เริ่มจากที่ ในวันที่ 2 สิงหาคม 2559 เราได้รับจดหมายจากทางบริษัทกฎหมาย ส่งมาที่ทำงานของเรา เรื่องขอให้ชำระหนี้ตามยอดคงค้างชำระ จำนวน 5,067.48 บาท ซึ่งยอดดังกล่าวเป็นยอดค่าใช้บริการอินเตอร์เน็ต และในจดหมายระบุว่า หากพ้นกำหนด ท่านยังเพิกเฉยไม่ยอมชำระหนี้ ทางบริษัทฯ มีความจำเป็นที่จะต้อง ดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่งฟ้อง ภายในวันที่ 30 สิงหาคม 2559 พอเราได้อ่านเราก็งงมาก และก็ตกใจมากด้วย เพราะเราไม่เคยไปเปิดใช้เน็ตบ้านมาก่อน เนื่องจากเราอยู่บ้านเช่ามาตลอด เลยไม่เคยเปิดใช้เน็ตบ้านไม่ว่าจะของค่ายไหนก็ตาม จนถึงตอนนี้เรามาอยู่บ้านตัวเองก็ยังไม่เคยไปเปิดใช้บริการเน็ตบ้านเลย เราเลยโทรไปสอบถามกับทางบริษัทอินเตอร์เน็ต และเค้าก็ถามเบอร์โทรศัพท์ที่ไปขอเบอร์ใช้บริการอินเตอร์เน็ต เราก็บอกเบอร์เค้าไปซึ่งเป็นเบอร์ 02-xxx-xxxx เจ้าหน้าที่เค้าก็บอกว่ามีคนมาเปิดใช้บริการจริง และก็เป็นชื่อเรา เค้าก็บอกเลขที่บัตรประชาชนเราถูกต้องด้วย และตอนนี้เบอร์นี้ได้ถูกยกเลิกไปแล้ว เราเลยถามเจ้าหน้าว่า แล้วสถานที่ติดตั้งอยู่แถวไหนค่ะ เค้าก็บอกมาว่า อยู่แถวหมู่บ้านถนอมมิตร บ้านเลขที่เท่าไหร่เราไม่ขอระบุแล้วกันนะค่ะ ซึ่งที่อยู่ที่เจ้าหน้าที่บอกมาเราไม่รู้จักเลย เราอยู่บ้านเช่าในซอยพหลโยธิน 58 มาโดยตลอด เราเลยเล่าให้พี่ที่ทำงานและก็เจ้านายฟัง เค้าก็เลยให้เราไปแจ้งความไว้ก่อนว่าเราโดนนำเอกสารไปแอบอ้างเพื่อเปิดใช้อินเตอร์เน็ต เราก็เลยไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ แล้วก็โทรติดต่อกับทางบริษัทกฎหมายที่ส่งเอกสารมาให้เรา และเค้าก็บอกมาว่าจะส่งเรื่องกลับไปให้ทางบริษัทอินเตอร์เน็ตอีกที พอตอนเย็นเราก็ไปที่ศูนย์บริการอินเตอร์เน็ต ที่ฟิวเจอร์อีกที เจ้าหน้าก็ตรวจสอบข้อมูลแล้วก็ระบุว่ามีคนไปเปิดใช้บริการจริง ซึ่งเราก็ยืนยันว่าเราไม่เคยไปเปิดใช้บริการ ที่อยู่ที่ไปติดตั้งเราก็ไม่รู้จัก เค้าก็เลยรับเรื่องไว้และขอเอกสารใบแจ้งความ, บัตรประชาชน, จดหมายจากบริษัทกฎหมายจากเราไป แล้วก็ทำเรื่องส่งไปให้ฝ่ายกฎหมายของบริษัทอินเตอร์เน็ต และบอกว่าทางฝ่ายกฎหมายจะติดต่อเรามาอีกที เรารอจนถึงวันที่ 5 สิงหาคม 2559 