วันเสาร์ที่ 4-4-15 เป็นวันพิเศษของตัวเอง ชวนแฟนไปทานข้าวเที่ยงนอกบ้าน

นั่งรถไฟฟ้าบีทีเอส ไปลงที่สถานีช่องนนทรี โดยออกทางด้านทางออกที่ 3

จากนั้นเดินไปทางด้านถนนสีลม ผ่าน Dean & Deluca และร้านเต้าหู้หย่งเหอ



มีการจองทางเท้าไว้ขายของ น่าจะเป็นช่วงสงกรานต์



แต่สงสัยจริงๆว่าใช้สิทธิ์อะไรได้ทุกปี



ข้ามแยกสีลม-นราธิวาส



เลี้ยวซ้ายไปทางภัตตาคารเชียงการีล่า สีลม



ก่อนถึงภัตตาคารเชียงการีล่า สีลม เลี้ยวขวาเข้าซอยสีลม 12 ตรงข้ามสีลมพลาซ่า



13.48 น. เข้าซอยประมาณ 50 เมตรเลี้ยวซ้าย ทางขวามือเป็นตึกแถว

1 3/4 ของชั้นล่างของตึกแถว 2 ห้องแรก คือ ร้านบุญโภชนา ที่จะมาทานอาหารวันนี้



ฝั่งตรงข้าม คือ ร้านเกี๊ยวเหลียวหนิง

ทั้งสองร้าน เป็นร้านที่ตั้งใจว่าจะมาลองหลายปีแล้ว



ร้านนี้เป็นสาขา 2 มีโต๊ะนั่งทั้งโต๊ะกลมและโต๊ะสี่เหลี่ยมรวม 10 โต๊ะ

พนักงานซึ่งเข้าใจรายการอาหารเป็นภาษาจีนกลางทุกคนบอกว่า

ร้านเปิดขายทุกวัน ตั้งแต่สิบเอ็ดโมงเช้าถึงตีสี่



เปิดดูรายการอาหาร

ความรู้สึกแรก คือ รายการอาหารดูธรรมดาไม่น่าสนใจเลย



เปลี่ยนร้านตอนนี้ยังทันไหมนะ

ลองดูหน่อยก็แล้วกัน เพราะจะบ่ายสองแล้ว แต่โต๊ะว่างเพียงโต๊ะเดียว

สั่งอาหารแล้วยังมีคนมารอโต๊ะ คงต้องมีอะไรดี



ร้านนี้ยังมีสุกี้ฯขาย มีน้ำแกงให้เลือกสองแบบ

คือ แบบน้ำแกงใสธรรมดา และแบบน้ำแกงน้ำข้นแดงซุปเสฉวน

ซึ่งแบบหลังจะใส่หมาล่า เวลาทานลิ้นจะชา จะสั่งเป็นน้ำแกงสองแบบแบ่งครึ่งในหม้อเดียวก็ได้



รายการเครื่องดื่ม มือเริ่มสั่นเพราะหิว



สั่งอาหารไป 5 อย่าง แม้ว่าคนจะเต็มร้าน แต่อาหารออกเร็วมาก



เริ่มด้วยไส้เป็ดซีอิ๊ว 150 บาท

นึกว่าเป็นแบบใส่จานราดน้ำซีอิ๊ว แต่กลับมาในชามแบบน้ำแกง



ไส้เป็ดขูดมันออกจนหมด ราดด้วยน้ำแกงใส่ซีอิ๊ว ที่พนักงานบอกว่าหมักเอง

โรยหน้าด้วยต้นหอมซอย พริกแดงซอยและผักชี



น้ำซุปรสอ่อนมากจนไม่ได้กลิ่นซีอิ๊ว

แต่กลับเป็นการปรุงรสที่เหมาะสม จนน่าสั่งเส้นหมี่ลวกใส่ลงไปด้วย



มีน้ำจิ้มมาให้สองถ้วย น้ำใสเป็นน้ำส้มชายชูใส่กระเทียมสับ

อีกถ้วยน้ำดำ เป็นซีอิ๊วผสมน้ำส้มสายชูใส่น้ำตาล ใส่กระเทียมสับ พริกขี้หนูสับและผักชีสับ



ชอบน้ำจิ้มแบบที่สองมากกว่า ยกเว้นว่าแบบแรกจะใส่ข่าสับลงไปด้วย



ซึ่งจะเหมาะมากกับอาหารจานถัดมา คือ เนื้อแพะผัดคึ่นช่าย 220 บาท

เนื้อแพะหั่นชิ้นเล็กไปนิด แต่หมักมาจนนุ่มมาก เหมือนทานเนื้อวัวที่หมักมาอย่างดี

ไม่มีกลิ่นสาบแพะ ใส่หอมเจียว และที่ถูกใจมาก คือ ใส่ตึ่นช่ายเยอะ ต่างจากร้านอื่นที่ใส่ขึ้นช่ายน้อย



