เรื่องเหล้า ตอน เพื่อนเก่า

กระทู้สนทนา
.
    เต้ค่อย ๆ ขี่มอเตอร์ไซค์เข้าซอยเพื่อจะตรงไปยังร้านเหล้าในคืนวันศุกร์ วันนี้เต้ขี่รถนุ่มนวลเป็นพิเศษเพราะว่าเขามีเพื่อนสาวซ้อนท้ายมาด้วย หญิงสาวเพื่อนของเต้นั่งรถเมล์มาลงป้ายที่ถนนใหญ่ ก่อนที่เต้จะขี่มอเตอร์ไซค์กลับมาจากที่ทำงานและรวดรับเธอเข้ามา

            “จะดีเหรอเต้ ให้เราเข้าไปนั่งร่วมวงกับเพื่อน ๆ ของเต้ที่เป็นผู้ชายทั้งหมด พวกเขาจะไม่อึดอัดเหรอ” เพื่อนสาวถามเต้ในขณะกำลังนั่งป้ายเบาะมอเตอร์ไซค์

            “ไม่เป็นไรหรอกน่าขวัญ เราโทรไปบอกพวกเขาไว้แล้ว ดีซะอีก ปกติก็นั่งกินกันแค่สี่คน วันนี้มีคนมานั่งคุยด้วยอีกหนึ่ง คงจะได้ครึกครื้นหน่อย”

            เต้พูดขณะที่เขายังใช้มือบังคับแฮนด์รถให้ตรงไปยังทิศทางที่เขากำหนด ความจริงแล้วเต้รู้ดีว่าเพื่อนร่วมวงของเขาต่างชอบให้มีหญิงสวย ๆ ไปนั่งประดับในโต๊ะ และขวัญเพื่อนของเขาก็เหมาะที่จะไปสร้างบรรยากาศให้กับวงเหล้า เพราะเต้รู้ดีว่าขวัญเป็นผู้หญิงที่คุยสนุกกับทุกคนและเป็นกันเอง

            “เหรอ ถ้าอย่างนั้นเราก็สบายใจ” ขวัญพูดพร้อมยิ้มอย่างเปิดเผย

            ไม่นานทั้งคู่ก็อยู่หน้าร้านเหล้า เต้จอดมอเตอร์ไซค์พร้อมถอดหมวกกันน็อค

            “พอจะนั่งได้มั้ย” เต้ถามเพราะไม่มั่นใจรสนิยมของเพื่อเก่าที่ห่างหายกันไปนานเกือบ 10 ปี

            ขวัญยิ้มแหย ๆ ก่อนจะพูด “ไม่มีปัญหาหรอก”

            เต้ได้ยินอย่างนั้นโดยที่ไม่หันไปมองรอยยิ้มของขวัญ เขาก็เดินนำเพื่อนสาวเข้าไปในร้าน

            “เอ้า มาซักที” ฉิมพูดเมื่อมองเห็นเต้ “รีบมานั่งเร็ว ๆ พวกข้าเริ่มกรึ่ม ๆ แล้วนะ”

            “เดี๋ยวขอแนะนำเพื่อนของผมให้รู้จักนะพี่ นี่ขวัญเพื่อนผม”

            เต้ผายมือไปทางขวัญ สมาชิกวงเหล้าทั้งสามที่นั่งดื่มไปก่อนแล้วต่างหันมามองยังผู้ที่ถูกแนะนำ พวกเขาเห็นสาวสวยหุ่นดีผิวขาวผมยาว เธอแต่งชุดสูททำงานสำหรับผู้หญิงและยังสะพายกระเป๋าเอกสารหนังสีน้ำตาลเข้ม ใบหน้าของเธอพยายามขับรอยยิ้มออกมาเมื่อถูกแนะนำ

            “สวัสดีค่ะ ขออนุญาตมานั่งด้วยคนนะคะ” ขวัญกล่าวอย่างถ่อมตน

            “เชิญครับ ยินดีครับ” ฉิมพูดแทบจะลิ้นพันกัน

            เต้ยกเก้าอี้มาเสริมที่โต๊ะอีกหนึ่งตัว “นี่พี่ฉิม ยศและนัย” เขาผายมือไปที่แต่ละคนที่เขาเอ่ยชื่อ

            ขวัญและเต้นั่ง

            “พี่ขวัญดื่มอะไรดีครับ” นัยถามพร้อมเตรียมหยิบแก้วไปเตรียมชงเครื่องดื่ม

            “เอ่อ... พี่ขอเหล้าบาง ๆ ผสมโซดาน้ำละกันค่ะ” ขวัญพูด

        จากนั้นนัยก็ชงเหล้าให้ทันที เขาตวงเหล้าลงในฝาแค่ครึ่ง ก่อนจะเทลงไปในแก้วที่มีก้อนน้ำแข็งรออยู่แล้ว จากนั้นจึงเทโซดาและน้ำตามโดยไม่ลืมที่จะใช้คีมคีบน้ำแข็งคนแก้วเหล้าจนแตกฟอง นัยส่งแล้วเหล้าให้ขวัญ

