ต่อจากตอนที่แล้ว
บรรดาอาจารย์กำลังอธิบายความหมายของ "ท่าไม้ตาย" ที่บรรดานักเรียนจะต้องคิดค้นขึ้นมา
คำว่า "ไม้ตาย" นั้นคือกระบวนท่าที่จะนำทางผู้ใช้ไปสู่ชัยชนะ
กระบวนท่าเหล่านั้นจะต้องเกี่ยวกันกับตัวตนของนักเรียนแต่ละคนอย่างลึกซึ้ง กระบวนท่าที่ไม่เข้าข่ายนั้นถือว่าใช้ไม่ได้
กระบวนท่าเหล่านั้นจะกลายไปเป็นสัญลักษณ์แสดงตัวตนของแต่ละคน ซึ่งปัจจุบันนี้ฮีโร่อาชีพที่ไม่มีท่าไม้ตายประจำตัวนั้นแทบจะหาไม่ได้แล้วทีเดียว
เมื่ออธิบายจบแล้วอ.ไอซาว่าก็บอกว่านักเรียนแต่ละคนจะถูกฝึกฝนแบบเฉพาะตัวแต่ละคน แล้วบอกให้ทุกคนไปเปลี่ยนชุดคอสตูมแล้วไปพบกับบรรดาอาจารย์ที่ Gamma Gym
Gamma Gym หรืออีกชื่อคือ The Training Dream Land (TDL) เป็นโรงฝึกในร่มขนาดยักษ์ที่ Cementos สร้างขึ้น โดยเขาสามารถเปลี่ยนแปลงสภาพภายในได้ตามใจชอบด้วยอัตลักษณ์ควบคุมคอนกรีตของเขา เขาสามารถสร้างสนามฝึกที่เหมาะสมให้กับบรรดานักเรียนได้ทุกคน
ตอนนั้นเองอีดะก็ถามสิ่งที่ทุกคนสงสัยขึ้นมา นั่นคือ "ทำไมท่าไม้ตายจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นในการสอบใบอนุญาติฮีโร่?"
อ.ไอซาว่าก็ตอบว่า งานของฮีโร่นั้นคือการช่วยเหลือผู้คนจากเหตุร้ายต่างๆ ทั้งคดีทั่วไป, อุบัติเหตุ, ภัยธรรมชาติ, และภัยจากฝีมือมนุษย์ ดังนั้นการสอบใบอนุญาติฮีโร่จึงถูกออกแบบเพื่อทำการวัดผลสิ่งที่จะใช้รับมือเรื่องเหล่านั้น
ความสามารถในการรวบรวมข้อมูล, ความสามารถในการตัดสินใจ, ความสามารถในการเคลื่อนไหว, ความสามารถในการต่อสู้ รวมไปถึง ความสามารถในการสื่อสาร, สเน่ห์ และความเป็นผู้นำ การสอบในแต่ละปีจะแตกต่างกันไปเพื่อทดสอบความสามารถต่างๆเหล่านั้น
แต่ในบรรดาความสามารถทั้งหมดนั้น "ความสามารถในการต่อสู้" จะถูกให้ความสำคัญมากในการเป็นฮีโร่
ซึ่งตามคำกล่าวที่ว่า "หากเตรียมพร้อมเอาไว้แล้วก็จะไม่มีเรื่องต้องกังวล" การมีท่าไม้ตายพิเศษเอาไว้ก็จะเพิ่มโอกาสความสำเร็จขึ้นอีกมาก
เพราะแทนที่จะถูกสถานการณ์บีบให้ต้องทำตาม ก็จะสามารถควบคุมสถานการณ์ให้คลี่คลายลงได้...ซึ่งนั่นเป็นสิ่งแสดงความสามารถในการต่อสู้ที่แท้จริงของฮีโร่แต่ละคน
ซึ่งท่าไม้ตายนั้นก็ไม่จำเป็นต้องใช้เพื่อจู่โจมเท่านั้นด้วย อย่างเช่นเรซิโปรเบิร์สของอีดะที่เป็นการทำให้ตัวเองเคลื่อนไหวเร็วขึ้นอย่างมากในชั่วเวลาสั้นๆ...นั่นก็เป็นความสามารถที่ดีพอจะเรียกว่าเป็นท่าไม้ตายได้เลยทีเดียว
(อีดะโดนชมตรงๆแบบนี้ก็ปลื้มไปเต็มๆ)
สรุปคือ ท่าไม้ตายคือการเอาใช้ความสามารถที่แต่ละคนมีอยู่มาสร้างสิ่งที่จะทำให้มีความได้เปรียบในการต่อสู้ขึ้นมานั่นเอง
