ขับถ่ายเป็นเลือด (Rectal Bleeding) คือ ความผิดปกติในอวัยวะภายในระบบทางเดินอาหาร ที่ขับถ่ายออกมาเป็นโลหิตสีแดงสด หรืออุจจาระเป็นสีดำคล้ำ น้ำตาลเข้ม ซึ่งไม่ได้มาจากโรคริดสีดวงเพียงอย่างเดียว เพราะอาจจะไม่มีอาการเจ็บทวารหนักก็ได้ จะเห็นได้ถึงลักษณะที่แตกต่างกันซึ่งมาจากหลากหลายสาเหตุ โดยเฉพาะการมีเลือดออกมาจากอวัยวะที่มีหน้าที่ย่อยอาหาร ซึ่งไม่สามารถตรวจพบเองด้วยตาเปล่า จะต้องใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์เข้ามาช่วย
ขับถ่ายเป็นเลือดเกิดจากโรคอะไรได้บ้าง ?
ลำไส้ใหญ่อักเสบ
พฤติกรรมของผู้ป่วยรวมทั้งระบบภูมิคุ้มกันทำให้เกิดโรคนี้ได้ เนื่องจากติดเชื้อบางชนิด มักจะมีอาการร่วม เช่น ปวดท้อง ถ่ายเหลว มีไข้
เลือดออกในกระเพาะอาหาร
เริ่มจากอาเจียนออกมาเป็นเลือด หน้ามืด อ่อนเพลีย มีความเสี่ยงเป็นโรคมะเร็งในกระเพาะอาหาร
เลือดออกในลำไส้ใหญ่
ขับถ่ายออกมาเป็นเลือดสีแดงสด ไม่มีความเจ็บปวดใด ๆ
ลำไส้ขาดเลือด
เพราะว่าการไหลเวียนของเลือดไปเลี้ยงผนังลำไส้ได้อย่างไม่มีประสิทธิภาพ ปวดท้องแบบเกร็งอย่างรุนแรง ถึงขั้นหมดสติและติดเชื้อในกระแสโลหิตได้
ติ่งเนื้องอกลำไส้ใหญ่
มักจะไม่มีอาการความผิดปกติ นอกจากสังเกตผิวของอุจจาระจะมีโลหิตเคลือบติดอยู่ หากปล่อยความผิดปกตินี้ทิ้งไว้ อาจกลายเป็นมะเร็งได้
มะเร็งลำไส้ใหญ่
โรคนี้มีอาการร่วม เช่น ท้องผูก ท้องเสีย หรือภาวะซีด
การวินิจฉัยขับถ่ายเป็นเลือด
ในขั้นแรกเมื่อมาพบแพทย์แล้วจะเริ่มทำการซักประวัติ อาการร่วมต่าง ๆ ลักษณะเลือดที่ปนมากับอุจจาระ รวมทั้งการรักษาในอดีต หลังจากนั้นจะทำการตรวจสุขภาพทั่วไป เพื่อหาภาวะความผิดปกติร่วมอื่น ๆ เช่น โลหิตจาง เป็นไข้ ก้อนในช่องท้อง เป็นต้น ต่อมาจะทำการตรวจอวัยวะในระบบทางเดินอย่างละเอียดมากยิ่งขึ้น ได้แก่
การตรวจดูขอบทวารหนัก
เป็นการสังเกตแผลของโรคริดสีดวงทวาร หรืออาจมีการใช้นิ้วสวนเพื่อหาการเกิดเนื้องอก
การสวนแป้งแบเรียม
เป็นการตรวจทางรังสีหาความผิดปกติของลำไส้ใหญ่ก่อนเอกซเรย์
การส่องกล้องตรวจลำไส้ใหญ่
Colonoscopy เป็นการใช้กล้องโดยการสอดผ่านทวารหนัก แสดงออกมาเป็นภาพบนจอเพื่อหาความผิดปกติ
การส่องกล้องกระเพาะอาหาร
Gastroscopy เป็นการใช้กล้องหาความผิดปกติโดยการผ่านบริเวณปาก หลอดอาหาร ไปจนถึงกระเพาะ
การรักษาขับถ่ายเป็นเลือด
การใช้ยา
- เช่น ยาปฏิชีวนะ เพื่อบรรเทาอาการจากเชื้อแบคทีเรียในกระเพาะอาหาร
- ยาต้านการอักเสบโดยเฉพาะบริเวณลำไส้ใหญ่
ให้น้ำเกลือ
สำหรับผู้ที่สูญเสียเลือดเป็นจำนวนมาก รวมทั้งอาจจะมีภาวะความดันโลหิตต่ำ หน้ามืด
การผ่าตัด
สามารถทำได้ทั้งแบบเปิดหน้าท้องหรือผ่านกล้อง Gastroscope และ Colonoscope เพื่อนำเนื้องอก มะเร็ง เนื้อเยื่อที่มีความผิดปกติออกมา
การป้องกันขับถ่ายเป็นเลือด
- รับประทานผัก ผลไม้ ธัญพืชที่มีกากใยสูง
- ดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว
- หลีกเลี่ยงการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ คาเฟอีนและสูบบุหรี่
