สวัสดีค่ะ
ดองรูปภาพจากทริปโตเกียวเดือนธันวาคมปีที่แล้วไว้พอสมควรเลย
วันนี้เลยขอเอารูปมาปล่อยซะหน่อยดีกว่า รูปที่เอามาลงวันนี้จะมีทั้งจากทริปธันวา 2014และทริปเมษา 2015 นะคะ
ขอมอบกระทู้นี้ให้กับสาวกคนรักเนื้อโดยเฉพาะเลยค่ะ รูปอาจจะเยอะหน่อยนะ เพราะจะรีวิวตั้ง 6 ร้านแหน่ะ
แต่รับรองว่าลายเนื้อสีชมพูสวยๆจะทำให้ดูแล้วไม่เบื่อกันค่ะ (เตรียมกระดาษซับน้ำลายไว้ด้วยนะ ฮี่ฮี่)
6 ร้านที่จะพาไปกินมีร้านอะไรบ้าง เดี๋ยวค่อยๆดูไปนะคะ เราขอเริ่มจากร้านเนื้อย่างแสนจะป๊อปของโตเกียวก่อนเลยละกันค่ะ
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
1. Jumbo Yakiniku @ Hongo Sanchome (ไปกินตอนธันวาคม 2014)
ร้านนี้เป็น 1 ในร้านที่ดังมากๆของโตเกียว เสิร์ฟแต่ Wagyu A5 ล้วนๆเลยค่ะ ถ้าถามคนญี่ปุ่นว่าไปกินเนื้อย่างร้านไหนดี
เราว่า 90% ต้องมีพูดถึงร้านนี้แน่นอน Jumbo มี 2 สาขา คือที่ Hongo Sanchome และที่ Shirokane Tanakawa
ครั้งนี้เราเลือกไปที่ Hongo Sanchome เพราะเห็นคะแนนจาก Tabelog.com ของสาขานี้ สูงกว่าอีกสาขานึงอ้ะ
สูงขนาดไหนเชิญตามไปอ่านที่ URL ด้านล่างนะคะ
Tabelog :
http://tabelog.com/tokyo/A1310/A131004/13110601/
Homepage :
http://www.kuroge-wagyu.com/js/food_e.html
รายละเอียดคร่าวๆสำหรับคนที่สนใจค่ะ
ชื่อร้าน : Yakiniku Jumbo (焼肉ジャンボ 本郷店)
เวลาทำการ : 17:00 - 23:00
วันหยุด : ไม่มี
ราคา : 8000 - 10000 เยน
เบอร์โทร : 03-5689-8929 (โทรไปจองก่อนนะ ไม่งั้นอาจจะอดค่ะ)
แผนที่ค่ะ ใช้ Metro สายสีแดง Marunouchi Line ไปลงที่สถานี Hongo Sanchome (M21)
หรือใช้ Toei สายสีชมพูเข้ม Oedo Line ไปลงที่สถานี Hongo Sanchome (E08) แล้วเดินต่ออีกนิดก็ถึงร้านค่ะ
หน้าร้านค่ะ แถวนั้นจะค่อนข้างเงียบๆ มีร้านนี้ล่ะที่มีแสงไฟสว่างชัดเจน
เข้าไปรอแป๊ปนึงพนักงานก็พาไปนั่งโต๊ะค่ะ แล้วก็เอาเมนูมาให้
เห็นลิ้นแล้วใจละลาย อยากสั่งเยอะๆ แต่ที่นี่เค้าจำกัดการสั่งลิ้นค่ะ
ถ้ามา 4 คน สั่งได้แค่จานเดียว โดย 1 จานจะมี 4 ชิ้น
เราเลยสั่งลิ้นแบบที่แพงสุดไป
น้ำจิ้มค่ะ อันซ้ายเราแทบไม่ได้ชิมเลย จำไม่ได้แล้วค่ะว่าเป็นอะไร แต่อันขวาเอาไว้จิ้มลิ้นวัว
เตาย่างของพวกเราค่ะ ที่นี่พนักงานจะมาช่วยย่างเป็นบางคำเท่านั้นค่ะ
คำไหนที่ย่างง่ายๆพวกเราก็ปิ้งกันเอง
ผักและเครื่องเคียงซักนิด กิมจิที่ร้านเนื้อย่างในโตเกียวที่ไม่เคยทำให้ผิดหวังเลย
แล้วก็ Namul ก็ดีเช่นกันค่ะ
