เริ่มเรื่องมาที่หน้าห้อง Development Studio
พวกอิสึคุแนะนำตัวเองกับ ฮัตสึเมะ เมย์ นักเรียนอัจฉริยะแห่งแผนกสนับสนุน เพราะแม้เจ้าหล่อนจะจำหน้าพวกเขาได้จากตอนที่แข่งกีฬา แต่ก็ลืมชื่อไปหมดเรียบร้อยแล้ว
(อิสึคุยังตื่นเต้นไม่หายจากการพบกันอันแสนระเบิดระเบ้อเมื่อตอนที่แล้ว)
หลังจากฟังแนะนำตัวแล้วเมย์ก็หันหน้ากลับจะเดินเข้าห้องไปเลย
แต่ทันทีที่อิสึคุบอกว่าเขามาที่นี่เพื่อขอคำปรึกษาเรื่องการปรับปรุงชุดของพวกเขาเท่านั้นแหละ เจ้าหล่อนก็แสดงความสนใจพวกเขาอย่างมากขึ้นมาทันที
ตอนนั้นเอง อ.คุมแผนกสนับสนุน และเจ้าของห้อง Development Studio "Excavation Hero : Powerloader" ก็ออกมา
Powerloader : นี่ฮัตสึเมะ...
Powerloader : ฉันไม่ว่าอะไรที่เธอจะมาขอร่วมงานกับฉันในสตูดิโอนี้ก็จริง แต่ว่า...
Powerloader : ถ้าเธอยังขืนก่อเรื่องไม่หยุดแบบนี้ฉันจะสั่งแบนเธอไม่ให้เข้ามาที่นี่อีกซะเลย...
Powerloader : อีเรเซอร์เฮดบอกฉันไว้ก่อนแล้วล่ะนะ พวกเธอมาเพื่อปรับปรุงชุดเพื่อใช้ร่วมกับท่าไม้ตายล่ะสิ?
Powerloader : เข้ามาสิ
แล้วพวกอิสึคุก็เข้าไปในห้องที่ดูเหมือนกับฐานทัพลับในหนัง มีทั้งเครื่องมือและอุปกรณ์ที่ดูทันสมัยเต็มไปหมด
โดยในการปรับปรุงชุดนั้น Powerloader ซึ่งเป็นนักวิจัยที่ได้รับใบอนุญาตินั้นมีสิทธิ์เปิดอ่านข้อมูลของชุดฮีโร่ของพวกอิสึคุได้ โดยข้อมูลเหล่านั้นจะถูกส่งมาพร้อมกับชุดโดยผู้ผลิต
ถ้าเป็นการปรับปรุงเล็กน้อยหรือการซ่อมแซมนั้น เขาก็จะแค่ส่งข้อมูลการเปลี่ยนแปลงนั้นๆไปที่ฝ่ายออกแบบก็พอ แต่ถ้าเป็นการปรับปรุงขนานใหญ่ล่ะก็เขาจะต้องเขียนเอกสารอย่างเป็นทางการเพื่อขออนุญาติกับฝ่ายออกแบบเสียก่อนที่จะลงมือทำ
เมื่อการออกแบบปรับปรุงนั้นถูกตรวจสอบและได้รับการอนุมัติให้ผ่าน และชุดก็จะถูกส่งกลับไปให้เจ้าของ ซึ่งด้วยสำนักงานที่ Powerloader ติดต่อด้วยอยู่นั้นเป็นสำนักงานที่ดีที่สุดแห่งหนึ่ง ดังนั้นการปรับปรุงและการตรวจสอบอนุมัติจะใช้เวลาไม่เกินสามวันก็เสร็จสิ้น
อิสึคุจึงบอกว่าเขาต้องการที่จะหาวิธีลดภาระที่เส้นเอ็นกล้ามเนื้อแขนจะต้องแบกรับจากการใช้อัตลักษณ์ ซึ่ง Powerloader ก็บอกว่าสไตล์การต่อสู้ของอิสึคุจะเน้นที่การใช้หมัดหรือนิ้วเป็นหลัก ดังนั้นเพียงแค่การปรับปรุงเล็กน้อยก็น่าจะเพียงพอแล้ว (ไม่ต้องใช้เวลาในการรอการตรวจสอบและอนุมัติ)
ทันใดนั้นอิสึคุก็รู้สึกถึงอะไรบางอย่าง...
