วันต่อมา ข่าวการจับกุม Hero Killer Stain เป็นข่าวดังไปทั่วประเทศ โดย Endeavor ถูกยกให้เป็นผู้จับกุม Stain ได้ ตามที่ผู้กำกับทสึคามาเอะบอกไว้เมื่อตอนที่แล้ว
(Endeavor ดูจะไม่ถูกใจเท่าไหร่ที่ตัวเองไม่ได้เป็นคนจัดการแต่โดนบังคับสมอ้างเพื่อปกป้องพวกอิสึคุเฉยๆ)
ชิคารากิที่ดูข่าวอยู่ไม่ค่อยสบอารมณ์นักที่ข่าวของ Stain ตกเป็นศูนย์กลางความสนใจของสังคมโดยที่พวกโนมุถูกมองข้ามว่าเป็นของแถมเฉยๆ ซึ่งไม่เป็นไปตามที่ชิคารากิต้องการเลยแม้แต่น้อย เพราะจริงๆแล้วเขาต้องการจะให้ข่าวของพวกโนมุกลบความสนใจของสังคมต่อเรื่องของ Stain ต่างหาก
ตัดไปทางนักเรียนคนอื่นๆบ้าง
บาคุโกที่ไปฝึกงานกับ Best Jeanist ฮีโร่อันดับ 4 ก็โดนจับทำผมให้เรียบแปล้ตามแบบของ Best Jeanist ทว่าแค่อึดใจต่อมาผมของบาคุโกก็กลับมาชี้เด่ตามเดิม
(แต่ Best Jeanist ก็ยังสามารถทำให้บาคุโกใส่กางเกงยีนส์ที่เป็นเครื่องหมายการค้าของตัวเองได้ล่ะนะ)
คิริชิมะกับเท็ตสึเท็ตสึฝึกงานกับ Forth Kind อย่างขันแข็ง
(คิริชิมะก็ได้รับข้อความของอิสึคุเช่นกัน ซึงเขาที่อยู่ไกลจากที่เกิดเหตุก็ทำได้แค่รายงานเรื่องนี้ไปเท่านั้น)
โมโมะกับเคนโดสาวจากห้อง 1-B ก็ได้เข้าร่วมถ่ายโฆษณากับอุบาวามิ และจะได้รับอานิสงค์ออกทีวีไปด้วย
ทางด้านอิสึคุ ได้โทรศัพท์ไปแจ้งข่าวเรื่องที่เกิดขึ้นให้โอจาโกะได้ทราบ ซึ่งเธอก็บอกว่าเมื่อตอนที่เธอได้ข้อความจากอิสึคุนั้นเธอตกใจจนใจเต้นเลย แต่ก็ดีใจที่ทั้งอิสึคุและอีดะปลอดภัย
(โอจาโกะโดน Gunhead ฮีโร่ที่ไปฝึกงานแซวว่าคุยเรื่องรักๆหรือไงจ๊ะถึงได้ใจเต้น)
อิสึคุหลังจากคุยกับโอจาโกะจบก็นั่งตื่นเต้นอยู่คนเดียวด้วยว่าเพิ่งได้คุยโทรศัพท์กับเด็กผู้หญิงมา...
เขากลับไปที่ห้องรวมที่ใช้ร่วมกับอีดะและโทโดโรกิ และได้ข่าวไม่ค่อยดีจากอีดะว่าแขนซ้ายของเขาจะมีอาการแทรกซ้อนที่จะไม่หายขาดจากบาดแผลในครั้งนี้
อีดะบอกว่าอาการมันจะเป็นแค่ขยับนิ้วได้ลำบากและอาการชาที่แขน ซึ่งถ้าหากว่าผ่าตัดก็อาจจะรักษาให้หายขาดได้
แต่อีดะรู้สึกว่าในครั้งนี้เขาทำตัวไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง แม้เขาจะเกลียด Stain แต่ก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าสิ่งที่เจ้านั่นพูดเป็นเรื่องจริง เขานั้นยังขาดคุณสมบัติเป็นฮีโร่
ดังนั้นจนกว่าเขาจะได้เป็นฮีโร่อย่างแท้จริง เขาจะปล่อยให้แขนซ้ายของเขาเป็นแบบนี้เพื่อเป็นสิ่งเตือนใจ
อิสึคุได้ยินดังนั้นก็อึ้งไป แต่ก็รู้ดีว่าถึงพูดปลอบหรือขอโทษไปก็ไม่ช่วยอะไรขึ้นมา และเขาก็มองไปที่มือขวาที่เป็นแผลยับเยิน ที่เป็นสิ่งเตือนใจถึงการที่เขาใช้พลังโดยไม่ยั้งคิดถึงผลที่ตามมาต่อตัวเองและคนอื่น
ทั้งสองคนจึงให้คำมั่นว่าจะแข็งแกร่งขึ้นไปพร้อมๆกัน
ตอนนั้นเองจู่ๆโทโดโรกิก็พูดขอโทษทั้งสองคน เพราะเขาเกิดความรู้สึกแปลกๆขึ้นมาว่าพอเขาเข้าไปเกี่ยวกับเรื่องของใครเข้า มือของคนในเหตุการณ์ก็จะมีปัญหาขึ้นมาทุกที
(มือของอิสึคุกระดูกแตกยับเยินจากการต่อสู้กับโทโดโรกิในตอนงานโรงเรียน ส่วนอีดะบาดเจ็บที่แขนส่วนหนึ่งเพราะพยายามปกป้องโทโดโรกิ)
ทั้งอิสึคุและอีดะจึงต้องรีบบอกให้โทโดโรกิอย่าคิดมาก แต่เจ้าตัวก็คิดไปแล้วว่าตัวเองมี "คำสาปขยี้มือ" อยู่หรือเปล่า...
