ย้อนไปก่อนหน้านี้ที่ Development Studio
อิสึคุบอกเมย์ว่าเขาคิดที่จะเปลี่ยนแนวทางจากที่เดิมเน้นใช้หมัดไปใช้เน้นท่าเตะแทน สาวช่างก็ชอบไอเดียนั้นทันทีและเสนอว่าจะสร้างเครื่องมือเสริมพลังขาให้กับเขา
(ทั้งอิสึคุและอีดะสะดุ้งเฮือกขึ้นมาทันที)
แต่อิสึคุก็บอกว่าเขาไม่อยากจะเปลี่ยนแปลงรูปแบบของเขามากเกินไปนัก (เพราะเป็นชุดที่มีแบบมาจากชุดแรกที่แม่ของเขาตัดเย็บให้)
ซึ่งเมย์ก็บอกว่าไม่มีปัญหา เพราะงานของเธอเป็นการที่ต้องทำตามความต้องการของลูกค้าเป็นหลักอยู่แล้ว และถ้าไอเดียของเธอเหมาะสม อ.Powerloader ก็สามารถรับรองให้ได้
ปกติแล้วการปรับปรุงที่เน้นการใช้ขาเป็นหลักนั้นจะเหมาะกับคนที่เน้นความรวดเร็วเป็นหลักอย่างอีดะที่ต้องมีร่างกายที่แข็งแกร่งควบคู่ไปด้วย แต่อิสึคุก็บอกว่าเขาสามารถใช้เทคนิค Full Cowl ในการเสริมพละกำลังและความเร็วได้
ในตอนที่คนอื่นๆกำลังคุยกันอย่างออกรส โอจาโกะก็มองดูพร้อมทำสีหน้าออกเหงาๆ...?
ตัดมาที่ปัจจุบัน
"ฟูลคาว! เทคนิคที่เราคิดค้นได้ด้วยความช่วยเหลือจากแกรนโทริโน่และคัตจัง"
"จุดเด่นคือการเคลื่อนที่อย่างพริ้วไหว ทำให้เราเคลื่อนไหวได้อย่างยอดเยี่ยม"
"แทนที่จะจำกัดมัน น่าจะใช้มันให้เต็มที่ไปเลยดีกว่าไหม? ใช้อุปกรณ์เสริมให้น้อยแต่ได้ผลมากที่สุด"
"เกราะแขนที่จะช่วยเสริมความแข็งแรงให้แขน และสนับขาพื้นรองเท้าเกราะเหล็ก!!"
"Costume Gamma!"
เพื่อนๆต่างประทับใจกับสไตล์ใหม่ของอิสึคุที่มีพลังทำลายสูงและเปลี่ยนจากใช้หมัดมาใช้ท่าเตะแทน
อิสึคุก็บอกว่ามันเป็นเพราะสนับขาที่เมย์สร้างให้ และคำแนะนำที่ได้รับจากอีดะ
ตอนนี้เขาแค่ควบคุมทิศทางที่จะเหวี่ยงสนับขาไปเท่านั้น เป็นแค่ทางผ่าน ยังไม่ถึงขั้นที่จะเรียกว่าเป็นท่าไม่ตายได้
ทว่า All Might กลับคิดวามันไม่เป็นแค่ทางผ่าน มันอาจมีประโยชน์อย่างยิ่งในการสอบใบอนุญาติชั่วคราวที่จะมาถึง
ตอนนั้นเองอ.ไอซาว่าก็ขอให้ All Might หลบออกไปให้ห่างจากสนามฝึกก่อน เพราะมันอาจเป็นอันตรายได้
เมื่อเห็นทั้งเพื่อนร่วมงานและบรรดาลูกศิษย์ต่างเป็นห่วงเขา ก็ทำให้ All Might เกิดความรู้สึกที่ไม่เคยรับรู้มาก่อนขึ้น...
"ระวัง...งั้นรึ?"
"ฉันก็เข้าใจว่าพวกนั้นเป็นห่วง แต่ว่า..."
"ตอนนี้ฉัน กลายเป็นคนที่ต้องเป็นฝ่ายถูกปกป้องไปแล้วหรือ...?"
ขณะเดียวกันนั้นอิสึคุก็สังเกตุว่าชุดของเพื่อนๆก็มีการปรับปรุงเพิ่มเติมเช่นกัน และมันจะแสดงออกมาอย่างไรกันนะ?
