Spoil Boku no Hero Academia 83 : พ่ายแพ้

เปิดฉากมาที่ภายในป่า
พวกวายร้ายถอยกลับไปแล้ว พวกคนที่ยังเหลืออยู่ต่างพยายามพาคนที่บาดเจ็บและหมดสติไปยังที่ปลอดภัย

ตอนนั้นเองพวกโอจาโกะและสึยุจังก็มาถึงจุดปะทะครั้งสุดท้าย
และพบกับพวกอิสึคุที่ประสบกับความพ่ายแพ้อย่างหมดรูป...

จากปากคำของ Vlad อ.ประจำชั้นห้อง B
รถพยาบาลและรถดับเพลิงมาถึงที่เกิดเหตุหลังจากที่พวกวายร้ายถอยกลับไปแล้ว 15 นาที

นักเรียนที่มาเข้าค่ายทั้งหมด 40 คน
มีนักเรียนหมดสติจากการสูดดมแก๊สพิษ 15 คน
มีนักเรียนได้รับบาดเจ็บทั้งหนักและเบา 11 คน
นักเรียนที่ปลอดภัยดี 13 คน
นักเรียนที่สูญหาย 1 คน

ฮีโร่มืออาชีพที่รับหน้าที่ดูแลการเข้าค่าย 6 คน
ได้รับบาดเจ็บที่หัวอาการสาหัส 1 คน (Pixie-Bob)
หายสาบสูญโดยพบเพียงกองเลือดจำนวนมาก 1 คน (Ragdoll)

วายร้ายถูกจับกุมได้ 3 คน (Moonfish, นักกล้าม, หน้ากากกันแก๊ส)

การเข้าค่ายที่รอคอยกันอย่างใจจดใจจ่อ...จบลงอย่างเลวร้ายที่สุด

วันรุ่งขึ้นที่โรงเรียนยูเอย์
กองทัพสื่อมวลชนตามมาทำข่าวอย่างมากมาย แต่ก็ไม่ได้รับอนุญาติให้เข้าไปข้างในโรงเรียน

ภายในโรงเรียน บรรดาอาจารย์กำลังประชุมกันอย่างคร่ำเคร่งถึงสิ่งที่เกิดขึ้น
การที่การเข้าค่ายเพื่อเตรียมนักเรียนให้พร้อมต่อการต่อสู้กับวายร้ายกลับถูกจู่โจมเสียเองเช่นนี้เป็นเรื่องที่น่าอับอายอย่างยิ่ง

ทุกคนต่างยอมรับว่าพวกเขาประเมินพวกวายร้ายต่ำไป พวกมันเริ่มลงมือก่อสงครามเพื่อทำลายสังคมของฮีโร่นี้ไปเรียบร้อยแล้ว ในขณะที่สันติสุขที่ยาวนานกลับทำให้พวกฮีโร่คลายความระมัดระวังลงและคิดว่าตัวเองยังมีเวลาที่จะเตรียมตัวรับมือพวกมันได้

การที่มีนักเรียนถูกลักพาตัวไปเช่นนี้ถือเป็นความผิดพลาดอย่างร้ายแรงของโรงเรียนแห่งนี้ พวกวายร้ายได้พรากเอาความเชื่อถือของโรงเรียนไปพร้อมๆกับตัวบาคุโกไปแล้ว

ซึ่งการที่พวกมันตั้งเป้าที่ตัวบาคุโกก็คงเพราะเขาแสดงความดุดันรุนแรงออกมาในตอนงานแข่งกีฬา ซึ่งถ้าเขาถูกเอาไปเป็นฝ่ายวายร้ายได้จริงๆล่ะก็มันคงเป็นจุดจบของยูเอย์เลยทีเดียว

ถึงตรงนี้ Present Mic ก็พูดในสิ่งที่ทุกคนต่างคิดในใจออกมา...
"มีคนทรยศในบรรดาคนของโรงเรียนยูเอย์"

มีเพียงอาจารย์ของโรงเรียนและพวก Pussy-Cats เท่านั้นที่ได้รับการบอกเล่าถึงสถานที่เข้าค่าย แต่จะว่าไปถ้ามองยาวไปถึงการใช้การระบุตำแหน่งด้วยโทรศัพท์มือถือล่ะก็แม้แต่พวกนักเรียนก็น่าสงสัยไปด้วย