อีกตัวอย่างหนึ่งคือท่าไม้ตายของคามุอิวู้ดส์ที่ใช้รากไม้จำนวนมากยึดกุมศัตรูหลายคนพร้อมๆกันก่อนที่จะทันได้ทำอะไรก็จะสร้างความได้เปรียบอย่างมาก
ซึ่งจริงๆแล้วถ้าค่ายฝึกฤดูร้อนไม่ถูกหยุดลงกลางคัน "การพัฒนาความสามารถในการใช้อัตลักษณ์" ที่เป็นส่วนสำคัญของของการเข้าค่ายก็มีไว้เพื่อเตรียมพร้อมในการสร้างท่าไม้ตายของแต่ละคนเช่นกัน
แต่เมื่อเป็นแบบนี้ ในช่วงเวลา 10 วันที่เหลืออยู่ของปิดภาคฤดูร้อนจนถึงวันเปิดเทอมใหม่ พวกเขาจะต้องทำการฝึกพัฒนาความสามารถในการใช้อัตลักษณ์และคิดค้นท่าไม้ตายไปพร้อมๆกัน!
ไม่เพียงเท่านั้น ในการที่จะพัฒนาอัตลักษณ์ของแต่ละคนและลักษณะเฉพาะตัวของแต่ละคนนั้น พวกเขาก็สามารถคิดที่จะปรับปรุงคอสตูมของพวกเขาเพื่อช่วยเสริมความสามารถของตนได้ด้วยเช่นกัน
ว่าแล้ว Cementos ก็สร้างเนินเขานับสิบลูกขึ้นมาเป็นสนามฝึกของทุกคนแต่ละคน และ Ectoplasm ก็สร้างร่างแยกขึ้นเพื่อใช้ฝึกสอนนักเรียนแต่ละคนแบบตัวต่อตัว!
ทุกคนในห้องต่างไฟติดกับการฝึกครั้งนี้อย่างยิ่ง! ยกเว้นอยู่คนหนึ่ง...
อิสึคุ : ...เราจะทำอะไรดีล่ะเนี่ย...?
แล้วการฝึกของแต่ละคนก็เริ่มขึ้น
โอจิโร่ : การเคลื่อนไหวของเขานั้นมันดูออกง่ายไปหน่อย เพราะเน้นใช้หางมากเกินไป ดังนั้นเขาจะต้องเน้นที่การฝึกพื้นฐานการต่อสู้เพื่อหารูปแบบใหม่ๆมากขึ้น
อาชิโดะ : ท่าที่ใช้ออกมาคือการยิงน้ำกรดออกมาจากสองมือที่ประกบกัน ซึ่งแม้น้ำกรดจะมีพลังทำลายรุนแรง แต่ระยะจู่โจมสั้นมาก Ectoplasm จึงเสนอให้เธอลองประกบนิ้วเข้าด้วยกันเพื่อบีบน้ำกรดให้ออกมาจากจุดที่แคบลง ปรากฎว่าน้ำกรดสามารถยิงได้ไกลขึ้นมาก จึงสรุปได้ว่าเธอควรตั้งมั่นกับการฝึกการยิงน้ำกรดให้ได้หลากหลายขึ้น
ในขณะที่ทุกคนกำลังพยายามอย่างเต็มที่ในการสร้างท่าไม้ตายขึ้นมา อิสึคุกลับกำลังมีปัญหา เพราะที่ผ่านมาเขามักใช้พลังมากเกินไปจนทำให้แขนขาของเขาพัง ทำให้เขาต้องหาวิธีทำให้ไม่ใช้พลังมากเกินไปขึ้นมาแทน แต่มันก็เลยทำให้เขานึกภาพท่าไม้ตายของเขาไม่ออกเลย
ซึ่ง Ectoplasm ก็เห็นด้วยว่าอัตลักษณ์ของเขานั้นห่างไกลกับคำว่าสมดุลเอามากๆ ดังนั้นสำหรับในตอนนี้ที่เขายังนึกรูปแบบที่ตัวเองต้องการไม่ออกก็ให้เน้นที่การพัฒนาอัตลักษณ์ไปก่อนจะเป็นการดีกว่า
ตอนนั้นเองก็มีคนมาเยี่ยมชมการฝึก All Might นั่นเอง
ซึ่งแม้ว่า All Might จะไม่ได้ถูกเรียกมาช่วยฝึกสอน แต่เขาก็ไม่มีอะไรจะทำเช่นกันเขาเลยมาชมดูเสียหน่อย เพราะอย่างไรเสียเขาก็เป็นอาจารย์คนหนึ่งเหมือนกัน
ทันใดนั้นก็มีเสียงระเบิดดังขึ้น และร่างแยกอันหนีงของ Ectoplasm ก็โดนบาคุโกระเบิดกระจุยไป เขาเลยขอตัวใหม่มาเป็นคู่ซ้อมต่อ!
