หน้าแรก
คอมมูนิตี้
ห้อง
แท็ก
คลับ
ห้อง
แก้ไขปักหมุด
ดูทั้งหมด
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
แท็ก
แก้ไขปักหมุด
ดูเพิ่มเติม
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
{room_name}
{name}
{description}
กิจกรรม
แลกพอยต์
อื่นๆ
ตั้งกระทู้
เข้าสู่ระบบ / สมัครสมาชิก
เว็บไซต์ในเครือ
Bloggang
Pantown
PantipMarket
Maggang
ติดตามพันทิป
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้
เกี่ยวกับเรา
กฎ กติกา และมารยาท
คำแนะนำการโพสต์แสดงความเห็น
นโยบายเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิ์การใช้งานของสมาชิก
ติดต่อทีมงาน Pantip
ติดต่อลงโฆษณา
ร่วมงานกับ Pantip
Download App Pantip
Pantip Certified Developer
อีกประสบการณ์สำหรับที่ต้องเรียนรู้ในวัย 50 กว่าที่จีนอีกครั้ง (2)
กระทู้สนทนา
บันทึกนักเดินทาง
https://ppantip.com/topic/43122386/comment6
(1)
18 พฤษจิกายน 2567
วันนี้แท๊กซี่เรียกแต่เช้าเรานัดเขาไปส่งหน้าอุทยานต๋ากู่ ค่ารถ 40 หยวน นั่งสบาย ๆ ไป ก่อนลงรถนางถามว่าค่ำจะให้มารับไหม พวกเราก็กั๊กไว้ (เพราะไม่อยากกดดันตัวเองให้ต้องลงมาทั้ง ๆ ที่ยังไม่อยากลง) เลยบอกนางไปว่าพวกเราไม่รู้ว่าจะลงมากี่โมง เดี๋ยวถ้าลงมามาแล้วเรียกได้ไหม ตามนั้นนอกนั้นก็มืน ๆ ไปฟังไม่ออกละ ฮ่า ๆๆ ต่อไปก็ไปที่เดินไปที่ซื้อตั๋ว เอาพาสปอร์ตยื่น เราบอกเขาว่า โรงแรมซื้อให้แล้ว เขาก็ชี้ ๆ เราไปขึ้นรถ (ดูเหมือนจะไม่มีปัญหานะ ง่ายจัง)
เราก็เดินออกมาเข้าห้องน้ำ เตร่ ๆ แอบชะเง้อดูว่ารถข้างในมีที่นั่งที่เราต้องการไหม....อ้ารถคันใหม่มาละ ไปเลยแล้วกัน เอาของลุงก่อน ไม่ผ่าน อีกรอบไม่ผ่าน อีกที ไม่ผ่าน เอะยังไง เอาของป้าเสียบอ๊ะได้ เอาแล้วไง ปัญหาบังเกิด ใส่เลขพาสปอร์ตไปหลายรอบ แปลภาษาด้วย ช่วยกัน เอ้าไม่ได้ ๆ อีกนั่นแหละ วีแชชถึงคนซื้อตั๋ว อ้า นางใส่เบขพาสปอร์ตลุงผิด สับกัน 1 ตัว บรรลัย ถ้าจะให้เราซื้อใหม่ ไม่ยอมเด็ดขาดเราไม่ได้เป็นคนซื้อตั๋วนิ.... ลุงก็โทรคุยกะคนซื้อตั๋วและให้โทรศัพท์เขากับคนตรวจตั๋วคุยกัน เครไปขึ้นรถได้ นางจะรับผิดชอบเอง แต่ก็ใช้เวลาไปครึ่งชั่วโมงละ ว่าจะเช้าเป็นรถคันแรกไม่ทันละ
เอาละไม่คิดมากเดี๋ยวไม่สนุก ไปต่อคะ ขอบอกว่าทางขึ้นดีงามมากหิมะปอย ๆ เมื่อคืนท่าจะหนักต้นไม้ หิมะ เริ่มสวยขึ้นตามความสูง
แวะจุดที่ 1