ตัดไปทาง Gran Torino
เขากำลังพูดกับ All Might ถึงเรื่องที่เกิดขึ้น โดยผลจากเรื่องที่เกิดขึ้นกับอิสึคุทำให้ Gran Torino โดนหักเงินค่าปฏิบัติงานและโดนพักใบอนุญาติฝึกสอนไปครึ่งปี และบอกว่านิสัยร่างกายขยับไปก่อนสมองคิดของอิสึคุมันเหมือนกับ All Might ไม่มีผิด
แต่ตัว Gran Torino ก็ไม่ได้คิดมากนัก แถมใบอนุญาติฝึกสอนก็ไม่ได้สำคัญกับเขาแล้ว เพราะที่เขาสอบใบอนุญาตินั่นมาก็เพื่อฝึกสอน All Might แทนเพื่อนของเขา "ชิมูระ" ที่เป็นผู้ถ่ายทอด One For All ให้ All Might ด้วย ทำให้ตอนนี้เขาไม่ได้ใช้มันอีกแล้ว
แล้วก็มาถึงเรื่องของ Stain ซึ่งแม้ Gran Torino จะเจอกับเจ้านั่นเพียงไม่กี่นาที แต่เขาก็ถึงกับเสียวสันหลัง เพราะพลังกดดันที่มีจากความคิดยึดติดสุดขั้วของ Stain นั้นรุนแรงมาก ถึงขนาดที่เขาคิดว่ามันใกล้เคียงกับความรู้สึกรับผิดชอบในฐานะ "สัญลักษณ์แห่งสันติภาพ" ของตัว All Might เลยทีเดียว
และตรงจุดนั้นแหละที่เป็นปัญหา เพราะเมื่อ Stain ถูกสอบสวนโดยตำรวจ ความคิดของเจ้านั่นก็จะถูกแพร่ออกไปตามสื่อต่างๆ และมันจะต้องมีผู้ที่ได้รับอิทธิพลจากความคิดนั้นปรากฎขึ้นมาแน่ๆ ซึ่งแม้วายร้ายคนเดียวโดดๆจะไม่มีพิษภัยมากมายนัก แต่การที่ Stain มีส่วนเกี่ยวข้องกับ Villian Alliance ก็จะทำให้ความชั่วร้ายเล็กๆมารวมกลุ่มกันที่นั่น และนั่นก็จะทำให้มันกลายเป็นพลังอันยิ่งใหญ่ขึ้นมา
ซึ่งตรงนี้ Gran Torino ก็คิดว่ามีใครบางคนวางแผนให้เรื่องมันเป็นอย่างนี้ตั้งแต่ต้น และเขาก็รู้สึกว่ามันน่าจะเป็นคนที่ฆ่าอาจารย์ของ All Might และทลวงร่างของ All Might จนบาดเจ็บสาหัสจนเขาเป็นอย่างในปัจจุบันนี้ วายร้ายที่ครอบครองพลัง "ALL FOR ONE"
All Might ไม่อยากเชื่อว่า "เจ้านั่น" จะยังมีชีวิตอยู่ทั้งที่เขาเล่นงานมันไปอย่างหนักไปแล้ว แต่ Gran Torino ก็แนะนำว่า All Might ควรจะหาโอกาสบอกเล่าเรื่องราวของตัวเขาและพลัง One For All ให้อิสึคุรับรู้เอาไว้จะดีกว่า
สองวันหลังจากนั้นเรื่องราวของ Stain ก็ถูกเผยแพร่ออกไปทางเน็ต
Hero Killer Stain ชื่อจริงคือ อาคากุโระ ชิโซเมะ
เขาชื่นชม All Might มาตั้งแต่ตอนที่เปิดตัวและต้องการจะเป็นฮีโร่เช่นกัน แต่เมื่อเขาเข้าเรียนในโรงเรียนฮีโร่แห่งหนึ่งเขาก็ผิดหวังกับวงการฮีโร่ที่เขารู้สึกว่าภายในนั้นเน่าเหม็น และลาออกไปตั้งแต่อยู่ปี 1
เขาใช้เวลาในช่วงวัยรุ่นในการ "ปลุกสำนึกความเป็นฮีโร่ที่แท้จริง" ผ่านการพูดบรรยายตามท้องถนน แต่สุดท้ายก็ต้องพบว่า "คำพูดนั้นไร้ซึ่งพลัง"