ทันใดนั้นพวกห้อง 1-B ก็ถึงเวลาได้ใช้ห้องยิม TDL บ้างแล้ว
ซึ่งในบรรดาคนห้อง 1-B ก็มีนาย Copy Cat โมโนมะที่ยังคงพูดจาหาเรื่องพวกห้อง 1-A ตามเคย
(ตกลงนายเป็นตัวละครตบมุขไปแล้วสินะ)
คามินาริสังเกตุว่าชุดฮีโร่ของโมโนมะนั้นเป็นชุดสูทชายยาวที่ดูเหมือนไม่มีอะไรเป็นพิเศษเลย?
เคนโดหัวหน้าห้อง B ก็เลยอธิบายว่าอัตลักษณ์ของโมโนมะคือการก็อปปี้อัตลักษณ์ของคนอื่นดังนั้นจึงไม่มีความจำเป็นต้องมีส่วนอุปกรณ์เสริมเป็นพิเศษ
(ดังนั้นเลยเน้นที่ดีไซน์เพื่อทำให้ตัวเองเด่นแทนสินะ แอบเหมือนอาโอยามะนะเนี่ยเอ็ง)
อ.Blood King อธิบายว่าการสอบใบอนุญาติฮีโร่นั้นจะจัดขึ้นในเดือนมิถุนายนและกันยายนของทุกปี ในสถานที่สามแห่งทั่วประเทศ
เพื่อไม่ให้นักเรียนจากโรงเรียนเดียวกันต้องมาปะทะกันเองในระหว่างการสอบ แต่ละโรงเรียนจึงแยกนักเรียนของตัวเองแต่ละกลุ่มไปทำการสอบต่างที่และต่างเวลากัน
ถึงตรงนี้โมโนมะก็แอบถอนหายใจโล่งอกที่ไม่ต้องมาประชันกับพวกห้อง 1-A ในการสอบใบอนุญาติ แต่ก็ยังทำเก๊กอยู่...
แน่นอนว่าโรงเรียนฮีโร่แห่งอึ่นๆก็จะส่งนักเรียนมาทำการสอบใบอนุญาติเช่นกัน อีกทั้งเนื่องจากการสอบใบอนุญาติชั่วคราวนั้นมีผู้สอบผ่านในแต่ละปีน้อยมากๆ หลายๆคนที่มาเข้าสอบจึงเป็นผู้ที่มีประสบการณ์สูงกว่าพวกนักเรียนปี 1 มาก ทั้งอัตลักษณ์และความสามารถและการใช้ด้วย
คืนนั้นบรรดาสาวๆห้อง 1-A มานั่งคุยกันที่ห้องสันทนาการชั้นล่างของหอพัก
แต่สึยุจังสังเกตุเห็นว่าโอจาโกะท่าทางดูท่าทางเหม่อๆ เลยถามว่าเหนื่อยหรือ?
โอจาโกะก็บอกว่าก็ไม่ใช่ว่าเหนื่อยเพลียอะไรหรอก แต่ตอนนี้รู้สึกว่าจิตใจมันไม่สงบเอาเสียเลย
อาชิโดะเลยแซวว่า "กำลังตกหลุมรักใครเข้าล่ะสิ"
เจอพูดจี้ใจดำเข้าโอจาโกะก็รีบปฏิเสธพัลวันแถมยังหน้าแดงแล้วเผลอใช้อัตลักษณ์ทำให้ตัวเองลอยหมุนอยู่กลางอากาศอีกต่างหาก
(ไม่คลื่นไส้แล้วด้วยนี่นะ นับว่าก้าวหน้าขึ้น)
พวกสาวๆคนอื่นๆเห็นว่าโอจาโกะไม่อยากบอกก็มีมารยาทพอที่จะไม่เร่งเร้าต่อ เล่นเอาอาชิโดะเซ็งไปเลย
ตอนนั้นเองโอจาโกะก็เผอิญมองไปนอกหน้าต่าง...แล้วเห็นอิสึคุกำลังฝึกฝนท่าเตะอยู่ที่สนามข้างนอกอย่างขมักเขม้น
หัวใจสาวน้อยก็หวั่นไหวอีกครั้ง...
แล้วหลังจากการฝึกฝนอย่างเข้มข้นผ่านไป ก็มาถึงวันสอบใบอนุญาติฮีโร่ชั่วคราว
สถานที่สอบของบรรดานักเรียนห้อง 1-A คือ สนามกีฬาแห่งชาติทาโคบะ
บรรดานักเรียนต่างตื่นเต้นและไม่แน่ใจว่าตัวเองจะผ่านหรือไม่
แต่อ.ไอซาว่าก็บอกว่าอย่ามัวแต่ลังเล ให้เข้าไปลงมือทำแล้วสอบผ่านมาให้ได้ต่างหาก
หากว่าพวกเขาผ่านการสอบครั้งนี้ไปได้พวกเขาก็จะไม่ใช่แค่ไข่อีกต่อไป แต่พวกเขาจะกลายไปเป็นลูกเจี๊ยบที่เป็นฮีโร่อาชีพชั่วคราว จงไปทำให้ดีที่สุด
ว่าแล้วพวกนักเรียนก็รู้สึกฮึกเหิมขึ้นมาแล้ว และเพื่อเป็นการปลุกใจ พวกเขาก็ล้อมวงกันตะโกนคำขวัญของโรงเรียน
"Plus Ultra!"
