เปิดเรื่องมาที่โรงเรียนยูเอย์
หลังชั่วโมงเรียนภาคปฏิบัติ
อิสึคุรู้สึกกังวลใจกับเรื่องที่ All Might ต้องการจะคุยกับเขา เพราะท่าทาง All Might
ตอนนั้นเองมิเนตะก็เรียกอิสึคุมาดูสิ่งที่ตัวเองค้นพบเข้า
สิ่งนั้นก็คือ "รูแอบดู" ที่จะสามารถดูห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าหญิงที่อยู่ข้างๆได้นั่นเอง ซึ่งมิเนตะก็คาดว่าเป็นของตกทอดจากนักเรียนรุ่นก่อนๆนั่นเอง
ซึ่งอีดะก็รีบบอกมิเนตะให้เลิกคิดเสีย แต่นายหัวองุ่นที่กำลังตื่นเต้นสุดขีดไม่สนใจอะไรทั้งนั้นแล้ว และหลังจากพล่ามไร้สาระเสียยืดยาวก็เอาตาไปแนบกับรูแอบดูนั้นทันที!
และต้องพบกับสายเสียบหูฟังเสียบเข้าที่ตาไปเต็มๆ...
ในเมื่อกำแพงมันมีรู แล้วดันโวยวายซะดังลั่นแบบนั้นอีกฟากของห้องก็ต้องได้ยินอยู่แล้ว แถมอัตลักษณ์ Ear Phone Jack ของเคียวกะยังใช้ฟังเสียงอีกฟากของกำแพงได้ด้วย
(เคียวกะมีเคืองที่ตอนมิเนตะพล่ามนั้นไม่พูดถึงเธออยู่คนเดียว...เพราะเธอไม่อึ๋มเหมือนสาวๆคนอื่น)
ว่าแล้วเคียวกะก็อัดพลังเสียงผ่านทางสายเสียบหูฟังเข้าไปที่เบ้าตาของมิเนตะซ้ำเข้าไปอีก
หลังจากนั้น อิสึคุมาพบกับ All Might ที่ห้องพักอาจารย์
ซึ่ง All Might ก็บอกให้อิสึคุล็อคประตูเสีย ซึ่งอิสึคุก็ทำตาม
เริ่มแรก All Might พูดถึงเรื่องคดี Hero Killer Stain ก่อนหน้านี้ ซึ่งอิสึคุโดนเลียเลือดไประหว่างการต่อสู้กับ Stain
อิสึคุจำเรื่องนั้นได้ดี เพราะอัตลักษณ์ของ Stain คือการทำให้คนที่ถูกมันเลียเลือดจะขยับไม่ได้
All Might พูดต่อว่าเมื่อตอนที่เขามอบอัตลักษณ์ One For All ให้อิสึคุ เขาได้ให้อิสึคุรับเอา DNA ของเขาเข้าไปในตัวโดยการให้กินเส้นผมของเขาไป
ถึงตรงนี้อิสึคุก็ตกใจเพราะเพิ่งนึกขึ้นได้ และถาม All Might ว่าแบบนี้จะกลายเป็นว่า Stain ได้ One For All ไปแล้วหรือเปล่า?!
