เมื่อบ้านของฉันมีขโมย จนปัญญาแล้วคะช่วยที

ขโมยที่ว่าก็คือแม่บ้านของบ้านเราเองคะ
อาจสงสัยนะคะว่าทำไมไม่ไล่ออกไปเลยล่ะเราขอเล่าสถานการณ์ให้ฟังก่อนก็แล้วกันคะ

     เราขอเรียกป้าแม่บ้านแทนว่าป้าส้มนะคะ ป้าส้มเป็นคนอัธยาศัยดี รู้จักคนเยอะ แต่ติดการเล่นหวย เล่นแชร์
ป้าส้มมีลูกชายสองคนทำงานหาเช้ากินค่ำทั้งคู่คะ ลูกชายเหมือนจะไม่ค่อยถูกกันบางทีก็ทะเลาะกันรุนแรง
ถึงขั้นเอามีดไล่ฟันกันก็มี โดยนิสัยของป้าส้มและชีวิตครอบครัวเรามารู้กันทีหลัง หลังจากจ้างป้าส้มมาระยะนึง
ป้าส้มถือเป็นคนเก่าแก่ของบ้านเราได้เลย เพราะจ้างมาตั้งแต่เราอยู่ประถมต้น จนตอนนี้ใกล้จบมหาลัยแล้ว

เหตุผลที่จ้างป้าส้มมาในตอนแรกคือต้องการให้ดูแลคุณตาคุณยาย เพราะที่บ้านช่วงกลางวันจะไม่มีใครอยู่บ้านเลยคะ
ครอบครัวเราในตอนแรกมีกัน 6 คนคะ คุณตา คุณยาย คุณพ่อ คุณแม่ เรา และน้องชาย คุณพ่อคุณแม่ต้องทำงานแบบไปเช้าเย็นกลับ
เรากับน้องชายก็ต้องไปโรงเรียน และช่วงนั้นคุณตาก็ป่วยหนักเป็นอัลไซเมอร์จำใครไม่ได้เลยจึงจำเป็นต้องมีคนคอยดูแล
งานของป้าส้มในแต่ละวันก็จะมีดูแลคุณตาคุณยาย ซื้อของมาให้ถ้าคุณยายใช้ กวาดบ้านถูบ้าน งานบ้านทั่วไปแต่ไม่มีซักผ้ารีดผ้า
ไม่ถึงขั้นที่ต้องอาบน้ำเช็ดตัวให้คุณตา  โดยทำจันทร์ถึงเสาร์มาเช้ากลับเย็นไม่เกินห้าโมงเย็นโดยคุณแม่ให้เดือนละ สี่พัน
และพอเราอยู่ ป.6 คุณตาก็เสียเหลือแต่คุณยาย โดยยายเราเป็นคนนิสัยเอาแต่ใจ จู้จี้ขี้บ่น ขี้ลืมตามประสาผู้สูงอายุ
แต่นิสัยความเอาแต่ใจของยายเรานี่สุดโต่งมากคะ มีแต่ป้าส้มที่ทนยายเราได้  หลังจากที่ป้าส้มอยู่กับบ้านเรามา 5 ปี

นิสัยแกก็เริ่มออกลายคะ ของที่บ้านเริ่มหายซึ่งตอนแรกก็คิดว่าลืมกันหรือเปล่า เพราะเรากับแม่เป็นคนขี้ลืม
แต่เหตุการณ์แรกที่ทำให้รู้ว่าของโดนขโมยแน่ๆคือ คุณแม่เราไปอบรมที่กรุงเทพเลยซื้อแมคโดนัลมาฝากเรากับน้อง
(สมัยนั้นแมคโดนัลแถวบ้านเราไม่มีคะ อยากกินต้องไปกรุงเทพเท่านั้น55555) เรากับน้องดีใจมากเพราะเกิดมายังไม่เคยกินแมคโดนัล
แต่ด้วยความที่คุณแม่มาถึงดึกมากแล้วจึงเก็บไว้ในตู้เย็นก่อนค่อยกินกันวันพรุ่งนี้ แต่เมื่อเราตื่นมาแมคโดนัลก็หายไปแล้ว
คุณแม่ก็ยังไม่ได้กิน น้องเราก็ยังไม่ได้กิน เราก็ไม่ได้กิน ยิ่งคุณพ่อไม่ชอบอาหารแบบนี้เลย และคุณยายไม่ยุ่งกับของในตู้เย็นอยู่แล้ว