ลิ้นพิเศษมาแย้วววว หมักเกลือกับพริกไทย หนาใช้ได้เลยค่ะ ไปกัน 4 คน ได้กินคนละชิ้น
ย่างแร้นนนนน ลิ้นอันนี้ให้ย่างโดยพลิกแค่ครั้งเดียวพอค่ะ ไม่ต้องกลับไปกลับมา
สุกแบบนี้ที่เราชอบ ขอน้ำจิ้มซักนิด
หนาๆดึ๋งๆ อร่อยดีเลยค่ะ แต่ถ้าให้เทียบแล้วก็ชอบลิ้นของร้าน Shichirin มากกว่าอยู่ดี
(ตอนนี้ Shichirin เปลี่ยนชื่อเป็น Sumibiyakiniku Nakahara แล้ว เดี๋ยวจะรีวิวให้ดูต่อค่ะ
สำหรับใครที่อยากดูรูปตอนที่ยังเป็นร้าน Shichirin อยู่คลิกด้านล่างได้เลยค่ะ
http://ppantip.com/topic/31411850)
ต่อมาเป็น Signature ของร้านนี้ ใครมาแล้วไม่สั่งถือว่าพลาดเลยนะ
เรียกว่า Sirlion Noharayaki คล้ายๆกินสุกี้ยากี้ค่ะ คือเนื้อสันนอกลายสวยๆสไลซ์มาบางๆ ย่างแล้วจิ้มกินกับไข่ดิบ
ชิ้นนี้พนักงานที่ร้านจะมาย่างให้เรากินค่ะ
ใครอยากดูตอนย่างรบกวนคลิกลิงก์นี้นะคะ เราเคยโพสท์ไว้ในไอจี
https://instagram.com/p/wWYSJQCRl-/?taken-by=tato_kullanan
ย่างเสร็จแร้ววววว จุ่มไข่ดิบซะ น่ากินมาก
คลุกไข่ดิบให้ทั่วๆ ยัมยัมยัม อร่อยค่ะ ชิ้นนี้ในโต๊ะชอบกันมากมาย
เนื้อ Sirloin จะหมักซอสมา รสจะออกหวานๆหน่อย ชิ้นนี้ลายเนื้อจะมีมันอยู่เยอะ
กินแล้วเต็มอิ่มกับรสชาติมากๆ
ต่อมาเป็นจานโปรดเราเลยค่ะ Zabuton (chuck-eye) มาจากส่วนไหล่ของวัว
เค้าให้เลือกว่าจะหมักซอสหรือโรยเกลือ เราเลือกแบบหลังค่ะ เพราะชิ้นก่อนหน้าออกรสหวานแล้ว
กรี๊ดๆ ชอบมากชิ้นนี้ ชอบความมันระดับนี้ สุกแบบนี้ รสแบบนี้ จานนี้สั่งเบิ้ลด้วยหล่ะ //น้องปลื้มมาก
ต่อไป มาพร้อมกัน 2 จานเลย มีอะไรบ้างนะ
อันแรกเป็น Misuji ค่ะ เนื้อส่วนนี้เป็นส่วนนึงของไหล่วัวเหมือนกัน (ไหล่วัวมันใหญ่ เลยมีหลายส่วน)
คนส่วนมากจะชอบชิ้นนี้ เพราะมีมันแทรกเยอะ สัมผัสนุ่ม
ในวัวหนึ่งตัวจะมี Misuji แค่ไม่กี่ร้อยกรัมเท่านั้นค่ะ เป็นของดีที่ต้องสั่งว่างั้นเถอะ
อีกอันเป็น Kalbi เนื้อส่วนใกล้ซี่โครงค่ะ ชิ้นนี้ก็ลายสวยดีอยู่ อิอิ
ย่าง Misuji เสร็จแล้ว ออกมาเป็นงี้หล่ะ น่ากินที่สู๊ดดดดดดดด
ณ จุดนั้นถือว่าฟินนะคะที่ได้กิน แต่ถ้าให้เทียบเราก็ชอบ Misuji ของ Shichirin เจ้าเก่ามากกว่าอยู่ดี
คลี่ๆให้ดู ชิ้นยาวๆบางๆ อัดแน่นไปด้วยความหวานมันจากไขมันวัว งี๊ดดดด คิดถึงจุง
ชิ้นนี้ Kalbi ย่างค่ะ รสชาติก็อร่อยแบบหายห่วง แต่ก็ไม่ได้ปลื้มเท่า Zabuton หรือ Misuji นะ
อันนี้ของเด็ด อิอิ.....ถึงกับขอให้พนักงานจัดให้เลย