กบทอดพริกเกลือ 200 บาท

กบทำสุกก่อนนำไปทอดให้ผิวกรอบ

จากนั้นนำไปผัดคลุกกับเกลือ พริกขี้หนูสับและกระเทียมสับ

เกลือติดอยู่บนเนื้อกบ ให้ความเค็มกับเนื้อกบที่ไม่ต้องหมักกับเครื่องปรุง รสเค็มกำลังดี



สับมาทั้งตัว ยกเว้นหัวและปลายขา ดูเผินๆเหมือนน่องไก่ทอด

คนแต้จิ๋วจึงเรียกกบว่า"จุ๋ยโกย" หรือ "ไก่น้ำ"



มะเขือยาวอบปลาเค็ม 120 บาท

ปลาเค็มอ่อนเค็ม รวมถึงกลิ่นที่แตกต่างจากที่คุ้นเคย

โดยรวมยังสู้ของสมบูรณ์โภชนาไม่ได้ แต่ดีกว่าฮั่วเซ่งฮง ปุณวิถี ที่เค็มจัด



ผัดบะหมี่ฮ่องกง 80 บาท

เป็นจานที่สั่งมาแทนข้าวเปล่า เป็นบะหมี่กลมเส้นเล็ก ผัดไฟแรงกับกระเทียม ต้นหอมและหอมใหญ่

ไม่ใส่เนื้อสัตว์ เป็นจานที่ไม่ได้คาดหวังอะไรมาก แต่ส่งกลิ่นหอมทันทีเมื่อมาถึงโต๊ะ



เส้นบะหมี่ส่วนหนึ่ง เกรียมกรอบด้วยการผัดไฟแรงแบบไฟลุกท่วมกระทะ

ผัดบะหมี่ฮ่องกงจานนี้ เหมาะมากกับการทานคู่กับมะเขือยาวอบปลาเค็ม



สนใจเบียร์จีนอีกยี่ห้อ นอกเหนือจากเบียร์ชิงเต่าเกาะเขียว

คือ เบียร์เยี่ยนจิง หรือ เบียร์นตรานางแอ่น เห็นเขียนว่าใช้น้ำแร่



สั่งมาหนึ่งขวด 140 บาท รสนุ่มดื่มง่าย

เวลาดื่มสัมผัสได้ถึง"มวล"ในเนื้อเบียร์

ระหว่างที่ทานอาหาร สังเกตุเห็นแทบทุกโต๊ะ จะสั่งอาหารจานหนึ่ง ที่ไม่มีในรายการอาหาร

อาหารจานนั้นมีชื่อว่า"ไก่ฉีก" ครึ่งตัว 170 บาท เป็นไก่บ้านต้มเกลือแล้วฉีกเนื้อใส่จาน

คงต้องมาลองวันหลัง เพราะไม่มั่นใจว่าจะทานหมด เนื่องจากมื้อนี้

ต้องให้พนักงานห่อไส้เป็ดต้มซีอิ๊ว ที่เหลือนิดหน่อยกลับบ้านพร้อมน้ำจิ้ม



เรียกเก็บเงินคิดเงินเป็นภาษาจีน มีชาร้อนหนึ่งกาใหญ่ 20 บาท



แต่ต้องส่งบิลกลับไปคิดเงินใหม่ เพราะลืมผัดบะหมี่ฮ่องกง 80 บาท

มื้อนี้สองคน 930 บาท ถือว่าไม่สูง เพราะปริมาณต่อจานค่อนข้างมาก

ตลอดสองชั่วโมงของการทานในร้านบุญโภชนา มีลูกค้าทั้งไทย จีนและฝรั่งเข้าจนถึงบ่ายสามโมงครึ่ง

แต่ร้านเกี๊ยวเหลียวหนิงซึ่งอยู่ตรงข้ามกัน มีลูกค้าโต๊ะกลมใหญ่เพียงโต๊ะเดียวเท่านั้น



15.39 น. ออกจากร้านบุญโภชนา แวะดูของหวานที่ร้าน Dean & Deluca

ซึ่งชั้นสองกำลังทำทางเดินเชื่อมกับสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสช่องนนทรี

แต่คนเต็มร้านไม่มีที่นั่ง จึงนั่งรถไฟฟ้าบีทีเอสกลับบ้าน