- ไม่อั้นอุจจาระหรือแบ่งขณะขับถ่ายอย่างรุนแรงโดยเด็ดขาด
- ฝึกขับถ่ายให้เป็นเวลาโดยเฉพาะช่วงเช้า
- ไม่ควรนั่งอยู่บนชักโครกเป็นเวลานาน
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
- หลังขับถ่ายควรชำระล้างทวารหนักด้วยน้ำสะอาดอย่างถูกสุขลักษณะ
ขับถ่ายเป็นเลือด ที่อาจไม่ใช่ริดสีดวงเพียงอย่างเดียว
พฤติกรรมของผู้ป่วยรวมทั้งระบบภูมิคุ้มกันทำให้เกิดโรคนี้ได้ เนื่องจากติดเชื้อบางชนิด มักจะมีอาการร่วม เช่น ปวดท้อง ถ่ายเหลว มีไข้
เลือดออกในกระเพาะอาหาร
เริ่มจากอาเจียนออกมาเป็นเลือด หน้ามืด อ่อนเพลีย มีความเสี่ยงเป็นโรคมะเร็งในกระเพาะอาหาร
เลือดออกในลำไส้ใหญ่
ขับถ่ายออกมาเป็นเลือดสีแดงสด ไม่มีความเจ็บปวดใด ๆ
ลำไส้ขาดเลือด
เพราะว่าการไหลเวียนของเลือดไปเลี้ยงผนังลำไส้ได้อย่างไม่มีประสิทธิภาพ ปวดท้องแบบเกร็งอย่างรุนแรง ถึงขั้นหมดสติและติดเชื้อในกระแสโลหิตได้
ติ่งเนื้องอกลำไส้ใหญ่
มักจะไม่มีอาการความผิดปกติ นอกจากสังเกตผิวของอุจจาระจะมีโลหิตเคลือบติดอยู่ หากปล่อยความผิดปกตินี้ทิ้งไว้ อาจกลายเป็นมะเร็งได้
มะเร็งลำไส้ใหญ่
โรคนี้มีอาการร่วม เช่น ท้องผูก ท้องเสีย หรือภาวะซีด
การวินิจฉัยขับถ่ายเป็นเลือด
ในขั้นแรกเมื่อมาพบแพทย์แล้วจะเริ่มทำการซักประวัติ อาการร่วมต่าง ๆ ลักษณะเลือดที่ปนมากับอุจจาระ รวมทั้งการรักษาในอดีต หลังจากนั้นจะทำการตรวจสุขภาพทั่วไป เพื่อหาภาวะความผิดปกติร่วมอื่น ๆ เช่น โลหิตจาง เป็นไข้ ก้อนในช่องท้อง เป็นต้น ต่อมาจะทำการตรวจอวัยวะในระบบทางเดินอย่างละเอียดมากยิ่งขึ้น ได้แก่
การตรวจดูขอบทวารหนัก
เป็นการสังเกตแผลของโรคริดสีดวงทวาร หรืออาจมีการใช้นิ้วสวนเพื่อหาการเกิดเนื้องอก
การสวนแป้งแบเรียม
เป็นการตรวจทางรังสีหาความผิดปกติของลำไส้ใหญ่ก่อนเอกซเรย์
การส่องกล้องตรวจลำไส้ใหญ่
Colonoscopy เป็นการใช้กล้องโดยการสอดผ่านทวารหนัก แสดงออกมาเป็นภาพบนจอเพื่อหาความผิดปกติ
การส่องกล้องกระเพาะอาหาร
Gastroscopy เป็นการใช้กล้องหาความผิดปกติโดยการผ่านบริเวณปาก หลอดอาหาร ไปจนถึงกระเพาะ
การรักษาขับถ่ายเป็นเลือด
การใช้ยา
- เช่น ยาปฏิชีวนะ เพื่อบรรเทาอาการจากเชื้อแบคทีเรียในกระเพาะอาหาร
- ยาต้านการอักเสบโดยเฉพาะบริเวณลำไส้ใหญ่
ให้น้ำเกลือ
สำหรับผู้ที่สูญเสียเลือดเป็นจำนวนมาก รวมทั้งอาจจะมีภาวะความดันโลหิตต่ำ หน้ามืด
การผ่าตัด
สามารถทำได้ทั้งแบบเปิดหน้าท้องหรือผ่านกล้อง Gastroscope และ Colonoscope เพื่อนำเนื้องอก มะเร็ง เนื้อเยื่อที่มีความผิดปกติออกมา
การป้องกันขับถ่ายเป็นเลือด
- รับประทานผัก ผลไม้ ธัญพืชที่มีกากใยสูง
- ดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว
- หลีกเลี่ยงการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ คาเฟอีนและสูบบุหรี่
- ไม่อั้นอุจจาระหรือแบ่งขณะขับถ่ายอย่างรุนแรงโดยเด็ดขาด
- ฝึกขับถ่ายให้เป็นเวลาโดยเฉพาะช่วงเช้า
- ไม่ควรนั่งอยู่บนชักโครกเป็นเวลานาน
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
- หลังขับถ่ายควรชำระล้างทวารหนักด้วยน้ำสะอาดอย่างถูกสุขลักษณะ