ก็ยังไม่มีใครติดต่อกลับมาเราเลยโทรกับไปตามเบอร์โทรในจดหมายของบริษัทกฎหมาย เค้าก็บอกว่ารอรับเรื่องจากบริษัทอินเตอร์เน็ตอีกที จนวันนี้ วันที่ 7 สิงหาคม 2559 มีเจ้าหน้าที่จากบริษัทอินเตอร์เน็ต โทรมาหาเราตอนประมาณ 20.42 น. เพื่อโทรมาแจ้งความคืบหน้า ว่าทางฝ่ายกฎหมายได้ตรวจสอบเอกสารแล้วว่าได้มีการเปิดใช้บริการจริง โดยมีการใช้สำเนาบัตรประชาชนเราในการเปิดใช้บริการ ด้วยความที่เราโมโห เราเลยพูดกลับไปด้วยน้ำเสียงที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ อันที่จริงคนที่เค้าโทรมาแจ้งก็ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเรื่องนี้เลย อันนี้ก็รู้สึกไม่ดีนิดนึง ยังไงก็ขอโทษพนักงานที่โทรมาแจ้งความคืบหน้าด้วยละกันนะค่ะ แต่เอาเข้าจริงๆก็ยังไม่มีอะไรคืบหน้าเลย มีแค่บอกว่าได้มีการนำเอกสารการไปเปิดใช้บริการจริง แต่ไม่ได้บอกเลยว่าเราควรจะต้องทำยังไงต่อในเมื่อเราไม่ได้เป็นคนไปเปิดใช้บริการเบอร์นี้ และสิ่งที่เราข้องใจอีกเรื่องคือ ทำไมทางบริษัทถึงปล่อยให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้ค่ะ คือคุณปล่อยให้คนที่ไม่ใช้เจ้าของบัตรประชาชน เอาสำเนาบัตรประชาชนมาเปิดใช้บริการอินเตอร์เน็ตได้ง่ายดายขนาดนี้เลยหรอค่ะ เราคิดว่าคุณควรจะให้คนที่ไปเปิดใช้บริการอินเตอร์หรือเปิดเบอร์ใหม่กับทางคุณ เอาบัตรประชาชนตัวจริงไปเปิดใช้บริการนะค่ะ พร้อมกับเช็คหน้าตาเจ้าของบัตรกับบัตรประชาชนด้วยคะ ไม่ใช่ทำอะไรหละหลวมแบบนี้ ทำคนที่เค้าไม่รู้เรื่องอะไรต้องมาเดือดร้อน เสียเวลา เสียประวัติอย่างนี้ แล้วอย่างนี้คนที่ควรจะต้องรับผิดชอบในเรื่องนี้ คือคนที่ไม่รู้เรื่องอะไรหรอค่ะ และสำหรับเรื่องที่เราพิมพ์มาทั้งหมด เราไม่ได้มีเจตนาสร้างความเสียหายแก่ผู้ใด แต่เพื่อเตือนภัยและเป็นประโยชน์แก่สังคม เพื่อคนที่ได้เข้ามาอ่านจะได้รู้และดูแลตัวเองไม่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นกับตัวคะ
อัปเดทความคืบหน้านะค่ะ