มันมาจากการที่เมย์กำลังลูบไล้ไปตามตัวเขาเพื่อสำรวจกล้ามเนื้อของเขานั่นเอง!
ซึ่งเมื่อเธอรู้แล้วว่าเขามีร่างกายที่แข็งแรงเกินคาด เธอก็เลยเสนอสิ่งประดิษฐ์หมายเลข 49 ของเธอ ชุดเพิ่มพลัง "Power Exoskeleton" ซึ่งมันจะตรวจจับการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อของผู้สวมใส่ และจะขยับไปตามนั้นเพื่อเสริมพลัง
แต่ทว่ามันยังไม่สมบูรณ์...เพียงแค่ป้อนโปรแกรมผิดไปนิดเดียวมันก็ขยับเองจนแทบจะบิดตัวอิสึคุจนเอวหลุดเสียแล้ว...
ต่อมาคืออีดะ ที่ต้องการหาวิธีเสริมความสามารถในการระบายความร้อนของเครื่องยนต์ที่ขาของเขา
เมย์เลยให้เขาสวมสิ่งประดิษฐ์หมายเลข 36 "ปลอกแขนไอพ่น"
อีดะรีบบอกว่าเขาไม่ได้ต้องการเร่งความเร็วเสียหน่อย แล้วทำไมถึงมาใส่ที่แขนอีกต่างหาก?
ว่าแล้วเมย์ก็กดปุ่มเริ่มทำงาน ปลอกแขนไอพ่นก็ส่งตัวอีดะบินขึ้นไปโขกกับเพดานห้องแถมยังทำงานต่อแล้วยันหัวเขาบี้กับเพดานต่อซ้ำไปอีก!
เมื่อลงมาได้อีดะก็โวยทันทีว่าอัตลักษณ์ของเขามันอยู่ที่ขาต่างหาก!
เมย์กลับบอกว่าในเมื่อต้องการให้ขาเย็นลงเร็วๆล่ะก็ แค่ใช้แขนวิ่งแทนก็พอแล้ว! (?)
แต่คำพูดที่เหมือนไร้สาระสุดๆนั้นกลับทำให้อิสึคุปิ๊งขึ้นมา...?
Powerloader ขอโทษพวกอิสึคุที่เมย์นั้นเป็นพวกเอาแต่ใจตัวเองสุดๆ แต่ถ้าหากว่าพวกเขาตั้งใจที่จะเป็นฮีโร่มืออาชีพล่ะก็ มันจะเป็นการดีกว่าถ้าพวกเขาจะสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับเจ้าหล่อนเอาไว้
เพราะเมื่อถึงเวลานั้น เธอจะเป็นคนที่จะมาดูแลพวกเขา
ในช่วงเวลาไม่ถึงสี่เดือนที่ผ่านมาตั้งแต่เข้าเรียนมา เมย์ได้สร้างสิ่งประดิษฐขึ้นมาเป็นจำนวนหลายสิบชิ้นวางกองกันอยู่ที่มุมห้อง ขนาดในวันหยุดเธอก็ยังมาทำการวิจัยที่นี
ตลอดเวลาหลายปีที่สอนอยู่ที่นี่ Powerloader เห็นนักเรียนฝ่ายสนับสนุนมามาก แต่อย่างเมย์นั้นถือว่าเป็นพวกที่หายากมาก เจ้าหล่อนไม่กลัวความล้มเหลว และพยายามหาความคิดใหม่ๆเพื่อทำให้มันเป็นจริงอยู่เสมอ
Powerloader : คนที่เป็นนักวิจัยพัฒนานั้น...จะไม่ถูกผูกมันไว้ด้วยกรอบความคิดเดิมๆ
เมื่อได้ยินเรื่องนี้สมองของอิสึคุก็แล่นอย่างรวดเร็ว
"เธอยังพยายามจะเลียนแบบฉันอยู่"
"ความชื่นชมและความรู้สึกรับผิดชอบที่มีต่อออลไมท์กลับกลายเป็นสิ่งที่ผูกมัด"
"ต้องการให้ขาเย็นลงเร็วๆล่ะก็ แค่ใช้แขนวิ่งแทนก็พอแล้ว!"
ว่าแล้วอิสึคุก็หันไปหาอีดะและบอกว่าเขามีเรื่องอยากให้ช่วยสอนให้?