ว้ายยยยย ให้ดูลิง ไม่เอา ลงบินโดรนแป๊ปปป ไม่ดูลิง ไม่ชอบ กลัว ไปขึ้นรถดีกว่าหนาว ไม่ใช่จุดหมาย (นั่งรถคันเดิมแหละ นั่งหลังสุดเพราะอยากได้รูปท้ายรถ (ไม่ทันด้านหน้า ฮ่า ๆ ๆ)
จุดที่ 2
แวะเข้าห้องน้ำ ถ่ายรูปแป๊ปปปเพราะมองไม่เห็นอะไรทากนักมึด ๆ ลุงบินโดรนอีกครั้งเพราะขี้เกียจเดิน จะเสียเวลา) นั่งรถคันเดิมแหละ
ไปจุดที่ 3
เพื่อขึ้นกระเช้า หันซ้ายหันขวา นับคนในรถ มีไม่มาก เราก็ใช้มุขเดิม เตร่ ๆ ให้เขาขึ้นกันหมด จะได้นั่งกระเช้า 2 คน คงจะดีพ้อมแล้วไปมั่นมาก เอาพาสปอร์ตเสียบ อ้า ..ของลุงไม่ได้อีกละ ไหนว่าจะเคลียร์ให้ เอาแล้วไง เถียง.......ไม่ให้ขึ้นก็จะขวางอยู่งี้แหละ เอาสิเอ่อ...... ทำไมไม่คิดถ้าไม่มีตั๋วจะขึ้นมาได้ยังไง เอาแชชที่คุย ๆ กัน ให้เขาดูแล้วให้เขาโทรคุยกะเจ้าหน้าที่ข้างล่างที่ให้เราขึ้นมา......... เอาจนได้ขึ้นแหละ
ในที่สุดก็ได้ขึ้น ตามต้องการ แต่ก็แอบปี๊ดดดดนิดนึ่งอะ...ช่างเถอะงั้นจะเที่ยวไม่สนุก....แต่ขอบอกว่าสิ่งที่อยากเห็น อยากได้ อยากมี มันคุ้มค่ามาก สวย ถึง สวยมาก ถามว่าหนาวไหม ก็จะบอกว่ามันเป็นตัวเลขคนกำหนดว่าหนาวหรือไม่อยู่ที่เราหนึ่งละ อีกอย่างคือลมต่างหากที่เป็นตัวแปรสำคัญ แต่ลักษณะของที่นี่คือเราอยู่ในแอ่งของยอดเขา มันไม่ปะทะลมตรง ๆ เหมือนสันเขา รวม ๆ คือ อุณหภูมิ+หิมะ-แดด-ลม ก็จะยวน ๆ กะเสื้อผ้าที่ใส่ไปแหละ (งงมั๊ยอะ)
ใช้เวลาที่นี่ค่อนข้างนานถึงนานมากกว่าคนอื่น ๆ (เอาให้คุ้มเท่าที่เราจะรับกันไหว ณ ความสูง 4860 เมตร) เจอคนไทยด้วย 2-3 กลุ่ม ส่วนมากะทัวร์ และน้องคนที่ถ่ายรูปให้เข้าใจว่าน้องมากันเองเหมือนพวกเราน้องเขาไล่มาตั้งแต่จิ่วจ้ายโกว- หวงหลง-แล้วก็ที่นี่ อีกคนหนึ่งก็บอกว่ามากะทัวร์เขาให้เวลา 15 นาที ซึ่งถือว่าน้อยนะ แต่ก็เข้าใจได้ว่ามันอันตรายสำหรับระบบร่างกายของแต่ละคน สำหรับเราสองคนเอาจนไม่ไหวแล้วกัน ลุงก็บินโดรนเป็นจุด ๆ ไป ที่นี่โดรนเยอะนะ ไม่ห้าม แล้ววันนี้มันไม่มีลมแรงด้วยคือทุกคนจัดเต็มมาก
กว่าจะลงมาคือมันบ่าย 3 แล้วอะ พอละคิดว่าเต็มอิ่มละ อิป้าขอวนอีกสักรอบจากที่นั่งอาบแดดอยู่ เดินไปสัก50 เมตรมั้ง อาการเริ่มมาอะ เอะ ยังไง ยังไม่บอกลุง บอกแค่ว่าพอแล้วจะกลับละ ลุงชวนเดินขึ้นอีกทาง ป้าเริ่มรู้ตัวละขอเดินตามบันได พอได้เกาะบันไดแล้วไม่ไหวอะ ลุงเดินมาหาเอาอ๊อกซิเจนให้สูดดดดดด จนหมดแหละ เดินไปลงกระเช้าทันทีไม่เอาแล้ว (จริงๆทานยาแพ้ความสูงมาตั้งแต่วันที่มาเฮอซุ่ยแล้วนะ) เอาไม่อยู่หรือเพราะไม่ทานข้าว