ตอนเก่าๆ ครับ
เรื่องเหล้า ตอนล้มเลิก
http://ppantip.com/topic/35193245
-----------------------------------------------------------------
ฉิมพุ่งหัวมอเตอร์ไซค์เข้าช่องจอดรถหน้าร้านทันทีที่มาถึง เป็นวันนี้ที่เขามาช้ากว่าเวลาที่นัดหมาย เป็นเพราะมีการประชุมพนักงานก่อนเลิกงาน นั่นจึงทำให้ฉิมรีบขี่รถตรงมาจากโรงงานทันทีที่การประชุมเลิก โดยไม่มีการแวะกลับบ้านไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนเหมือนทุก ๆ ครั้ง
ใจหนึ่งฉิมก็กลัวโดนน้อง ๆ แซวว่าไม่รักษาเวลา แต่ทว่าเมื่อมองเข้าไปยังโต๊ะในร้านก็เห็นเหล่าน้อง ๆ นั่งกันอยู่ครบ แต่ละคนก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่หันซ้ายแลขวาไปมาในร้าน ท่าทางทุกคนต่างอารมณ์ดีเหมือนมีอะไรบางสิ่งมาสร้างรอยยิ้มให้ชายหนุ่มทั้งสาม ฉิมรีบเดินเข้าไปในร้านเพื่อหาคำตอบว่าสิ่ง ๆ นั้นคืออะไรกันแน่
“อ้าวพี่ มาพอดีเลย นั่ง ๆ”
ยศทักรุ่นพี่ด้วยรอยยิ้ม แต่ฉิมคิดว่ารอยยิ้มนั้นเป็นยิ้มที่ค้างมานานแล้วจากอะไรบางอย่าง
ฉิมรู้สึกคอแห้ง จึงรับแก้วเหล้าจากนัยที่ชงเตรียมไว้ให้มาดื่มหมดแก้ว ก่อนจะถามคำถามคาใจจากน้อง ๆ
“พวกเอ็งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อะไรวะ ท่าทางอารมณ์ดีกัน มีใครถูกหวยหรือเปล่า” ฉิมถาม
ทุกคนส่ายหน้ายิ้ม ๆ
“เดี๋ยวพี่ก็รู้ วันนี้มีเด็กเสิร์ฟมาช่วยงานในร้าน” ยศพูด
ฉิมขมวดคิ้วแสดงความสงสัยในใจ เขาจินตนาการไม่ออกเลยว่ามีเด็กเสิร์ฟมาทำงานในร้าน นั่นถึงกับทำให้น้อง ๆ ในโต๊ะถึงกับยิ้มแก้มปริกันเลยเหรอ ปกติพวกเขาชงเหล้ากันเองก็ไม่ได้ลำบากอะไร อยากจะสั่งอาหารเครื่องดื่มก็ตะโกนสั่งกับลุงโฉมเลย ไม่ต้องนั่งรอใครเดินผ่านมาที่โต๊ะแล้วค่อยสั่ง แต่ยังไม่ทันที่ฉิมพยายามคิดค้นหาคำตอบจนตันในหัว เขาก็ถึงกับกระจ่างชัดในคำตอบ เมื่อเด็กเสิร์ฟคนนั้นยกจานลาบหมูมาวางบนโต๊ะ
เด็กเสิร์ฟสาววัยสดใสหน้าตาจิ้มลิ้มน่ารัก ดวงตากลมโตมีเสน่ห์ดึงดูดสายตาจากผู้ที่สัมผัสเห็น จมูกเรียวงามบวกกับริมฝีปากบางช่วยดึงความน่าหลงใหลออกมาจากใบหน้ารูปไข่ สีผิวน้ำผึ้งเนียนละเอียดเมื่อต้องแสดงไฟทำให้ดูโดดเด่นเมื่อจ้องมอง
เด็กสาวน่ารักคนนี้แต่งตัวตามแบบวัยรุ่นล้ำสมัยเกินไปกว่าที่บรรดาหนุ่ม ๆ ในโต๊ะที่เลยช่วงวัยรุ่นไปแล้วจะเข้าใจได้ กางเกงยีนขาเดฟแนบเนื้อแน่นเปรี๊ยะที่ฉิมยังงงว่าสอดใส่ข้อเท้าให้พ้นช่วงปลายขากางเกงเข้าไปได้อย่างไรกัน ขากางเกงข้างซ้ายขาดที่หัวเข่า ขากางเกงข้างขวาก็ขาดโชว์ขาอ่อนเผยให้เห็นท่อนขาที่เรียวยาวล่อสายตาจากเสือและตระเข้ได้ เพื่อ?
