บีบีซีไทย ชวนย้อนเหตุการณ์ "ไฟใต้" ที่เกิดขึ้นเมื่อ 17 ปี ก่อน
ช่วงเช้าตรู่ของ 28 เม.ย. 2547 กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงออกปฏิบัติการโจมตีจุดตรวจฐานปฏิบัติการ ของเจ้าหน้าที่รัฐนับสิบจุดในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และเกิดการปะทะกันในหลายจุด เป็นเหตุให้มีเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บหลายคน มีผู้เสียชีวิตรวม 108 ราย ในจำนวนนี้ มี 5 คนเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ และอีก 32 คน คือกลุ่มผู้ก่อเหตุที่เสียชีวิตขณะเข้าไปหลบภัย ในมัสยิดหรือเซะ ที่ถูกเจ้าหน้าที่ปิดล้อมนาน 9 ชั่วโมง และใช้อาวุธหนักยิงถล่ม
ตอนหนึ่งของ "รายงานคณะกรรมการอิสระไต่สวนข้อเท็จจริงกรณีเหตุการณ์มัสยิดกรือเซะ" ที่เผยแพร่ทาง เว็บไซต์ประชาไทระบุว่า เหตุการณ์ความไม่สงบทวีความรุนแรงขึ้นนับ
ตั้งแต่เกิดเหตุปล้นอาวุธในค่ายทหาร เมื่อวันที่ 4 ม.ค. 2547 ตามมาด้วยการเผาโรงเรียนพร้อมกัน 20 แห่ง วางเพลิงสถานที่ราชการ โรงเรียน และเหตุทำร้ายพระภิกษุ ประชาชน เจ้าหน้าที่รัฐมาอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งทวีความรุนแรงสูงสุด เมื่อกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบจำนวนหนึ่ง ได้บุกโจมตีฐานที่มั่นของทางราชการพร้อมกัน 11 จุด รวมทั้งจุดตรวจกรือเซะ ตำบลตันหยงลูโละ อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี และได้หลบหนีเข้าไป "ยึดครอง" มัสยิดกรือเซะใกล้จุดตรวจดังกล่าว
เหตุปล้นอาวุธในค่ายทหารที่ระบุในรายงานคือเหตุการณ์ปล้นปืน 413 กระบอก จากกองพันพัฒนาที่ 4 ค่ายกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ หรือค่ายปิเหล็ง ต.มะรือโบออก อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 4 ม.ค. 2547 โดยผู้สื่อข่าวบีบีซีรายงานว่า 3 เดือนหลังเกิดเหตุปล้นปืนก็ได้เกิดเหตุรุนแรงเกิดขึ้นในช่วงเช้าตรู่ของวันที่ 28 เม.ย. 2547
ผู้สื่อข่าวบีบีซีรายงานในขณะนั้นว่ากลุ่มคนร้ายซึ่งส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่น มีมีดและปืนจำนวนหนึ่งเป็นอาวุธ ได้บุกโจมตีจุดตรวจของฝ่ายความมั่นคง 11 จุด ในพื้นที่จังหวัดปัตตานี ยะลา และสงขลา อย่างไรก็ดีมี รายงานว่า ในขณะนั้นฝ่ายความมั่นคงมีข้อมูลว่าจะมีการก่อเหตุอยู่แล้ว แต่กลับเฝ้ารอให้กลุ่มคนร้ายลงมือ ก่อนจะตอบโต้อย่างรุนแรงจนทำให้ต้องสูญกำลังของฝ่ายเจ้าหน้าที่เองไป 5 คน
ในเวลานั้นคนร้ายอย่างน้อย 30 คน ได้หนีเข้าไปในมัสยิดกรือเซะ และหลังจากปิดล้อมอยู่นานหลายชั่วโมง กองกำลังความมั่นคงก็ได้บุกโจมตีและสังหารคนเหล่านั้นในมัสยิด
https://www.bbc.com/thai/thailand-56171082
