ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงชี้ ลักษณะการก่อเหตุระเบิด 7 จังหวัดใต้ เป็นฝีมือของกลุ่มบีอาร์เอ็น

กระทู้คำถาม
ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงชี้ ลักษณะการก่อเหตุระเบิด 7 จังหวัดใต้ เป็นฝีมือของกลุ่มบีอาร์เอ็น

แอนโทนี เดวิส นักวิเคราะห์ประจำประเทศไทยของกลุ่มไอเอชเอส - เจนส์ ซึ่งเป็นกลุ่มที่ศึกษาวิเคราะห์ข้อมูลข่าวความมั่นคงและการทหาร ได้ให้สัมภาษณ์บีบีซีไทยและให้ความเห็นถึงการก่อเหตุวางระเบิดในหลายจังหวัดในช่วงสองวันที่ผ่านมาว่า ถ้าดูจากลักษณะของการปฏิบัติการและอาวุธที่ใช้แล้วจะเห็นได้ชัดว่า กลุ่มที่มีศักยภาพในการลงมือก่อเหตุหนนี้มีอยู่กลุ่มเดียวคือกลุ่มบีอาร์เอ็น ซึ่งก่อเหตุแสดงการต่อต้านรัฐบาลตลอดเวลาสิบกว่าปีที่ผ่านมาในสามจังหวัดภาคใต้

เดวิสชี้ว่า ปฏิบัติการในระดับนี้ที่สามารถลงมือพร้อมกันได้ใน 7 จังหวัด ต้องใช้คนจำนวนมาก และต้องวางแผนมาอย่างดี ต้องใช้เวลาในการประสานงาน ไม่ใช่สิ่งที่จะสามารถลงมือทำได้ภายในไม่กี่วันและต้องอาศัยเครือข่ายคนในประเทศสนับสนุน ส่วนอาวุธที่ใช้เป็นวัตถุระเบิดขนาดเล็กพกพาได้ง่าย ความเสียหายที่เกิดจากเหตุการณ์แต่ละจุดไม่ได้มากนักแต่สร้างผลกระทบสูง นี่เป็นลักษณะการลงมือของกลุ่มบีอาร์เอ็นทั้งสิ้น

เมื่อถามถึงกรณีที่ผู้ใช้โซเซียลมีเดียจำนวนมากคาดการณ์กันว่า เรื่องนี้เป็นฝีมือของกลุ่มคนบางส่วนในกองทัพที่มีความไม่พอใจในหลายประเด็น โดยเฉพาะเรื่องที่จะมีการโยกย้ายกำลังทหารบางส่วนออกจากพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น เดวิสชี้ว่า จริงอยู่ในทางศักยภาพ พวกเขาอาจจะสามารถลงมือได้ แต่เขาเห็นว่าเรื่องนี้เป็นไปไม่ได้และไม่สมเหตุสมผลอย่างสิ้นเชิง

“ถ้าเราดูลักษณะของการลงมือ  การใช้วัตถุระเบิดขนาดเล็ก การทำให้เกิดเพลิงไหม้ การใช้ระเบิดแสวงเครื่องแบบทำให้เกิดเพลิงไหม้ รวมทั้งปฏิบัติการที่สามารถประสานงานกันได้อย่างดี แต่ละแห่งเป็นปฏิบัติการที่ไม่ใหญ่มาก แต่ว่าจะต้องใช้คนอาจจะไม่ต่ำกว่า 30 คน ขณะที่ตัวปฏิบัติการไม่ได้ต้องการจะสร้างความเสียหายแบบทำให้มีคนบาดเจ็บล้มตายเป็นจำนวนมาก ทั้งหมดนี้เป็นสัญญาณการลงมือของกลุ่มบีอาร์เอ็นทั้งสิ้น”