ตอนแรกบอกพนักงานว่าอยาก Tenderloin (สันใน)ชิ้นหนาๆ แต่ว่าเค้าบอกว่าชิ้นใหญ่หมด มีแต่ชิ้นเล็ก
ก็เลยได้มาเป็นอันนี้ล่ะค่ะ
ย่างแล้วหม่ำ ขอโทษด้วยนะคะที่รูปซกๆหน่อย แต่มันกู๊ดจริงๆนะ
ตอนนั้นที่ได้กินนี่ปลาบปลื้มมาก เราชอบให้เนื้อข้างในดิบๆแบบนี้หล่ะ โหดมั้ย
กินจนเรียกว่าอิ่มมากแล้ว แต่เพื่อนร่วมโต๊ะอยากกิน Noharayaki อีก เลยจัดมาอีกคนละชิ้นค่ะ
หืมมมม ลายสวยสมราคาจริงๆ (ถ้าจำไม่ผิดคือชิ้นละ 1500 เยน จานนี้ 4 ชิ้นก็ 6000 เยนชะเอิงเอย)
สุดท้ายจริงๆละ มอบให้ทุกคนเลยค่ะ เนื้อจิ้มไข่ อาโหร่ยยยยยยยดี
เนื้อส่งประกายวิบวับเลย เย่
สรุปราคาร้านนี้ ค่าเสียหายออกมาคนละ 8000 เยนค่ะ อิ่มมากๆ
ถือว่าคุ้มราคาสำหรับเนื้อดีๆแบบนี้ค่ะ แต่ถ้าให้เรียงลำดับความชอบแล้ว
เราชอบ Shichirin (ชื่อใหม่คือ Sumibiyakiniku Nakahara เดี๋ยวมีรีวิวด้านล่างค่ะ)
กับร้าน Yoroniku(
http://ppantip.com/topic/30847896) มากกว่าค่ะ
เพราะ 2 ร้านนั้นจะดึงรสเนื้อออกมาได้ธรรมชาติกว่า แต่ร้านนี้จะมีรสหวานติดอยู่บ้าง
ส่วนตัวคิดว่าคนไทยน่าจะชอบ Jumbo ค่ะเพราะเนื้อจะหมักซอสที่มีรสหวานนิดๆ ในขณะที่อีก 2 ร้านที่พูดถึงจะรสคลีนกว่าค่ะ
[CR] กินเช้าจรดเย็น ณ โตเกียว...เนื้อเนื้อ เน้นเน้น พาไปถล่มร้านเนื้อย่าง ชาบู และ Steakhouse ที่ว่ากันว่าจองยากที่สุดในโลก!
ดองรูปภาพจากทริปโตเกียวเดือนธันวาคมปีที่แล้วไว้พอสมควรเลย
วันนี้เลยขอเอารูปมาปล่อยซะหน่อยดีกว่า รูปที่เอามาลงวันนี้จะมีทั้งจากทริปธันวา 2014และทริปเมษา 2015 นะคะ
ขอมอบกระทู้นี้ให้กับสาวกคนรักเนื้อโดยเฉพาะเลยค่ะ รูปอาจจะเยอะหน่อยนะ เพราะจะรีวิวตั้ง 6 ร้านแหน่ะ
แต่รับรองว่าลายเนื้อสีชมพูสวยๆจะทำให้ดูแล้วไม่เบื่อกันค่ะ (เตรียมกระดาษซับน้ำลายไว้ด้วยนะ ฮี่ฮี่)
6 ร้านที่จะพาไปกินมีร้านอะไรบ้าง เดี๋ยวค่อยๆดูไปนะคะ เราขอเริ่มจากร้านเนื้อย่างแสนจะป๊อปของโตเกียวก่อนเลยละกันค่ะ
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
1. Jumbo Yakiniku @ Hongo Sanchome (ไปกินตอนธันวาคม 2014)
ร้านนี้เป็น 1 ในร้านที่ดังมากๆของโตเกียว เสิร์ฟแต่ Wagyu A5 ล้วนๆเลยค่ะ ถ้าถามคนญี่ปุ่นว่าไปกินเนื้อย่างร้านไหนดี
เราว่า 90% ต้องมีพูดถึงร้านนี้แน่นอน Jumbo มี 2 สาขา คือที่ Hongo Sanchome และที่ Shirokane Tanakawa
ครั้งนี้เราเลือกไปที่ Hongo Sanchome เพราะเห็นคะแนนจาก Tabelog.com ของสาขานี้ สูงกว่าอีกสาขานึงอ้ะ
สูงขนาดไหนเชิญตามไปอ่านที่ URL ด้านล่างนะคะ