แต่กลับมีคนที่ไม่รู้จักมาร่วมตะโกนด้วยซะงั้น?!
นายคนที่โผล่มาร่วมตะโกนก็กล่าวขอโทษออกมาดังลั่นพร้อมก้มหัวขอโทษอย่างรุนแรงจนหัวโขกพื้นดังโป๊กเบ้อเริ่ม?!?!
(เซโระวิจารณ์ว่าหมอนี่เหมือนเอาอีดะกับคิริชิมะมารวมกันแล้วหารสอง)
ปรากฎว่านายคนนี้ชื่อ "อินาซะ โยอาราชิ" เป็นนักเรียนของโรงเรียนฮีโร่ที่ชื่อดังไม่แพ้ยูเอย์ "โรงเรียนมัธยมปลายชิเค็ตสึ"
ซึ่งอ.ไอซาว่าก็ดูอึ้งๆเมื่อเห็นหน้านายอินาซะ
เพราะเขาเคยร่วมสอบเข้าเรียนที่โรงเรียนยูเอย์ในปีเดียวกับพวกอิสึคุ และสอบผ่านด้วยคะแนนสูงสุด แต่ด้วยเหตุผลบางอย่างเขากลับปฏิเสธที่จะเข้าเรียนที่ยูเอย์
อิสึคุ : หา?! นั่นหมายความว่า...เขาก็อยู่ปีหนึ่งเหมือนกัน?!
อิสึคุ : เดี๋ยวสิ ถ้าเขาสอบได้คะแนนสูงสุด งั้นก็หมายความว่า...
อิสึคุ : เขามีความสามารถสูงกว่าโทโดโรกิคุงเสียอีกงั้นหรือ?!
ศัตรูที่แข็งแกร่งปรากฎตัว?!
Spoil Boku no Hero Academia 102 : ความคิดที่ล่องลอย
อิสึคุบอกเมย์ว่าเขาคิดที่จะเปลี่ยนแนวทางจากที่เดิมเน้นใช้หมัดไปใช้เน้นท่าเตะแทน สาวช่างก็ชอบไอเดียนั้นทันทีและเสนอว่าจะสร้างเครื่องมือเสริมพลังขาให้กับเขา
(ทั้งอิสึคุและอีดะสะดุ้งเฮือกขึ้นมาทันที)
แต่อิสึคุก็บอกว่าเขาไม่อยากจะเปลี่ยนแปลงรูปแบบของเขามากเกินไปนัก (เพราะเป็นชุดที่มีแบบมาจากชุดแรกที่แม่ของเขาตัดเย็บให้)
ซึ่งเมย์ก็บอกว่าไม่มีปัญหา เพราะงานของเธอเป็นการที่ต้องทำตามความต้องการของลูกค้าเป็นหลักอยู่แล้ว และถ้าไอเดียของเธอเหมาะสม อ.Powerloader ก็สามารถรับรองให้ได้
ปกติแล้วการปรับปรุงที่เน้นการใช้ขาเป็นหลักนั้นจะเหมาะกับคนที่เน้นความรวดเร็วเป็นหลักอย่างอีดะที่ต้องมีร่างกายที่แข็งแกร่งควบคู่ไปด้วย แต่อิสึคุก็บอกว่าเขาสามารถใช้เทคนิค Full Cowl ในการเสริมพละกำลังและความเร็วได้
ในตอนที่คนอื่นๆกำลังคุยกันอย่างออกรส โอจาโกะก็มองดูพร้อมทำสีหน้าออกเหงาๆ...?
ตัดมาที่ปัจจุบัน
"ฟูลคาว! เทคนิคที่เราคิดค้นได้ด้วยความช่วยเหลือจากแกรนโทริโน่และคัตจัง"
"จุดเด่นคือการเคลื่อนที่อย่างพริ้วไหว ทำให้เราเคลื่อนไหวได้อย่างยอดเยี่ยม"
"แทนที่จะจำกัดมัน น่าจะใช้มันให้เต็มที่ไปเลยดีกว่าไหม? ใช้อุปกรณ์เสริมให้น้อยแต่ได้ผลมากที่สุด"
"เกราะแขนที่จะช่วยเสริมความแข็งแรงให้แขน และสนับขาพื้นรองเท้าเกราะเหล็ก!!"