ไม่รู้เหมือนกันแต่ลุงไม่มีอาการใด ๆ แฮะ เอาจริงพอลงมาก็ไม่เป็นไรละ หายละ ปัญหาบังเกิดอีกละ หาแท๊กซี่กลับไม่ได้ ฮ่า ๆ แต่ก็ไม่ได้รีบร้อนอะไรเดินมาหน้าอุทยาน เผื่อจะมีคนต้องการหารด้วย เปล้าาาาา ไม่มี เลยต้องแชช ให้คนมาส่งเมื่อเช้า เขาตกลงแต่จะให้เพื่อนทะเบียนรถนี้ๆๆรถสีนี้ๆๆๆ ไปรับ ก็ตามนั่นนั่งถ่ายรูปหน้าอุทยานไปฆ่าเวลา ระหว่างทางเราก็คุยกันเรื่องแผนของพรุ่งนี้ แท๊กซี่คนนี้นางพูดอังกฤษได้นิดหน่อย เราบอกนางว่าพรุ่งนี้ไปส่งที่ท่ารถบัสได้ไหม เราจะนั่งรถไปเมืองเม่าเซี้ยน นางบอกว่านางจะไปทำธุระพอดี เหมาไหมอะ 300 หยวน เราก็บอกตรง ๆ แพง เราให้ได้ 200 สรุปไม่ได้ตกลงกัน เราจะไปเองด้วยวิธีของเรา วันนี้ก็จบลงด้วยการเดินดูเมือง เอาให้จุก ๆ เมืองน่าอยู่ เมืองเล็ก ๆ แต่มีครบทุกอย่างอาหารการกินแบบสบาย เดินหากันได้สะดวก วันนี้ได้แค่นี้แหละพลังเหลือนิดหน่อยใช้เดินเที่ยวในเมืองตอนเย็น ๆ ไว้พรุ่งนี้ค่อยคิดต่อ ฝันดีคะ
▼
กำลังโหลดข้อมูล...
▼
แสดงความคิดเห็น
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
บันทึกการกิน ตอน ชวนชิม 4 ร้านตั้งแต่ริมถนนยันริมทะเล “วาสนาดี, บ้านครูส่วน, เจ๊เขียวซีฟู๊ด, ช็อคโกแลตแฟคทอรี่”
กระทู้ชวนกิน (อีกแล้ว) คราวนี้นำเสนอ 4 ร้านถ้วนค่ะ เลาะไปตั้งแต่บางตะบูน หัวหิน เขาตะเกียบ และเขาเต่า พร้อมแล้ว ออกเดินทาง....ได้....
หญิงเฮเทกระจาด
อีกประสบการณ์สำหรับที่ต้องเรียนรู้ในวัย 50 กว่าที่จีนอีกครั้ง (3)
https://ppantip.com/topic/43122386/comment6 (1) https://ppantip.com/topic/43125951 (2) 19 พฤศจิกายน 2567 วันนี้เช่นเคย ตื่นเช้าเพราะต้องออกเดินทางให้ทันรอบรถบัสที่จะไปเม่าเซี่ยน 7.30 ไม่ได
วันใหม่1234
เพื่อนผมบอกว่า ถ้าขึ้นภูกระดึงแบบใช้พวกลูกหาบ อย่ามาโม้
ตอนนี้ช่วงขึ้นภูกระดึง เลยเกิดมีการเกทับของพวกเพื่อนๆ ที่เคยขึ้นยุค 30 ปีที่แล้ว ว่าตอนยุคนั้นขึ้นภูกระดึงกัน ไม่ต้องมีพวกลูกหาบ (เพื่อนๆผมยุคนั้นคือยังเป็นนักศึกษา) ส่วนพวกที่ใช้ลูกหาบคนของขึ้นยุคนี้
=. ลางเนื้อเจือลางยา .=
พลาดไปแล้ว ทำยังไง: ซื้อที่เพื่อทำเกษตร แต่พลาด ลืมคิดเรื่องสำคัญ
ย้อนกลับไปประมาณปี 2015 แฟนเราเริ่มชวนเราหาซื้อที่ดินซักแปลง เผื่อว่าจะเอาไว้ปลูกผักไว้ใช้สำหรับทำไส้อั่ว โจทย์ข้อที่หนึ่งในการหาที่ดินของเราคือ ต้องไม่ไกลจากบ้าน เพราะจะ
ฟุ่มเฟือย farmers
