เปิดแนวคิดต่าง 'จงกล้าเมื่อคนอื่นกลัว' กลุ่มเพจ 'คุยหุ้น' ในเฟสบุ๊ค เล่น Put หุ้นไทย อีกฝ่ายซื้อเก็บไว้ลั่นชอบสะสมของถูก

กระทู้สนทนา
แนวคิด “จงกล้าเมื่อคนอื่นกลัว” ในบริบทตลาดหุ้นไทย

ในสถานการณ์ที่ตลาดหุ้นไทยเผชิญกับความผันผวน และดัชนี SET อาจปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องจนแตะระดับ 1,100 จุด ความเห็นของนักลงทุนมักจะแบ่งออกเป็นสองฝ่ายชัดเจน:
 1. กลุ่มแรก: เล่นฝั่ง Put หวังเก็งกำไรจากการลงต่อเนื่อง
 • นักลงทุนในกลุ่มนี้เชื่อว่าตลาดยังคงมีแนวโน้มขาลง เนื่องจากปัจจัยลบที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข เช่น เศรษฐกิจที่ซบเซา, การส่งออกลดลง, และหนี้ครัวเรือนที่สูง
 • การเล่น Put Options หรือลงทุนในสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนเมื่อหุ้นตก จึงเป็นกลยุทธ์ที่พวกเขาเลือกใช้เพื่อทำกำไรในระยะสั้น
 2. กลุ่มที่สอง: ซื้อหุ้นสะสม “ชอบของถูก”
 • อีกฝ่ายหนึ่งเชื่อว่าตลาดขาลงคือโอกาสสะสมหุ้นในราคาที่ต่ำ โดยเฉพาะหุ้นพื้นฐานดีที่ราคาลดลงมาจากปัจจัยชั่วคราว
 • แนวคิดนี้ยึดหลัก “จงกล้าเมื่อคนอื่นกลัว” ของวอร์เรน บัฟเฟตต์ (Warren Buffett) ซึ่งหมายถึงการมองหาโอกาสลงทุนในช่วงที่ตลาดอยู่ในภาวะตื่นตระหนก

ข้อดีและข้อเสียของทั้งสองกลยุทธ์

กลยุทธ์ 1: เล่น Put เมื่อหุ้นตก

ข้อดี
 • ทำกำไรจากการคาดการณ์ที่ตรงกับทิศทางตลาด
 • เหมาะสำหรับนักลงทุนที่เชี่ยวชาญด้านเทคนิคและมีระยะเวลาการลงทุนสั้น

ข้อเสีย
 • หากตลาดกลับตัวหรือปัจจัยลบคลี่คลายเร็ว อาจเกิดการขาดทุนสูง
 • ความเสี่ยงจากการเก็งกำไรสูงกว่าการสะสมหุ้นระยะยาว

กลยุทธ์ 2: ซื้อสะสมของถูก

ข้อดี
 • สะสมหุ้นพื้นฐานดีในราคาที่ต่ำ เป็นการลงทุนระยะยาวที่อาจให้ผลตอบแทนสูงเมื่อเศรษฐกิจฟื้นตัว
 • ลดความกังวลเรื่องความผันผวนในระยะสั้น

ข้อเสีย
 • หากตลาดปรับลงต่อเนื่อง นักลงทุนอาจติดดอยและเผชิญการขาดทุนระหว่างรอการฟื้นตัว
 • ต้องใช้เงินทุนและความอดทนสูง

กลยุทธ์แบบผสม: เล่นเกมระยะสั้นและวางแผนระยะยาว
 • สำหรับนักลงทุนที่ต้องการลดความเสี่ยง อาจพิจารณาใช้กลยุทธ์ทั้งสองร่วมกัน
 • แบ่งพอร์ตลงทุน: ลงทุนบางส่วนใน Put Options เพื่อเก็งกำไรในช่วงตลาดขาลง
 • สะสมหุ้นพื้นฐานดี: เก็บหุ้นคุณภาพในช่วงที่ราคาลดลง โดยเลือกหุ้นที่มีโอกาสฟื้นตัวในระยะยาว

การเลือกกลยุทธ์ลงทุนในตลาดหุ้นไทยขึ้นอยู่กับแนวคิดและเป้าหมายของนักลงทุนแต่ละคน
 • หากคุณมองตลาดระยะสั้น และคาดการณ์ว่าหุ้นยังคงปรับตัวลงต่อ การเล่นฝั่ง Put อาจเป็นโอกาสทำกำไร
 • หากคุณมองตลาดระยะยาว และเชื่อในศักยภาพของหุ้นพื้นฐานดี การสะสมในราคาที่ต่ำอาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่า

ท้ายที่สุด ความสำเร็จในการลงทุนไม่ได้ขึ้นอยู่กับการเลือกกลยุทธ์ใดกลยุทธ์หนึ่ง แต่ขึ้นอยู่กับการบริหารความเสี่ยงและการตัดสินใจที่มีข้อมูลรองรับ.

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่