"Costume Gamma!"
เพื่อนๆต่างประทับใจกับสไตล์ใหม่ของอิสึคุที่มีพลังทำลายสูงและเปลี่ยนจากใช้หมัดมาใช้ท่าเตะแทน
อิสึคุก็บอกว่ามันเป็นเพราะสนับขาที่เมย์สร้างให้ และคำแนะนำที่ได้รับจากอีดะ
ตอนนี้เขาแค่ควบคุมทิศทางที่จะเหวี่ยงสนับขาไปเท่านั้น เป็นแค่ทางผ่าน ยังไม่ถึงขั้นที่จะเรียกว่าเป็นท่าไม่ตายได้
ทว่า All Might กลับคิดวามันไม่เป็นแค่ทางผ่าน มันอาจมีประโยชน์อย่างยิ่งในการสอบใบอนุญาติชั่วคราวที่จะมาถึง
ตอนนั้นเองอ.ไอซาว่าก็ขอให้ All Might หลบออกไปให้ห่างจากสนามฝึกก่อน เพราะมันอาจเป็นอันตรายได้
เมื่อเห็นทั้งเพื่อนร่วมงานและบรรดาลูกศิษย์ต่างเป็นห่วงเขา ก็ทำให้ All Might เกิดความรู้สึกที่ไม่เคยรับรู้มาก่อนขึ้น...
"ระวัง...งั้นรึ?"
"ฉันก็เข้าใจว่าพวกนั้นเป็นห่วง แต่ว่า..."
"ตอนนี้ฉัน กลายเป็นคนที่ต้องเป็นฝ่ายถูกปกป้องไปแล้วหรือ...?"
ขณะเดียวกันนั้นอิสึคุก็สังเกตุว่าชุดของเพื่อนๆก็มีการปรับปรุงเพิ่มเติมเช่นกัน และมันจะแสดงออกมาอย่างไรกันนะ?
ทันใดนั้นพวกห้อง 1-B ก็ถึงเวลาได้ใช้ห้องยิม TDL บ้างแล้ว
ซึ่งในบรรดาคนห้อง 1-B ก็มีนาย Copy Cat โมโนมะที่ยังคงพูดจาหาเรื่องพวกห้อง 1-A ตามเคย
(ตกลงนายเป็นตัวละครตบมุขไปแล้วสินะ)
คามินาริสังเกตุว่าชุดฮีโร่ของโมโนมะนั้นเป็นชุดสูทชายยาวที่ดูเหมือนไม่มีอะไรเป็นพิเศษเลย?
เคนโดหัวหน้าห้อง B ก็เลยอธิบายว่าอัตลักษณ์ของโมโนมะคือการก็อปปี้อัตลักษณ์ของคนอื่นดังนั้นจึงไม่มีความจำเป็นต้องมีส่วนอุปกรณ์เสริมเป็นพิเศษ
(ดังนั้นเลยเน้นที่ดีไซน์เพื่อทำให้ตัวเองเด่นแทนสินะ แอบเหมือนอาโอยามะนะเนี่ยเอ็ง)
อ.Blood King อธิบายว่าการสอบใบอนุญาติฮีโร่นั้นจะจัดขึ้นในเดือนมิถุนายนและกันยายนของทุกปี ในสถานที่สามแห่งทั่วประเทศ
เพื่อไม่ให้นักเรียนจากโรงเรียนเดียวกันต้องมาปะทะกันเองในระหว่างการสอบ แต่ละโรงเรียนจึงแยกนักเรียนของตัวเองแต่ละกลุ่มไปทำการสอบต่างที่และต่างเวลากัน
ถึงตรงนี้โมโนมะก็แอบถอนหายใจโล่งอกที่ไม่ต้องมาประชันกับพวกห้อง 1-A ในการสอบใบอนุญาติ แต่ก็ยังทำเก๊กอยู่...
แน่นอนว่าโรงเรียนฮีโร่แห่งอึ่นๆก็จะส่งนักเรียนมาทำการสอบใบอนุญาติเช่นกัน อีกทั้งเนื่องจากการสอบใบอนุญาติชั่วคราวนั้นมีผู้สอบผ่านในแต่ละปีน้อยมากๆ หลายๆคนที่มาเข้าสอบจึงเป็นผู้ที่มีประสบการณ์สูงกว่าพวกนักเรียนปี 1 มาก ทั้งอัตลักษณ์และความสามารถและการใช้ด้วย
คืนนั้นบรรดาสาวๆห้อง 1-A มานั่งคุยกันที่ห้องสันทนาการชั้นล่างของหอพัก
แต่สึยุจังสังเกตุเห็นว่าโอจาโกะท่าทางดูท่าทางเหม่อๆ เลยถามว่าเหนื่อยหรือ?