เสื้อไหมพรมลายขวางขาวดำแขนยาวตัวหลวมโพรกดูปกปิดท่อนบนมิดชิด เพียงแต่ว่าผ้าในส่วนที่คลุมไหล่ทั้งสองข้างถูกตัดเฉือนไป ทำให้กลายเป็นเสื้อเปิดอกกว้าง รวมถึงเปิดไหล่ด้วย มีเพียงเส้นไหมพรมบาง ๆ สองสามเส้นช่วยรั้งตัวเสื้อไว้ไม่ให้หลุดลุ่ยลงมาให้เห็นหน้าอก ฉิมไม่มั่นใจว่าเส้นไหมพรมบาง ๆ นั่นจะทำหน้าที่ของมันได้อย่างสมบูรณ์หรือเปล่า เขาเกรงว่าหากเกิดอุบัติเหตุนี้ขึ้นจริง ชายหนุ่มแฟมมิลี่แมนอย่างเขาอาจจะใจแตกตอนแก่ได้ ฉิมกังวลในข้อนี้
ด้วยอดีตที่เคยเป็นถึงเสือฉิมมาก่อนในช่วงวัยรุ่น เขาก็โชกโชนเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้มามากมายเหมือนกัน แต่เมื่อแต่งงานมีเมียมีลูกแล้ว ลายเสือที่เขาเคยภาคภูมิใจจึงถูกถอดเก็บไว้ไม่เคยนำกลับมาใช้อีกเลย เพียงแต่วันนี้อดีตวัยรุ่นอยากจะลองปัดฝุ่นมันดูสักครั้ง
“น้องเพิ่งมาทำงานที่นี่หรือครับ” ฉิมพยายามดัดเสียงให้ดูภูมิฐานมากที่สุด
จากแววตาที่ใส ๆ ซื่อ ๆ ของเด็กสาว ที่ต้องการแค่นำจานอาหารมาวางและเดินกลับออกไปอย่างเงียบ ๆ แต่เมื่อเธอถูกทำให้ต้องมาพัวพันกับวงเหล้าที่เธอไม่อยากข้องแวะ เด็กสาวถตามองหน้าฉิมเหมือนกับทั้งค่เคยโกรธแค้นกันมาหลายร้อยปี แต่ยังดีที่เธอลดดีกรีของอารมณ์ลงมาเหลือแค่ตอบคำถามด้วยน้ำเสียงห้วน ๆ ไร้ความรู้สึก
“ค่ะ” เด็กเสิร์ฟพูดเสร็จก็เดินจากไป
ทุกคนบนโต๊ะนอกจากฉิมหัวเราะคิกคักชอบใจกัน มีแต่ฉิมที่ทำหน้างุนงง
“เล่นกับใครไม่เล่น” เต้พูดทั้ง ๆ ที่ยังหัวเราะ
“แล้วน้องเขาเป็นใครวะ” ฉิมถาม
“ไม่รู้เหมือนกันพี่ แต่เมื่อกี๊นะ มีโต๊ะข้างในโดนน้องเขาด่าหนีกลับบ้านไปทั้งโต๊ะเลย พวกวัยรุ่นหัวเกรียนคงพยายามจะจีบน้องเค้าน่ะ” นัยเล่า
“จริงเหรอ แล้วลุงโฉมแกไม่ว่าอะไรเหรอ” ฉิมถามต่อ
“ลุงแกออกไปนอกร้านพอดี เลยไม่ทันเห็น พอแกกลับมาลูกค้าโต๊ะนั้นก็เช็คบิลไปแล้ว” นัยตอบ
“พวกหัวเกรียน เด็กนักเรียนเหรอ คงยังไม่ค่อยประสาเรื่องจีบหญิง เอาเวลาไปท่องตำราเรียนดีกว่าไอ่น้องเอ๋ย” ฉิมพูดสบประหม่าคนรุ่นหลัง
“พี่จะทำอะไร อย่าบอกนะว่า...” ยศพูด
“ข้าจะโชว์ฝีมือซะหน่อย” ฉิมแสดงความมั่นใจ
ยศ เต้และนัยได้ยินดังนั้นก็หัวเราะคิกชอบใจ เหมือนทั้ง 3 กำลังจะรอดูโชว์จากผู้ชำนาญการ
ฉิมกวาดสายตามองทั่วร้านเพื่อมองหาเด็กเสิร์ฟสาวสวย เธอคนนั้นกำลังบริการลูกค้าในแต่ละโต๊ะ ท่าทางที่ดูไม่อ่อนน้อมกระโชกโฮกฮากของเธอทำให้ลูกค้าในแต่ละโต๊ะล้วนนั่งตัวเกร็ง เมื่อเด็กเสิร์ฟหน้าบึ้งเดินเข้าไป บางโต๊ะที่กำลังคุยกันสนุกสานเพลิดเพลินต้องหยุดเบรกการสนทนาชั่วคราวเมื่อน้องเดินเข้าหา บางทีคนเหล่านั้นอาจจะกลัวเกรงว่าจะทำให้เด็กเสิร์ฟสาวอารมณ์เสียแล้วพาลโดนด่า เพราะเห็นตัวอย่างมาแล้ว หรืออาจจะเป็นเพราะความสวยสาวสะกดสายตาของเหล่าบรรดาหนุ่มในโต๊ะให้หยุดนิ่ง
ฉิมชอบใจเหลือเกินจากความดิบห่ามที่เธอแสดงออกมา และเมื่อเด็กสาวเดินผ่านโต๊ะของพวกเขา ฉิมรีบพูด
“น้องครับ พี่ขอยำปลาดุกฟู ข้าวเกรียบกุ้งน้ำพริกเผา ต้มยำทะเล และขอเหล้า 100 Pipers ขวดนึง” ฉิมสั่ง
เด็กเสิร์ฟสาวหันมารับคำสั่ง เธอตอบรับสั้น ๆ ก่อนเดินไปจดออเดอร์นั้นลงกระดาษและส่งให้เจ้าของร้านที่อยู่ในครัว
“เฮ้ย... วันนี้เล่นเหล้าฝรั่งเลยเหรอพี่” เต้พูดถึงเหล้าฝรั่งยี่ห้อเดียวที่ลุงโฉมเตรียมไว้สำหรับลูกค้าที่มีระดับขึ้นมาหน่อย