วันที่ 11 สิงหาคม 2559 เจ้าหน้าที่ที่ได้รับเรื่องไว้ได้โทรมาแจ้งคะว่า ทางบริษัทอินเตอร์เน็ตได้ทำการลดค่าบริการอินเตอร์เน็ตให้เราครึ่งนึ่งจาก 5,067.48 บาท หรือ 2,533.74 บาท ซึ่งเราเองก็ได้ยื่นยันกับทางเจ้าหน้าที่ไปว่าเราคงไม่จ่าย เพราะเราไม่ได้เป็นคนใช้บริการอินเตอร์เน็ต เจ้าหน้าที่ก็ถามเราว่าจะเข้ามาดูเอกสารที่ได้มีการสมัครใช้บริการไหม เราเลยบอกเจ้าหน้าที่ไปว่าจะเข้าไปดูในวันเสาร์ที่ 13 สิงหาคม 2559 แต่วันที่ 13 สิงหาคม 2559 ไม่ว่าง เราเลยเข้าไปดูเอกสารวันที่ 14 สิงหาคม 2559 โดยเราไปกับเพื่อนคะ โดยทางเจ้าหน้าที่ที่รับเรื่องเค้าก็ให้เราดูเอกสารสำเนาบัตรประชาชนเราที่ได้มีคนเอาไปแอบอ้างในการสมัคร และก็ใบสมัครใช้บริการอินเตอร์เน็ตดังกล่าวจากคอมฯของเจ้าหน้าที่คะ เพราะเค้าไม่อนุญาตให้นำเอกสารออกคะ ซึ่งเมื่อเราได้ดูก็ยิ่งชัดเลยว่าไม่ใช้ลายเซ็นเรา ลายเซ็นไม่เหมือนเลย ใบสมัครก็เขียนนามสกุลเราผิด และสิ่งที่หน้าสงสัยมากคือสำเนาบัตรประชาชนเราขาวสะอาดมากไม่มีรอยเราเซ็นมอบอำนาจหรือสำเนาถูกต้องไว้เลยมีแต่ลายเซ็นที่คนแอบอ้างเซ็นเป็นชื่อพร้อมนามสกุลเราเป็นตัวบรรจง ทำให้เราเองก็อดที่จะสงสัยไม่ได้ว่าพนักงานเค้าไม่ดูหน้าตาคนสมัครเลยหรือไงว่าเป็นคนละคนกันกับเจ้าของสำเนาบัตรประชาชน และทำให้เราไม่ค่อยโอเครกับการทำงานที่หละหลวมจนทำให้เราต้องเสียเวลากันเรื่องนี้โดยที่เราไม่มีส่วนรู้เห็นอะไรเลย และพอเห็นอย่างนั้นแล้วเราก็คุยกับพนักงานว่าไม่ใช้ลายเซ็นเรา เราไม่เคยไปสมัคร และเงินส่วนที่เหลือจากที่บริษัทได้ทำการลดให้เราก็คงไม่จ่าย ทางเจ้าหน้าที่รับเรื่องจึงแจ้งกับเราว่าจะแจ้งกับทางหัวหน้าให้พิจารณาเรื่องของเราให้อีกทีและหลังจากวันที่ 14 สิงหาคม 2559 จนถึงวันนี้เราก็ยังไม่ทราบความคืบหน้าอะไรเกี่ยวกับเคสของเราว่าสรุปแล้วเค้าปลดล็อคชื่อของเราออกจากลูกหนี้ค้างชำระแล้วหรือยังเราก็คงต้องรอต่อไป แต่ถ้าจะให้เราจ่ายเงินในสิ่งที่เราไม่ได้เกี่ยวข้องเราก็คงไม่จ่ายเช่นกัน
ปล.1 รบกวนผู้ที่เคยเจอเหตุการแบบนี้ช่วยแนะนำด้วยนะค่ะ ว่าจะต้องทำยังไงต่อไป เราไม่อยากเสียประวัติกับเรื่องที่เราไม่ได้ทำคะ
2 ถ้าเรา Tag ห้องผิดก็ต้องขออภัยด้วยนะค่ะ
3 ยังไงเราก็ขอฝากเรื่องการขีดคร่อมเอกสารสำเนาด้วยนะค่ะ ขีดคร่อมบนสำเนาที่เป็นข้อมูลไปเลยคะ และก็ระบุให้ชัดเจนด้วยนะค่ะ
ว่าใช้สำหรับทำอะไร เมื่อไหร่ ไม่งั้นอาจจะเป็นเหมือนเราได้
โดนบุคคลเอาสำเนาบัตรประชาชนไปแอบอ้างเปิดในบริการ ทรู อินเตอร์เนต เรานี่งงเลย!!!