Tabelog : http://tabelog.com/tokyo/A1310/A131004/13110601/
Homepage : http://www.kuroge-wagyu.com/js/food_e.html
รายละเอียดคร่าวๆสำหรับคนที่สนใจค่ะ
ชื่อร้าน : Yakiniku Jumbo (焼肉ジャンボ 本郷店)
เวลาทำการ : 17:00 - 23:00
วันหยุด : ไม่มี
ราคา : 8000 - 10000 เยน
เบอร์โทร : 03-5689-8929 (โทรไปจองก่อนนะ ไม่งั้นอาจจะอดค่ะ)
แผนที่ค่ะ ใช้ Metro สายสีแดง Marunouchi Line ไปลงที่สถานี Hongo Sanchome (M21)
หรือใช้ Toei สายสีชมพูเข้ม Oedo Line ไปลงที่สถานี Hongo Sanchome (E08) แล้วเดินต่ออีกนิดก็ถึงร้านค่ะ
หน้าร้านค่ะ แถวนั้นจะค่อนข้างเงียบๆ มีร้านนี้ล่ะที่มีแสงไฟสว่างชัดเจน
เข้าไปรอแป๊ปนึงพนักงานก็พาไปนั่งโต๊ะค่ะ แล้วก็เอาเมนูมาให้
เห็นลิ้นแล้วใจละลาย อยากสั่งเยอะๆ แต่ที่นี่เค้าจำกัดการสั่งลิ้นค่ะ
ถ้ามา 4 คน สั่งได้แค่จานเดียว โดย 1 จานจะมี 4 ชิ้น
เราเลยสั่งลิ้นแบบที่แพงสุดไป
น้ำจิ้มค่ะ อันซ้ายเราแทบไม่ได้ชิมเลย จำไม่ได้แล้วค่ะว่าเป็นอะไร แต่อันขวาเอาไว้จิ้มลิ้นวัว
เตาย่างของพวกเราค่ะ ที่นี่พนักงานจะมาช่วยย่างเป็นบางคำเท่านั้นค่ะ
คำไหนที่ย่างง่ายๆพวกเราก็ปิ้งกันเอง
ผักและเครื่องเคียงซักนิด กิมจิที่ร้านเนื้อย่างในโตเกียวที่ไม่เคยทำให้ผิดหวังเลย
แล้วก็ Namul ก็ดีเช่นกันค่ะ
ลิ้นพิเศษมาแย้วววว หมักเกลือกับพริกไทย หนาใช้ได้เลยค่ะ ไปกัน 4 คน ได้กินคนละชิ้น
ย่างแร้นนนนน ลิ้นอันนี้ให้ย่างโดยพลิกแค่ครั้งเดียวพอค่ะ ไม่ต้องกลับไปกลับมา
สุกแบบนี้ที่เราชอบ ขอน้ำจิ้มซักนิด
หนาๆดึ๋งๆ อร่อยดีเลยค่ะ แต่ถ้าให้เทียบแล้วก็ชอบลิ้นของร้าน Shichirin มากกว่าอยู่ดี
(ตอนนี้ Shichirin เปลี่ยนชื่อเป็น Sumibiyakiniku Nakahara แล้ว เดี๋ยวจะรีวิวให้ดูต่อค่ะ
สำหรับใครที่อยากดูรูปตอนที่ยังเป็นร้าน Shichirin อยู่คลิกด้านล่างได้เลยค่ะ
http://ppantip.com/topic/31411850)
ต่อมาเป็น Signature ของร้านนี้ ใครมาแล้วไม่สั่งถือว่าพลาดเลยนะ
เรียกว่า Sirlion Noharayaki คล้ายๆกินสุกี้ยากี้ค่ะ คือเนื้อสันนอกลายสวยๆสไลซ์มาบางๆ ย่างแล้วจิ้มกินกับไข่ดิบ
ชิ้นนี้พนักงานที่ร้านจะมาย่างให้เรากินค่ะ
ใครอยากดูตอนย่างรบกวนคลิกลิงก์นี้นะคะ เราเคยโพสท์ไว้ในไอจี
https://instagram.com/p/wWYSJQCRl-/?taken-by=tato_kullanan
ย่างเสร็จแร้ววววว จุ่มไข่ดิบซะ น่ากินมาก
คลุกไข่ดิบให้ทั่วๆ ยัมยัมยัม อร่อยค่ะ ชิ้นนี้ในโต๊ะชอบกันมากมาย
เนื้อ Sirloin จะหมักซอสมา รสจะออกหวานๆหน่อย ชิ้นนี้ลายเนื้อจะมีมันอยู่เยอะ