“พวกเอ็งไม่รู้อะไร จุดเริ่มต้นของการจีบสาวคือการสร้างความประทับใจ เราสั่งของแพงก็เหมือนกับให้ความสำคัญกับคนที่เราสั่ง” ฉิมพูดอย่างมีหลักการ
“อ๋อ... เป็นแบบนี้นี่เอง” เต้แสดงน้ำเสียงและท่าทางยอมรับแนวคิดนี้ “มิน่าล่ะพวกลานเบียร์และร้านเหล้าถึงต้องจ้างสาวเชียร์เบียร์ เพื่อให้เรียกเงินออกมาจากกระเป๋าลูกค้าให้มากที่สุด โดยเฉพาะพวกหัวงูทั้งหลาย”
เต้พูดจบก็มีเสียงหัวเราะจากทุกคนบนโต๊ะ ยกเว้นฉิม
ฉิมทำหน้าเสีย “อันนั้นมันก็เรื่องของเค้า แต่แผนนี้ของข้าจีบหญิงติดมาหลายคนแล้ว” ฉิมพูดทำให้ทั้งสามบนโต๊ะหัวเราะชอบใจยิ่งขึ้น
เด็กสาวเดินเข้ามาพร้อมนำขวดเหล้าฝรั่งขวดกลมมาวางบนโต๊ะ เธอยังจัดแจงเปลี่ยนขวดโซดาขวดใหม่มาวางแทนขวดเก่าที่หมดไปนานแล้ว และถังน้ำแข็งที่หมดเหมือนกันก็ถูกเปลี่ยนเป็นถังที่มีน้ำแข็งอยู่ในนั้น เธอยังประหยัดคำพูด ไม่พูดจาใด ๆ โดยไม่จำเป็นเหมือนกลัวดอกพิกุลจะร่วงออกจากปาก ฉิมสังเกตเห็นตรงนี้
“น้องยังเรียนอยู่หรือเปล่าครับ ขยันจังออกมาหางานทำพิเศษ” ฉิมพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน แล้วจากนั้นเขาก็รู้สึกเสียวสันหลังวาบเมื่อน้องเด็กเสิร์ฟหันมามองหน้า
“ไม่ได้เรียนแล้วค่ะ เพิ่งโดนโรงเรียนไล่ออกมา”
เธอพูดเสร็จก็เตรียมจะเดินจากไป แต่ลุงโฉมเดินออกมาจากครัวผ่านโต๊ะที่เพิ่งสั่งเหล้าฝรั่งพอดี เขาจึงรีบพูด
“อ้าว... ชงเหล้าให้พวกพี่เขาด้วยสิ เข้าไปเอาแก้วใหม่มาเปลี่ยนให้พี่เขาด้วย” ลุงโฉมออกคำสั่ง
เด็กเสิร์ฟสาวก้มหน้าก้มตาทำตามคำสั่งทันทีโดยเดินเข้าไปหลังร้านเพื่อเอาแก้วชุดใหม่มา
“ร้อยวันพันปีกินแต่แสงโสม แต่วันนี้พอมีเด็กเสิร์ฟสาวมา เปลี่ยนมากินเหล้าฝรั่งเลยนะ สงสัยยอดขายวันนี้จะพุ่ง” ลุงโฉมพูดเสร็จก็หัวเราะชอบใจ
มีแต่ฉิมที่ยิ้มแหะ ๆ นอกนั้นบนโต๊ะกลับหัวเราะชอบใจตามลุงโฉมไปด้วย แต่เหตุผลของทั้งสามที่หัวเราะคือกลัวว่ายอดขายในร้านจะลดฮวบลงสิ เพราะบางทีลูกค้าอาจจะโดนเด็กเสิร์ฟไล่ตะเพิดออกจากร้านไปเสียก่อน
ลุงโฉมยกจานกลับแกล้มที่ฉิมสั่งมาวาง และยืนดูเด็กเสิร์ฟสาวชงเหล้าครบทั้งสี่แก้ว ก่อนเธอจะเดินออกไปทำงานตรงจุดอื่นต่อ
“ลุงไปหาเด็กที่ไหนมาครับ ดูท่าทางคล่องแคล่วและเป็นงานดีนะครับ” เต้ถามลุงโฉม เขายังชื่นชมถึงการเอาการเอางานของเด็กเสิร์ฟที่ไม่ขาดตกบกพร่อง แต่เขาไม่พูดถึงเรื่องที่เด็กเสิร์ฟเพิ่งจะไล่ลูกค้าออกไปให้ลุงโฉมฟัง
“เด็กคนนี้ชื่อพลอย เห็นพ่อมันบอกว่าเพิ่งโดนโรงเรียนไล่ออกมา พ่อมันเลยเอามาฝากทำงานที่ร้านลุงช่วงสั้น ๆ นี่ก็เพิ่งมาทำวันแรก เป็นยังไงบ้างล่ะ ทำงานโอเคมั้ย” ลุงโฉมพูด
“อ่อ... ดี ๆ ครับ” เต้พูด
ลุงโฉมรีบเดินเข้าครัวไปเพื่อทำออเดอร์ที่ลูกค้าเพิ่งจะสั่งมา
“ท่าทางจะร้ายนะเนี่ย โดนไล่ออกจากโรงเรียน พี่ยังจะจีบต่ออีกมั้ย” ยศถาม
ฉิมกลัวเสียฟอร์มที่จะล้มเลิกอะไรง่าย ๆ “จีบจริง ๆ จัง ๆ คงไม่ แต่ข้าจะทำให้น้องหันมาสนใจในตัวข้าให้ได้”
“ทำไงพี่” ยศทำเสียงลุ้น
“เดี๋ยวคอยดู” ฉิมทำเสียงมั่นใจ แต่ความจริงแล้วเขายังไม่มั่นใจว่าจะทำยังไง
พลอยเดินผ่านโต๊ะของสมาคมสุรา พลางตรวจเช็คขวดน้ำเปล่า ขวดโซดาและถังน้ำแข็งว่ามีอะไรต้องเปลี่ยนหรือไม่ และในจังหวะที่เธอเผลอ มีเสียง ๆ หนึ่งดังขึ้นทำให้เด็กเสิร์ฟสาวตกใจเล็กน้อย
แช๊ะ!