แต่ Snipe กลับบอกว่าในตอนนี้ถ้าพวกเขามัวแต่มัวมาสงสัยกันเองโดยไม่มีเบาะแสใดๆก็จะทำให้เกิดความแตกแยกมากขึ้นเท่านั้น ถ้าจะหาคนทรยศก็จะต้องทำอย่างใจเย็น

อาจารย์ใหญ่บอกว่าเขาเชื่อใจทุกคนที่อยู่ที่นี้ แต่ก็ไม่สามารถยืนยันได้เต็ม 100% เช่นกัน แต่ตอนนี้สิ่งสำคัญที่สุดคือความปลอดภัยของนักเรียน ส่วนสำหรับเรื่องการหาตัวคนทรยศนั้นเขามีความคิดหนึ่งอยู่...

ตอนนั้นเองโทรศัพท์ของ All Might ก็ดังขึ้นเขาจึงขอไปรับโทรศัพท์ข้างนอกห้องก่อน
ซึ่งตัว All Might นั้นก็รู้สึกเจ็บใจอย่างมาก เพราะทั้งที่เขาได้ชื่อว่า "สัญลักษณ์แห่งสันติภาพ" แต่เขากลับไม่ได้อยู่ที่นั่นเพื่อปกป้องนักเรียนของตัวเอง!

คนที่โทรมาคือสารวัตรทสึคาอุจิ ที่โทรมาบอกว่าเขาได้เบาะแสที่ตั้งของ Villains Alliance แล้ว!

ย้อนไปเมื่อสองสัปดาห์ก่อน ลูกน้องของทสึคาอุจิออกไปสืบสวนและได้รับข้อมูลว่ามีชายหนุ่มอายุราว 20 ปีที่มีหน้าตาเหมือนกับว่าถูกเย็บปะติดปะต่อเข้าด้วยกันเข้าไปในตึกแห่งหนึ่ง ซึ่งเมื่อลองไปค้นดูประวัติอาชญากรในฐานข้อมูลของตำรวจก็ไม่มีรายชื่อของคนที่มีลักษณะที่ว่าอยู่ แต่เมื่อสอบถามเจ้าของตึกดังกล่าวก็ได้รู้ว่าในตึกนั้นมีบาร์เหล้าซ่อนอยู่ข้างใน โดยตอนนั้นทางตำรวจก็ยังไม่เห็นความเชื่อมโยงนี้กับคดีที่เกิดขึ้น

แต่ตอนนี้จากข้อมูลที่ได้จากอ.ไอซาว่าก็พบว่าชายที่ลักษณะตรงตามข้อมูลก่อนหน้านี้ร่วมอยู่ในการโจมตีค่ายฝึกด้วย (ดาบิ) ตอนนี้ทางตำรวจกำลังวิเคราะห์ข้อมูลอยู่โดยเมื่อทุกอย่างพร้อมแล้วพวกเขาก็จะลงมือบุกที่นั่นทันที

จริงๆแล้วนี่ยังเป็นข้อมูลลับสุดยอดของทางตำรวจ แต่เขาคิดว่าควรบอก All Might เป็นกรณีพิเศษ
เพราะพวกเขาต้องการใช้พลังของ All Might ในการร่วมบุกจู่โจมในครั้งนี้

All Might : ...ฉันนี่...ช่างมีเพื่อนที่แสนวิเศษจริงๆ...ขอบคุณมากนะ...
All Might : ถ้าฉันเจอตัวเจ้าพวกนั้นล่ะก็ นี่คือสิ่งที่ฉันจะบอกต่อพวกมัน
All Might : ฉันมาเพื่อเอาคืนแล้ว!!

ตัดมาที่อิสึคุ
หลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเขาก็ถูกส่งมาเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลใกล้ๆกับค่ายฝึก

เขานอนหมดสติสลับกับมีไข้สูงตลอดสองวันต่อมา ระหว่างนั้น Recovery Girl มาทำการรักษาให้เขา และทางตำรวจมาเยี่ยมเขา แต่เขาก็จำเรื่องพวกนั้นไม่ได้เลย

ในตอนที่เขาฟื้นขึ้นมาอิสึคุก็เห็นจานแอ็ปเปิ้ลที่แม่ของเขาปอกไว้ให้ และคิดได้ว่าเขาคงทำให้แม่ของเขาเป็นห่วงมาก และนึกเป็นห่วงว่าตอนนี้โคตะจะเป็นอย่างไรบ้าง?