แต่ All Might ก็บอกว่าไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องนี้ เพราะการจะถ่ายทอด One For All นั้นผู้ที่เป็นเจ้าของพลังในตอนนั้นจะต้องตั้งใจที่จะมอบพลังด้วย ถึงจะได้ผล ดังนั้นจึงไม่มีทางที่จะบังคับชิงเอาพลังนี้ไปได้ แต่ก็สามารถที่จะบังคับถ่ายทอดพลังนี้ได้อยู่
One For All เป็นอัตลักษณ์ที่พิเศษ เช่นเดียวกับที่มาของมัน เพราะมันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจากอัตลักษณ์อันหนึ่งที่มีมาตั้งแต่เกิดปรากฎการณ์ที่คนมีพลังพิเศษขึ้น
ชื่อของอัตลักษณ์นั้นคือ "All For One" มันคืออัตลักษณ์ที่สามารถช่วงชิงเอาอัตลักษณ์ของผู้อื่นแล้วเอามาเป็นของตัวเอง และยังสามารถเอาอัตลักษณ์เหล่านั้นไปมอบให้กับคนอื่นได้อีกด้วย
ในอดีตสมัยที่ "อัตลักษณ์" เริ่มปรากฎขึ้น เกิดความปั่นป่วนขึ้นไปทั่ว ความขัดแย้งระหว่างผู้มีพลังและไม่มีพลังขึ้นถึงขีดสุด กฎหมายไร้ประสิทธิภาพ พัฒนาการทางสังคมหยุดชะงัก และเกิดหายนะขึ้นไปทั่ว
อิสึคุก็รู้เรื่องนี้ดี รวมถึงการที่มีคนดังเคยกล่าวว่า "ถ้าไม่มีปรากฎการณ์นั้นเกิดขึ้น ป่านนี้มนุษยชาติคงจะไปถึงขั้นเดินทางระหว่างดวงดาวไปแล้ว"
และในยุคนั้นเองก็มีคนๆหนึ่งปรากฎขึ้น เจ้านั่นขโมยอัตลักษณ์ของผู้คนมากมายและขยายอิทธิพลของตัวเองไปทั่ว มันใช้ผู้คนเหมือนเป็นตัวหมากเพื่อแผนการของตนและเพาะสร้างความชั่วร้ายเพื่อความสำราญของตัวเอง และเพียงชั่วพริบตามันก็กลายเป็นผู้ปกครองญี่ปุ่นอยู่ในเงามืด
อิสึคุก็เคยได้ยินเรื่องนี้ทางเน็ตเหมือนกัน แต่เขานึกว่ามันเป็นแค่ข่าวลือเพราะในหนังสือเรียนประวัติศาสตร์ไม่มีการบันทึกไว้เลย
All Might ก็บอกว่าเรื่องที่เกิดขึ้นในสังคมมืดอย่างยากูซ่ามักไม่ได้ถูกบันทึกในตำราเรียนอยู่แล้ว แถมคนที่มีพลังพิเศษก็ต้องการที่ๆจะสามารถใช้มันได้ด้วย
แต่อิสึคุก็ยังไม่เข้าใจว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับ One For All ยังไง?
All Might จึงพูดต่อว่า All For One นั้นสามารถมอบอัตลักษณ์ที่ขโมยมาให้ผู้อื่นได้ ซึ่งเหตุผลที่มันจะมอบพลังให้ใครนั้นก็อาจมีทั้งเพื่อเป็นการแสดงความเชื่อถือที่มันมีต่อคนๆนั้น หรือเพื่อทำให้คนเปลี่ยนมาอยู่ฝ่ายมันก็ได้
แต่ปัญหาคือถ้าร่างกายของผู้รับไม่สามารถทนพลังที่ได้รับมาได้ คนเหล่านั้นก็จะกลายเป็นเหมือนตุ๊กตาที่ไร้ซึ่งความคิดของตัวเอง...เหมือนกับพวก "โนมุ" นั่นเอง...
อย่างไรก็ตามในบรรดาผู้ที่ได้รับพลังนั้น ก็มีกรณีที่อัตลักษณ์เกิดกลายสภาพและหลอมรวมกับอัตลักษณ์ที่มีอยู่เดิม
ผู้ใช้ All For One นั้นมีน้องชายที่ไม่มีอัตลักษณ์อยู่คนหนึ่ง ซึ่งน้องชายของเขาแม้จะอ่อนแอแต่ก็มีใจรักความถูกต้องอย่างแรงกล้า ทำให้เขาต่อต้านพี่ชายของเขา
All For One จึงได้มอบอัตลักษณ์ที่สามารถ "สั่งสมพลังกาย" ให้กับน้องชายของตน ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะเป็นเพราะความเห็นใจ หรือต้องการทำให้น้องชายมาเป็นลูกน้องของตนกันแน่เหมือนกัน
แต่สิ่งที่ไม่มีใครรู้คือจริงๆแล้วคนน้องนั้นมีอัตลักษณ์อยู่ เป็นอัตลักษณ์ที่ "สามารถถ่ายทอดพลังของตนให้กับคนอื่นได้" ซึ่งมันควรจะไร้ประโยชน์สิ้นดีเพราะในเมื่อตัวเจ้าของมีร่างกายที่อ่อนแอ แล้วจะถ่ายทอดให้คนอื่นไปทำไมกัน?
