ปลาหมอสี...กินได้มั๊ยคะ?

สำหรับคนที่ไม่ชอบอ่านเท่าไหร่ ก็ตามชื่อกระทู้เลยค่ะ มันกินได้ใช่รึป่าว? แต่คนถามก็ไม่กินหรอกค่ะ เข้ามาถามเพราะอยากรู้จริงๆ ไม่คงไม่รู้สึกดึ๊บในปากสินะ

แหวะ!!

ส่วนที่ที่สงสัยว่าทำไมถึงถามแบบนี้ ตามมาเลยเดี๋ยวเล่าให้ฟัง

เกริ่นก่อนนะคะ ป้าเราเค้าเป็นคนที่ขี้เหนียวมากๆเลยค่ะ แม่เรากับน้าก็พูดกันประจำเลย สมัยที่แม่ยังสาวๆแม่เล่าให้ฟังว่า ยายอ่ะชอบด่าป้าเราว่าขี้เหนียว สมัยก่อนที่บ้านก็มีไก่มีเป็ด เดินไปนาใกล้ๆก็มีสระปลา มีสวนผัก ถือว่าบ้านของตายายเรามีของที่ยังชีพได้(สำหรับคนสมัยก่อนนะ) แต่ป้าเราน่ะสิ เอาเข้าคลุกน้ำปลาให้ลูกกิน บางวันก็สามมื้อเลย มีไข่มีปลาก็ไม่ทำให้ลูกกิน แต่แกไม่ใช่คนขี้เกียจนะคะ แกทำโน้นทำนี่ตลอด ยายก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไม ยายชอบบ่นว่า ''ทำไมไม่เลี้ยงลูกให้มันดีๆ กับข้าวก็มีเยอะแยะ ไม่ใช่คนอื่นคนไกล ยังไงก็มาเป็นสะไภ้แล้ว เลิกทำตัวให้คนอื่นสงสารตัวเองซักที'' ใช่แล้วค่ะ ป้าเรามักทำตัวให้คนอื่นสงสารเสมอๆ ตอนแรกเราไม่เข้าใจ เพราะแกก็เป็นคนที่ทำงานหนักอีกทั้งยังต้องเลี้ยงหลานอีก แกชอบทำตัวมอซอ แล้วลุงของเราก็ทิ้งแกไปอยู่ที่อื่นนานแล้วแกบอกจะไม่กลับมาอีก ตอนแรกเรากับแม่ก็สงสารแกนะ แต่น้าเรา(น้องสาวแม่)แกรู้ดีที่สุด น้าเคยบอกว่าแกมีเงินเก็บมากแต่ไม่ยอมเอาให้ลูก ไม่รู้จะเก็บไว้ทำไม ตายไปก็เอาไปไม่ได้ เวลาพี่ชายเรา(ลูกพี่ลูกน้อง)เดือนร้อนตอนขับรถสิบล้อไปเกี่ยวสายไฟ คนที่ไปจ่ายเงินให้ก็ไม่พ้นน้าเรา เราจำได้ว่าตอนที่พี่สาว(ลูกป้าคนเล็ก)มาบ่นกับน้าว่า แม่ให้เงิน20บาทไปทัศนศึกษา ก็ไม่พ้นน้าเราอีกที่ให้เงินไป แกไม่ได้ทุกข์ยากนะ ทำสวนหน่อไม้ฝรั่งขายส่งทีได้ตังตั้งเยอะ สวนก็ไม่ใช่เล็กนะ แล้วเงินหายไปไหน? อมยิ้ม19 คนทางบ้านเราเพิ่งจะรู้ว่าแกปล่อยเงินกู้ก็ตอนที่แกไปแจ้งความว่ามีคนไม่จ่ายหนี้ ตำรวจที่สน.