ตอนนั้นเองพวกเพื่อนๆห้อง 1-A ก็มาเยี่ยมเขา
โดยในบรรดาคนห้อง 1-A นั้น จิโร่ และฮากาคุเระยังไม่ฟื้นจากการสูดดมแก๊สพิษ ส่วนโมโมะได้รับบาดเจ็บที่หัวค่อนข้างหนักตอนนี้จึงรักษาตัวที่โรงพยาบาลเช่นกัน

แล้วยังมีเรื่องของบาคุโกที่ถูกลักพาตัวไปอีกด้วย...

อิสึคุ : ออลไมท์เคยบอกว่า...เราไม่สามารถจะช่วยคนที่เราไม่สามารถเอื้อมมือไปถึงได้ ดังนั้นเราจึงต้องช่วยเหลือทุกคนที่เราเอื้อมมือถึงได้
อิสึคุ : แต่ตอนนั้นฉัน...เอื้อมมือไปถึงได้...ฉันจะต้องช่วยเขา…! อัตลักษณ์ของฉันมีไว้เพื่อการนั้น...
อิสึคุ : มันเป็นอย่างที่อ.ไอซาว่าเคยพูดไว้เลย
"ถ้าเอาแต่พยายามจะช่วยคนอื่นโดยไม่ยอมดูตัวเอง เธอก็เป็นได้แค่เจ้าโง่เท่านั้นแหละ"
อิสึคุ : ร่างกายของฉัน...มันไม่ยอมขยับ...

ตอนนั้นเองคิริชิมะก็พูดขึ้นมาว่า

คิริชิมะ : ถ้างั้นครั้งนี้ก็ไปช่วยเขากันเถอะ

เมื่อวานนี้ตัวคิริชิมะและโทโดโรกิก็มาที่โรงพยาบาลนี้เช่นกัน เพราะจากสิ่งที่เกิดขึ้นทำให้เขาไม่สามารถจะทนอยู่บ้านเฉยๆได้
แล้วพวกเขาก็ได้ยินการสนทนาของ All Might และตำรวจ กับโมโมะ

เมื่อตอนที่เกิดเรื่อง เธอได้ให้อาวาเสะจากห้อง B ติดเครื่องส่งสัญญาณติดตามเข้าไว้ที่ตัววายร้ายคนหนึ่ง (โนมุ) และเธอก็สร้างเครื่องรับสัญญาณที่สามารถติดตามสัญญาณนั้นได้ และได้มอบเครื่องรับสัญญาณนั้นให้กับ All Might และทางตำรวจเพื่อใช้ในการทำคดีในครั้งนี้

ถึงตรงนี้อีดะก็รู้แล้วว่าคิริชิมะคิดอะไรอยู่...เขากำลังจะบอกว่าโมโมะสามารถสร้างเครื่องรับสัญญาณขึ้นมาเพิ่มอีกได้ และพวกเขาก็สามารถใช้มันตามพวกวายร้ายไปได้เช่นกัน...

อีดะที่เคยมีประสบการณ์ของการทำอะไรตามอารมณ์เพื่อการล้างแค้นก็รีบบอกให้คิริชิมะเลิกความคิดนี้ซะ เพราะนี่เป็นเรื่องที่ควรให้ฮีโร่มืออาชีพเป็นคนจัดการ ไม่ใช่พวกนักเรียนอย่างพวกเขา!

คิริชิมะเองก็เข้าใจดี แต่เขาก็ทำใจรับไม่ได้ ตอนนั้นเขาก็ได้รับรู้ว่าเพื่อนของตัวเองกำลังอยู่ในอันตราย แต่เขาทำอะไรไม่ได้เลย!! เขาไม่ได้ลงมือทำอะไรเลย!! ถ้าตอนนี้เขาไม่ทำอะไรสักอย่างลงไปอีกล่ะก็ เขาก็คงไม่สามารถจะเรียกตัวเองว่าฮีโร่ได้อีกต่อไปแล้ว!!

คิริชิมะ : อีดะพูดถูกต้องแล้ว! ทุกคนพูดถูกต้องแล้ว! แต่ถึงอย่างนั้น!!
คิริชิมะ : ฟังที่ฉันพูดด้วยนะมิโดริยะ!!
คิริชิมะ : มือของนายยังสามารถยื่นไปถึงหมอนั่นได้!!!

คำตอบของอิสึคุคือ...?
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่