ตอนนั้นเองอัตลักษณ์ที่สามารถ "สั่งสมพลังกาย" และอัตลักษณ์ที่สามารถ "ถ่ายทอดพลังของตนให้กับคนอื่นได้" ก็หลอมรวมเข้าด้วยกัน! นั่นเองคือที่มาของ One For All!!
แต่ถึงตรงนี้อิสึคุก็เริ่มไม่เข้าใจ ว่าถ้า All For One เกี่ยวข้องกับพวกโนมุ แล้วคนที่มีตัวตนอยู่มาตั้งแต่นานมาแล้วจะยังมีชีวิตอยู่ได้ยังไง?
All Might ก็บอกว่าเจ้านั่นสามารถขโมยอัตลักษณ์ของคนอื่นได้ ดังนั้นถ้ามันได้อัตลักษณ์พวกที่ชลอความแก่ได้มา ก็เป็นไปได้ที่มันจะมีชีวิตยืนยาวขนาดนั้นได้
เจ้านั่นเป็นสัญลักษณ์แห่งความชั่วร้ายที่สามารถคงอยู่ได้ไม่มีขีดจำกัด แม้แต่คนน้องก็ต้องยอมรับว่าความแตกต่างของพลังมันกว้างเกินไป ไม่มีทางที่จะเอาชนะพี่ชายได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงสภาพของสังคมในตอนนั้นด้วยเลย
คนน้องจึงเลือกที่จะฝากให้เป็นหน้าที่ของคนรุ่นหลัง ว่าถึงแม้ตัวเขาจะทำไม่ได้...พลังของเขาก็จะถูกสั่งสมมากขึ้นเรื่อยๆที่ละน้อย...และสักวันหนึ่งก็จะสามารถพิชิตความชั่วร้ายของพี่ชายเขาได้
และในรุ่นที่ 8 ซึ่งก็คือ All Might เขาก็สามารถเอาชนะมันได้!! แต่เจ้านั่นกลับยังมีชีวิตอยู่ และตอนนี้มันคือมันสมองที่อยู่เบื้องหลัง Villian Alliance!!
One For All คือพลังที่ถูกถ่ายทอดต่อๆกันมาเพื่อเอาชนะ All For One และสักวันหนึ่งตัวอิสึคุเองก็จะต้องเผชิญหน้ากับเจ้านั่น...ความชั่วร้ายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดนั้น...ในการต่อสู้ครั้งสุดท้าย
ซึ่ง All Might ก็ไม่สบายใจนักที่ต้องให้อิสึคุต้องมาแบกรับภาระนี้ แต่อิสึคุก็บอกว่าเขายินดีที่จะรับภาระนี้ เพราะตราบใดที่มี All Might อยู่ข้างเขา เขาสามารถทำได้ทุกอย่าง!!
ถึงตรงนี้ All Might ก็อึ้งไป...
"บอกเขาไปสิ All Might"
"แกต้องบอกเขา"
"หนุ่มน้อยมิโดริยะ...เรื่องนั้นมัน..."
"ตัวฉัน...อาจจะไม่ได้อยู่ข้างกายเธอ...เมื่อเวลานั้นมาถึงก็ได้"
แต่ All Might ก็ไม่สามารถพูดออกไปได้...และทำได้เพียงกล่าวขอบใจอิสึคุเท่านั้น...
หลังจากนั้น ในชั่วโมงเรียน
อ.ไอซาว่าได้แจ้งให้นักเรียนทราบว่าวันหยุดภาคฤดูร้อนกำลังจะมาถึง และพวกเขาจะได้ไปเข้าค่ายบนภูเขาเพื่อฝึกนอกสถานที่กัน
แต่ทว่า...ถ้ามีใครสอบปลายภาคตกก็จะต้องอยู่รับนรกเรียนซ่อมเสริมที่โรงเรียนตลอดหน้าร้อนแทน!
ทุกคนในชั้นต่างก็ตื่นเต้นกันมาก
โดยไม่มีใครรู้เลยว่าในขณะเดียวกันนั้น...