มาเล่าให้ฟัง แกถามว่าเห็นคนที่นามสกุลเหมือนตายายไปแจ้งความ ไปคนเดียว แต่ตัวมอซอ จนๆ แต่ไปแจ้งความว่ามีคนยืมเงินไม่จ่าย ประมาณห้าหมื่น! ตำรวจก็งงๆ คนที่มีตังค์ให้คนอื่นยืมขนาดนั้น จะมามอซอแบบนี้ได้ไงเม่าตกอับ  แม่กับน้าเราเนี่ย รู้เลยว่าเป็นใคร สุดท้ายป้าเราก็เล่าให้ฟังว่ามีคนมายืมเงินไป ไม่มากหรอก แรกๆพยายามเชื่อ แต่ชาวบ้านเริ่มเล่าให้ฟังเรื่อยๆว่าแกปล่อยเงินรายวันให้พวกที่เล่นไพ่แถวๆบ้านแก แม่เราถึงกับพูดเลยว่า ''อะไรวะ ไล่ลูกไปหาเงินไกลๆ ไปเป็นหนี้คนอื่น แต่แม่กลับปล่อยเงินกู้รายวัน'' พี่ชายเรา(ลูกพี่ลูกน้อง)เป็นโรคอย่างนึงค่ะ เป็นแผลแล้วหายยาก เวลาเป็นแผลต้องเอาถุงคลุมไว้ เป็นตั้งแต่เด็ก เป็นไปได้ว่าอาจจะเกิดจากการไม่ได้กินอาหารดีดีตั้งแต่เด็ก โตมาก็ตัวเล็ก สูงกว่าเรานิดเดียวเอง ทั้งๆที่พ่อก็ตัวสูงใหญ่ แตะก้านคอสลบเลยก็ว่าได้ ส่วนลูกคนที่สองพี่สาวเราเอง(ลูกพี่ลูกน้อง) ก็ทำงานหาเงินเองตั้งแต่เด็กๆ สองคนนี้ไม่มีใครได้เรียนมหาลัยซักคน ต้องทำงานตั้งแต่ยังไม่จบม.6 ลุงเราทิ้งป้าไปไม่ติดต่อกลับ จะโทรมาหาน้าเราบ้างในบางที(น้าเราเป็นเหมือนที่พึ่งของพี่น้องในครอบครัว เวลาใครมีปัญหาจะมาหาน้าเราก่อน เพราะน้าเป็นลูกสาวคนเล็กแล้วก็นิสัยเหมือนยายมากๆ) ตอนนี้น้าเราเริ่มเอือมระอาแล้ว เพราะป้าชอบเอาหลานมาฝากไว้ที่บ้าน คนที่ต้องดูแลก็ไม่พ้นลูกสาวของน้า แล้วก็เป็นน้องที่เราสนิทที่สุดในบรรดาญาติพี่น้อง หลานเราเป็นเด็กที่ดื้อมาก มากกว่าเด็กผู้ชายซะอีก เป็นเด็กที่พูดไม่เพราะขี้อิจฉา ชอบแย่งของๆคนอื่น เป็นเพราะป้าแกไม่ชอบซื้อขนมซื้อของเล่นให้ อาศัยให้ลูกสาวลูกชายซื้อมาให้หลาน ทั้งๆที่สองคนนั้นก็ส่งเงินมาให้ตลอดเลย แต่หลานเราคนนี้น่าสงสารตรงที่โดนแม่ทิ้งไปแต่เด็ก ทำให้เรารู้สึกเข้าใจมากว่าไม่ชอบ แต่ก็ถือว่าเป็นเด็กที่ฉลาดเอาตัวรอด น้องสาวเราก็พยายามให้หลานทำตัวดีดีซึ่งก็โอเคขึ้น พูดรู้เรื่องรู้ราวขึ้น แต่ถ้าไม่ปรับนิสัยของป้าเราซึ่งเป็นคนเลี้ยงจริงๆ เด็กก็คงนิสัยแบบเดิมๆ วีไอกับเทคนิค