โอจาโกะก็บอกว่าก็ไม่ใช่ว่าเหนื่อยเพลียอะไรหรอก แต่ตอนนี้รู้สึกว่าจิตใจมันไม่สงบเอาเสียเลย
อาชิโดะเลยแซวว่า "กำลังตกหลุมรักใครเข้าล่ะสิ"
เจอพูดจี้ใจดำเข้าโอจาโกะก็รีบปฏิเสธพัลวันแถมยังหน้าแดงแล้วเผลอใช้อัตลักษณ์ทำให้ตัวเองลอยหมุนอยู่กลางอากาศอีกต่างหาก
(ไม่คลื่นไส้แล้วด้วยนี่นะ นับว่าก้าวหน้าขึ้น)
พวกสาวๆคนอื่นๆเห็นว่าโอจาโกะไม่อยากบอกก็มีมารยาทพอที่จะไม่เร่งเร้าต่อ เล่นเอาอาชิโดะเซ็งไปเลย
ตอนนั้นเองโอจาโกะก็เผอิญมองไปนอกหน้าต่าง...แล้วเห็นอิสึคุกำลังฝึกฝนท่าเตะอยู่ที่สนามข้างนอกอย่างขมักเขม้น
หัวใจสาวน้อยก็หวั่นไหวอีกครั้ง...
แล้วหลังจากการฝึกฝนอย่างเข้มข้นผ่านไป ก็มาถึงวันสอบใบอนุญาติฮีโร่ชั่วคราว
สถานที่สอบของบรรดานักเรียนห้อง 1-A คือ สนามกีฬาแห่งชาติทาโคบะ
บรรดานักเรียนต่างตื่นเต้นและไม่แน่ใจว่าตัวเองจะผ่านหรือไม่
แต่อ.ไอซาว่าก็บอกว่าอย่ามัวแต่ลังเล ให้เข้าไปลงมือทำแล้วสอบผ่านมาให้ได้ต่างหาก
หากว่าพวกเขาผ่านการสอบครั้งนี้ไปได้พวกเขาก็จะไม่ใช่แค่ไข่อีกต่อไป แต่พวกเขาจะกลายไปเป็นลูกเจี๊ยบที่เป็นฮีโร่อาชีพชั่วคราว จงไปทำให้ดีที่สุด
ว่าแล้วพวกนักเรียนก็รู้สึกฮึกเหิมขึ้นมาแล้ว และเพื่อเป็นการปลุกใจ พวกเขาก็ล้อมวงกันตะโกนคำขวัญของโรงเรียน
"Plus Ultra!"
แต่กลับมีคนที่ไม่รู้จักมาร่วมตะโกนด้วยซะงั้น?!
นายคนที่โผล่มาร่วมตะโกนก็กล่าวขอโทษออกมาดังลั่นพร้อมก้มหัวขอโทษอย่างรุนแรงจนหัวโขกพื้นดังโป๊กเบ้อเริ่ม?!?!
(เซโระวิจารณ์ว่าหมอนี่เหมือนเอาอีดะกับคิริชิมะมารวมกันแล้วหารสอง)
ปรากฎว่านายคนนี้ชื่อ "อินาซะ โยอาราชิ" เป็นนักเรียนของโรงเรียนฮีโร่ที่ชื่อดังไม่แพ้ยูเอย์ "โรงเรียนมัธยมปลายชิเค็ตสึ"
ซึ่งอ.ไอซาว่าก็ดูอึ้งๆเมื่อเห็นหน้านายอินาซะ
เพราะเขาเคยร่วมสอบเข้าเรียนที่โรงเรียนยูเอย์ในปีเดียวกับพวกอิสึคุ และสอบผ่านด้วยคะแนนสูงสุด แต่ด้วยเหตุผลบางอย่างเขากลับปฏิเสธที่จะเข้าเรียนที่ยูเอย์
อิสึคุ : หา?! นั่นหมายความว่า...เขาก็อยู่ปีหนึ่งเหมือนกัน?!
อิสึคุ : เดี๋ยวสิ ถ้าเขาสอบได้คะแนนสูงสุด งั้นก็หมายความว่า...
อิสึคุ : เขามีความสามารถสูงกว่าโทโดโรกิคุงเสียอีกงั้นหรือ?!
ศัตรูที่แข็งแกร่งปรากฎตัว?!