[CR] เที่ยวไปกินไป by laser @ ภัตตาคารซันมูน (เกี๊ยวจีน)

กระทู้รีวิว
วันอาทิตย์ที่ 17-7-16 ตอนบ่ายไปซื้อของที่ตลาดนัดจตุจักร ซื้อของเสร็จ

ชวนแฟนไปหล่อเทียนพรรษาที่วัดปทุมวนาราม ตามด้วยกินมื้อเย็นที่ติ่งไท่ฟง ชั้น 7 เซ็นทรัลเวิร์ล

ขึ้นรถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีจตุจักร ระหว่างทางแฟนอยากไปลองร้านที่ซอยงามดูพลี หลังจากที่เคยเดินผ่าน

ระหว่างไปกินมื้อเย็นที่ Malai Coffee House ที่โรงแรมมาเลเซียสองครั้ง

Malai Coffee House @ Malaysia Hotel by laser http://ppantip.com/topic/33361538

และ เที่ยวไปกินไป by laser @ Malai Coffee House & Schneider Weisse http://ppantip.com/topic/35257328

จึงไปต่อรถไฟฟ้าใต้ดินที่สถานีสุขุมวิท ออกจากรถไฟฟ้าใต้ดินที่สถานีลุมพินี ทางด้านทางออกที่ 1 (งามดูพลี)



ออกจากสถานีเลี้ยวขวาเดินไปทางบ่อนไก่ ประมาณ 100 เมตรถึงปากซอยงามดูพลี



เลี้ยวขวาเข้าซอยประมาณ 20 เมตร ร้านที่จะมาอยู่ทางด้านซ้ายมือ



และอยู่เยื้องกับทางเข้าภัตตาคารจันทร์เพ็ญขายทะเล ทางด้านถนนงามดูพลี

แต่อยู่ถึงก่อนถึงลานจอดรถจันทร์เพ็ญ 2 ซึ่งอยู่ถัดไปประมาณ 30 เมตร



ร้านนี้มีชื่อว่า "ภัตตาคารซันมูน"



แต่คนเรียกกันผิด ๆ ว่าร้านเกี๊ยวจีน เพราะคำว่า "เกี๊ยวจีน" บนป้ายไฟชั้นสองของร้าน

เป็นคำแปลอักษรจีนสีแดงสี่คำ คือ "จงกว๋อซุ่ยเจี้ยว" หรือ "ตงก๊กจุ๋ยเกี้ยว" (แต้จิ๋ว) ซึ่งแปลว่า "เกี๊ยวน้ำจีน"

กลายเป็นคำเรียกติดปากทั่วไป ที่ทางร้านไม่สามารถแก้ไขอะไรได้



ร้านเปิดทุกวัน โดยแบ่งเปิดเป็นช่วงสองเวลาทุกวัน

มื้อเที่ยงตั้งแต่ 11.00-14.00 น. มื้อเย็นตั้งแต่ 17.00-21.30 น. มาถึง 16.40 น.

ยืนรออยู่ครู่หนึ่ง ประตูไม่ได้ล็อค จึงเข้าไปนั่งรอในร้าน 10 นาทีถัดมา พนักงานมาเปิดเครื่องปรับอากาศให้

หน้าร้านจอดรถไม่ได้ แต่นำรถไปจอดที่ลานจอดรถจันทร์เพ็ญ 2 แล้วนำบัตรจอดรถประทับตราที่ร้านได้



เป็นครั้งแรกที่มาร้านนี้ หยิบรายการอาหารมาดูก่อน

ปกรายการอาหารแถวแรกเขียนว่า "เย่อเยี่ยโหลว" หรือ "ยิกง้วยเหลา" หรือ "ภัตตาคารสุริยันจันทรา"

หรือ "ภัตตาคารซันมูน" เหมือนซันมูนเลคในไต้หวัน เหมือนจะเป็นร้านอาหารจีนไต้หวัน

ซึ่งปัจจุบันมีหลายร้าน เช่น ร้านเต้าหู้ย่งเหอ ร้านติ่งไต่ฝู ร้านติ่งไท่ฟง ร้านอะจิเซ็น เป็นต้น

แต่ร้านเหล่านี้ก็ผสมอาหารจากหลายถิ่นในจีนแผ่นดินใหญ่ด้วย



รายการมีแค่ 8 หน้า หน้าซ้ายสั่ง 3 อย่าง

หน้าขวาจิ้มไปที่เกี๊ยวหมู-กุ้ง-กุยช่ายลวก ช่างบังเอิญจริง ๆ เป็นเกี๊ยวรายการเดียวที่เหลืออยู่