เอาล่ะ
เม่าอ่าน
เข้าเรื่องเลย คงพอเข้าใจแล้วว่าป้าเรามีนิสัยแบบไหน อันนี้ไม่ได้จะใส่ร้ายคนที่อาวุโสกว่า แต่ที่ดูๆมา เป็นหนักจริงๆนะความขี้เหนียวและใจแคบของแก พี่สาวเราได้ปลาหมอสีมาเลี้ยง แกเลี้ยงไว้นานแล้วแต่มีเหตุต้องย้ายที่อยู่ ซึ่งที่อยู่ใหม่มันแคบเกินไปที่จะเอาตู้ปลาใหญ่ๆไปตั้งไว้ เลยตัดสินใจเอากลับบ้านมาให้ป้าเราเลี้ยง ซึ่งที่รู้ๆ ปลาหมอสีเป็นปลาที่ต้องใส่ใจและดูแลดีดี เพราะมันแพง! เราก็ไม่รู้เรื่องปลาเท่าไหร่ไม่เคยเลี้ยง แต่รู้ว่ามันต้องเลี้ยงดีดีแหละเปลี่ยนน้ำปล่อยๆ ให้อาหารพอดีๆ อะไรมาณนี้ หลังจากแกเลี้ยงมาได้เกือบๆครึ่งปีมันก็ตาย แกมาเล่าให้ฟังตอนที่เอาหลานมาฝากไว้กับเรา เราถามไปว่า ทำไมมันถึงตาย แกก็บอกว่า "มันเอาหัวชนตู้ปลาตายมั๊ง?"
เป็นไปได้หรอวะ? ปลาฆ่าตัวตาย? ไม่เชื่อหรอก ไม่จริง ถ้ามันเป็นแบบนั้นจริงๆล่ะก็ มันคงทนให้ป้าแกเลี้ยงไม่ได้เลยฆ่าตัวเองตายแมร่งซะเลย!! อะไรทำนองนั้น... เม่าตกใจเม่าตกใจ
เราก็ยิ้มแห้งๆไป ในใจก็คิดว่า ไม่จริงหรอก แกคงไม่ได้เสียบสายออกซิเจนล่ะสิ แบบว่าขี้เหนียวไง กลัวเปลืองไฟ
เราเลยพูดว่า อ่อ เสียดายเนอะ ปลาหมอสีแพงซะด้วย  เราไม่เคยเห็นไอ้ปลานั่นหรอก แกเอาตู้ปลาตั้งไว้ไหนยังไม่รู้เลย จากนั้นเราก็ไม่ได้ถามอะไรเรื่องปลาต่อ แต่ถามแกไปว่า 'ป้ากินอะไรรึยัง น้องไปซื้อกับข้าวอยู่เดี๋ยวกินด้วยกัน'

รู้มั๊ยแกตอบว่ายังง๊ายยยย!เม่าแพนิค


แกตอบว่า
''อ่อ กินแล้ว นึงปลาหมอสีกินเมื่อเช้า''
อ๊ายยยยยยยยย นี่คือฟังผิดหรืออะไร เราถึงกับถามอีกรอบ 'อะไรนะป้า' เม่าตาสว่าง
''ปลามันหงายท้องตาย ก็เลยเอามานึ่งกินเลย''
บร๊ะเจ้า เราสตั้นไปซักพัก....หรือมันจะกินได้วะ? เราก็งงๆ จากนั้นแกก็จากไปด้วยปริศนาที่ตั้งไว้ว่า "ปลาหมอสีมันกินได้นะ!!!!!?" เราพูดให้น้องฟังหลังจากที่กลับมาจากซื้อของ เราถามน้องว่ามันตัวใหญ่ขนาดไหน น้องเราบอกว่า มันใหญ่ใกล้เคียงกับปลานิลปลาทับทิบนั่นแหละ น้องเรายังงงเลย มันกินได้หรอ? เราสองคนก็งงไปนานเลย

จากนั้นเมื่อเช้านี้แม่ก็มาเล่าให้ฟังว่า แม่ไปถามว่าเป็นไงบ้างรสชาติปลาหมอสี แกตอบมาว่า ''พอกินได้''
ซึ่งนั่นเราก็พอฟันธงได้ว่า ไม่อร่อยชัวร์!! เพราะปกติป้าแกจะไม่พูดแบบนี้ ไม่ว่าอาหารจะเป็นยังไง แกก็จะพูดว่า ''อืมๆ อร่อยอยู่''

เราเนี่ยเงิบไปเลอะ เงิบกับความขี้งกขี้เหนียวแบบสุดๆของแกเลย เพี้ยนรมเสีย
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 4



  Credit รูปจาก face book
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่