เสียงจากสมาร์ทโฟนในมือฉิมที่ตั้งท่าถ่ายรูปนี่เอง เมื่อเขาได้ภาพที่ต้องการแล้ว เขาก็พูดต่อ
“พี่ขอเก็บรูปน้องไว้ตั้งเป็นวอลล์เปเปอร์ในโทรศัพท์ได้มั้ยครับ รูปน้องน่ารักดี น่ารักมากกว่าดาราทุกคนที่พี่เคยเห็นเสียอีก” ฉิมทำหน้าสุภาพพร้อมน้ำเสียงที่ดูจริงใจ
ยศ เต้และนัยต่างตกตะลึงและคิดไม่ถึงมุขจีบหญิงของฉิม ใจหนึ่งก็อึ้งกับความคิดอันชาญฉลาดของลูกพี่ แต่อีกใจหนึ่งก็หวั่นเกรงว่าบางทีผู้ที่ถูกแอบถ่ายอาจจะไม่พอใจแล้วพาลอาละวาดขึ้นมา
แต่เมื่อทั้งหมดเห็นรอยยิ้มเล็ก ๆ ที่มุมปากของพลอยทำให้ทุกคนต่างโล่งใจ เธอไม่ได้พูดหรือทำท่าหลงใหลไปกับการเยินยอนั้น เธอเดินไปที่โต๊ะอื่นต่อ
“สุดยอดเลยพี่ คิดได้ยังไงเนี่ยมุขนี้ ผมขอคาราวะหนึ่งจอก” นัยจัดแจงชงเหล้าให้พี่ ๆ แล้วทุกคนก็ดื่ม
“ผมขอซื้อ ๆ เหล้ากลมนึงนะสำหรับมุขนี้ จะลองเอาไปใช้จีบสาวดูบ้าง” ยศพูดด้วยความตื่นเต้น
“ไม่น่าเชื่อว่าพี่จะเรียกรอยยิ้มของน้องเขาออกมาได้ เป็นภาพที่พวกผมไม่คิดว่าจะได้เห็น แม้จะเป็นแค่รอยยิ้มเล็ก ๆ” เต้พูด
“เดี๋ยวพี่จะสอนสุดยอดวิชาการเช็คเรทติ้งให้น้อง ๆ หากเราอยากรู้ว่าสาว ๆ ที่เราแอบเล็งไว้เขาสนใจเราหรือเปล่า ให้ทำแบบนี้”
“ทำยังไงพี่” ยศแสดงความสนใจ
“เดี๋ยวเราแกล้งสั่งอะไรซักอย่างแล้วให้น้องเขามาเสิร์ฟที่โต๊ะ จังหวะหลังจากที่เราสั่ง ข้าจะแกล้งเดินออกไปคุยโทรศัพท์ข้างนอก แล้วพวกเอ็งสังเกตดูดี ๆ นะว่าน้องเขาหันไปมองหาข้าหรือเปล่า ถ้าน้องเขาหันไปมองหาว่าข้าอยู่ไหนก็แสดงว่าน้องเขาสนใจในตัวข้าอยู่ อาจจะคิดว่ากำลังคุยโทรศัพท์อยู่กับใครนะ แต่ถ้าน้องเขาไม่สนใจเลยว่าข้าหายไปไหน แสดงว่าน้องเขาไม่ได้คิดอะไร นั่นจะทำให้เรารู้ว่าจะเดินเกมต่อไปยังไง” ฉิมอธิบายแผนการ
“ล้ำเลิศมาก พี่นี่ตัวพ่อจริง ๆ” หนุ่มเพลย์บอยอย่างยศยอมรับในตัวหนุ่มเพลย์บอยรุ่นพี่อย่างฉิม
“เอาล่ะนะ” ฉิมพูด
เต้ได้ยินคำพูดนั้นของฉิม และเขาเห็นพลอยเดินผ่านพอดีจึงรีบเรียก
“น้องครับ พี่ขอโซดาขวดนึง” เมื่อเห็นพลอยเดินออกไปแล้ว เต้รีบพูด “ออกไปเลยพี่”
ฉิมเดินออกมาจากโต๊ะไปยังหน้าร้านที่ไม่ห่างจากโต๊ะมากนัก เขาจงใจที่จะอยู่ในรัศมีการมองเห็นจากโต๊ะ
ไม่นานพลอยก็นำขวดโซดาที่เปิดแล้วมาวางบนโต๊ะ เธอเหลือบมองไปยังเก้าอี้ตัวที่ฉิมเคยนั่ง จากนั้นก็ชะเง้อมองหาเจ้าของเก้าอี้ว่าไปไหนนะ เมื่อเห็นฉิมคุยโทรศัพท์เธอยังจ้องมองทำสีหน้าสงสัย จากนั้นก็เดินออกไป
เรื่องเหล้า ตอนเด็กเสิร์ฟ
เรื่องเหล้า ตอนล้มเลิก http://ppantip.com/topic/35193245