ในบรรดาคนในห้องทั้งหมด คนที่ดูจะไปได้สวยที่สุดในการคิดค้นท่าไม้ตายก็คือบาคุโก เพราะจะว่าไปเขาคิดกระทั่งชื่อท่ามาตั้งแต่ช่วงที่เข้าเรียนใหม่ๆแล้ว
คนอื่นเห็นดังนั้นก็ไม่ยอมน้อยหน้า เช่นมิเนตะก็คิดจะพัฒนาต่อยอดท่า Grape Rush ที่ใช้สู้กับ Midnight ในตอนสอบปลายภาค ส่วนคามินาริก็คิดใช้ไฟฟ้าก่อรูปเป็นดาบ
เมื่อเห็นทุกคนกำลังก้าวหน้าไปพร้อมกับมีเป้าหมายที่อยากจะพัฒนาในใจอย่างชัดเจน อิสึคุก็ดูจะเป็นกังวลและมองดูกำปั้นของตัวเอง
ตอนนั้นเอง All Might ที่สังเกตุเห็นเรื่องนั้นก็เข้ามาหาเขา
All Might : ฉันมีคำแนะนำให้เธออยู่อย่างนึงแน่ะ
All Might : เธอน่ะ...ยังพยายามจะเลียนแบบฉันอยู่นะ
คำพูดนั้นทำให้อิสึคุรู้สึกงุนงงและไม่เข้าใจความหมายของมัน แต่เมื่อเขาถาม All Might กลับตัดบทและไปให้คำแนะนำคิริชิมะต่อแทน?!
"ถ้าฉันบอกคำตอบไปตรงๆเธอก็จะไม่ได้เรียนรู้อะไรเลย"
"คิดเข้าไปเถอะหนุ่มน้อย! สิ่งสำคัญไม่ใช่ว่าเธอคิดถูกหรือผิด...แต่มันอยู่ที่เธอสามารถคิดหาคำตอบได้ด้วยตัวเองต่างหาก"
ตอนนั้นเองอ.ไอซาว่าก็มองเห็นสิ่งที่อยู่ในกระเป๋ากางเองของ All Might
มันคือหนังสือ "แม้แต่คนโง่ที่สุดก็ยังเป็นอาจารย์ได้!"
(คาดว่าเป็นการล้อเลียนซีรีย์หนังสือคู่มือ "Complet Idiot" กับ "For Dummies" ที่อธิบายวิธีการทำสิ่งต่างๆอย่างละเอียดยิบชนิดแทบจะทีละก้าวไปเลย)
(รวมทั้งเป็นการแสดงให้เห็นว่าตอนนี้ All Might เอาจริงเอาจังกับการเป็นอาจารย์ขนาดไหน)
ตัดไปช่วงเย็น อิสึคุกำลังมุ่งหน้าไปที่ "Development Studio" ที่อยู่ชั้น 1 ของอาคารเรียนหลัก ที่ซึ่งมีผู้เชี่ยวชาญในการปรับปรุงดัดแปลงคอสตูมและสร้างอุปกรณ์เสริมอยู่
"เรายังไม่เข้าใจว่าที่ออลไมท์พูดนั้นหมายความว่ายังไง แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ถ้าต่อไปเราแขนพิการไปจริงๆขึ้นมามันก็ต้องแย่แน่ๆ"
"บางทีมันอาจจะมีทางที่จะช่วยเสริมการเคลื่อนไหวให้กับแขนของฉัน หรือไม่ก็ช่วยเพิ่มความทนทาน..."