ในช่วงสิบปีหลังจากนั้นเขาได้ฝึกฝนร่างกายและเทคนิคการฆ่าด้วยตัวเองเพื่อ "ทำหน้าที่ของตัวเองให้บรรลุ" ซึ่งในช่วงนี้เองพ่อแม่ของเขาก็เสียชีวิตลง (เชื่อกันว่าเขาไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้)
เขาทุ่มเทให้กับการปลุกสำนึกความเป็นฮีโร่อย่างเต็มตัว
ฮีโร่จะต้องไม่ต้องการรางวัลตอบแทนหรือสินจ้างใดๆ ตำแหน่งนั้นจะต้องมีไว้เพื่อผู้ที่ยอมเสียสละตนอย่างแท้จริงเท่านั้น
ฮีโร่ในยุคปัจจุบันล้วนเป็นของปลอมที่แกล้งทำตัวเป็นฮีโร่ เขาจะทำการกวาดล้างพวกมัน เพื่อบังคับให้โลกรับรู้ถึงสิ่งนั้น
และดังนี้สิ่งที่ Gran Torino กลัวก็กำลังจะเป็นจริง
เหล่า "ความชั่วร้าย" ที่เดิมเคยกระจัดกระจาย กำลังถูกเรื่องราวของ Stain ชี้นำไปให้ไปรวมกันที่ Villian Alliance องค์กรที่เขาถูกบอกว่ามีส่วนเกี่ยวข้องด้วย!!!
Spoil Boku no Hero Academia 57 : Hero Killer Stain : ผลที่ตามมา
(Endeavor ดูจะไม่ถูกใจเท่าไหร่ที่ตัวเองไม่ได้เป็นคนจัดการแต่โดนบังคับสมอ้างเพื่อปกป้องพวกอิสึคุเฉยๆ)
ชิคารากิที่ดูข่าวอยู่ไม่ค่อยสบอารมณ์นักที่ข่าวของ Stain ตกเป็นศูนย์กลางความสนใจของสังคมโดยที่พวกโนมุถูกมองข้ามว่าเป็นของแถมเฉยๆ ซึ่งไม่เป็นไปตามที่ชิคารากิต้องการเลยแม้แต่น้อย เพราะจริงๆแล้วเขาต้องการจะให้ข่าวของพวกโนมุกลบความสนใจของสังคมต่อเรื่องของ Stain ต่างหาก
ตัดไปทางนักเรียนคนอื่นๆบ้าง
บาคุโกที่ไปฝึกงานกับ Best Jeanist ฮีโร่อันดับ 4 ก็โดนจับทำผมให้เรียบแปล้ตามแบบของ Best Jeanist ทว่าแค่อึดใจต่อมาผมของบาคุโกก็กลับมาชี้เด่ตามเดิม
(แต่ Best Jeanist ก็ยังสามารถทำให้บาคุโกใส่กางเกงยีนส์ที่เป็นเครื่องหมายการค้าของตัวเองได้ล่ะนะ)
คิริชิมะกับเท็ตสึเท็ตสึฝึกงานกับ Forth Kind อย่างขันแข็ง
(คิริชิมะก็ได้รับข้อความของอิสึคุเช่นกัน ซึงเขาที่อยู่ไกลจากที่เกิดเหตุก็ทำได้แค่รายงานเรื่องนี้ไปเท่านั้น)
โมโมะกับเคนโดสาวจากห้อง 1-B ก็ได้เข้าร่วมถ่ายโฆษณากับอุบาวามิ และจะได้รับอานิสงค์ออกทีวีไปด้วย
ทางด้านอิสึคุ ได้โทรศัพท์ไปแจ้งข่าวเรื่องที่เกิดขึ้นให้โอจาโกะได้ทราบ ซึ่งเธอก็บอกว่าเมื่อตอนที่เธอได้ข้อความจากอิสึคุนั้นเธอตกใจจนใจเต้นเลย แต่ก็ดีใจที่ทั้งอิสึคุและอีดะปลอดภัย
(โอจาโกะโดน Gunhead ฮีโร่ที่ไปฝึกงานแซวว่าคุยเรื่องรักๆหรือไงจ๊ะถึงได้ใจเต้น)
อิสึคุหลังจากคุยกับโอจาโกะจบก็นั่งตื่นเต้นอยู่คนเดียวด้วยว่าเพิ่งได้คุยโทรศัพท์กับเด็กผู้หญิงมา...