จากนั้นการฝึกฝนและการหาไอเดียพัฒนาชุดเพื่อสร้างท่าไม้ตายของบรรดานักเรียนห้อง 1-A ก็ดำเนินไป
ตัดมาที่อีกสี่วันถัดมา
อิสึคุสวมอุปกรณ์เสริมที่เป็นถุงมือยาวเข้าที่แขน
มิเนตะ : มิโดริยะ! นายปรับปรุงชุดมาหรือน่ะ?
อิสึคุ : ใช่! ฉันเพิ่มส่วนที่จะช่วยลดภาระให้แขนของฉันน่ะ
มิเนตะ : ถ้างั้นนายก็น่าจะใช้โอกาสนี้เปลี่ยนแปลงดีไซน์ของชุดไปเสียเลยสิ ชุดของนายตอนนี้มันดูปอนๆไปหน่อยนา!
อิสึคุ : ฉันคิดว่าแบบนี้แหละดีแล้ว...ฉันอยากจะคงรูปแบบดั้งเดิมนี้ไว้ให้มากที่สุดน่ะ
(เป็นรูปแบบที่มาจากชุดดั้งเดิมที่แม่ของเขาตัดเย็บมาให้)
อีกด้านหนึ่ง การฝึกฝนสร้างท่าไม้ตายก็เริ่มเห็นผลขึ้น!
โทโกยามิ : ใช้ Dark Shadow คลุมร่างกายไว้เหมือนเป็นชุดเกราะ ซึ่งมันจะช่วยกลบปิดจุดอ่อนด้านพลังกายของเขาได้ ซึ่งเขาเรียกมันว่า "ร่างอเวจีมืดมิด"
ซึ่ง Midnight ก็เตือนว่าชื่อนั้นมันค่อนข้างจะเรียกยากอยู่สักหน่อย เพราะท่าที่จะใช้งานจริงนั้นควรจะให้สามารถเรียกชื่อง่ายๆเข้าไว้จะดีกว่า
บาคุโก : แทนที่จะปล่อยพลังระเบิดออกมาจากทั้งฝ่ามือ เขาบีบพลังระเบิดให้อยู่รวมกันที่จุดเล็กๆจุดเดียว ทำให้ได้พลังระเบิดที่สามารถเล็งเป้าไปที่จุดเฉพาะเจาะจงได้ แถมยังทรงพลังขนาดเจาะแท่งคอนกรีตหนาเป็นฟุตได้อย่างง่ายดายด้วย! ซึ่งเขาตั้งชื่อมันว่า "AP Shot"
แต่โดยไม่มีใครทันระวังนั้นเอง เศษแท่งคอนกรีตที่โดนระเบิดนั้นกลับหักหล่นลงไปด้านล่าง...ไปที่หัวของ All Might?!
ถ้าเป็นก่อนหน้านี้เขาย่อมไม่มีเหตุผลที่จะต้องสนใจเศษแท่งคอนกรีตนั้นเลย แต่ตอนนี้ที่เขาสูญสิ้นพลังไปแล้ว ถ้ามันหล่นมาโดนหัวเขาล่ะก็ไม่ตายก็เจ็บหนักแน่ๆ!!
ในชั่วพริบตานั้นเองก็มีเงาร่างหนึ่งพุ่งผ่านอากาศด้วยความเร็วสูง และพลิกตัวอย่างสวยงามพร้อมใช้ขาเตะแท่งคอนกรีตจนแตกกระจุยกลางอากาศ!!
"ท่าไม้ตายของออลไมท์นั้นเน้นที่กระบวนท่าหมัด..."
"ในฐานะผู้สืบทอดวันฟอร์ออล เราเลยคิดว่าต้องทำแบบนั้นไปด้วยโดยไม่รู้ตัว!"
"มันง่ายมากๆ! ง่ายสุดๆจนเราน่าจะคิดได้มาตั้งนานแล้ว!!"
"ถ้าแขนไม่แข็งแรงพอก็ใช้ขาแทน…!
All Might : บิงโก
กล้ามเนื้อขานั้นทรงพลังกว่าแขนถึงสามเท่า! ถ้าเสริมพลังเท่าๆกันล่ะก็...ท่าเตะจะทรงพลังกว่าท่าต่อยสามเท่าเช่นกัน!!
One For All Full Cowl : "Shoot Style!!"