-----------------------------------------------------------------
ฉิมพุ่งหัวมอเตอร์ไซค์เข้าช่องจอดรถหน้าร้านทันทีที่มาถึง เป็นวันนี้ที่เขามาช้ากว่าเวลาที่นัดหมาย เป็นเพราะมีการประชุมพนักงานก่อนเลิกงาน นั่นจึงทำให้ฉิมรีบขี่รถตรงมาจากโรงงานทันทีที่การประชุมเลิก โดยไม่มีการแวะกลับบ้านไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนเหมือนทุก ๆ ครั้ง
ใจหนึ่งฉิมก็กลัวโดนน้อง ๆ แซวว่าไม่รักษาเวลา แต่ทว่าเมื่อมองเข้าไปยังโต๊ะในร้านก็เห็นเหล่าน้อง ๆ นั่งกันอยู่ครบ แต่ละคนก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่หันซ้ายแลขวาไปมาในร้าน ท่าทางทุกคนต่างอารมณ์ดีเหมือนมีอะไรบางสิ่งมาสร้างรอยยิ้มให้ชายหนุ่มทั้งสาม ฉิมรีบเดินเข้าไปในร้านเพื่อหาคำตอบว่าสิ่ง ๆ นั้นคืออะไรกันแน่
“อ้าวพี่ มาพอดีเลย นั่ง ๆ”
ยศทักรุ่นพี่ด้วยรอยยิ้ม แต่ฉิมคิดว่ารอยยิ้มนั้นเป็นยิ้มที่ค้างมานานแล้วจากอะไรบางอย่าง
ฉิมรู้สึกคอแห้ง จึงรับแก้วเหล้าจากนัยที่ชงเตรียมไว้ให้มาดื่มหมดแก้ว ก่อนจะถามคำถามคาใจจากน้อง ๆ
“พวกเอ็งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อะไรวะ ท่าทางอารมณ์ดีกัน มีใครถูกหวยหรือเปล่า” ฉิมถาม
ทุกคนส่ายหน้ายิ้ม ๆ
“เดี๋ยวพี่ก็รู้ วันนี้มีเด็กเสิร์ฟมาช่วยงานในร้าน” ยศพูด
ฉิมขมวดคิ้วแสดงความสงสัยในใจ เขาจินตนาการไม่ออกเลยว่ามีเด็กเสิร์ฟมาทำงานในร้าน นั่นถึงกับทำให้น้อง ๆ ในโต๊ะถึงกับยิ้มแก้มปริกันเลยเหรอ ปกติพวกเขาชงเหล้ากันเองก็ไม่ได้ลำบากอะไร อยากจะสั่งอาหารเครื่องดื่มก็ตะโกนสั่งกับลุงโฉมเลย ไม่ต้องนั่งรอใครเดินผ่านมาที่โต๊ะแล้วค่อยสั่ง แต่ยังไม่ทันที่ฉิมพยายามคิดค้นหาคำตอบจนตันในหัว เขาก็ถึงกับกระจ่างชัดในคำตอบ เมื่อเด็กเสิร์ฟคนนั้นยกจานลาบหมูมาวางบนโต๊ะ
เด็กเสิร์ฟสาววัยสดใสหน้าตาจิ้มลิ้มน่ารัก ดวงตากลมโตมีเสน่ห์ดึงดูดสายตาจากผู้ที่สัมผัสเห็น จมูกเรียวงามบวกกับริมฝีปากบางช่วยดึงความน่าหลงใหลออกมาจากใบหน้ารูปไข่ สีผิวน้ำผึ้งเนียนละเอียดเมื่อต้องแสดงไฟทำให้ดูโดดเด่นเมื่อจ้องมอง
เด็กสาวน่ารักคนนี้แต่งตัวตามแบบวัยรุ่นล้ำสมัยเกินไปกว่าที่บรรดาหนุ่ม ๆ ในโต๊ะที่เลยช่วงวัยรุ่นไปแล้วจะเข้าใจได้ กางเกงยีนขาเดฟแนบเนื้อแน่นเปรี๊ยะที่ฉิมยังงงว่าสอดใส่ข้อเท้าให้พ้นช่วงปลายขากางเกงเข้าไปได้อย่างไรกัน ขากางเกงข้างซ้ายขาดที่หัวเข่า ขากางเกงข้างขวาก็ขาดโชว์ขาอ่อนเผยให้เห็นท่อนขาที่เรียวยาวล่อสายตาจากเสือและตระเข้ได้ เพื่อ?