บะหมี่หมด ก๋วยเตี๋ยวหมด เสี่ยวหลงเปาหมด



ถามพนักงานว่าอาหารของทางร้าน

เป็นอาหารจีนทางแถบไหน พนักงานว่าบอกว่าผสมกันหลายแห่ง



รายการอาหารดูพื้น ๆ ทุกรายการมีราคากำกับ



ยกเว้นเครื่องดื่ม



อาหารใหม่นอกรายการ แฟนสั่งไก่ผัดเสฉวน

ส่วนตัวเองสั่งจานที่แพงที่สุดในร้าน คือ ซี่โครงแพะ

การสั่งสามารถเขียนใส่กระดาษส่งให้พนักงาน หรือ ให้พนักงานมาจดก็ได้



เครื่องปรุงบนโต๊ะมีแค่สองอย่าง คือ พริกไทยและน้ำมันพริก



แต่จะมีซอสเปรี้ยวให้คนละถ้วย



ระหว่างรออาหารขึ้นไปเข้าห้องน้ำที่ชั้นสอง

ด้านหลังเป็นห้องครัว



ด้านหน้ากั้นเป็นห้อง มีโต๊ะนั่งแบบโต๊ะกลมอีกสี่โต๊ะ



เครื่องดื่มของแฟนเป็นชาจีนมะลิร้อน 1 กา 15 บาท

ของตัวเองตั้งใจจะสั่งเบียร์ชิงเต่า แต่รอให้อาหารมาก่อน



จานแรก เกี๊ยวนึ่งไส้หมู-กุ้ง-กุยช่าย 100 บาท



1 จานมี 10 ตัว แป้งหนาปานกลาง มีน้ำซุปข้างในเล็กน้อย

ไส้หมูสับปรุงรสอ่อน แต่หากลิ่นกุ้งไม่เจอ



จะจิ้มซอสเปรี้ยว หรือ พริกเผาในน้ำมันก็ได้



เห็นหลายคนพูดถึงจานนี้ แต่ไม่ค่อยแน่ใจกับชื่อผัดถั่วแปก

ถามพนักงานว่าเป็นถั่วอะไร พนักงานตอบว่า "เอามั้ยคะ?"

สั่งมาลอง 1 จาน 130 บาท หน้าตาเหมือนถั่วฝักยาวผัดกระเทียมสับหยาบ



รสชาติดี เค็มพอเหมาะ ถั่วกรอบ มีรสหวานในตัวเล็กน้อย ไม่เผ็ดพริกขี้หนูแดงที่ใส่มาสองเม็ด

รสชาติไม่ใช่ถั่วฝักยาว แถมเมล็ดถี่กว่าถั่วฝักยาว แต่เป็นถั่วแขกฝักอ่อน หรือ ถั่วเข็ม ตัดหัวท้ายผัดไฟแรง

สงสัยตอนส่งชื่ออาหารไปทำรายการอาหาร เขียนตัว "ข" หางยาวไปหน่อย

โรงพิมพ์นึกว่าตัว "ป" จาก "ถั่วแขก" จึงกลายเป็น "ถั่วแปก"

ดูจากรายการอาหารอีกครั้ง ไม่ได้ใช้ชื่อ"ผัดถั่วแปก" แต่ใช้ชื่อว่า "ผัดถั่วใส่พริก"



จานที่ 3 มาร้านนี้ต้องสั่ง มะเขือเฟรนช์ฟรายส์ 130 บาท

มะเขือยาวหั่นเป็นแท่งสี่เหลี่ยมแบบมันฝรั่งเฟรนช์ฟรายส์

ทอดจนผิวกรอบ คลุกกับน้ำตาลเคี่ยวในกระทะ เติมเกลือ แล้วผัดคลุกเคลือบด้านนอก



กินเพลินดี อารมณ์ออกไปทางกินฟักเชื่อม แต่เพิ่มรสเค็มมาด้วย



สั่งเบียร์ชิงเต่าขวดใหญ่บอกไม่มี ไม่มีไม่เอา

กลับยกเบียร์สิงห์ขวดใหญ่มาให้ พร้อมน้ำแข็งหนึ่งแก้ว 110 บาท



มาพร้อมพริกยัดไส้ ที่เห็นที่ไหนต้องสั่งมาลอง



9 ชิ้น 130 บาท ถูกกว่าติ่งไท่ฟง



หอมพริกเขียวที่ไม่เผ็ดเลย



ไส้หมูสับรสชาติดี น้ำแดง หรือ น้ำเกรวี่ที่ราดจืด สู้ติ่งไท่ฟงไม่ได้

จานนี้กินแทบจะคนเดียว และเป็นจานเดียวที่เหลือในร้าน



ต่อด้วยจานที่แพงที่สุดในร้าน ซี่โครงแพะ 400 บาท



หนึ่งจานมีเก้าชิ้น แต่เป็นแปดชิ้นใหญ่กับหนึ่งชิ้นเล็ก



ยกจานนี้มาวาง มีแต่คนโต๊ะอื่นชะเง้อมอง



มันควรจะต้องมีน้ำจิ้มนะ อย่างน้อยต้องเป็นข่าสับในน้ำมันพืช หรือ ในน้ำส้มสายชู

พอถามพนักงาน จึงไปเอาถ้วยน้ำจิ้มใส่ผงสีน้ำตาลมาให้หนึ่งถ้วย



จัดการโรยบางส่วนลงบนซี่โครงแพะสองชิ้น



ไม่ใช่ข่าป่น แต่เป็นเครื่องเทศแบบแขก

อารมณ์เหมือนนั่งกินอยู่ที่ร้านอาหารอาหรับในซอยนานาเหนือ

น่าจะเป็นอาหารแบบอิสลาม จานนี้น่าจะเป็นอาหารแถบซินเกียงของจีน



เนื้อติดซี่โครงด้านหนึ่งหนาด้านหนึ่งบาง หมักจนไม่มีกลิ่นสาบแพะแม้แต่น้อย เนื้อเปื่อยยุ่ย