Spoil Boku no Hero Academia 101 : เด็กสาวที่ชื่อว่า ฮัตสึเมะ เมย์
พวกอิสึคุแนะนำตัวเองกับ ฮัตสึเมะ เมย์ นักเรียนอัจฉริยะแห่งแผนกสนับสนุน เพราะแม้เจ้าหล่อนจะจำหน้าพวกเขาได้จากตอนที่แข่งกีฬา แต่ก็ลืมชื่อไปหมดเรียบร้อยแล้ว
(อิสึคุยังตื่นเต้นไม่หายจากการพบกันอันแสนระเบิดระเบ้อเมื่อตอนที่แล้ว)
หลังจากฟังแนะนำตัวแล้วเมย์ก็หันหน้ากลับจะเดินเข้าห้องไปเลย
แต่ทันทีที่อิสึคุบอกว่าเขามาที่นี่เพื่อขอคำปรึกษาเรื่องการปรับปรุงชุดของพวกเขาเท่านั้นแหละ เจ้าหล่อนก็แสดงความสนใจพวกเขาอย่างมากขึ้นมาทันที
ตอนนั้นเอง อ.คุมแผนกสนับสนุน และเจ้าของห้อง Development Studio "Excavation Hero : Powerloader" ก็ออกมา
Powerloader : นี่ฮัตสึเมะ...
Powerloader : ฉันไม่ว่าอะไรที่เธอจะมาขอร่วมงานกับฉันในสตูดิโอนี้ก็จริง แต่ว่า...
Powerloader : ถ้าเธอยังขืนก่อเรื่องไม่หยุดแบบนี้ฉันจะสั่งแบนเธอไม่ให้เข้ามาที่นี่อีกซะเลย...
Powerloader : อีเรเซอร์เฮดบอกฉันไว้ก่อนแล้วล่ะนะ พวกเธอมาเพื่อปรับปรุงชุดเพื่อใช้ร่วมกับท่าไม้ตายล่ะสิ?
Powerloader : เข้ามาสิ
แล้วพวกอิสึคุก็เข้าไปในห้องที่ดูเหมือนกับฐานทัพลับในหนัง มีทั้งเครื่องมือและอุปกรณ์ที่ดูทันสมัยเต็มไปหมด
โดยในการปรับปรุงชุดนั้น Powerloader ซึ่งเป็นนักวิจัยที่ได้รับใบอนุญาตินั้นมีสิทธิ์เปิดอ่านข้อมูลของชุดฮีโร่ของพวกอิสึคุได้ โดยข้อมูลเหล่านั้นจะถูกส่งมาพร้อมกับชุดโดยผู้ผลิต
ถ้าเป็นการปรับปรุงเล็กน้อยหรือการซ่อมแซมนั้น เขาก็จะแค่ส่งข้อมูลการเปลี่ยนแปลงนั้นๆไปที่ฝ่ายออกแบบก็พอ แต่ถ้าเป็นการปรับปรุงขนานใหญ่ล่ะก็เขาจะต้องเขียนเอกสารอย่างเป็นทางการเพื่อขออนุญาติกับฝ่ายออกแบบเสียก่อนที่จะลงมือทำ
เมื่อการออกแบบปรับปรุงนั้นถูกตรวจสอบและได้รับการอนุมัติให้ผ่าน และชุดก็จะถูกส่งกลับไปให้เจ้าของ ซึ่งด้วยสำนักงานที่ Powerloader ติดต่อด้วยอยู่นั้นเป็นสำนักงานที่ดีที่สุดแห่งหนึ่ง ดังนั้นการปรับปรุงและการตรวจสอบอนุมัติจะใช้เวลาไม่เกินสามวันก็เสร็จสิ้น
อิสึคุจึงบอกว่าเขาต้องการที่จะหาวิธีลดภาระที่เส้นเอ็นกล้ามเนื้อแขนจะต้องแบกรับจากการใช้อัตลักษณ์ ซึ่ง Powerloader ก็บอกว่าสไตล์การต่อสู้ของอิสึคุจะเน้นที่การใช้หมัดหรือนิ้วเป็นหลัก ดังนั้นเพียงแค่การปรับปรุงเล็กน้อยก็น่าจะเพียงพอแล้ว (ไม่ต้องใช้เวลาในการรอการตรวจสอบและอนุมัติ)
ทันใดนั้นอิสึคุก็รู้สึกถึงอะไรบางอย่าง...