"อะไรที่จะช่วยให้เราคิดค้นวิธีที่จะทำให้เพิ่มระดับการใช้งานวันฟอร์ออลที่ร่างกายสามารถทนได้ให้สูงขึ้น"
"เราจะยอมล้าหลังทุกคนไม่ได้...ไม่สิ! ไม่ใช่แค่นั้น เราจะต้องอยู่หน้าสุดต่างหาก!"
โดยที่เขาไม่รู้ ทั้งโอจาโกะและอีดะก็กำลังมุ่งหน้าไปที่ Development Studio เหมือนกัน
โอจาโกะต้องการที่จะเพิ่มขีดความสามารถในการทำให้ตัวเองลอยให้สูงขึ้นเพื่อเพิ่มความสามารถในการเคลื่อนที่และเสริมวิชาการต่อสู้ระยะประชิดที่เธอเรียนมาในตอนฝึกงาน
ส่วนอีดะต้องการที่จะลดผลเสียจากการใช้ Recipro Burst เขาเลยอยากให้ Development Studio ปรับปรุงชุดให้
ตอนนั้นเองพวกเขาก็เห็นอิสึคุที่กำลังจะเข้าไปในห้องพอดี โอจาโกะจึงร้องทักเขา
โดยไม่มีการเตือนล่วงหน้า จู่ๆประตูห้องก็ถูกแรงระเบิดเปิดออกจากภายใน และเป่าอิสึคุปลิวกระเด็นไป?!
(อิสึคุโดนระเบิดปลิวไปในตอนที่ยังยิ้มทักโอจาโกะอยู่เลย...)
ท่ามกลางกลุ่มควันจากการระเบิด มีเสียงคนพูดขึ้น
??? : โอยๆๆ โอ๊ยๆๆ...
Powerloader : แค่กๆ เธอนี่นะ...
Powerloader : แค่เพราะว่าความคิดมันแว่บขึ้นมาในหัวมันไม่ได้หมายความว่าต้องสร้างมันขึ้นมาทันทีนะเฟ้ย…!
??? : โฮะๆๆๆ…ความผิดพลาดคือมารดาของความสำเร็จนะคะอ.พาวเวอร์โหลดเดอร์ อย่างที่เอดิสันว่าเอาไว้ไงคะ "เพียงเพราะบางอย่างไม่ได้ทำสิ่งที่คุณคิดจะให้มันทำก็ไม่ได้หมายความว่ามันล้มเหลว"
Powerloader : นี่ไม่ใช่เวลามาพูดเรื่องไร้สาระแบบนั้นนะ! เธอจะฟังที่ฉันพูดบ้างไม่ได้หรือไง?!
แล้วตอนนั้นเองโอจาโกะก็รู้ว่าคนที่พูดอยู่กับ Powerloader คือใคร
หล่อนก็คือคนที่เคยร่วมทีมกับเธอ,อิสึคุและโทโกยามิในการแข่งกีฬาโรงเรียน อัจฉริยะนักประดิษฐ์แห่งแผนกสนับสนุน...ฮัตสึเมะ เมย์!
เมย์ : โอ๊ะ?! คุณคือคนที่เคยเจอกันก่อนหน้านี้ไม่ใช่หรือน่ะ?
ตอนนั้นเองเมย์ก็รู้ตัวว่าเธอกำลังนอนทับบนตัวอิสึคุอยู่
และสิ่งที่เธอไม่ได้สนใจ...แต่เขาสนใจมากๆก็คือหน้าอกอันอวบอิ่มของเธอกำลังกดลงบนตัวของเขาอยู่!!
อิสึคุ : {น-น-น-}
โอจาโกะ : {หน่มน้ม!!}
"ดินระเบิด" ในหลายๆความหมาย!!