เขากลับไปที่ห้องรวมที่ใช้ร่วมกับอีดะและโทโดโรกิ และได้ข่าวไม่ค่อยดีจากอีดะว่าแขนซ้ายของเขาจะมีอาการแทรกซ้อนที่จะไม่หายขาดจากบาดแผลในครั้งนี้
อีดะบอกว่าอาการมันจะเป็นแค่ขยับนิ้วได้ลำบากและอาการชาที่แขน ซึ่งถ้าหากว่าผ่าตัดก็อาจจะรักษาให้หายขาดได้
แต่อีดะรู้สึกว่าในครั้งนี้เขาทำตัวไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง แม้เขาจะเกลียด Stain แต่ก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าสิ่งที่เจ้านั่นพูดเป็นเรื่องจริง เขานั้นยังขาดคุณสมบัติเป็นฮีโร่
ดังนั้นจนกว่าเขาจะได้เป็นฮีโร่อย่างแท้จริง เขาจะปล่อยให้แขนซ้ายของเขาเป็นแบบนี้เพื่อเป็นสิ่งเตือนใจ
อิสึคุได้ยินดังนั้นก็อึ้งไป แต่ก็รู้ดีว่าถึงพูดปลอบหรือขอโทษไปก็ไม่ช่วยอะไรขึ้นมา และเขาก็มองไปที่มือขวาที่เป็นแผลยับเยิน ที่เป็นสิ่งเตือนใจถึงการที่เขาใช้พลังโดยไม่ยั้งคิดถึงผลที่ตามมาต่อตัวเองและคนอื่น
ทั้งสองคนจึงให้คำมั่นว่าจะแข็งแกร่งขึ้นไปพร้อมๆกัน
ตอนนั้นเองจู่ๆโทโดโรกิก็พูดขอโทษทั้งสองคน เพราะเขาเกิดความรู้สึกแปลกๆขึ้นมาว่าพอเขาเข้าไปเกี่ยวกับเรื่องของใครเข้า มือของคนในเหตุการณ์ก็จะมีปัญหาขึ้นมาทุกที
(มือของอิสึคุกระดูกแตกยับเยินจากการต่อสู้กับโทโดโรกิในตอนงานโรงเรียน ส่วนอีดะบาดเจ็บที่แขนส่วนหนึ่งเพราะพยายามปกป้องโทโดโรกิ)
ทั้งอิสึคุและอีดะจึงต้องรีบบอกให้โทโดโรกิอย่าคิดมาก แต่เจ้าตัวก็คิดไปแล้วว่าตัวเองมี "คำสาปขยี้มือ" อยู่หรือเปล่า...
