วันนี้ได้มีโอกาสมาลองร้าน Ito Kacho(อิโต-คาโจ) ร้านปิ้งย่างสไตล์ญี่ปุ่นแบบพรีเมี่ยม(Fine Dining Yakiniku) ในโครงการ Nihonmura Mall โครงการ 2 บริเวณชั้น 1ในซอยทองหล่อ 13 สาขาแรกอยู่ที่เมืองโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ในไทยเป็นสาขาที่ 3 ถัดจากสาขาที่ ญี่ปุ่น และ สิงคโปร์
Ito Kacho ในภาษาญี่ปุ่นแปลว่า ไส้ และ กระเพาะ เอกลักษณ์ของร้านจะอยู่ที่เนื้อวัว เพราะเป็นเนื้อวัว ระดับพรีเมี่ยม โดยทางร้านจะเลือกใช้เนื้อแบล็ควากิว (Black Wagyu) ที่ส่งตรงมาจากประเทศญี่ปุ่นเท่านั้น เนื้อแบล็ควากิวถือเป็นเนื้อวัวคุณภาพชั้นเลิศ จากวัวสายพันธุ์ “คุโระเกะ” ที่ผ่านการเลี้ยงดูแบบพิถีพิถัน ภายใต้อาหาร บรรยากาศ และสิ่งแวดล้อมที่ดี ทำให้วัวมีการสร้างเนื้อที่มีไขมันแทรกอยู่ ในสัดส่วนที่เหมาะสม
ภายในร้าน Ito Kacho ตกแต่งโดยเน้นบรรยากาศแบบสบาย ๆ ภายในโล่งโปร่งเพดานสูง มีความสว่างด้วยไฟสีเหลืองส้ม และใช้โต๊ะ เก้าอี้ และผนังที่เป็นไม้ในการตกแต่ง ทำให้บรรยากาศค่อนข้างอบอุ่นสบาย ๆ บรรยากาศภายในถ่ายเทสะดวกเพราะมีระบบระบายควันจากเตาที่ทางร้านใส่ใจมาก ทำให้ลูกค้าที่มาใช้บริการไม่ต้องกังวลเรื่องร้าน Ito Kacho เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 17.00 – 24.00 น. มีที่นั่งให้เลือกนั่ง 2 แบบ คือ แบบนั่งรวม มี 3 โซนให้เลือก และแบบห้องส่วนตัวที่จุคนได้ประมาณ 6-8 ท่าน อยู่ 1 ห้อง รวม ๆ แล้วในร้านก็น่าจะจุได้ราว 80 ที่นั่ง ลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นชาวญี่ปุ่นที่เมื่อเลิกงานแล้วก็มานั่งกินเนื้อย่าง จิบเบียร์ และนั่งคุยกัน
เมนูอาหารของที่นี่ เดิมทีจะมีแค่ A la carte เท่านั้น แต่เมื่อเดือน มิ.ย. 59 ที่ผ่านทางร้านได้ทำเมนูแบบ Buffet เพิ่มขึ้นมาด้วย แต่ราคาดูจะโหดไปมากสำหรับคนไทย แต่ถ้าเป็นพวกนัดธุรกิจญี่ปุ่นก็คงจะเป็นเรื่องปกติ แต่ใครที่มีฐานะหน่อยหรือคนที่ไม่คิดอะไรมากเรื่องการจ่ายเพื่อกินของดี ๆ ก็น่าจะมาลองกันได้ เพราะสนนราคาของ Buffet นี้อยู่ที่ 3,999++ บาท/ท่าน (มี 125 เมนู รวมเครื่องดื่ม 40 รายการ กินได้ 2 ชม.) https://www.facebook.com/pages/Ito-Kacho-Thailand/626273507495225?fref=ts