Spoil Boku no Hero Academia 100 : ท่าไม้ตาย
บรรดาอาจารย์กำลังอธิบายความหมายของ "ท่าไม้ตาย" ที่บรรดานักเรียนจะต้องคิดค้นขึ้นมา
คำว่า "ไม้ตาย" นั้นคือกระบวนท่าที่จะนำทางผู้ใช้ไปสู่ชัยชนะ
กระบวนท่าเหล่านั้นจะต้องเกี่ยวกันกับตัวตนของนักเรียนแต่ละคนอย่างลึกซึ้ง กระบวนท่าที่ไม่เข้าข่ายนั้นถือว่าใช้ไม่ได้
กระบวนท่าเหล่านั้นจะกลายไปเป็นสัญลักษณ์แสดงตัวตนของแต่ละคน ซึ่งปัจจุบันนี้ฮีโร่อาชีพที่ไม่มีท่าไม้ตายประจำตัวนั้นแทบจะหาไม่ได้แล้วทีเดียว
เมื่ออธิบายจบแล้วอ.ไอซาว่าก็บอกว่านักเรียนแต่ละคนจะถูกฝึกฝนแบบเฉพาะตัวแต่ละคน แล้วบอกให้ทุกคนไปเปลี่ยนชุดคอสตูมแล้วไปพบกับบรรดาอาจารย์ที่ Gamma Gym
Gamma Gym หรืออีกชื่อคือ The Training Dream Land (TDL) เป็นโรงฝึกในร่มขนาดยักษ์ที่ Cementos สร้างขึ้น โดยเขาสามารถเปลี่ยนแปลงสภาพภายในได้ตามใจชอบด้วยอัตลักษณ์ควบคุมคอนกรีตของเขา เขาสามารถสร้างสนามฝึกที่เหมาะสมให้กับบรรดานักเรียนได้ทุกคน
ตอนนั้นเองอีดะก็ถามสิ่งที่ทุกคนสงสัยขึ้นมา นั่นคือ "ทำไมท่าไม้ตายจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นในการสอบใบอนุญาติฮีโร่?"
อ.ไอซาว่าก็ตอบว่า งานของฮีโร่นั้นคือการช่วยเหลือผู้คนจากเหตุร้ายต่างๆ ทั้งคดีทั่วไป, อุบัติเหตุ, ภัยธรรมชาติ, และภัยจากฝีมือมนุษย์ ดังนั้นการสอบใบอนุญาติฮีโร่จึงถูกออกแบบเพื่อทำการวัดผลสิ่งที่จะใช้รับมือเรื่องเหล่านั้น
ความสามารถในการรวบรวมข้อมูล, ความสามารถในการตัดสินใจ, ความสามารถในการเคลื่อนไหว, ความสามารถในการต่อสู้ รวมไปถึง ความสามารถในการสื่อสาร, สเน่ห์ และความเป็นผู้นำ การสอบในแต่ละปีจะแตกต่างกันไปเพื่อทดสอบความสามารถต่างๆเหล่านั้น
แต่ในบรรดาความสามารถทั้งหมดนั้น "ความสามารถในการต่อสู้" จะถูกให้ความสำคัญมากในการเป็นฮีโร่
ซึ่งตามคำกล่าวที่ว่า "หากเตรียมพร้อมเอาไว้แล้วก็จะไม่มีเรื่องต้องกังวล" การมีท่าไม้ตายพิเศษเอาไว้ก็จะเพิ่มโอกาสความสำเร็จขึ้นอีกมาก
เพราะแทนที่จะถูกสถานการณ์บีบให้ต้องทำตาม ก็จะสามารถควบคุมสถานการณ์ให้คลี่คลายลงได้...ซึ่งนั่นเป็นสิ่งแสดงความสามารถในการต่อสู้ที่แท้จริงของฮีโร่แต่ละคน
ซึ่งท่าไม้ตายนั้นก็ไม่จำเป็นต้องใช้เพื่อจู่โจมเท่านั้นด้วย อย่างเช่นเรซิโปรเบิร์สของอีดะที่เป็นการทำให้ตัวเองเคลื่อนไหวเร็วขึ้นอย่างมากในชั่วเวลาสั้นๆ...นั่นก็เป็นความสามารถที่ดีพอจะเรียกว่าเป็นท่าไม้ตายได้เลยทีเดียว
(อีดะโดนชมตรงๆแบบนี้ก็ปลื้มไปเต็มๆ)
สรุปคือ ท่าไม้ตายคือการเอาใช้ความสามารถที่แต่ละคนมีอยู่มาสร้างสิ่งที่จะทำให้มีความได้เปรียบในการต่อสู้ขึ้นมานั่นเอง