โศกนาฏกรรมปี 2547 ที่ทักษิณ ชินวัตร “จำไม่ค่อยได้”
ช่วงเช้าตรู่ของ 28 เม.ย. 2547 กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงออกปฏิบัติการโจมตีจุดตรวจฐานปฏิบัติการ ของเจ้าหน้าที่รัฐนับสิบจุดในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และเกิดการปะทะกันในหลายจุด เป็นเหตุให้มีเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บหลายคน มีผู้เสียชีวิตรวม 108 ราย ในจำนวนนี้ มี 5 คนเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ และอีก 32 คน คือกลุ่มผู้ก่อเหตุที่เสียชีวิตขณะเข้าไปหลบภัย ในมัสยิดหรือเซะ ที่ถูกเจ้าหน้าที่ปิดล้อมนาน 9 ชั่วโมง และใช้อาวุธหนักยิงถล่ม
ตอนหนึ่งของ "รายงานคณะกรรมการอิสระไต่สวนข้อเท็จจริงกรณีเหตุการณ์มัสยิดกรือเซะ" ที่เผยแพร่ทาง เว็บไซต์ประชาไทระบุว่า เหตุการณ์ความไม่สงบทวีความรุนแรงขึ้นนับตั้งแต่เกิดเหตุปล้นอาวุธในค่ายทหาร เมื่อวันที่ 4 ม.ค. 2547 ตามมาด้วยการเผาโรงเรียนพร้อมกัน 20 แห่ง วางเพลิงสถานที่ราชการ โรงเรียน และเหตุทำร้ายพระภิกษุ ประชาชน เจ้าหน้าที่รัฐมาอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งทวีความรุนแรงสูงสุด เมื่อกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบจำนวนหนึ่ง ได้บุกโจมตีฐานที่มั่นของทางราชการพร้อมกัน 11 จุด รวมทั้งจุดตรวจกรือเซะ ตำบลตันหยงลูโละ อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี และได้หลบหนีเข้าไป "ยึดครอง" มัสยิดกรือเซะใกล้จุดตรวจดังกล่าว
เหตุปล้นอาวุธในค่ายทหารที่ระบุในรายงานคือเหตุการณ์ปล้นปืน 413 กระบอก จากกองพันพัฒนาที่ 4 ค่ายกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ หรือค่ายปิเหล็ง ต.มะรือโบออก อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 4 ม.ค. 2547 โดยผู้สื่อข่าวบีบีซีรายงานว่า 3 เดือนหลังเกิดเหตุปล้นปืนก็ได้เกิดเหตุรุนแรงเกิดขึ้นในช่วงเช้าตรู่ของวันที่ 28 เม.ย. 2547
ผู้สื่อข่าวบีบีซีรายงานในขณะนั้นว่ากลุ่มคนร้ายซึ่งส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่น มีมีดและปืนจำนวนหนึ่งเป็นอาวุธ ได้บุกโจมตีจุดตรวจของฝ่ายความมั่นคง 11 จุด ในพื้นที่จังหวัดปัตตานี ยะลา และสงขลา อย่างไรก็ดีมี รายงานว่า ในขณะนั้นฝ่ายความมั่นคงมีข้อมูลว่าจะมีการก่อเหตุอยู่แล้ว แต่กลับเฝ้ารอให้กลุ่มคนร้ายลงมือ ก่อนจะตอบโต้อย่างรุนแรงจนทำให้ต้องสูญกำลังของฝ่ายเจ้าหน้าที่เองไป 5 คน
ในเวลานั้นคนร้ายอย่างน้อย 30 คน ได้หนีเข้าไปในมัสยิดกรือเซะ และหลังจากปิดล้อมอยู่นานหลายชั่วโมง กองกำลังความมั่นคงก็ได้บุกโจมตีและสังหารคนเหล่านั้นในมัสยิด
https://www.bbc.com/thai/thailand-56171082