จึงมองหน้ากันแล้วก็สงสัยว่าหรือจะเป็นป้าส้ม ตอนนั้นคุณแม่จึงถามป้าส้ม ว่าได้เอาไปไหม
ป้าส้มก็ตอบว่า คิดว่าไม่มีคนกินแล้วจะทิ้งแล้ว จึงเอากลับบ้านไปให้ลูกให้หลาน  กล่องแมคโดนัลที่ยังไม่ได้แกะนะคะ
อยู่ในตู้เย็นไม่ทันข้ามวัน จากนั้นเหตุการณ์แบบนี้ก็ยังเกิดขึ้นอีก  ขนมหายบ้าง กับข้าวหายบ้าง เหตุผลก็คือคิดว่าไม่กินแล้ว
ซึ่งคุณแม่เราก็ไม่กล้าพูดเพราะป้าส้มแกก็เป็นคนดูแลคุณยาย ก็เลยคิดว่าทำบุญไปก็แล้วกัน

แต่นี่กลับเป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นของนิสัยขี้ขโมย เหมือนเราได้เลี้ยงขโมยไว้โดยไม่รู้ตัว หลังจากเหตุการณ์แมคโดนัล
ก็มีเครื่องเล่นเอ็มพีสามเราหายไป ปากกาที่บ้านก็ชอบหาย เราแอบไปค้นเจออยู่ในกระเป๋าป้าส้มหลายสิบด้าม
เพราะป้าแกชอบใช้เขียนหวย พีคที่สุดก็คงเป็นตอนที่ป้าแกไปทำความสะอาดห้องเรา เราเก็บโทรศัพท์ที่พังแล้วไว้ในลิ้นชัก
โดยวันนั้นเราเดินเข้าห้อง ไปเจอป้าแกเปิดลิ้นชักเรา ในมือป้าส้มถือโทรศัพท์ของเราอยู่
ป้าแกก็ดูตกใจ แล้วก็พูดกับเราว่าป้าขอได้ไหมเห็นไม่ได้ใช้แล้ว ด้วยความที่เรายังเด็กและเป็นเด็กใสซื่อเลยตอบไปว่า ได้คะ
เพราะก็ไม่ได้ใช้แล้ว แต่มานั่งนึกทีหลังว่า แล้วทำไมป้าแกไปค้นลิ้นชักเจอได้วะ เพราะตามมารยาทแล้วไม่ควรจะมาค้นของของเรา

จนตอนนี้เราขึ้นมหาลัยก็ยิ่งเลวร้ายหนักขั้นขโมยเงินยายเราเป็นพัน โดยยายเราเป็นคนขี้ลืมอยู่แล้ว
ตอนแรกพวกเราก็คิดว่ายายคงจะเอาไปใช้แล้วลืมจึงละเลยคะ นับวันก็ยิ่งหายมากขึ้น มากขึ้น จนมันไม่ใช่แล้ว เงินเป็นหมื่น
กับคนแก่ที่อยู่บ้านไม่ได้ไปไหน ใช้วันละไม่เกินร้อยแน่ๆในยี่สิบวัน มันหมด มันไม่พอใช้
แม่เราจึงทดลองเก็บเงินยายไว้ในตู้ที่ยายเก็บเงิน (คุณยายชอบเก็บในตู้เสื้อผ้าแล้วล้อคกุญแจ)
โดยคุณแม่เก็บกุญแจไว้ถือกุญแจแค่คนเดียว วันต่อมาเปิดตู้แล้วมาตรวจสอบเงินดู
สรุปว่าหายไปหนึ่งพัน ป้าส้มแกคงได้ปั้มกุญแจเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
    
   ในข้างต้นที่เราบอก ยายเราเป็นคนเอาแต่ใจคะ เลยไม่ยอมเปลี่ยนที่เก็บเงินเพราะกลัวตัวเองจะลืม ไม่ยอมให้แม่เก็บ
เพราะกลัวว่าแม่จะแอบเอาไปใช้   ไม่ไว้ใจแม่ ไม่ไว้ใจใคร ยิ่งตอนนี้คุณพ่อเราเสียเราก็ยิ่งต้องพึ่งป้าส้มมากขึ้นไปอีก
บ้านเราเป็นบ้านสองชั้น ปกติคุณพ่อคุณแม่จะนอนชั้นบน  คุณยายนอนชั้นล่างเพราะขึ้นชั้นบนไม่ไหวและมีน้องชายนอนเป็นเพื่อน
ส่วนเราก็อยู่มหาลัยแล้วไม่ค่อยได้กลับบ้านเท่าที่ควร