อีกตัวอย่างหนึ่งคือท่าไม้ตายของคามุอิวู้ดส์ที่ใช้รากไม้จำนวนมากยึดกุมศัตรูหลายคนพร้อมๆกันก่อนที่จะทันได้ทำอะไรก็จะสร้างความได้เปรียบอย่างมาก
ซึ่งจริงๆแล้วถ้าค่ายฝึกฤดูร้อนไม่ถูกหยุดลงกลางคัน "การพัฒนาความสามารถในการใช้อัตลักษณ์" ที่เป็นส่วนสำคัญของของการเข้าค่ายก็มีไว้เพื่อเตรียมพร้อมในการสร้างท่าไม้ตายของแต่ละคนเช่นกัน
แต่เมื่อเป็นแบบนี้ ในช่วงเวลา 10 วันที่เหลืออยู่ของปิดภาคฤดูร้อนจนถึงวันเปิดเทอมใหม่ พวกเขาจะต้องทำการฝึกพัฒนาความสามารถในการใช้อัตลักษณ์และคิดค้นท่าไม้ตายไปพร้อมๆกัน!
ไม่เพียงเท่านั้น ในการที่จะพัฒนาอัตลักษณ์ของแต่ละคนและลักษณะเฉพาะตัวของแต่ละคนนั้น พวกเขาก็สามารถคิดที่จะปรับปรุงคอสตูมของพวกเขาเพื่อช่วยเสริมความสามารถของตนได้ด้วยเช่นกัน
ว่าแล้ว Cementos ก็สร้างเนินเขานับสิบลูกขึ้นมาเป็นสนามฝึกของทุกคนแต่ละคน และ Ectoplasm ก็สร้างร่างแยกขึ้นเพื่อใช้ฝึกสอนนักเรียนแต่ละคนแบบตัวต่อตัว!
ทุกคนในห้องต่างไฟติดกับการฝึกครั้งนี้อย่างยิ่ง! ยกเว้นอยู่คนหนึ่ง...
อิสึคุ : ...เราจะทำอะไรดีล่ะเนี่ย...?
แล้วการฝึกของแต่ละคนก็เริ่มขึ้น
โอจิโร่ : การเคลื่อนไหวของเขานั้นมันดูออกง่ายไปหน่อย เพราะเน้นใช้หางมากเกินไป ดังนั้นเขาจะต้องเน้นที่การฝึกพื้นฐานการต่อสู้เพื่อหารูปแบบใหม่ๆมากขึ้น
อาชิโดะ : ท่าที่ใช้ออกมาคือการยิงน้ำกรดออกมาจากสองมือที่ประกบกัน ซึ่งแม้น้ำกรดจะมีพลังทำลายรุนแรง แต่ระยะจู่โจมสั้นมาก Ectoplasm จึงเสนอให้เธอลองประกบนิ้วเข้าด้วยกันเพื่อบีบน้ำกรดให้ออกมาจากจุดที่แคบลง ปรากฎว่าน้ำกรดสามารถยิงได้ไกลขึ้นมาก จึงสรุปได้ว่าเธอควรตั้งมั่นกับการฝึกการยิงน้ำกรดให้ได้หลากหลายขึ้น
ในขณะที่ทุกคนกำลังพยายามอย่างเต็มที่ในการสร้างท่าไม้ตายขึ้นมา อิสึคุกลับกำลังมีปัญหา เพราะที่ผ่านมาเขามักใช้พลังมากเกินไปจนทำให้แขนขาของเขาพัง ทำให้เขาต้องหาวิธีทำให้ไม่ใช้พลังมากเกินไปขึ้นมาแทน แต่มันก็เลยทำให้เขานึกภาพท่าไม้ตายของเขาไม่ออกเลย
ซึ่ง Ectoplasm ก็เห็นด้วยว่าอัตลักษณ์ของเขานั้นห่างไกลกับคำว่าสมดุลเอามากๆ ดังนั้นสำหรับในตอนนี้ที่เขายังนึกรูปแบบที่ตัวเองต้องการไม่ออกก็ให้เน้นที่การพัฒนาอัตลักษณ์ไปก่อนจะเป็นการดีกว่า
ตอนนั้นเองก็มีคนมาเยี่ยมชมการฝึก All Might นั่นเอง
ซึ่งแม้ว่า All Might จะไม่ได้ถูกเรียกมาช่วยฝึกสอน แต่เขาก็ไม่มีอะไรจะทำเช่นกันเขาเลยมาชมดูเสียหน่อย เพราะอย่างไรเสียเขาก็เป็นอาจารย์คนหนึ่งเหมือนกัน
ทันใดนั้นก็มีเสียงระเบิดดังขึ้น และร่างแยกอันหนีงของ Ectoplasm ก็โดนบาคุโกระเบิดกระจุยไป เขาเลยขอตัวใหม่มาเป็นคู่ซ้อมต่อ!