อีกประสบการณ์สำหรับที่ต้องเรียนรู้ในวัย 50 กว่าที่จีนอีกครั้ง (1)
ได้ฤกษ์งามยามดีอีกครั้งสำหรับการเปิดประสบการณ์ในจีนของลุงกะป้า ทริปนี้ออกเดินทางวันที่ 16-29 พฤศจิกายน 2567 เริ่มต้นที่ กทม. (บ้านอยู่เจียงใหม่เจ้า) 16 พฤศจิกายน 2567 เนื่องจากเที่ยวบินขอ
วันใหม่1234
อีกประสบการณ์สำหรับที่ต้องเรียนรู้ในวัย 50 กว่าที่จีนอีกครั้ง (6)
https://ppantip.com/topic/43122386/comment6 (1) https://ppantip.com/topic/43125951 (2) https://ppantip.com/topic/43126275/comment7 (3) https://ppantip.com/topic/43131801/comment5 (4) h
วันใหม่1234
Update One day trip จากฉงชิ่ง (Chongqing) - Three Natural Bridges ด้วยตนเองแบบง่ายๆ ปี 2567 สิ้นเดือนธันวาคม
สวัสดีค่าทุกคน.... หลังจากที่ได้เดินทางไปจีนด้วยตัวเองสดๆร้อนๆก็ได้ผจญภัยมาอย่างหนักหน่วง เลยอยากมาแชร์ประสบการณ์เพื่อให้เพื่อนๆท่านอื่นๆไปตามรอยได้อย่างสบายไม่ต้องกลัวหลง เจ้าของกระทู้เป็นตัวแ
สมาชิกหมายเลข 3513907
ลุงอ้วนอิ่มเล่าเรื่อง EP.18: เรื่องอดีตเด็ก 10 ขวบโดนครูภาษาไทยตบหน้า เพราะมองหน้าครูสอน
ลุงอ้วนอิ่มเล่าเรื่อง EP.18: เรื่องอดีตเด็ก 10 ขวบโดนครูภาษาไทยตบหน้า เพราะมองหน้าครูสอน ลุงอ้วน เป็นเด็กหน้าห้องตลอด ตอนอยู่ประถม 4 นั่งแถวหน้าสุด เป็นคาบวิชาภาษาไทย ครูชื่อ 1D แกก็สอนหนังสือไปแ
ลุงอ้วนอิ่ม
ถ้าหน้าเหมือนคนอุซเบกิสถานนี่หมายถึงหน้าออกจีนหรือแขก
คือจขกทมีเพื่อนสนิทเป็นมุสลิมและหน้านางออกจีนแบบคมๆคล้ายหยางมี่+กูลี่นาจาและจขกทไปเที่ยวงานฮาลาลกับนางและไปซื้อของแม่ค้าที่ขายหน้าออกแขกประทานและแม่ค้าร้านนี้ก็ทักนางว่า เบหน้าคุ้ยๆเคยเจอกันที่ไหนไหม
สมาชิกหมายเลข 6663698
อีกประสบการณ์สำหรับที่ต้องเรียนรู้ในวัย 50 กว่าที่จีนอีกครั้ง (5)
https://ppantip.com/topic/43122386/comment6 (1) https://ppantip.com/topic/43125951 (2) https://ppantip.com/topic/43126275/comment7 (3) https://ppantip.com/topic/43131801/comment5 (4) 23&
วันใหม่1234
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
บันทึกนักเดินทาง
บนสุด
ล่างสุด
อ่านเฉพาะข้อความเจ้าของกระทู้
หน้า:
หน้า
จาก
แชร์ :
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
ยอมรับ
อีกประสบการณ์สำหรับที่ต้องเรียนรู้ในวัย 50 กว่าที่จีนอีกครั้ง (2)
18 พฤษจิกายน 2567