กินแล้วเต็มอิ่มกับรสชาติมากๆ
ต่อมาเป็นจานโปรดเราเลยค่ะ Zabuton (chuck-eye) มาจากส่วนไหล่ของวัว
เค้าให้เลือกว่าจะหมักซอสหรือโรยเกลือ เราเลือกแบบหลังค่ะ เพราะชิ้นก่อนหน้าออกรสหวานแล้ว
กรี๊ดๆ ชอบมากชิ้นนี้ ชอบความมันระดับนี้ สุกแบบนี้ รสแบบนี้ จานนี้สั่งเบิ้ลด้วยหล่ะ //น้องปลื้มมาก
ต่อไป มาพร้อมกัน 2 จานเลย มีอะไรบ้างนะ
อันแรกเป็น Misuji ค่ะ เนื้อส่วนนี้เป็นส่วนนึงของไหล่วัวเหมือนกัน (ไหล่วัวมันใหญ่ เลยมีหลายส่วน)
คนส่วนมากจะชอบชิ้นนี้ เพราะมีมันแทรกเยอะ สัมผัสนุ่ม
ในวัวหนึ่งตัวจะมี Misuji แค่ไม่กี่ร้อยกรัมเท่านั้นค่ะ เป็นของดีที่ต้องสั่งว่างั้นเถอะ
อีกอันเป็น Kalbi เนื้อส่วนใกล้ซี่โครงค่ะ ชิ้นนี้ก็ลายสวยดีอยู่ อิอิ
ย่าง Misuji เสร็จแล้ว ออกมาเป็นงี้หล่ะ น่ากินที่สู๊ดดดดดดดด
ณ จุดนั้นถือว่าฟินนะคะที่ได้กิน แต่ถ้าให้เทียบเราก็ชอบ Misuji ของ Shichirin เจ้าเก่ามากกว่าอยู่ดี
คลี่ๆให้ดู ชิ้นยาวๆบางๆ อัดแน่นไปด้วยความหวานมันจากไขมันวัว งี๊ดดดด คิดถึงจุง
ชิ้นนี้ Kalbi ย่างค่ะ รสชาติก็อร่อยแบบหายห่วง แต่ก็ไม่ได้ปลื้มเท่า Zabuton หรือ Misuji นะ
อันนี้ของเด็ด อิอิ.....ถึงกับขอให้พนักงานจัดให้เลย
ตอนแรกบอกพนักงานว่าอยาก Tenderloin (สันใน)ชิ้นหนาๆ แต่ว่าเค้าบอกว่าชิ้นใหญ่หมด มีแต่ชิ้นเล็ก
ก็เลยได้มาเป็นอันนี้ล่ะค่ะ
ย่างแล้วหม่ำ ขอโทษด้วยนะคะที่รูปซกๆหน่อย แต่มันกู๊ดจริงๆนะ
ตอนนั้นที่ได้กินนี่ปลาบปลื้มมาก เราชอบให้เนื้อข้างในดิบๆแบบนี้หล่ะ โหดมั้ย
กินจนเรียกว่าอิ่มมากแล้ว แต่เพื่อนร่วมโต๊ะอยากกิน Noharayaki อีก เลยจัดมาอีกคนละชิ้นค่ะ
หืมมมม ลายสวยสมราคาจริงๆ (ถ้าจำไม่ผิดคือชิ้นละ 1500 เยน จานนี้ 4 ชิ้นก็ 6000 เยนชะเอิงเอย)
สุดท้ายจริงๆละ มอบให้ทุกคนเลยค่ะ เนื้อจิ้มไข่ อาโหร่ยยยยยยยดี
เนื้อส่งประกายวิบวับเลย เย่
สรุปราคาร้านนี้ ค่าเสียหายออกมาคนละ 8000 เยนค่ะ อิ่มมากๆ
ถือว่าคุ้มราคาสำหรับเนื้อดีๆแบบนี้ค่ะ แต่ถ้าให้เรียงลำดับความชอบแล้ว
เราชอบ Shichirin (ชื่อใหม่คือ Sumibiyakiniku Nakahara เดี๋ยวมีรีวิวด้านล่างค่ะ)
กับร้าน Yoroniku(http://ppantip.com/topic/30847896) มากกว่าค่ะ
เพราะ 2 ร้านนั้นจะดึงรสเนื้อออกมาได้ธรรมชาติกว่า แต่ร้านนี้จะมีรสหวานติดอยู่บ้าง
ส่วนตัวคิดว่าคนไทยน่าจะชอบ Jumbo ค่ะเพราะเนื้อจะหมักซอสที่มีรสหวานนิดๆ ในขณะที่อีก 2 ร้านที่พูดถึงจะรสคลีนกว่าค่ะ