ที่นิวยอร์ค สหรัฐอเมริกา
"อาจารย์" กำลังวิเคราะห์เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเขาไม่นึกว่า Hero Killler จะโดนจับกุมได้ แต่ถึงกระนั้นผลที่ได้ก็ยังเป็นไปตามที่ต้องการอยู่
พวกที่ต้องการจะหาที่อาละวาดและพวกที่อยากเอาอย่าง Stain กำลังมารวมกันที่ Villian Alliance เพื่อหาที่ๆตนสามารถทำตามที่ต้องการได้ และชิคารากิ โทมูระก็จะเป็นผู้ที่รวบรวมและชี้นำพวกนั้น
ถึงตรงนี้หมอที่ดูแลเขาอยู่ก็บอกว่าถ้าตัว "อาจารย์" เป็นคนจัดการเองอะไรๆก็คงจะราบรื่นกว่านี้
"อาจารย์" ก็บอกว่าน่าเสียดายที่เขาได้อัตลักษณ์รักษาตัวเองระดับสุดยอดมาช้าไปห้าปี เพราะในเมื่อตอนนี้แผลเขาปิดสนิทหมดแล้ว ได้อัตลักษณ์นั้นมามันก็ไร้ความหมาย
แต่ "อาจารย์" ก็จะให้ชิคารากิเป็นคนรับผิดชอบทำงานหนักไป เพื่อว่าเจ้านั่นจะได้พัฒนาขึ้นเป็น "ตัวเขา" คนต่อไป เพราะเจ้านั่นเกิดมาพร้อมกับความบิดเบี้ยวเพียงพอสำหรับเรื่องนั้นอยู่แล้ว
ในเงามืด ใบหน้าของ "อาจารย์" ก็ปรากฏขึ้น กว่าสามในสี่ของใบหน้าของมันนั้นเป็นเนื้อเยื่อแผลเป็นจนมองไม่เห็นทั้งดวงตา, จมูก และหูเลยด้วยซ้ำ!!! รวมถึงมีท่อจำนวนมากฝังเข้าไปในคอด้วย!!
อาจารย์ : เชิญแกมีความสุขกับสันติภาพจอมปลอมที่แสนเปราะบางนี้ให้เต็มที่ในระหว่างที่แกยังสามารถทำได้อยู่ไปเถอะ All Might
Spoil Boku no Hero Academia 59 : เรียนรู้ที่มาของตนเอง!!
หลังชั่วโมงเรียนภาคปฏิบัติ
อิสึคุรู้สึกกังวลใจกับเรื่องที่ All Might ต้องการจะคุยกับเขา เพราะท่าทาง All Might
ตอนนั้นเองมิเนตะก็เรียกอิสึคุมาดูสิ่งที่ตัวเองค้นพบเข้า
สิ่งนั้นก็คือ "รูแอบดู" ที่จะสามารถดูห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าหญิงที่อยู่ข้างๆได้นั่นเอง ซึ่งมิเนตะก็คาดว่าเป็นของตกทอดจากนักเรียนรุ่นก่อนๆนั่นเอง
ซึ่งอีดะก็รีบบอกมิเนตะให้เลิกคิดเสีย แต่นายหัวองุ่นที่กำลังตื่นเต้นสุดขีดไม่สนใจอะไรทั้งนั้นแล้ว และหลังจากพล่ามไร้สาระเสียยืดยาวก็เอาตาไปแนบกับรูแอบดูนั้นทันที!
และต้องพบกับสายเสียบหูฟังเสียบเข้าที่ตาไปเต็มๆ...
