ใช้ภาษาไม่ได้จะไปเที่ยวต่างประเทศไม่ได้...ขอแค่เรามุ่งมั่นที่จะสื่อสาร และใช้ภาษาท่าทางที่เป็นสากลได้ ก็น่าจะช่วยเราได้มาก 🌍🌍🌍🌍
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น