มันมาจากการที่เมย์กำลังลูบไล้ไปตามตัวเขาเพื่อสำรวจกล้ามเนื้อของเขานั่นเอง!
ซึ่งเมื่อเธอรู้แล้วว่าเขามีร่างกายที่แข็งแรงเกินคาด เธอก็เลยเสนอสิ่งประดิษฐ์หมายเลข 49 ของเธอ ชุดเพิ่มพลัง "Power Exoskeleton" ซึ่งมันจะตรวจจับการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อของผู้สวมใส่ และจะขยับไปตามนั้นเพื่อเสริมพลัง
แต่ทว่ามันยังไม่สมบูรณ์...เพียงแค่ป้อนโปรแกรมผิดไปนิดเดียวมันก็ขยับเองจนแทบจะบิดตัวอิสึคุจนเอวหลุดเสียแล้ว...
ต่อมาคืออีดะ ที่ต้องการหาวิธีเสริมความสามารถในการระบายความร้อนของเครื่องยนต์ที่ขาของเขา
เมย์เลยให้เขาสวมสิ่งประดิษฐ์หมายเลข 36 "ปลอกแขนไอพ่น"
อีดะรีบบอกว่าเขาไม่ได้ต้องการเร่งความเร็วเสียหน่อย แล้วทำไมถึงมาใส่ที่แขนอีกต่างหาก?
ว่าแล้วเมย์ก็กดปุ่มเริ่มทำงาน ปลอกแขนไอพ่นก็ส่งตัวอีดะบินขึ้นไปโขกกับเพดานห้องแถมยังทำงานต่อแล้วยันหัวเขาบี้กับเพดานต่อซ้ำไปอีก!
เมื่อลงมาได้อีดะก็โวยทันทีว่าอัตลักษณ์ของเขามันอยู่ที่ขาต่างหาก!
เมย์กลับบอกว่าในเมื่อต้องการให้ขาเย็นลงเร็วๆล่ะก็ แค่ใช้แขนวิ่งแทนก็พอแล้ว! (?)
แต่คำพูดที่เหมือนไร้สาระสุดๆนั้นกลับทำให้อิสึคุปิ๊งขึ้นมา...?
Powerloader ขอโทษพวกอิสึคุที่เมย์นั้นเป็นพวกเอาแต่ใจตัวเองสุดๆ แต่ถ้าหากว่าพวกเขาตั้งใจที่จะเป็นฮีโร่มืออาชีพล่ะก็ มันจะเป็นการดีกว่าถ้าพวกเขาจะสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับเจ้าหล่อนเอาไว้
เพราะเมื่อถึงเวลานั้น เธอจะเป็นคนที่จะมาดูแลพวกเขา
ในช่วงเวลาไม่ถึงสี่เดือนที่ผ่านมาตั้งแต่เข้าเรียนมา เมย์ได้สร้างสิ่งประดิษฐขึ้นมาเป็นจำนวนหลายสิบชิ้นวางกองกันอยู่ที่มุมห้อง ขนาดในวันหยุดเธอก็ยังมาทำการวิจัยที่นี
ตลอดเวลาหลายปีที่สอนอยู่ที่นี่ Powerloader เห็นนักเรียนฝ่ายสนับสนุนมามาก แต่อย่างเมย์นั้นถือว่าเป็นพวกที่หายากมาก เจ้าหล่อนไม่กลัวความล้มเหลว และพยายามหาความคิดใหม่ๆเพื่อทำให้มันเป็นจริงอยู่เสมอ
Powerloader : คนที่เป็นนักวิจัยพัฒนานั้น...จะไม่ถูกผูกมันไว้ด้วยกรอบความคิดเดิมๆ
เมื่อได้ยินเรื่องนี้สมองของอิสึคุก็แล่นอย่างรวดเร็ว
"เธอยังพยายามจะเลียนแบบฉันอยู่"
"ความชื่นชมและความรู้สึกรับผิดชอบที่มีต่อออลไมท์กลับกลายเป็นสิ่งที่ผูกมัด"
"ต้องการให้ขาเย็นลงเร็วๆล่ะก็ แค่ใช้แขนวิ่งแทนก็พอแล้ว!"
ว่าแล้วอิสึคุก็หันไปหาอีดะและบอกว่าเขามีเรื่องอยากให้ช่วยสอนให้?