ในเมื่อกำแพงมันมีรู แล้วดันโวยวายซะดังลั่นแบบนั้นอีกฟากของห้องก็ต้องได้ยินอยู่แล้ว แถมอัตลักษณ์ Ear Phone Jack ของเคียวกะยังใช้ฟังเสียงอีกฟากของกำแพงได้ด้วย
(เคียวกะมีเคืองที่ตอนมิเนตะพล่ามนั้นไม่พูดถึงเธออยู่คนเดียว...เพราะเธอไม่อึ๋มเหมือนสาวๆคนอื่น)
ว่าแล้วเคียวกะก็อัดพลังเสียงผ่านทางสายเสียบหูฟังเข้าไปที่เบ้าตาของมิเนตะซ้ำเข้าไปอีก
หลังจากนั้น อิสึคุมาพบกับ All Might ที่ห้องพักอาจารย์
ซึ่ง All Might ก็บอกให้อิสึคุล็อคประตูเสีย ซึ่งอิสึคุก็ทำตาม
เริ่มแรก All Might พูดถึงเรื่องคดี Hero Killer Stain ก่อนหน้านี้ ซึ่งอิสึคุโดนเลียเลือดไประหว่างการต่อสู้กับ Stain
อิสึคุจำเรื่องนั้นได้ดี เพราะอัตลักษณ์ของ Stain คือการทำให้คนที่ถูกมันเลียเลือดจะขยับไม่ได้
All Might พูดต่อว่าเมื่อตอนที่เขามอบอัตลักษณ์ One For All ให้อิสึคุ เขาได้ให้อิสึคุรับเอา DNA ของเขาเข้าไปในตัวโดยการให้กินเส้นผมของเขาไป
ถึงตรงนี้อิสึคุก็ตกใจเพราะเพิ่งนึกขึ้นได้ และถาม All Might ว่าแบบนี้จะกลายเป็นว่า Stain ได้ One For All ไปแล้วหรือเปล่า?!
แต่ All Might ก็บอกว่าไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องนี้ เพราะการจะถ่ายทอด One For All นั้นผู้ที่เป็นเจ้าของพลังในตอนนั้นจะต้องตั้งใจที่จะมอบพลังด้วย ถึงจะได้ผล ดังนั้นจึงไม่มีทางที่จะบังคับชิงเอาพลังนี้ไปได้ แต่ก็สามารถที่จะบังคับถ่ายทอดพลังนี้ได้อยู่
One For All เป็นอัตลักษณ์ที่พิเศษ เช่นเดียวกับที่มาของมัน เพราะมันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจากอัตลักษณ์อันหนึ่งที่มีมาตั้งแต่เกิดปรากฎการณ์ที่คนมีพลังพิเศษขึ้น
ชื่อของอัตลักษณ์นั้นคือ "All For One" มันคืออัตลักษณ์ที่สามารถช่วงชิงเอาอัตลักษณ์ของผู้อื่นแล้วเอามาเป็นของตัวเอง และยังสามารถเอาอัตลักษณ์เหล่านั้นไปมอบให้กับคนอื่นได้อีกด้วย
ในอดีตสมัยที่ "อัตลักษณ์" เริ่มปรากฎขึ้น เกิดความปั่นป่วนขึ้นไปทั่ว ความขัดแย้งระหว่างผู้มีพลังและไม่มีพลังขึ้นถึงขีดสุด กฎหมายไร้ประสิทธิภาพ พัฒนาการทางสังคมหยุดชะงัก และเกิดหายนะขึ้นไปทั่ว
อิสึคุก็รู้เรื่องนี้ดี รวมถึงการที่มีคนดังเคยกล่าวว่า "ถ้าไม่มีปรากฎการณ์นั้นเกิดขึ้น ป่านนี้มนุษยชาติคงจะไปถึงขั้นเดินทางระหว่างดวงดาวไปแล้ว"
และในยุคนั้นเองก็มีคนๆหนึ่งปรากฎขึ้น เจ้านั่นขโมยอัตลักษณ์ของผู้คนมากมายและขยายอิทธิพลของตัวเองไปทั่ว มันใช้ผู้คนเหมือนเป็นตัวหมากเพื่อแผนการของตนและเพาะสร้างความชั่วร้ายเพื่อความสำราญของตัวเอง และเพียงชั่วพริบตามันก็กลายเป็นผู้ปกครองญี่ปุ่นอยู่ในเงามืด
อิสึคุก็เคยได้ยินเรื่องนี้ทางเน็ตเหมือนกัน แต่เขานึกว่ามันเป็นแค่ข่าวลือเพราะในหนังสือเรียนประวัติศาสตร์ไม่มีการบันทึกไว้เลย
All Might ก็บอกว่าเรื่องที่เกิดขึ้นในสังคมมืดอย่างยากูซ่ามักไม่ได้ถูกบันทึกในตำราเรียนอยู่แล้ว แถมคนที่มีพลังพิเศษก็ต้องการที่ๆจะสามารถใช้มันได้ด้วย
แต่อิสึคุก็ยังไม่เข้าใจว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับ One For All ยังไง?