“ผมว่ามันไม่ใช่กลุ่มไอเอส คนลงมือพยายามจะบอกว่า พวกเขาไม่ใช่นักฆ่าที่มุ่งหมายสังหารคนจำนวนมาก แม้ว่าจะทำได้แต่เลือกที่จะไม่ทำ”    

เดวิสชี้ว่า บีอาร์เอ็นเคยพยายามก่อเหตุระเบิดรถยนต์ในภูเก็ตแต่ไม่เกิดระเบิดขึ้น ส่วนเหตุที่สมุยระเบิดทำงาน แต่สำหรับหนนี้ ทางกลุ่มเลือกใช้วัตถุระเบิดขนาดเล็กที่ทำงานง่ายกว่าระเบิดรถยนต์ และก่อเหตุในจุดที่สำคัญทางเศรษฐกิจ ไม่ได้สร้างความเสียหายสูงมาก แต่ก็กระทบต่อความเชื่อมั่นและตกเป็นข่าวไปทั่วโลก “เป็นปฏิบัติการที่ลงแรงน้อย แต่ได้ผลสูง” ทั้งหมดนี้ยิ่งทำให้เขาเชื่อว่าเป็นฝีมือของบีอาร์เอ็นอย่างแน่นอน

เมื่อถามถึงความเป็นไปได้ว่า เหตุระเบิดครั้งนี้อาจจะเป็นฝีมือของคนในกลุ่มเสื้อแดงหรือไม่ เดวิสชี้ว่า เขาสงสัยอย่างยิ่ง เพราะกลุ่มคนเสื้อแดงที่เชื่อกันว่าน่าจะเป็นคนลงมือ เพื่อแสดงความไม่พอใจต่อผลการลงประชามติและต้องการลดความน่าเชื่อถือของคสช. นั้น เมื่อคำนึงถึงเหตุผลและเวลาของการลงมือนับว่าไม่สอดคล้องกัน ตลอดจนศักยภาพก็ไม่น่าจะทำได้

“เมืองไทยลงประชามติวันที่ 7 ส.ค. เหตุการณ์เกิดขึ้นวันที่ 11-12 ส.ค. พวกเขาจะทำเรื่องใหญ่ขนาดนี้ได้โดยมีเวลาเตรียมการแค่สามวัน มันจะเป็นไปได้อย่างไร การลงมือในระดับนี้ต้องการการเตรียมตัวที่ยาวนาน” นอกจากนี้ เดวิสชี้ว่า ทหารติดตามความเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดงมาช้านาน แกนนำเสื้อแดงทุกคนล้วนถูกจับตา เจ้าหน้าที่มีข้อมูลของพวกเขาไม่ว่าที่อยู่หรือเบอร์โทรศัพท์ การจะทำเรื่องใหญ่ขนาดนี้โดยที่เจ้าหน้าที่ไม่ระแคะระคายเลยนั้น นับเป็นเรื่องที่ไม่น่าเป็นไปได้

ยังมีผู้เสนอว่า เหตุระเบิดหนนี้อาจจะเป็นฝีมือของกลุ่มจากต่างประเทศ เช่นอุยกูร์ที่ต้องการปรามทางการไทย ไม่ให้ส่งตัวผู้หนีภัยอุยกูร์ให้จีนดังเช่นที่เคยกระทำเมื่อปีที่แล้วอีกหรือไม่ เดวิสชี้ว่า ปฏิบัติการในระดับนี้ครอบคลุมหลายพื้นที่ ต้องการคนที่มีความรู้ในพื้นที่แต่ละจุดเข้าร่วมจำนวนมาก เพื่อประสานงานเตรียมการ เขาไม่เชื่อว่าอุยกูร์มีคนอยู่ในเมืองไทยที่มีศักยภาพมากพอที่จะทำได้