เสื้อไหมพรมลายขวางขาวดำแขนยาวตัวหลวมโพรกดูปกปิดท่อนบนมิดชิด เพียงแต่ว่าผ้าในส่วนที่คลุมไหล่ทั้งสองข้างถูกตัดเฉือนไป ทำให้กลายเป็นเสื้อเปิดอกกว้าง รวมถึงเปิดไหล่ด้วย มีเพียงเส้นไหมพรมบาง ๆ สองสามเส้นช่วยรั้งตัวเสื้อไว้ไม่ให้หลุดลุ่ยลงมาให้เห็นหน้าอก ฉิมไม่มั่นใจว่าเส้นไหมพรมบาง ๆ นั่นจะทำหน้าที่ของมันได้อย่างสมบูรณ์หรือเปล่า เขาเกรงว่าหากเกิดอุบัติเหตุนี้ขึ้นจริง ชายหนุ่มแฟมมิลี่แมนอย่างเขาอาจจะใจแตกตอนแก่ได้ ฉิมกังวลในข้อนี้
ด้วยอดีตที่เคยเป็นถึงเสือฉิมมาก่อนในช่วงวัยรุ่น เขาก็โชกโชนเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้มามากมายเหมือนกัน แต่เมื่อแต่งงานมีเมียมีลูกแล้ว ลายเสือที่เขาเคยภาคภูมิใจจึงถูกถอดเก็บไว้ไม่เคยนำกลับมาใช้อีกเลย เพียงแต่วันนี้อดีตวัยรุ่นอยากจะลองปัดฝุ่นมันดูสักครั้ง
“น้องเพิ่งมาทำงานที่นี่หรือครับ” ฉิมพยายามดัดเสียงให้ดูภูมิฐานมากที่สุด
จากแววตาที่ใส ๆ ซื่อ ๆ ของเด็กสาว ที่ต้องการแค่นำจานอาหารมาวางและเดินกลับออกไปอย่างเงียบ ๆ แต่เมื่อเธอถูกทำให้ต้องมาพัวพันกับวงเหล้าที่เธอไม่อยากข้องแวะ เด็กสาวถตามองหน้าฉิมเหมือนกับทั้งค่เคยโกรธแค้นกันมาหลายร้อยปี แต่ยังดีที่เธอลดดีกรีของอารมณ์ลงมาเหลือแค่ตอบคำถามด้วยน้ำเสียงห้วน ๆ ไร้ความรู้สึก
“ค่ะ” เด็กเสิร์ฟพูดเสร็จก็เดินจากไป
ทุกคนบนโต๊ะนอกจากฉิมหัวเราะคิกคักชอบใจกัน มีแต่ฉิมที่ทำหน้างุนงง
“เล่นกับใครไม่เล่น” เต้พูดทั้ง ๆ ที่ยังหัวเราะ
“แล้วน้องเขาเป็นใครวะ” ฉิมถาม
“ไม่รู้เหมือนกันพี่ แต่เมื่อกี๊นะ มีโต๊ะข้างในโดนน้องเขาด่าหนีกลับบ้านไปทั้งโต๊ะเลย พวกวัยรุ่นหัวเกรียนคงพยายามจะจีบน้องเค้าน่ะ” นัยเล่า
“จริงเหรอ แล้วลุงโฉมแกไม่ว่าอะไรเหรอ” ฉิมถามต่อ
“ลุงแกออกไปนอกร้านพอดี เลยไม่ทันเห็น พอแกกลับมาลูกค้าโต๊ะนั้นก็เช็คบิลไปแล้ว” นัยตอบ
“พวกหัวเกรียน เด็กนักเรียนเหรอ คงยังไม่ค่อยประสาเรื่องจีบหญิง เอาเวลาไปท่องตำราเรียนดีกว่าไอ่น้องเอ๋ย” ฉิมพูดสบประหม่าคนรุ่นหลัง
“พี่จะทำอะไร อย่าบอกนะว่า...” ยศพูด
“ข้าจะโชว์ฝีมือซะหน่อย” ฉิมแสดงความมั่นใจ
ยศ เต้และนัยได้ยินดังนั้นก็หัวเราะคิกชอบใจ เหมือนทั้ง 3 กำลังจะรอดูโชว์จากผู้ชำนาญการ
ฉิมกวาดสายตามองทั่วร้านเพื่อมองหาเด็กเสิร์ฟสาวสวย เธอคนนั้นกำลังบริการลูกค้าในแต่ละโต๊ะ ท่าทางที่ดูไม่อ่อนน้อมกระโชกโฮกฮากของเธอทำให้ลูกค้าในแต่ละโต๊ะล้วนนั่งตัวเกร็ง เมื่อเด็กเสิร์ฟหน้าบึ้งเดินเข้าไป บางโต๊ะที่กำลังคุยกันสนุกสานเพลิดเพลินต้องหยุดเบรกการสนทนาชั่วคราวเมื่อน้องเดินเข้าหา บางทีคนเหล่านั้นอาจจะกลัวเกรงว่าจะทำให้เด็กเสิร์ฟสาวอารมณ์เสียแล้วพาลโดนด่า เพราะเห็นตัวอย่างมาแล้ว หรืออาจจะเป็นเพราะความสวยสาวสะกดสายตาของเหล่าบรรดาหนุ่มในโต๊ะให้หยุดนิ่ง
ฉิมชอบใจเหลือเกินจากความดิบห่ามที่เธอแสดงออกมา และเมื่อเด็กสาวเดินผ่านโต๊ะของพวกเขา ฉิมรีบพูด
“น้องครับ พี่ขอยำปลาดุกฟู ข้าวเกรียบกุ้งน้ำพริกเผา ต้มยำทะเล และขอเหล้า 100 Pipers ขวดนึง” ฉิมสั่ง
เด็กเสิร์ฟสาวหันมารับคำสั่ง เธอตอบรับสั้น ๆ ก่อนเดินไปจดออเดอร์นั้นลงกระดาษและส่งให้เจ้าของร้านที่อยู่ในครัว
“เฮ้ย... วันนี้เล่นเหล้าฝรั่งเลยเหรอพี่” เต้พูดถึงเหล้าฝรั่งยี่ห้อเดียวที่ลุงโฉมเตรียมไว้สำหรับลูกค้าที่มีระดับขึ้นมาหน่อย