ซึ่งเมนูที่เราจะมารีวิวในวันนี้ จะเป็นเมนู A la carte ทั้งหมด เป็นเมนูปิ้งย่างทั้งสิ้น 5 รายการ ซุป 2 รายการ และของหวาน 1 รายการครับ ประกอบด้วยเมนูดังนี้
1. ชุดเนื้อมัตสึ
2. ชุดทะเลรวม
3. ลิ้นวัว
4. เนื้อหมูหมัก
5. สลัดมันฝรั่ง
6. ซุปไข่
7. ซุปเนื้อ
8. ไอศกรีม Mix berry


ประกอบด้วยเนื้อแบล็ควากิว 5 ชนิด รวมกับ เนื้อหมักซอสสูตรพิเศษใส่โหลมาให้อีก 1 โหล ซึ่งเนื้อ 5 ชนิดในจานนั้น เวลาจะกินเค้าจะราดน้ำซอสของทางร้านให้ จะเป็นซอสที่ช่วยเพิ่มรสชาติและความหอมแบบอ่อน ๆ ให้กับเนื้อ เรียกได้ว่าพอราดซอสแล้วนำไปย่าง แทบจะไม่ต้องจิ้มอะไรเลย



เป็นเนื้อที่มีมันแทรกพอประมาณ ลายสวยดี ชิ้นเนื้อที่หั่นมาจะมาเป็นแท่ง ๆ หนาพอประมาณ เมื่อนำไปย่างบนเตา ก็จะได้เนื้อที่น่ากินมาก เวลากัดไปเนื้อนี่แทบไม่ต้องใช้ฟันกัดเลยนุ่มมาก ยิ่งส่วนที่ติดมันนะจะอร่อยเป็นพิเศษ แต่ต้องระวังเลี่ยนกันหน่อยนะครับ




เป็นส่วนที่พิเศษที่สุด เป็นเนื้อบริเวณลิ้นปี่ติดซี่โครง ซึ่งจะมีปริมาณไม่มาก ของวัว 1 ตัว เนื้อจะมีความเบา เพราะมีมันแทรกอยู่เยอะพอสมควร แต่เนื้อสัมผัสของเนื้อจะไม่ได้นุ่มละลาย จะออกแนวเด้ง เหมือนเนื้อที่เฟิม ๆ หน่อย มีความตึงนิด ๆ แต่ยังคงนุ่มและชุ่มฉ่ำอยู่ ผมว่าส่วนนี้อร่อยที่สุด




ส่วนนี้เป็นส่วนที่มันที่สุด ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นเนื้อส่วนนอกของชิ้นท้อง เลยทำให้มีไขมันแทรกอยู่มากกว่าส่วนอื่น ๆ ชิ้นนี้ก็จะไม่ได้นุ่มละลายเหมือนกันครับจะเป็นมันที่กัดแล้วยังคงรู้สึกว่าได้กัดเนื้ออยู่ ไม่ใช่กัดไขมันล้วน ๆ ส่วนนี้ก็อร่อยครับ แต่ต้องเฝ้าดูตลอด ต้องระวังไหม้นะครับ เพราะไขมันเยอะทำให้ไฟลุกโชนเลย




เป็นเนื้อแดง ส่วนท้องที่ไขมันจะน้อยที่สุดใน 5 ชนิดนี้ มีกลิ่นที่ค่อนข้างชัดเจนและเป็นเอกลักษณ์ที่สุด ความนุ่มละลายจะน้อยที่สุด ใครที่ชอบแบบเนื้อ ๆ หนัก ๆ ส่วนนี้ก็น่าจะเหมาะดีครับ




เป็นเนื้อส่วนที่มีความนุ่มมาก จะอยู่บริเวณซี่โครง เนื้อจึงนุ่มเด้ง คล้ายโทกุโจบาระ (ขวาบน) แต่ปริมาณไขมันจะไม่เยอะเท่า เนื้อจึงยังไม่นุ่มละลายเท่าโทกุโจบาระ แต่น่าจะทำให้เรากินได้ยืนระยะมากกว่า เพราะไม่เลี่ยน