ในบรรดาคนในห้องทั้งหมด คนที่ดูจะไปได้สวยที่สุดในการคิดค้นท่าไม้ตายก็คือบาคุโก เพราะจะว่าไปเขาคิดกระทั่งชื่อท่ามาตั้งแต่ช่วงที่เข้าเรียนใหม่ๆแล้ว
คนอื่นเห็นดังนั้นก็ไม่ยอมน้อยหน้า เช่นมิเนตะก็คิดจะพัฒนาต่อยอดท่า Grape Rush ที่ใช้สู้กับ Midnight ในตอนสอบปลายภาค ส่วนคามินาริก็คิดใช้ไฟฟ้าก่อรูปเป็นดาบ
เมื่อเห็นทุกคนกำลังก้าวหน้าไปพร้อมกับมีเป้าหมายที่อยากจะพัฒนาในใจอย่างชัดเจน อิสึคุก็ดูจะเป็นกังวลและมองดูกำปั้นของตัวเอง
ตอนนั้นเอง All Might ที่สังเกตุเห็นเรื่องนั้นก็เข้ามาหาเขา
All Might : ฉันมีคำแนะนำให้เธออยู่อย่างนึงแน่ะ
All Might : เธอน่ะ...ยังพยายามจะเลียนแบบฉันอยู่นะ
คำพูดนั้นทำให้อิสึคุรู้สึกงุนงงและไม่เข้าใจความหมายของมัน แต่เมื่อเขาถาม All Might กลับตัดบทและไปให้คำแนะนำคิริชิมะต่อแทน?!
"ถ้าฉันบอกคำตอบไปตรงๆเธอก็จะไม่ได้เรียนรู้อะไรเลย"
"คิดเข้าไปเถอะหนุ่มน้อย! สิ่งสำคัญไม่ใช่ว่าเธอคิดถูกหรือผิด...แต่มันอยู่ที่เธอสามารถคิดหาคำตอบได้ด้วยตัวเองต่างหาก"
ตอนนั้นเองอ.ไอซาว่าก็มองเห็นสิ่งที่อยู่ในกระเป๋ากางเองของ All Might
มันคือหนังสือ "แม้แต่คนโง่ที่สุดก็ยังเป็นอาจารย์ได้!"
(คาดว่าเป็นการล้อเลียนซีรีย์หนังสือคู่มือ "Complet Idiot" กับ "For Dummies" ที่อธิบายวิธีการทำสิ่งต่างๆอย่างละเอียดยิบชนิดแทบจะทีละก้าวไปเลย)
(รวมทั้งเป็นการแสดงให้เห็นว่าตอนนี้ All Might เอาจริงเอาจังกับการเป็นอาจารย์ขนาดไหน)
ตัดไปช่วงเย็น อิสึคุกำลังมุ่งหน้าไปที่ "Development Studio" ที่อยู่ชั้น 1 ของอาคารเรียนหลัก ที่ซึ่งมีผู้เชี่ยวชาญในการปรับปรุงดัดแปลงคอสตูมและสร้างอุปกรณ์เสริมอยู่
"เรายังไม่เข้าใจว่าที่ออลไมท์พูดนั้นหมายความว่ายังไง แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ถ้าต่อไปเราแขนพิการไปจริงๆขึ้นมามันก็ต้องแย่แน่ๆ"
"บางทีมันอาจจะมีทางที่จะช่วยเสริมการเคลื่อนไหวให้กับแขนของฉัน หรือไม่ก็ช่วยเพิ่มความทนทาน..."