“พวกเอ็งไม่รู้อะไร จุดเริ่มต้นของการจีบสาวคือการสร้างความประทับใจ เราสั่งของแพงก็เหมือนกับให้ความสำคัญกับคนที่เราสั่ง” ฉิมพูดอย่างมีหลักการ
“อ๋อ... เป็นแบบนี้นี่เอง” เต้แสดงน้ำเสียงและท่าทางยอมรับแนวคิดนี้ “มิน่าล่ะพวกลานเบียร์และร้านเหล้าถึงต้องจ้างสาวเชียร์เบียร์ เพื่อให้เรียกเงินออกมาจากกระเป๋าลูกค้าให้มากที่สุด โดยเฉพาะพวกหัวงูทั้งหลาย”
เต้พูดจบก็มีเสียงหัวเราะจากทุกคนบนโต๊ะ ยกเว้นฉิม
ฉิมทำหน้าเสีย “อันนั้นมันก็เรื่องของเค้า แต่แผนนี้ของข้าจีบหญิงติดมาหลายคนแล้ว” ฉิมพูดทำให้ทั้งสามบนโต๊ะหัวเราะชอบใจยิ่งขึ้น
เด็กสาวเดินเข้ามาพร้อมนำขวดเหล้าฝรั่งขวดกลมมาวางบนโต๊ะ เธอยังจัดแจงเปลี่ยนขวดโซดาขวดใหม่มาวางแทนขวดเก่าที่หมดไปนานแล้ว และถังน้ำแข็งที่หมดเหมือนกันก็ถูกเปลี่ยนเป็นถังที่มีน้ำแข็งอยู่ในนั้น เธอยังประหยัดคำพูด ไม่พูดจาใด ๆ โดยไม่จำเป็นเหมือนกลัวดอกพิกุลจะร่วงออกจากปาก ฉิมสังเกตเห็นตรงนี้
“น้องยังเรียนอยู่หรือเปล่าครับ ขยันจังออกมาหางานทำพิเศษ” ฉิมพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน แล้วจากนั้นเขาก็รู้สึกเสียวสันหลังวาบเมื่อน้องเด็กเสิร์ฟหันมามองหน้า
“ไม่ได้เรียนแล้วค่ะ เพิ่งโดนโรงเรียนไล่ออกมา”
เธอพูดเสร็จก็เตรียมจะเดินจากไป แต่ลุงโฉมเดินออกมาจากครัวผ่านโต๊ะที่เพิ่งสั่งเหล้าฝรั่งพอดี เขาจึงรีบพูด
“อ้าว... ชงเหล้าให้พวกพี่เขาด้วยสิ เข้าไปเอาแก้วใหม่มาเปลี่ยนให้พี่เขาด้วย” ลุงโฉมออกคำสั่ง
เด็กเสิร์ฟสาวก้มหน้าก้มตาทำตามคำสั่งทันทีโดยเดินเข้าไปหลังร้านเพื่อเอาแก้วชุดใหม่มา
“ร้อยวันพันปีกินแต่แสงโสม แต่วันนี้พอมีเด็กเสิร์ฟสาวมา เปลี่ยนมากินเหล้าฝรั่งเลยนะ สงสัยยอดขายวันนี้จะพุ่ง” ลุงโฉมพูดเสร็จก็หัวเราะชอบใจ
มีแต่ฉิมที่ยิ้มแหะ ๆ นอกนั้นบนโต๊ะกลับหัวเราะชอบใจตามลุงโฉมไปด้วย แต่เหตุผลของทั้งสามที่หัวเราะคือกลัวว่ายอดขายในร้านจะลดฮวบลงสิ เพราะบางทีลูกค้าอาจจะโดนเด็กเสิร์ฟไล่ตะเพิดออกจากร้านไปเสียก่อน
ลุงโฉมยกจานกลับแกล้มที่ฉิมสั่งมาวาง และยืนดูเด็กเสิร์ฟสาวชงเหล้าครบทั้งสี่แก้ว ก่อนเธอจะเดินออกไปทำงานตรงจุดอื่นต่อ
“ลุงไปหาเด็กที่ไหนมาครับ ดูท่าทางคล่องแคล่วและเป็นงานดีนะครับ” เต้ถามลุงโฉม เขายังชื่นชมถึงการเอาการเอางานของเด็กเสิร์ฟที่ไม่ขาดตกบกพร่อง แต่เขาไม่พูดถึงเรื่องที่เด็กเสิร์ฟเพิ่งจะไล่ลูกค้าออกไปให้ลุงโฉมฟัง
“เด็กคนนี้ชื่อพลอย เห็นพ่อมันบอกว่าเพิ่งโดนโรงเรียนไล่ออกมา พ่อมันเลยเอามาฝากทำงานที่ร้านลุงช่วงสั้น ๆ นี่ก็เพิ่งมาทำวันแรก เป็นยังไงบ้างล่ะ ทำงานโอเคมั้ย” ลุงโฉมพูด
“อ่อ... ดี ๆ ครับ” เต้พูด
ลุงโฉมรีบเดินเข้าครัวไปเพื่อทำออเดอร์ที่ลูกค้าเพิ่งจะสั่งมา
“ท่าทางจะร้ายนะเนี่ย โดนไล่ออกจากโรงเรียน พี่ยังจะจีบต่ออีกมั้ย” ยศถาม
ฉิมกลัวเสียฟอร์มที่จะล้มเลิกอะไรง่าย ๆ “จีบจริง ๆ จัง ๆ คงไม่ แต่ข้าจะทำให้น้องหันมาสนใจในตัวข้าให้ได้”
“ทำไงพี่” ยศทำเสียงลุ้น
“เดี๋ยวคอยดู” ฉิมทำเสียงมั่นใจ แต่ความจริงแล้วเขายังไม่มั่นใจว่าจะทำยังไง
พลอยเดินผ่านโต๊ะของสมาคมสุรา พลางตรวจเช็คขวดน้ำเปล่า ขวดโซดาและถังน้ำแข็งว่ามีอะไรต้องเปลี่ยนหรือไม่ และในจังหวะที่เธอเผลอ มีเสียง ๆ หนึ่งดังขึ้นทำให้เด็กเสิร์ฟสาวตกใจเล็กน้อย
แช๊ะ!