เมื่อถามถึงมูลเหตุจูงใจ ว่าเหตุใดบีอาร์เอ็นจึงต้องการลงมือในขณะที่กำลังพูดคุยอยู่กับรัฐบาล แม้ว่าขณะนี้การพูดคุยจะยังไม่มีเค้าเดินหน้า แต่ก็ถือได้ว่ายังไม่ได้หยุดไปเสียทีเดียว แอนโทนี เดวิสกล่าวว่า แม้จะมีการพูดคุย แต่เป็นที่รู้กันว่าปีกการทหารของบีอาร์เอ็นไม่พอใจกับการพูดคุยนั้น เขาเชื่อว่านี่อาจจะเป็นการส่งสัญญาณให้ทางการไทยเอาจริงเอาจังเสียที  โดยบอกเป็นนัยว่า ทางกลุ่มสามารถจะสร้างความเสียหายได้มากกว่านี้ถ้าต้องการ และแม้เจ้าหน้าที่อาจจะมีกำลังคนร่วม 7 หมื่นคนในสามจังหวัดภาคใต้ แต่ในพื้นที่ 7 จังหวัดภาคใต้ที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ไม่มีกำลังดูแลมากขนาดนั้น

เดวิสระบุว่า เขาเชื่อว่าบีอาร์เอ็นต้องการบอกอะไรสักอย่างกับรัฐบาลทหารของไทยผ่านการลงมือหนนี้ และเชื่อว่าเจ้าหน้าที่ทหารระดับสูงจะอ่านออก แต่สิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นคือ สังคมไทยอาจจะไม่มีวันได้รู้อย่างชัดเจนเลยว่า ใช่บีอาร์เอ็นจริงหรือไม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากรอการแถลงยืนยันความรับผิดชอบ เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมา กลุ่มบีอาร์เอ็นไม่เคยแสดงตัวรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ใด ๆ

บีบีซีไทยส่งคำถามไปยังอาบูฮาฟิส อัลฮากิม แห่งกลุ่มมารา ปาตานี ซึ่งเป็นกลุ่มที่บีอาร์เอ็นและขบวนการกลุ่มอื่นในภาคใต้เข้าร่วมเพื่อพูดคุยกับรัฐบาล ได้รับคำตอบว่า มารา ปาตานี เป็นกลุ่มที่ทำงานทางการเมือง ย่อมไม่ลงมือก่อเหตุ แต่ในเรื่องของสมาชิกมารา ปาตานีนั้น ต้องไปถามแต่ละกลุ่มเอาเองว่า พวกเขามีส่วนร่วมมากน้อยเพียงใด

ที่ผ่านมา บีอาร์เอ็นยังไม่เคยมีถ้อยแถลงแสดงความรับผิดชอบในการก่อเหตุครั้งใดทั้งสิ้น และไม่ตอบคำถามผู้สื่อข่าวเช่นเดียวกัน

Cr. บีบีซีไทย [facebook]
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 5
ผมกลับมองว่า ฝรั่งคนนี้ รู้จริง รู้ลึก  มากกว่าคนไทยอีกกว่าครึ่งประเทศ


สิ่งที่เขาพูดนะ ถูกเกินครึ่ง  แต่เป็นสิ่งที่คนไทยส่วนหนึ่ง  ยอมรับไม่ได้   เท่านั้น

ยอมรับไม่ได้ ที่ถ้ามันเป็นความจริง  พวกเขาจะไม่ได้โทษคนๆ หนึ่ง หรือคนกลุ่มหนึ่ง  ซึ่งเป็นคู่ขัดแย้งทางการเมือง   ว่าเป็นคนลงมือกระทำ
จ้างกระทำ  ไม่ได้อีก

ยอมรับไม่ได้  เพราะถ้ามันเป็นฝีมือของกลุ่ม บีอาร์เอ็น หรือ 3 จว. กลุ่มใด  มันจะเสียบรรยากาศการท่องเที่ยว  หรือตอกย้ำความอ่อนด้อย
ของหน่วยข่าวกรอง  และเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวกับความมั่นคง