จากนั้นการฝึกฝนและการหาไอเดียพัฒนาชุดเพื่อสร้างท่าไม้ตายของบรรดานักเรียนห้อง 1-A ก็ดำเนินไป
ตัดมาที่อีกสี่วันถัดมา
อิสึคุสวมอุปกรณ์เสริมที่เป็นถุงมือยาวเข้าที่แขน
มิเนตะ : มิโดริยะ! นายปรับปรุงชุดมาหรือน่ะ?
อิสึคุ : ใช่! ฉันเพิ่มส่วนที่จะช่วยลดภาระให้แขนของฉันน่ะ
มิเนตะ : ถ้างั้นนายก็น่าจะใช้โอกาสนี้เปลี่ยนแปลงดีไซน์ของชุดไปเสียเลยสิ ชุดของนายตอนนี้มันดูปอนๆไปหน่อยนา!
อิสึคุ : ฉันคิดว่าแบบนี้แหละดีแล้ว...ฉันอยากจะคงรูปแบบดั้งเดิมนี้ไว้ให้มากที่สุดน่ะ
(เป็นรูปแบบที่มาจากชุดดั้งเดิมที่แม่ของเขาตัดเย็บมาให้)
อีกด้านหนึ่ง การฝึกฝนสร้างท่าไม้ตายก็เริ่มเห็นผลขึ้น!
โทโกยามิ : ใช้ Dark Shadow คลุมร่างกายไว้เหมือนเป็นชุดเกราะ ซึ่งมันจะช่วยกลบปิดจุดอ่อนด้านพลังกายของเขาได้ ซึ่งเขาเรียกมันว่า "ร่างอเวจีมืดมิด"
ซึ่ง Midnight ก็เตือนว่าชื่อนั้นมันค่อนข้างจะเรียกยากอยู่สักหน่อย เพราะท่าที่จะใช้งานจริงนั้นควรจะให้สามารถเรียกชื่อง่ายๆเข้าไว้จะดีกว่า
บาคุโก : แทนที่จะปล่อยพลังระเบิดออกมาจากทั้งฝ่ามือ เขาบีบพลังระเบิดให้อยู่รวมกันที่จุดเล็กๆจุดเดียว ทำให้ได้พลังระเบิดที่สามารถเล็งเป้าไปที่จุดเฉพาะเจาะจงได้ แถมยังทรงพลังขนาดเจาะแท่งคอนกรีตหนาเป็นฟุตได้อย่างง่ายดายด้วย! ซึ่งเขาตั้งชื่อมันว่า "AP Shot"
แต่โดยไม่มีใครทันระวังนั้นเอง เศษแท่งคอนกรีตที่โดนระเบิดนั้นกลับหักหล่นลงไปด้านล่าง...ไปที่หัวของ All Might?!
ถ้าเป็นก่อนหน้านี้เขาย่อมไม่มีเหตุผลที่จะต้องสนใจเศษแท่งคอนกรีตนั้นเลย แต่ตอนนี้ที่เขาสูญสิ้นพลังไปแล้ว ถ้ามันหล่นมาโดนหัวเขาล่ะก็ไม่ตายก็เจ็บหนักแน่ๆ!!
ในชั่วพริบตานั้นเองก็มีเงาร่างหนึ่งพุ่งผ่านอากาศด้วยความเร็วสูง และพลิกตัวอย่างสวยงามพร้อมใช้ขาเตะแท่งคอนกรีตจนแตกกระจุยกลางอากาศ!!
"ท่าไม้ตายของออลไมท์นั้นเน้นที่กระบวนท่าหมัด..."
"ในฐานะผู้สืบทอดวันฟอร์ออล เราเลยคิดว่าต้องทำแบบนั้นไปด้วยโดยไม่รู้ตัว!"
"มันง่ายมากๆ! ง่ายสุดๆจนเราน่าจะคิดได้มาตั้งนานแล้ว!!"
"ถ้าแขนไม่แข็งแรงพอก็ใช้ขาแทน…!
All Might : บิงโก
กล้ามเนื้อขานั้นทรงพลังกว่าแขนถึงสามเท่า! ถ้าเสริมพลังเท่าๆกันล่ะก็...ท่าเตะจะทรงพลังกว่าท่าต่อยสามเท่าเช่นกัน!!
One For All Full Cowl : "Shoot Style!!"