ชุบแป้งเล็กน้อยทอดพอแป้งกรอบ จานนี้อร่อยมาก โดยเฉพาะเมื่อโรยผงในถ้วยตามด้วยซอสเปรี้ยวเล็กน้อย

ขนาดแฟนไม่ชอบกินเนื้อแพะ ลองชิมชิ้นเล็กยังกินหมดไม่เหลือ

โต๊ะมาใหม่ผู้หญิงสามคน เห็นกินด้วยมืออย่างเพลิดเพลินแทะไม่เหลือ ถึงกับต้องเรียกพนักงานมาถาม



ร้านนี้อาหารให้ปริมาณค่อนข้างมาก อย่าได้หลงผิดจากรูปในรายการอาหาร

สั่งไปหกอย่าง แต่อย่างที่หกยังไม่มาสักที กำลังภาวนาให้ลืมจด

สงสัยนึกดังไปหน่อย นึกเสร็จยกมาวางที่โต๊ะทันที



จานที่หก ไก่ผัดเสฉวน 190 บาท

เห็นพูนจานขนาดนี้ ยังนึกว่าคงต้องสั่งห่อ



มีรสเผ็ดเล็กน้อย ไหน ๆ ก็ต่อท้ายด้วย "เสฉวน"

ตอนผัดน่าจะใส่ "ชิงเจียว" หรือ "หมาล่า" หรือ "มะแขว่น" ลงไปหน่อย จะยิ่งหอมอร่อยมากขึ้น



นึกว่าจะกินไม่หมดแต่ก็หมด ใจยังนึกอยากสั่งเนื้อเย็นอีกสักจาน

แต่กลัวสายตาพิฆาตจากคนยืนรอโต๊ะ เพราะนึกว่าจะได้โต๊ะดันสั่งเพิ่ม

ยังมีอีกหลายจานที่อยากลอง ไว้วันหลังมาใหม่



มื้อนี้ 1,205 บาท ไม่มี ++ นึกว่าจะเขียนมาเป็นภาษาจีนแบบร้านบุญโภชนา สีลม



อร่อยและราคาย่อมเยาแบบนี้ (ยกเว้นเบียร์) ต้องบอกว่า "ร้านนี้รักนะ"

และร้านนี้ต้องมีรอบสองแน่นอน เพื่อชิมอาหารจานอื่น ๆ



18.40 น.ออกจากภัตตาคารซันมูน ตั้งแต่หกโมงเย็นเริ่มต้องยืนรอโต๊ะ

แต่ก็ยืนรอไม่นาน เพราะปกติมาสองคน สั่งไม่เกินสามอย่างกินกับข้าวสวยแล้วก็ไป

จะมียกเว้นก็แต่โต๊ะนี้ มากันสองคนแต่สั่งไป 6 อย่าง ใช้เวลากิน 1 ชั่วโมง 40 นาที

การโทรฯจองโต๊ะไม่ค่อยมีความหมายเท่าไหร่ เพราะทางร้านปล่อยโต๊ะหมด

ขนาดมาคนเดียวข้างล่างเต็ม ยังได้โต๊ะกลมบนชั้นสอง การจองโต๊ะมีประโยชน์เพียงอย่างเดียว

คือ มาถึงแล้ว ได้แซงคิวคนที่มายืนรออยู่ก่อนเท่านั้นเอง  ข้อที่ดี คือ ถ้าทางร้านเห็นว่าเต็มจริง ๆ จะไม่รับจองเพิ่ม

ปกติจะขอนามบัตรร้านจึงไม่จำเป็นต้องขอ ถ้าอยากมากินร้านนี้ ให้มาก่อน หรือ หลังเปิดร้านไม่เกินครึ่งชั่วโมง



ถึงปากซอยงามดูพลีเลี้ยวขวา จะไปขึ้นสะพานลอยข้ามถนนพระรามที่ 4 เพื่อเรียกรถกลับบ้าน

ใกล้ปากซอย คือ ร้านเฉโป ไม่ได้แวะมากินกว่า 20 ปีแล้ว คิดถึงเกี๊ยวกุ้งน้ำกับข้าวเฉโป ทำไมไม่ห่อกลับบ้านนะ



ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ได้ที่เพจ"เที่ยวไปกินไป by laser"
ชื่อสินค้า:   ภัตตาคารซันมูน
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่