ส่วนเรื่องที่บางอย่างที่ต้องปกปิด  หรือเบี่ยงเบน เพื่อให้กระทบต่อการท่องเที่ยวให้น้อยที่สุด  ให้องค์การระดับสากล เข้ามายุ่งเกี่ยวเรื่องในประเทศ
เราไม่ได้  อันนั้นยอมรับได้



แต่คนไทยจำนวนมาก ยังเชื่อแบบผิดๆ  ในหลายๆ เหตุการณ์ที่ผ่านมา ว่า ทุกการก่อวินาศกรรม  คือใครคนนั้นจากแดนไกล จ้างมา หรือใช้
ให้กระทำ

โดยแกล้งเป็นไม่รู้ หรือสมองไม่ยอมรับว่า  เป็นการกระทำของขบวนการก่อการร้ายในประเทศเรา หรืออาจรวมถึงเกี่ยวพันต่างประเทศ

เหตุการณ์หลายๆ เหตุการณ์  อย่างการวางระเบิดที่หน้าราม  คาร์บอม ที่สมุย  การวางระเบิดที่ภูเก็ต   แม้ปรากฎชัดว่า เป็นฝีมือของกลุ่มจาก
3 จว. หรือเกี่ยวพัน  แต่กลับกลายเป็นเรื่องที่รู้กันวงแคบๆ  หรือประชาชนบางส่วนเลือกที่จะไม่รับรู้

ทั้งๆ ที่วิธีการ รถ คน ที่ใช้  มาจากทางโน้นทั้งสิ้น  บางคดีจับคนร้ายได้  ศาลตัดสินโทษ  ก็ยังฝังหัวว่าเป็นเรื่องคนแดนไกล กันอยู่ดี

คนเป็นแนวร่วม 3 จว. ถูกจับได้  รถปล้นมาจาก 3 จว.   การวางระเบิดใช้วิธีเดียวกัน  แต่ทุกกรณี เราได้ข้อมูลว่า  เป็นเรื่องการเมือง
3 จว.  เป็นไปไม่ได้

ชาวบ้าน ไม่เคยรู้ว่า  ปัจจุบันมีคนจาก 3 จว. เข้ามาอยู่ตามหัวเมือท่องเที่ยว หรือใน กทม. มากมายขนาดไหน  หลายคนถูกตามจับเรื่องความ
มั่นคง  ชาวบ้านจำนวนมาก ยังคิดว่า โจร 3 จว. ก็ต้องอยู่แถวนั้น จะมารู้จัก ภูเก็ต สุราษฎร์ หัวหิน  ได้อย่างไร



หน่วยงานรับผิดชอบ พูดแค่วันแรก หรือ อาทิตย์แรก ว่า  เป็นการเมือง หรือกลุ่มอำนาจเก่า คนแดนไกล    แต่ไม่เคยชี้แจงหลังจากได้
พยานหลักฐานครบ
ทุกวันนี้ ประชาชนบางส่วน  ก็ยังเชื่อฝังหัวว่าทุกเหตุการณ์คือฝีมือ คนแดนไกล   กับบางส่วน เชื่อฝังหัวว่า  ทุกเหตุการณ์ คือ ทหารทำเอง

มันก็ไม่แปลก  เพราะคนระดับสูงของเรา ก็ออกมาพูดตั้งแต่วันแรกๆ ทั้งที่ไม่มีพยานหลักฐาน  และไม่เคยแก้ไข  แล้วจะไม่ทำให้ประชาชน
เชื่อตามได้อย่างไร

เดี่ยวคอยดู เหตุการณ์นี้ ถ้าตามจับคนร้ายได้  น้ำหนักขบวนการ จาก 3 จว.  มีเปอร์เซ็นต์สูงกว่ามาก  แล้วจะออกมาพูดอะไรกันบ้าง
หรือจะพยายามโยงไปให้เป็นเรื่องการเมือง  เหมือนเดิม
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่