คนว่ายาก (๔) ๖ ส.ค.๕๙

กระทู้สนทนา
คนว่ายาก (๔)

คืนวันที่ ๒๙ ก.ค.เมื่อเข้าไปนอนในห้อง ไอ.ซี.ยู.ก็นอนไม่หลับเลย ปวดเสียดในท้อง แต่ไม่ถ่าย

เวลา ๒๑.๐๐ หมอโรคทางเดินอาหารเข้ามาดูอาการและสั่งให้ยาถ่าย และไปส่องกล้องดูกระเพาะลำไส้
นอนไม่หลับตลอดทั้งคืน ดูนาฬิกาทุกสิบห้านาที จนสว่าง

วันที่ ๓๐ ก.ค. วันนี้ปวดท้องจะถ่าย พยาบาลบอกให้ถ่ายในผ้าอ้อมแพมเพอร์ดเลย ก็ถ่ายไม่ออกเพราะไม่เคย จนทนฤทธิ์ยาถ่ายไม่ได้ก็ไหลออกมาเอง พยาบาลชายหญิงช่วยกันทำความสะอาดก้น เป็นชีเปลือย เลยหายอาย ถ่ายต่อมาถึงหกหน

คืนนี้ก็นอนไม่หลับตลอดคืนอีกเช่นเคย เพราะถ่ายบ้าง วัดความดันบ้างกินยาบ้างจนถึงเช้า เขาก็เอาน้ำถุงใหญ่มาสวนทวาร ปลายท่อโตเท่านิ้วก้อย และทาครีมแต่พยาบาลหญิงดันไม่เข้า ต้องพยาบาลชาย ดันจนเข้า โดยรู้สึกเจ็บจนต้องร้อง สวนแล้วก็ถ่ายใส่กระโถน เอาไปเททิ้งแล้วก็สวนอีก ถ่ายอีกรวมสี่ถุง เจ็บทุกครั้ง พอชำระล้างทำความสะอาดก็แสบจนต้องร้องทุกครั้งเหมือนกัน

เวลา ๑๐.๐๐ เขาเข็นเตียงไปที่ห้องผ่าตัดชักใจหายถามว่าจะทำอะไร เขาบอกว่าหมอจะส่องกล้อง แล้วก็เอายาให้กินสองถ้วย รู้สึกว่าซ่าลงไปในลำไส้ คงจะเป็นยาชาแล้วเอาพลาสติกวงกลม ๆ มาให้คาบไว้ และสอดสายยางลงไปในลำคอ จากนั้นก็ไม่รู้สึกอะไร และจำความในช่วงนี้ไม่ได้เลย
เวลา ๑๕.๐๐ เขาเข็นไปเข้าห้อง ๔๒๖ เป็นห้องสองเตียงแต่อีกเตียงว่างเปล่า ให้อดอาหารและน้ำ และให้น้ำเกลือกับเลือดตลอดเวลา น้ำเกลือมากกว่าสามขวด เลือดสามถุง

คืนวันที่ ๓๑ ก.ค.นี้หลับเป็นตายด้วยความหมดแรง จนถึงตีห้า

วันที่ ๑ ส.ค.วันนี้เป็นการพักฟื้นจากการรักษาอันเจ็บแสบแสนทรมาน ได้กินอาหารเหลว และอาหารอ่อนสามมื้อ แต่นอนไม่หลับเลย เพราะปวดเมื่อยไปหมดทั้งตัว จะเปลี่ยนท่านอนก็ลำบากเพราะติดสายน้ำเกลือและเลือด จนเลือดหมดแล้วจึงพยายามลงจากเตียง ให้พยาบาลช่วยพาเสาน้ำเกลือไปเข้าส้วม ก็พอเดินไหว

หมอเข้ามาเยี่ยมดูอาการแล้วบอกว่า ผลจาการส่องกล้องพบแผลในกระเพาะและลำไส้หลายแห่ง แต่รักษาทางยาได้ไม่ต้องผ่าตัด ถ้าดูผลเลือดครั้งสุดท้ายไม่มีอะไรผิดปกติ พรุ่งนี้วันที่ ๒ ส.ค.ก็กลับบ้านได้
คืนนี้นอนหลับได้พอสมควรทั้ง ๆ ที่ปวดเมื่อยไปทั่วร่างกายแทบจะทนนอนต่อไปไม่ไหว

วันที่ ๒ ส.ค.หมอเข้ามาดูแต่เช้า พอเห็นผลตรวจเลือดครั้งสุดท้าย ก็บอกว่าต้องให้เลือดอีกหนึ่งถุง แล้วจึงจะกลับบ้านได้ โดยไม่ต้องนอนอีกคืน
เราก็เตรียมตัวจะกลับบ้าน ถอนเงินมาชำระค่าใช้จ่ายในการรักษา สามคนพ่อแม่ลูก แทบจะหมดทุกบัญชี แล้วก็โทร.บอกลูกชายคนเล็กที่อยู่ต่างจังหวัดทราบ

แต่กว่าจะได้เลือดถุงสุดท้าย ก็ถึงเวลา ๑๖.๐๐ นอนรอหยดเลือดถึงสามชั่วโมง จึงหมดปลดเครื่องพันธนาการออกจากตัว นั่งรถเข็นไปร่ำลาเจ้าเจ้าหน้าที่ชั้นสี่ และเอาหนังสือเรื่องเล่าของคนวัยทอง ไปฝากให้ห้อง ไอ.ซี.ยู.ชั้นสาม กับห้องฉุกเฉินชั้นล่าง

ได้ขี้นรถแท็กซี่เมื่อเวลาประมาณ ๒๐.๓๐ ถึงบ้านที่นึกว่าจะไม่ได้กลับมาเห็นอีก เมื่อ เวลา ๒๐.๔๕

ผลพวงที่ได้จากการผจญภัยครั้งนี้ ก็คือยาเอามากินที่บ้านหนึ่งถุง ในนั้นมีขนานหนึ่ง ระบุว่า ห้ามกินเหล้าและแอลกอฮอล์ (เด็ดขาด)

เอวัง.......................
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่