จากความเดิม ในกระทู้ที่แล้ว
http://ppantip.com/topic/34579395
ผมบันทึกไว้ เพื่อใช้วิเคราะห์กับการลงทุนในตลาดหุ้นในช่วงขาลง คราวนี้ผมมาวิเคราะห์หุ้นในช่วงขาขึ้น

ความเดิมในการศึกษาครั้งที่แล้ว ผมได้ขายหุ้นเดิมออกในช่วง SET ขึ้นไป 1,600 และซื้อใหม่เพิ่ม ในระหว่างเดือน
วันที่ 8 ธันวาคม 2515 ที่ SET ตกไปที่ 1300-1,271

ซึ่ง ณ วันนี้ราคาหุ้นในวันที่ 28 กรกฏาคม 2516 ประมาณ 7 เดือนผ่านไป ผลลัพธ์ราคาในหุ้นขาขึ้นที่ SET ขึ้นไปกว่า 1500 จุด
มีผลลัพธ์ให้เห็นดังต่อไปนี้


[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ข้อสังเกตุ

(1) หุ้นเติมโต จะให้ผลกำไรอย่างงดงาม เช่น หุ้น Beauty ที่ขึ้นไปเกือบ 100% ในทางกลับกัน PlanB
     ผลลัพธ์ของการประกอบการไตรมาสที่ (Q1,2019) ที่ออกมาไม่เป็นที่น่าพอใจ กับราคา P/E ที่สูงลิบลิ่ว
     มีผลทำให้ราคาปัจจุบันปรับลดลงมาเหลือที่ 1%  ทั้งที่เคยขึ้นไปถึง 20%
2) หุ้นปันผล เช่น CSL ราคาปรับตัวเพียง 4% ถึงแม้ว่าตลาดหุ้นปรับตัวขึ้นไปถึง 200 จุดก็ตาม (modern ปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง)
3) หุ้นตามข่าว เช่น PTT ให้ผลกำไรอย่างงดงาม กว่า 60% โดยใช้กราฟ และเทคนิคเข้ามาช่วย หากตลาดเกิดการ Panic Sale
และเข้าในจุดซื้อต่ำสุด
4) หุ้นผลประกอบการที่ไม่ดี เช่น Banpu จะให้ผลกำไรที่ไม่ดี แต่โชคดีสำหรับผม ที่ซื้อตามหุ้น Banpu และเข้าถูกจุดต่ำสุดของราคา

โดยสรุป ความคิดเห็นส่วนตัว
- ในหนึ่งถึงสองปี ตลาดจะมีหนึ่งถึงสองครั้งที่มีการเทขายอย่างหนัก เป็นช่วงที่คุณเลือกซื้อของลดราคา
- คำของปู่บับเฟต บอก "เมื่อคนอื่นกลัว เป็นเวลา ของผู้กล้า แต่เมื่อมีคนกล้า" ให้เราเริ่มกลัว ใช้ได้เสมอ
- คำของคุณโจ้ ที่บอกว่า "ราคาหุ้นอยู่ที่ผลกำไรของการประกอบการธุรกิจ" ใช้ได้ดีเสมอ
- หุ้นปันผลสูง ไม่ได้สร้างผลกำไรที่ดีในการลงทุนในหุ้น กำไรที่ดีอยู่ที่ผลประกอบการ (ย้ำ)
- ซื้อหุ้นตามข่าว ให้ใช้ "การคิด วิเคราะห์ และแยกแยะ" (ยืมคำเฮียจี มาใช้)
- อย่ายึดติดกับคำว่าวีไอ ให้ใช้เครื่องมือเทคนิค และกราฟในการเข้าซื้อ และขายออก
- ซื้อหุ้นเน่า เปรียบเสมือนมีคู่ที่ไม่ดี สร้างแต่ความช้ำใจ

มาแลกเปลี่ยนความรู้กันครับ แต่กระทู้ค่อนข้างน่าเบื่อสักหน่อยครับ ขออภัย กะเอาไว้เป็นบันทึกไว้
อ่านส่วนตัวต่อไปในอนาคต

โชคดีในการลงทุนครับ