"อะไรที่จะช่วยให้เราคิดค้นวิธีที่จะทำให้เพิ่มระดับการใช้งานวันฟอร์ออลที่ร่างกายสามารถทนได้ให้สูงขึ้น"
"เราจะยอมล้าหลังทุกคนไม่ได้...ไม่สิ! ไม่ใช่แค่นั้น เราจะต้องอยู่หน้าสุดต่างหาก!"
โดยที่เขาไม่รู้ ทั้งโอจาโกะและอีดะก็กำลังมุ่งหน้าไปที่ Development Studio เหมือนกัน
โอจาโกะต้องการที่จะเพิ่มขีดความสามารถในการทำให้ตัวเองลอยให้สูงขึ้นเพื่อเพิ่มความสามารถในการเคลื่อนที่และเสริมวิชาการต่อสู้ระยะประชิดที่เธอเรียนมาในตอนฝึกงาน
ส่วนอีดะต้องการที่จะลดผลเสียจากการใช้ Recipro Burst เขาเลยอยากให้ Development Studio ปรับปรุงชุดให้
ตอนนั้นเองพวกเขาก็เห็นอิสึคุที่กำลังจะเข้าไปในห้องพอดี โอจาโกะจึงร้องทักเขา
โดยไม่มีการเตือนล่วงหน้า จู่ๆประตูห้องก็ถูกแรงระเบิดเปิดออกจากภายใน และเป่าอิสึคุปลิวกระเด็นไป?!
(อิสึคุโดนระเบิดปลิวไปในตอนที่ยังยิ้มทักโอจาโกะอยู่เลย...)
ท่ามกลางกลุ่มควันจากการระเบิด มีเสียงคนพูดขึ้น
??? : โอยๆๆ โอ๊ยๆๆ...
Powerloader : แค่กๆ เธอนี่นะ...
Powerloader : แค่เพราะว่าความคิดมันแว่บขึ้นมาในหัวมันไม่ได้หมายความว่าต้องสร้างมันขึ้นมาทันทีนะเฟ้ย…!
??? : โฮะๆๆๆ…ความผิดพลาดคือมารดาของความสำเร็จนะคะอ.พาวเวอร์โหลดเดอร์ อย่างที่เอดิสันว่าเอาไว้ไงคะ "เพียงเพราะบางอย่างไม่ได้ทำสิ่งที่คุณคิดจะให้มันทำก็ไม่ได้หมายความว่ามันล้มเหลว"
Powerloader : นี่ไม่ใช่เวลามาพูดเรื่องไร้สาระแบบนั้นนะ! เธอจะฟังที่ฉันพูดบ้างไม่ได้หรือไง?!
แล้วตอนนั้นเองโอจาโกะก็รู้ว่าคนที่พูดอยู่กับ Powerloader คือใคร
หล่อนก็คือคนที่เคยร่วมทีมกับเธอ,อิสึคุและโทโกยามิในการแข่งกีฬาโรงเรียน อัจฉริยะนักประดิษฐ์แห่งแผนกสนับสนุน...ฮัตสึเมะ เมย์!
เมย์ : โอ๊ะ?! คุณคือคนที่เคยเจอกันก่อนหน้านี้ไม่ใช่หรือน่ะ?
ตอนนั้นเองเมย์ก็รู้ตัวว่าเธอกำลังนอนทับบนตัวอิสึคุอยู่
และสิ่งที่เธอไม่ได้สนใจ...แต่เขาสนใจมากๆก็คือหน้าอกอันอวบอิ่มของเธอกำลังกดลงบนตัวของเขาอยู่!!
อิสึคุ : {น-น-น-}
โอจาโกะ : {หน่มน้ม!!}
"ดินระเบิด" ในหลายๆความหมาย!!