วันนี้แท๊กซี่เรียกแต่เช้าเรานัดเขาไปส่งหน้าอุทยานต๋ากู่ ค่ารถ 40 หยวน นั่งสบาย ๆ ไป ก่อนลงรถนางถามว่าค่ำจะให้มารับไหม พวกเราก็กั๊กไว้ (เพราะไม่อยากกดดันตัวเองให้ต้องลงมาทั้ง ๆ ที่ยังไม่อยากลง) เลยบอกนางไปว่าพวกเราไม่รู้ว่าจะลงมากี่โมง เดี๋ยวถ้าลงมามาแล้วเรียกได้ไหม ตามนั้นนอกนั้นก็มืน ๆ ไปฟังไม่ออกละ ฮ่า ๆๆ ต่อไปก็ไปที่เดินไปที่ซื้อตั๋ว เอาพาสปอร์ตยื่น เราบอกเขาว่า โรงแรมซื้อให้แล้ว เขาก็ชี้ ๆ เราไปขึ้นรถ (ดูเหมือนจะไม่มีปัญหานะ ง่ายจัง)
เราก็เดินออกมาเข้าห้องน้ำ เตร่ ๆ แอบชะเง้อดูว่ารถข้างในมีที่นั่งที่เราต้องการไหม....อ้ารถคันใหม่มาละ ไปเลยแล้วกัน เอาของลุงก่อน ไม่ผ่าน อีกรอบไม่ผ่าน อีกที ไม่ผ่าน เอะยังไง เอาของป้าเสียบอ๊ะได้ เอาแล้วไง ปัญหาบังเกิด ใส่เลขพาสปอร์ตไปหลายรอบ แปลภาษาด้วย ช่วยกัน เอ้าไม่ได้ ๆ อีกนั่นแหละ วีแชชถึงคนซื้อตั๋ว อ้า นางใส่เบขพาสปอร์ตลุงผิด สับกัน 1 ตัว บรรลัย ถ้าจะให้เราซื้อใหม่ ไม่ยอมเด็ดขาดเราไม่ได้เป็นคนซื้อตั๋วนิ.... ลุงก็โทรคุยกะคนซื้อตั๋วและให้โทรศัพท์เขากับคนตรวจตั๋วคุยกัน เครไปขึ้นรถได้ นางจะรับผิดชอบเอง แต่ก็ใช้เวลาไปครึ่งชั่วโมงละ ว่าจะเช้าเป็นรถคันแรกไม่ทันละ
เอาละไม่คิดมากเดี๋ยวไม่สนุก ไปต่อคะ ขอบอกว่าทางขึ้นดีงามมากหิมะปอย ๆ เมื่อคืนท่าจะหนักต้นไม้ หิมะ เริ่มสวยขึ้นตามความสูง
แวะจุดที่ 1
ว้ายยยยย ให้ดูลิง ไม่เอา ลงบินโดรนแป๊ปปป ไม่ดูลิง ไม่ชอบ กลัว ไปขึ้นรถดีกว่าหนาว ไม่ใช่จุดหมาย (นั่งรถคันเดิมแหละ นั่งหลังสุดเพราะอยากได้รูปท้ายรถ (ไม่ทันด้านหน้า ฮ่า ๆ ๆ)
จุดที่ 2
แวะเข้าห้องน้ำ ถ่ายรูปแป๊ปปปเพราะมองไม่เห็นอะไรทากนักมึด ๆ ลุงบินโดรนอีกครั้งเพราะขี้เกียจเดิน จะเสียเวลา) นั่งรถคันเดิมแหละ
ไปจุดที่ 3
เพื่อขึ้นกระเช้า หันซ้ายหันขวา นับคนในรถ มีไม่มาก เราก็ใช้มุขเดิม เตร่ ๆ ให้เขาขึ้นกันหมด จะได้นั่งกระเช้า 2 คน คงจะดีพ้อมแล้วไปมั่นมาก เอาพาสปอร์ตเสียบ อ้า ..ของลุงไม่ได้อีกละ ไหนว่าจะเคลียร์ให้ เอาแล้วไง เถียง.......ไม่ให้ขึ้นก็จะขวางอยู่งี้แหละ เอาสิเอ่อ...... ทำไมไม่คิดถ้าไม่มีตั๋วจะขึ้นมาได้ยังไง เอาแชชที่คุย ๆ กัน ให้เขาดูแล้วให้เขาโทรคุยกะเจ้าหน้าที่ข้างล่างที่ให้เราขึ้นมา......... เอาจนได้ขึ้นแหละ