All Might จึงพูดต่อว่า All For One นั้นสามารถมอบอัตลักษณ์ที่ขโมยมาให้ผู้อื่นได้ ซึ่งเหตุผลที่มันจะมอบพลังให้ใครนั้นก็อาจมีทั้งเพื่อเป็นการแสดงความเชื่อถือที่มันมีต่อคนๆนั้น หรือเพื่อทำให้คนเปลี่ยนมาอยู่ฝ่ายมันก็ได้
แต่ปัญหาคือถ้าร่างกายของผู้รับไม่สามารถทนพลังที่ได้รับมาได้ คนเหล่านั้นก็จะกลายเป็นเหมือนตุ๊กตาที่ไร้ซึ่งความคิดของตัวเอง...เหมือนกับพวก "โนมุ" นั่นเอง...
อย่างไรก็ตามในบรรดาผู้ที่ได้รับพลังนั้น ก็มีกรณีที่อัตลักษณ์เกิดกลายสภาพและหลอมรวมกับอัตลักษณ์ที่มีอยู่เดิม
ผู้ใช้ All For One นั้นมีน้องชายที่ไม่มีอัตลักษณ์อยู่คนหนึ่ง ซึ่งน้องชายของเขาแม้จะอ่อนแอแต่ก็มีใจรักความถูกต้องอย่างแรงกล้า ทำให้เขาต่อต้านพี่ชายของเขา
All For One จึงได้มอบอัตลักษณ์ที่สามารถ "สั่งสมพลังกาย" ให้กับน้องชายของตน ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะเป็นเพราะความเห็นใจ หรือต้องการทำให้น้องชายมาเป็นลูกน้องของตนกันแน่เหมือนกัน
แต่สิ่งที่ไม่มีใครรู้คือจริงๆแล้วคนน้องนั้นมีอัตลักษณ์อยู่ เป็นอัตลักษณ์ที่ "สามารถถ่ายทอดพลังของตนให้กับคนอื่นได้" ซึ่งมันควรจะไร้ประโยชน์สิ้นดีเพราะในเมื่อตัวเจ้าของมีร่างกายที่อ่อนแอ แล้วจะถ่ายทอดให้คนอื่นไปทำไมกัน?
ตอนนั้นเองอัตลักษณ์ที่สามารถ "สั่งสมพลังกาย" และอัตลักษณ์ที่สามารถ "ถ่ายทอดพลังของตนให้กับคนอื่นได้" ก็หลอมรวมเข้าด้วยกัน! นั่นเองคือที่มาของ One For All!!
แต่ถึงตรงนี้อิสึคุก็เริ่มไม่เข้าใจ ว่าถ้า All For One เกี่ยวข้องกับพวกโนมุ แล้วคนที่มีตัวตนอยู่มาตั้งแต่นานมาแล้วจะยังมีชีวิตอยู่ได้ยังไง?
All Might ก็บอกว่าเจ้านั่นสามารถขโมยอัตลักษณ์ของคนอื่นได้ ดังนั้นถ้ามันได้อัตลักษณ์พวกที่ชลอความแก่ได้มา ก็เป็นไปได้ที่มันจะมีชีวิตยืนยาวขนาดนั้นได้
เจ้านั่นเป็นสัญลักษณ์แห่งความชั่วร้ายที่สามารถคงอยู่ได้ไม่มีขีดจำกัด แม้แต่คนน้องก็ต้องยอมรับว่าความแตกต่างของพลังมันกว้างเกินไป ไม่มีทางที่จะเอาชนะพี่ชายได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงสภาพของสังคมในตอนนั้นด้วยเลย
คนน้องจึงเลือกที่จะฝากให้เป็นหน้าที่ของคนรุ่นหลัง ว่าถึงแม้ตัวเขาจะทำไม่ได้...พลังของเขาก็จะถูกสั่งสมมากขึ้นเรื่อยๆที่ละน้อย...และสักวันหนึ่งก็จะสามารถพิชิตความชั่วร้ายของพี่ชายเขาได้
และในรุ่นที่ 8 ซึ่งก็คือ All Might เขาก็สามารถเอาชนะมันได้!! แต่เจ้านั่นกลับยังมีชีวิตอยู่ และตอนนี้มันคือมันสมองที่อยู่เบื้องหลัง Villian Alliance!!