ตัดไปทาง Gran Torino
เขากำลังพูดกับ All Might ถึงเรื่องที่เกิดขึ้น โดยผลจากเรื่องที่เกิดขึ้นกับอิสึคุทำให้ Gran Torino โดนหักเงินค่าปฏิบัติงานและโดนพักใบอนุญาติฝึกสอนไปครึ่งปี และบอกว่านิสัยร่างกายขยับไปก่อนสมองคิดของอิสึคุมันเหมือนกับ All Might ไม่มีผิด
แต่ตัว Gran Torino ก็ไม่ได้คิดมากนัก แถมใบอนุญาติฝึกสอนก็ไม่ได้สำคัญกับเขาแล้ว เพราะที่เขาสอบใบอนุญาตินั่นมาก็เพื่อฝึกสอน All Might แทนเพื่อนของเขา "ชิมูระ" ที่เป็นผู้ถ่ายทอด One For All ให้ All Might ด้วย ทำให้ตอนนี้เขาไม่ได้ใช้มันอีกแล้ว
แล้วก็มาถึงเรื่องของ Stain ซึ่งแม้ Gran Torino จะเจอกับเจ้านั่นเพียงไม่กี่นาที แต่เขาก็ถึงกับเสียวสันหลัง เพราะพลังกดดันที่มีจากความคิดยึดติดสุดขั้วของ Stain นั้นรุนแรงมาก ถึงขนาดที่เขาคิดว่ามันใกล้เคียงกับความรู้สึกรับผิดชอบในฐานะ "สัญลักษณ์แห่งสันติภาพ" ของตัว All Might เลยทีเดียว
และตรงจุดนั้นแหละที่เป็นปัญหา เพราะเมื่อ Stain ถูกสอบสวนโดยตำรวจ ความคิดของเจ้านั่นก็จะถูกแพร่ออกไปตามสื่อต่างๆ และมันจะต้องมีผู้ที่ได้รับอิทธิพลจากความคิดนั้นปรากฎขึ้นมาแน่ๆ ซึ่งแม้วายร้ายคนเดียวโดดๆจะไม่มีพิษภัยมากมายนัก แต่การที่ Stain มีส่วนเกี่ยวข้องกับ Villian Alliance ก็จะทำให้ความชั่วร้ายเล็กๆมารวมกลุ่มกันที่นั่น และนั่นก็จะทำให้มันกลายเป็นพลังอันยิ่งใหญ่ขึ้นมา
ซึ่งตรงนี้ Gran Torino ก็คิดว่ามีใครบางคนวางแผนให้เรื่องมันเป็นอย่างนี้ตั้งแต่ต้น และเขาก็รู้สึกว่ามันน่าจะเป็นคนที่ฆ่าอาจารย์ของ All Might และทลวงร่างของ All Might จนบาดเจ็บสาหัสจนเขาเป็นอย่างในปัจจุบันนี้ วายร้ายที่ครอบครองพลัง "ALL FOR ONE"
All Might ไม่อยากเชื่อว่า "เจ้านั่น" จะยังมีชีวิตอยู่ทั้งที่เขาเล่นงานมันไปอย่างหนักไปแล้ว แต่ Gran Torino ก็แนะนำว่า All Might ควรจะหาโอกาสบอกเล่าเรื่องราวของตัวเขาและพลัง One For All ให้อิสึคุรับรู้เอาไว้จะดีกว่า
สองวันหลังจากนั้นเรื่องราวของ Stain ก็ถูกเผยแพร่ออกไปทางเน็ต
Hero Killer Stain ชื่อจริงคือ อาคากุโระ ชิโซเมะ
เขาชื่นชม All Might มาตั้งแต่ตอนที่เปิดตัวและต้องการจะเป็นฮีโร่เช่นกัน แต่เมื่อเขาเข้าเรียนในโรงเรียนฮีโร่แห่งหนึ่งเขาก็ผิดหวังกับวงการฮีโร่ที่เขารู้สึกว่าภายในนั้นเน่าเหม็น และลาออกไปตั้งแต่อยู่ปี 1
เขาใช้เวลาในช่วงวัยรุ่นในการ "ปลุกสำนึกความเป็นฮีโร่ที่แท้จริง" ผ่านการพูดบรรยายตามท้องถนน แต่สุดท้ายก็ต้องพบว่า "คำพูดนั้นไร้ซึ่งพลัง"
ในช่วงสิบปีหลังจากนั้นเขาได้ฝึกฝนร่างกายและเทคนิคการฆ่าด้วยตัวเองเพื่อ "ทำหน้าที่ของตัวเองให้บรรลุ" ซึ่งในช่วงนี้เองพ่อแม่ของเขาก็เสียชีวิตลง (เชื่อกันว่าเขาไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้)
เขาทุ่มเทให้กับการปลุกสำนึกความเป็นฮีโร่อย่างเต็มตัว
ฮีโร่จะต้องไม่ต้องการรางวัลตอบแทนหรือสินจ้างใดๆ ตำแหน่งนั้นจะต้องมีไว้เพื่อผู้ที่ยอมเสียสละตนอย่างแท้จริงเท่านั้น
ฮีโร่ในยุคปัจจุบันล้วนเป็นของปลอมที่แกล้งทำตัวเป็นฮีโร่ เขาจะทำการกวาดล้างพวกมัน เพื่อบังคับให้โลกรับรู้ถึงสิ่งนั้น
และดังนี้สิ่งที่ Gran Torino กลัวก็กำลังจะเป็นจริง
เหล่า "ความชั่วร้าย" ที่เดิมเคยกระจัดกระจาย กำลังถูกเรื่องราวของ Stain ชี้นำไปให้ไปรวมกันที่ Villian Alliance องค์กรที่เขาถูกบอกว่ามีส่วนเกี่ยวข้องด้วย!!!