ในที่สุดก็ได้ขึ้น ตามต้องการ แต่ก็แอบปี๊ดดดดนิดนึ่งอะ...ช่างเถอะงั้นจะเที่ยวไม่สนุก....แต่ขอบอกว่าสิ่งที่อยากเห็น อยากได้ อยากมี มันคุ้มค่ามาก สวย ถึง สวยมาก ถามว่าหนาวไหม ก็จะบอกว่ามันเป็นตัวเลขคนกำหนดว่าหนาวหรือไม่อยู่ที่เราหนึ่งละ อีกอย่างคือลมต่างหากที่เป็นตัวแปรสำคัญ แต่ลักษณะของที่นี่คือเราอยู่ในแอ่งของยอดเขา มันไม่ปะทะลมตรง ๆ เหมือนสันเขา รวม ๆ คือ อุณหภูมิ+หิมะ-แดด-ลม ก็จะยวน ๆ กะเสื้อผ้าที่ใส่ไปแหละ (งงมั๊ยอะ)
ใช้เวลาที่นี่ค่อนข้างนานถึงนานมากกว่าคนอื่น ๆ (เอาให้คุ้มเท่าที่เราจะรับกันไหว ณ ความสูง 4860 เมตร) เจอคนไทยด้วย 2-3 กลุ่ม ส่วนมากะทัวร์ และน้องคนที่ถ่ายรูปให้เข้าใจว่าน้องมากันเองเหมือนพวกเราน้องเขาไล่มาตั้งแต่จิ่วจ้ายโกว- หวงหลง-แล้วก็ที่นี่ อีกคนหนึ่งก็บอกว่ามากะทัวร์เขาให้เวลา 15 นาที ซึ่งถือว่าน้อยนะ แต่ก็เข้าใจได้ว่ามันอันตรายสำหรับระบบร่างกายของแต่ละคน สำหรับเราสองคนเอาจนไม่ไหวแล้วกัน ลุงก็บินโดรนเป็นจุด ๆ ไป ที่นี่โดรนเยอะนะ ไม่ห้าม แล้ววันนี้มันไม่มีลมแรงด้วยคือทุกคนจัดเต็มมาก
กว่าจะลงมาคือมันบ่าย 3 แล้วอะ พอละคิดว่าเต็มอิ่มละ อิป้าขอวนอีกสักรอบจากที่นั่งอาบแดดอยู่ เดินไปสัก50 เมตรมั้ง อาการเริ่มมาอะ เอะ ยังไง ยังไม่บอกลุง บอกแค่ว่าพอแล้วจะกลับละ ลุงชวนเดินขึ้นอีกทาง ป้าเริ่มรู้ตัวละขอเดินตามบันได พอได้เกาะบันไดแล้วไม่ไหวอะ ลุงเดินมาหาเอาอ๊อกซิเจนให้สูดดดดดด จนหมดแหละ เดินไปลงกระเช้าทันทีไม่เอาแล้ว (จริงๆทานยาแพ้ความสูงมาตั้งแต่วันที่มาเฮอซุ่ยแล้วนะ) เอาไม่อยู่หรือเพราะไม่ทานข้าว ไม่รู้เหมือนกันแต่ลุงไม่มีอาการใด ๆ แฮะ เอาจริงพอลงมาก็ไม่เป็นไรละ หายละ ปัญหาบังเกิดอีกละ หาแท๊กซี่กลับไม่ได้ ฮ่า ๆ แต่ก็ไม่ได้รีบร้อนอะไรเดินมาหน้าอุทยาน เผื่อจะมีคนต้องการหารด้วย เปล้าาาาา ไม่มี เลยต้องแชช ให้คนมาส่งเมื่อเช้า เขาตกลงแต่จะให้เพื่อนทะเบียนรถนี้ๆๆรถสีนี้ๆๆๆ ไปรับ ก็ตามนั่นนั่งถ่ายรูปหน้าอุทยานไปฆ่าเวลา ระหว่างทางเราก็คุยกันเรื่องแผนของพรุ่งนี้ แท๊กซี่คนนี้นางพูดอังกฤษได้นิดหน่อย เราบอกนางว่าพรุ่งนี้ไปส่งที่ท่ารถบัสได้ไหม เราจะนั่งรถไปเมืองเม่าเซี้ยน นางบอกว่านางจะไปทำธุระพอดี เหมาไหมอะ 300 หยวน เราก็บอกตรง ๆ แพง เราให้ได้ 200 สรุปไม่ได้ตกลงกัน เราจะไปเองด้วยวิธีของเรา วันนี้ก็จบลงด้วยการเดินดูเมือง เอาให้จุก ๆ เมืองน่าอยู่ เมืองเล็ก ๆ แต่มีครบทุกอย่างอาหารการกินแบบสบาย เดินหากันได้สะดวก วันนี้ได้แค่นี้แหละพลังเหลือนิดหน่อยใช้เดินเที่ยวในเมืองตอนเย็น ๆ ไว้พรุ่งนี้ค่อยคิดต่อ ฝันดีคะ