อัปเดทความคืบหน้านะค่ะ
วันที่ 11 สิงหาคม 2559 เจ้าหน้าที่ที่ได้รับเรื่องไว้ได้โทรมาแจ้งคะว่า ทางบริษัทอินเตอร์เน็ตได้ทำการลดค่าบริการอินเตอร์เน็ตให้เราครึ่งนึ่งจาก 5,067.48 บาท หรือ 2,533.74 บาท ซึ่งเราเองก็ได้ยื่นยันกับทางเจ้าหน้าที่ไปว่าเราคงไม่จ่าย เพราะเราไม่ได้เป็นคนใช้บริการอินเตอร์เน็ต เจ้าหน้าที่ก็ถามเราว่าจะเข้ามาดูเอกสารที่ได้มีการสมัครใช้บริการไหม เราเลยบอกเจ้าหน้าที่ไปว่าจะเข้าไปดูในวันเสาร์ที่ 13 สิงหาคม 2559 แต่วันที่ 13 สิงหาคม 2559 ไม่ว่าง เราเลยเข้าไปดูเอกสารวันที่ 14 สิงหาคม 2559 โดยเราไปกับเพื่อนคะ โดยทางเจ้าหน้าที่ที่รับเรื่องเค้าก็ให้เราดูเอกสารสำเนาบัตรประชาชนเราที่ได้มีคนเอาไปแอบอ้างในการสมัคร และก็ใบสมัครใช้บริการอินเตอร์เน็ตดังกล่าวจากคอมฯของเจ้าหน้าที่คะ เพราะเค้าไม่อนุญาตให้นำเอกสารออกคะ ซึ่งเมื่อเราได้ดูก็ยิ่งชัดเลยว่าไม่ใช้ลายเซ็นเรา ลายเซ็นไม่เหมือนเลย ใบสมัครก็เขียนนามสกุลเราผิด และสิ่งที่หน้าสงสัยมากคือสำเนาบัตรประชาชนเราขาวสะอาดมากไม่มีรอยเราเซ็นมอบอำนาจหรือสำเนาถูกต้องไว้เลยมีแต่ลายเซ็นที่คนแอบอ้างเซ็นเป็นชื่อพร้อมนามสกุลเราเป็นตัวบรรจง ทำให้เราเองก็อดที่จะสงสัยไม่ได้ว่าพนักงานเค้าไม่ดูหน้าตาคนสมัครเลยหรือไงว่าเป็นคนละคนกันกับเจ้าของสำเนาบัตรประชาชน และทำให้เราไม่ค่อยโอเครกับการทำงานที่หละหลวมจนทำให้เราต้องเสียเวลากันเรื่องนี้โดยที่เราไม่มีส่วนรู้เห็นอะไรเลย และพอเห็นอย่างนั้นแล้วเราก็คุยกับพนักงานว่าไม่ใช้ลายเซ็นเรา เราไม่เคยไปสมัคร และเงินส่วนที่เหลือจากที่บริษัทได้ทำการลดให้เราก็คงไม่จ่าย ทางเจ้าหน้าที่รับเรื่องจึงแจ้งกับเราว่าจะแจ้งกับทางหัวหน้าให้พิจารณาเรื่องของเราให้อีกทีและหลังจากวันที่ 14 สิงหาคม 2559 จนถึงวันนี้เราก็ยังไม่ทราบความคืบหน้าอะไรเกี่ยวกับเคสของเราว่าสรุปแล้วเค้าปลดล็อคชื่อของเราออกจากลูกหนี้ค้างชำระแล้วหรือยังเราก็คงต้องรอต่อไป แต่ถ้าจะให้เราจ่ายเงินในสิ่งที่เราไม่ได้เกี่ยวข้องเราก็คงไม่จ่ายเช่นกัน
ปล.1 รบกวนผู้ที่เคยเจอเหตุการแบบนี้ช่วยแนะนำด้วยนะค่ะ ว่าจะต้องทำยังไงต่อไป เราไม่อยากเสียประวัติกับเรื่องที่เราไม่ได้ทำคะ
2 ถ้าเรา Tag ห้องผิดก็ต้องขออภัยด้วยนะค่ะ
3 ยังไงเราก็ขอฝากเรื่องการขีดคร่อมเอกสารสำเนาด้วยนะค่ะ ขีดคร่อมบนสำเนาที่เป็นข้อมูลไปเลยคะ และก็ระบุให้ชัดเจนด้วยนะค่ะ
ว่าใช้สำหรับทำอะไร เมื่อไหร่ ไม่งั้นอาจจะเป็นเหมือนเราได้