เสียงจากสมาร์ทโฟนในมือฉิมที่ตั้งท่าถ่ายรูปนี่เอง เมื่อเขาได้ภาพที่ต้องการแล้ว เขาก็พูดต่อ
“พี่ขอเก็บรูปน้องไว้ตั้งเป็นวอลล์เปเปอร์ในโทรศัพท์ได้มั้ยครับ รูปน้องน่ารักดี น่ารักมากกว่าดาราทุกคนที่พี่เคยเห็นเสียอีก” ฉิมทำหน้าสุภาพพร้อมน้ำเสียงที่ดูจริงใจ
ยศ เต้และนัยต่างตกตะลึงและคิดไม่ถึงมุขจีบหญิงของฉิม ใจหนึ่งก็อึ้งกับความคิดอันชาญฉลาดของลูกพี่ แต่อีกใจหนึ่งก็หวั่นเกรงว่าบางทีผู้ที่ถูกแอบถ่ายอาจจะไม่พอใจแล้วพาลอาละวาดขึ้นมา
แต่เมื่อทั้งหมดเห็นรอยยิ้มเล็ก ๆ ที่มุมปากของพลอยทำให้ทุกคนต่างโล่งใจ เธอไม่ได้พูดหรือทำท่าหลงใหลไปกับการเยินยอนั้น เธอเดินไปที่โต๊ะอื่นต่อ
“สุดยอดเลยพี่ คิดได้ยังไงเนี่ยมุขนี้ ผมขอคาราวะหนึ่งจอก” นัยจัดแจงชงเหล้าให้พี่ ๆ แล้วทุกคนก็ดื่ม
“ผมขอซื้อ ๆ เหล้ากลมนึงนะสำหรับมุขนี้ จะลองเอาไปใช้จีบสาวดูบ้าง” ยศพูดด้วยความตื่นเต้น
“ไม่น่าเชื่อว่าพี่จะเรียกรอยยิ้มของน้องเขาออกมาได้ เป็นภาพที่พวกผมไม่คิดว่าจะได้เห็น แม้จะเป็นแค่รอยยิ้มเล็ก ๆ” เต้พูด
“เดี๋ยวพี่จะสอนสุดยอดวิชาการเช็คเรทติ้งให้น้อง ๆ หากเราอยากรู้ว่าสาว ๆ ที่เราแอบเล็งไว้เขาสนใจเราหรือเปล่า ให้ทำแบบนี้”
“ทำยังไงพี่” ยศแสดงความสนใจ
“เดี๋ยวเราแกล้งสั่งอะไรซักอย่างแล้วให้น้องเขามาเสิร์ฟที่โต๊ะ จังหวะหลังจากที่เราสั่ง ข้าจะแกล้งเดินออกไปคุยโทรศัพท์ข้างนอก แล้วพวกเอ็งสังเกตดูดี ๆ นะว่าน้องเขาหันไปมองหาข้าหรือเปล่า ถ้าน้องเขาหันไปมองหาว่าข้าอยู่ไหนก็แสดงว่าน้องเขาสนใจในตัวข้าอยู่ อาจจะคิดว่ากำลังคุยโทรศัพท์อยู่กับใครนะ แต่ถ้าน้องเขาไม่สนใจเลยว่าข้าหายไปไหน แสดงว่าน้องเขาไม่ได้คิดอะไร นั่นจะทำให้เรารู้ว่าจะเดินเกมต่อไปยังไง” ฉิมอธิบายแผนการ
“ล้ำเลิศมาก พี่นี่ตัวพ่อจริง ๆ” หนุ่มเพลย์บอยอย่างยศยอมรับในตัวหนุ่มเพลย์บอยรุ่นพี่อย่างฉิม
“เอาล่ะนะ” ฉิมพูด
เต้ได้ยินคำพูดนั้นของฉิม และเขาเห็นพลอยเดินผ่านพอดีจึงรีบเรียก
“น้องครับ พี่ขอโซดาขวดนึง” เมื่อเห็นพลอยเดินออกไปแล้ว เต้รีบพูด “ออกไปเลยพี่”
ฉิมเดินออกมาจากโต๊ะไปยังหน้าร้านที่ไม่ห่างจากโต๊ะมากนัก เขาจงใจที่จะอยู่ในรัศมีการมองเห็นจากโต๊ะ
ไม่นานพลอยก็นำขวดโซดาที่เปิดแล้วมาวางบนโต๊ะ เธอเหลือบมองไปยังเก้าอี้ตัวที่ฉิมเคยนั่ง จากนั้นก็ชะเง้อมองหาเจ้าของเก้าอี้ว่าไปไหนนะ เมื่อเห็นฉิมคุยโทรศัพท์เธอยังจ้องมองทำสีหน้าสงสัย จากนั้นก็เดินออกไป