บางที่ก็จะเรียกว่าเนื้อหมักไห แต่ที่นี่เค้าเรียกว่าโหล จะบอกว่าซอสที่เค้าหมักเนื้อมานั้นเข้มข้นดี เข้มข้นกว่าที่ราดมาในจาน ฉะนั้นเวลาย่างเนื้อออกมาจะได้เนื้อที่หอม มีความเกรียมเล็ก ๆ รสชาติเข้มข้น กินกับข้าวหรือผักได้เลย
เนื้อที่อยู่ในโหลนี้จะมาเป็นเส้นหนา ๆ เลย คล้ายสามชั้นอะไรทำนองนั้น เราก็ย่างทั้งเส้น แล้วพอใกล้ ๆ สุกเราก็ตัดให้พอดีคำ อร่อยมากครับ เสียดายที่อีกชิ้นมันเยอะไปหน่อย กินไม่ไหวครับเลี่ยนแล้วถ้าเหมือนชิ้นแรกจะฟินมากครับ
ที่นี่น้ำจิ้มเค้ามีให้เลือก 3 แบบ คือ Yakiniku(สีดำ), เต้าเจี้ยว(สีน้ำตาล) และ เกลือพริกไทย ซึ่งปกติผมจะไม่จิ้มน้ำจิ้ม สำหรับเนื้อคุณภาพดี ๆ แบบนี้ แต่สำหรับที่นี่พอลองน้ำจิ้มแล้ว บอกได้เลยว่าอร่อย มันกลมกล่อมหอมหวาน เนื้อชิ้นไหนที่มันเยอะ ๆ เลี่ยนจนเกลือพริกไทยเอาไม่อยู่ ก็แนะนำว่าสลับมาจิ้มน้ำจิ้มเค้าดูกันได้ครับ อร่อยดี







มีปูทาราบะ 3-4 ชิ้น, กุ้งลายเสือ 2 ตัว, ปลาหมึก และหอยเชลล์โอตาเตะ ที่หั่นเป็นชิ้นแล้ววางเรียงมาในฟอยด์ มีเครื่องต่าง ๆ วางอยู่ด้วยกัน พร้อมทั้งมีเนย เพื่อเวลานำไปย่างทั้งฟอยด์จะได้ความชุ่มฉ่ำจากของทะเล ผสมความหอมของเนย
ปลาหมึก และหอยเชลล์โอตาเตะ ที่ใส่ฟอยด์มา เมนูนี้เวลาปรุงจะใช้เวลาหน่อย แต่สามารถให้ทางครัวเค้าปรุงมาให้ก็ได้ เมนูนี้อร่อยนะปลาหมึกและหอยสดเชลล์มาก และได้กลิ่นหอมของเนย
สำหรับของในหมวดนี้ผมว่าคุณภาพใช้ได้ ปูทาราบะเนื้อสดแน่นดีมาก กุ้งก็ใช้ได้แต่ผมว่าราคานี้ควรจะต้องตัวใหญ่หรือสดกว่านี้สักหน่อยครับ เลยค่อนข้างเฉย ๆ กับเซ็ทนี้ถ้าเทียบกับราคาหลักพันกว่าถือว่าสูงไปครับ แต่ถ้าได้ปริมาณที่มากกว่านี้ หรือมีของทะเลอย่างอื่นให้มากชนิดกว่านี้ก็น่าสั่งมาลองครับ




จริง ๆ จานนี้เสิร์ฟมาก่อนเมนูอื่น ๆ เลย เพราะเป็นออเดิร์ฟก่อนกินเมนูอื่น ๆ แต่มาเขียนไว้หลังพวกเซ็ทเนื้อเพราะว่าพวกเซ็ทดูจะเป็นอะไรที่โดดเด่นกว่า แต่จริง ๆ แล้วลิ้นวัวไม่ได้ด้อยกว่าแม้แต่น้อย อร่อยและฟินสุด ๆ
ย่างลิ้นให้สุกทั้ง 2 ด้าน และนำซอสเกลือ ที่มีส่วนประกอบของหัวหอมสับ เกลือ ที่ทำเป็นคล้าย ๆ เจลลี่เหลว ๆ วางลงไป แล้วค่อยคีบลิ้นวัวกิน