พอคุณพ่อเสียน้องชายจึงต้องนอนเป็นเพื่อนคุณแม่ และให้ป้าส้มมานอนเป็นเพื่อนคุณยาย คุณแม่ก็เพิ่มเงินเดือนให้เป็นหกพันคะ
ซึ่งเราถือว่าได้เยอะพอสมควร เพราะที่ป้าส้มต้องทำคือทุ่มนึงมานอนเป็นเพื่อนคุณยาย ตื่นมาล้างจานกวาดบ้านถูบ้าน
ซึ่งช่วงนี้ป้าแกทำบ้างไม่ทำบ้าง ไปซื้อกับข้าว ขนมให้ยาย ไม่เกินสิบโมงเช้าก็กลับบ้านตัวเอง ทั้งที่ควรจะอยู่ดูคุณยาย
เพราะช่วงกลางวันไม่มีใครอยู่บ้านเลย แต่โชคดีที่ช่วงนี้เราปิดเทอมเราเลยดูแลคุณยายได้ ล่าสุดที่เราเห็นแล้วไม่ไหวคือ
เมื่อคืนตอนที่แม่เรากำลังคุยเล่นกับน้องให้น้องเดินไปส่งขึ้นนอน

ป้าส้มแกก็มองตามแล้วหันหน้ากลับมาเบะปากแล้วส่ายหน้า เรากำลังยืนส่องกระจกอยู่จึงเห็นพฤติกรรมทุกอย่าง
โดยที่ป้าแกก็คงไม่คิดว่าเราจะเห็น เราเสียใจเหมือนกันคะเพราะอยู่ด้วยกันมานาน และไม่คิดว่าเป็นคนนิสัยไม่ดี
พฤติกรรมแย่ๆมีอีกมากมายคะ แต่ขอเล่าแค่เหตุการณ์ใหญ่ๆสำหรับเรา
____________________________________________

เราต้องการความช่วยเหลือคะ เพราะเราทนไม่ไหวแล้ว อยากให้บ้านเป็นบ้าน นี่บ้านตัวเองยังต้องมาระวัง

1.เราจะคุยกับคุณยายยังไงดีคะเรื่องให้คุณแม่เก็บเงินดีกว่าไหม จะเริ่มยังไงดีเพราะยายค่อนข้างจะฟังเราอยู่บ้างแต่ก็ยังดื้อคะ

2.เราอยากให้แม่เลิกจ้างป้าส้มซึ่งแม่เราก็อยากเลิกจ้างแล้วแต่ติดที่คุณยายไม่มีคนดูแล
    จะให้จ้างพยาบาลกำลังทรัพย์ก็ไม่ถึงคะ ควรทำยังไงดี หรือเราต้องทนไปก่อน ญาติพี่น้องก็ไม่มีใครสะดวกเลยคะ

3.เราควรจะแก้พฤติกรรมขโมยหรือนิสัยเอาไปโดยไม่บอกของป้าแกยังดีคะ แก้เผ็ดก็ได้คะเพราะล่าสุดเมื่อเช้า
   เราลืมขนมไว้ที่โต้ะอาหารลืมเก็บเข้าตู้เย็นป้าแกก็หยิบไปอีกแล้ว

ปล. เรื่องของกินตอนนี้เราจะเก็บไว้ตู้เย็นบนบ้านแทนคะป้าแกจะไม่กล้าหยิบไปแต่ถ้าไว้ตู้เย็นชั้นล่าง
      หรือลืมวางทิ้งไว้หายแน่นอนคะ ไม่ได้จะหวงหรอกนะคะแต่มันทนไม่ได้แล้วจริงๆ
ปล. เรื่องเงินยังไม่เคยจับได้คาหนังคาเขาคะเลยเอาผิดไม่ได้สักที

*ถ้าเราใช้ภาษาผิดพลาดไปยังต้องขออภัยด้วยนะคะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่