One For All คือพลังที่ถูกถ่ายทอดต่อๆกันมาเพื่อเอาชนะ All For One และสักวันหนึ่งตัวอิสึคุเองก็จะต้องเผชิญหน้ากับเจ้านั่น...ความชั่วร้ายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดนั้น...ในการต่อสู้ครั้งสุดท้าย
ซึ่ง All Might ก็ไม่สบายใจนักที่ต้องให้อิสึคุต้องมาแบกรับภาระนี้ แต่อิสึคุก็บอกว่าเขายินดีที่จะรับภาระนี้ เพราะตราบใดที่มี All Might อยู่ข้างเขา เขาสามารถทำได้ทุกอย่าง!!
ถึงตรงนี้ All Might ก็อึ้งไป...
"บอกเขาไปสิ All Might"
"แกต้องบอกเขา"
"หนุ่มน้อยมิโดริยะ...เรื่องนั้นมัน..."
"ตัวฉัน...อาจจะไม่ได้อยู่ข้างกายเธอ...เมื่อเวลานั้นมาถึงก็ได้"
แต่ All Might ก็ไม่สามารถพูดออกไปได้...และทำได้เพียงกล่าวขอบใจอิสึคุเท่านั้น...
หลังจากนั้น ในชั่วโมงเรียน
อ.ไอซาว่าได้แจ้งให้นักเรียนทราบว่าวันหยุดภาคฤดูร้อนกำลังจะมาถึง และพวกเขาจะได้ไปเข้าค่ายบนภูเขาเพื่อฝึกนอกสถานที่กัน
แต่ทว่า...ถ้ามีใครสอบปลายภาคตกก็จะต้องอยู่รับนรกเรียนซ่อมเสริมที่โรงเรียนตลอดหน้าร้อนแทน!
ทุกคนในชั้นต่างก็ตื่นเต้นกันมาก
โดยไม่มีใครรู้เลยว่าในขณะเดียวกันนั้น...
ที่นิวยอร์ค สหรัฐอเมริกา
"อาจารย์" กำลังวิเคราะห์เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเขาไม่นึกว่า Hero Killler จะโดนจับกุมได้ แต่ถึงกระนั้นผลที่ได้ก็ยังเป็นไปตามที่ต้องการอยู่
พวกที่ต้องการจะหาที่อาละวาดและพวกที่อยากเอาอย่าง Stain กำลังมารวมกันที่ Villian Alliance เพื่อหาที่ๆตนสามารถทำตามที่ต้องการได้ และชิคารากิ โทมูระก็จะเป็นผู้ที่รวบรวมและชี้นำพวกนั้น
ถึงตรงนี้หมอที่ดูแลเขาอยู่ก็บอกว่าถ้าตัว "อาจารย์" เป็นคนจัดการเองอะไรๆก็คงจะราบรื่นกว่านี้
"อาจารย์" ก็บอกว่าน่าเสียดายที่เขาได้อัตลักษณ์รักษาตัวเองระดับสุดยอดมาช้าไปห้าปี เพราะในเมื่อตอนนี้แผลเขาปิดสนิทหมดแล้ว ได้อัตลักษณ์นั้นมามันก็ไร้ความหมาย
แต่ "อาจารย์" ก็จะให้ชิคารากิเป็นคนรับผิดชอบทำงานหนักไป เพื่อว่าเจ้านั่นจะได้พัฒนาขึ้นเป็น "ตัวเขา" คนต่อไป เพราะเจ้านั่นเกิดมาพร้อมกับความบิดเบี้ยวเพียงพอสำหรับเรื่องนั้นอยู่แล้ว
ในเงามืด ใบหน้าของ "อาจารย์" ก็ปรากฏขึ้น กว่าสามในสี่ของใบหน้าของมันนั้นเป็นเนื้อเยื่อแผลเป็นจนมองไม่เห็นทั้งดวงตา, จมูก และหูเลยด้วยซ้ำ!!! รวมถึงมีท่อจำนวนมากฝังเข้าไปในคอด้วย!!
อาจารย์ : เชิญแกมีความสุขกับสันติภาพจอมปลอมที่แสนเปราะบางนี้ให้เต็มที่ในระหว่างที่แกยังสามารถทำได้อยู่ไปเถอะ All Might