            “แล้วขวัญกับเต้เป็นเพื่อนกันตั้งแต่เมื่อไหร่ล่ะ” ยศถาม

        “ขวัญกับเต้เป็นเพื่อนกันตั้งแต่สมัยมหาลัยแล้วจ้ะ หลังจากจบมาก็แยกย้ายกันไปทำงานไม่ได้เจอกันเลย” ขวัญอธิบาย

        “โห... ไม่ได้เจอกันมาสิบกว่าปีแล้วเพิ่งมาเจอกัน สงสัยต้องมีคุ้ยเรื่องความหลังฮา ๆ มาแฉกันแน่... จริงมั้ยพี่ขวัญ” นัยพูดด้วยร้อยยิ้มร่าพร้อมมองไปที่ขวัญกับเต้สลับกัน เขาหวังจะได้ยินเรื่องสนุก ๆ ของเต้ในอดีต

        “ไม่มี ๆ ตอนอยู่มหาลัยเป็นเด็กเรียน” เต้ยกมือปัดไปมา เหมือนไม่อยากให้พูดถึงเรื่องนี้ นี่เรียกเสียงหัวเราะจากเพื่อนร่วมวงได้พอสมควร

        “เต้มันออกจะหล่อ สมัยเรียนน่าจะสาวเยอะนะ” ยศลองเดา

        เต้รีบมองมาทางขวัญเหมือนจะปรามไม่ให้พูดอะไร แต่นั่นก็สายไปแล้ว

        “เต้น่ะมีสาว ๆ ต่างคณะมาชอบเยอะ” ขวัญพูด

        “จริงหรือพี่ อิจฉาจริง ๆ” นัยพูดพร้อมมองไปที่เต้

        “แต่เพราะเยอะนี่แหละเลยเป็นปัญหา” ขวัญเล่าต่อ

        “อ้าว ยังไงพี่ สับรางไม่ทันเหรอ” นัยถามพร้อมมองไปทางเต้ที่ตอนนี้เริ่มทำสีหน้าอึดอัด แต่เต้คงต้องปล่อยให้เลยตามเลยเพราะถูกเล่ามาถึงขนาดนี้แล้ว

        “เปล่าหรอก เพราะตัวเลือกมันเยอะน่ะสิ กว่าจะตัดสินใจได้ว่าจะเลือกใคร สาวคนที่เต้เลือกก็ดันไปมีแฟนแล้ว รอไม่ไหวหรอก” ขวัญอธิบาย

        “อ้าวเหรอ แค่หญิงคนเดียวเอง จีบคนอื่นก็ได้นี่” ฉิมพูด

        ขวัญยิ้มก่อนพูด “จะมีเวลาไปจีบคนอื่นได้ยังไง ก็กว่าเต้จะมั่นใจว่าชอบสาวคนนั้นก็เล่นปล่อยเวลาให้ล่วงเลยไปเกือบสี่ปี คิดดูสิ สาวคนนั้นมาชอบเต้ตั้งแต่ปีหนึ่ง แต่กว่าเต้จะตอบรับก็ตอนปีสี่ ใครที่ไหนจะรอ” ขวัญพูด

        ฉิม ยศและนัยหัวเราะร่ากับเรื่องนี้ นั่นยิ่งทำให้เต้รู้สึกอาย

        “โธ่ ช่วงเรียนก็ต้องเรียนให้เต็มที่ หากมีความรักอาจจะทำให้เสียสมาธิในการเรียนได้” เต้พูดแก้ตัว แต่นั่นก็ยิ่งทำให้สมาชิกคนอื่นหัวเราะหนักขึ้น รวมถึงขวัญด้วยที่รู้สึกขำกับอาการหน้าแดงของเต้

        ฉิมเห็นรุ่นน้องเริ่มหน้าแดงทั้ง ๆ ที่ยังไม่มีแอลกอฮอล์ตกถึงท้อง จึงบอกให้ทุกคนชนแก้ว “เอ้าชนแก้ว สำหรับเด็กเรียนในรั้วมหาลัยอย่างเต้”

        ทุกคนชนแก้ว รวมทั้งเต้ที่ร่วมชนอย่างมีอาการเขิน ๆ

        “อ้อ ว่าแต่ขวัญตอนนี้ทำงานอะไรอยู่ล่ะ” เต้ถามเมื่อดื่มรวดเดียวหมดแก้ว

        ขวัญที่กำลังค่อย ๆ ดื่มอย่างช้า ๆ เธอทำท่าสำลักน้ำเล็กน้อยก่อนจะค่อย ๆ กลืนเหล้าที่อยู่ในคอจนหมด จากนั้นจึงตอบ “ตอนนี้เราทำงานแบบว่าอบรมคนน่ะ”

        “เหรอ... อ้อ...” เต้ทำเสียงตอบรับเหมือนจะเข้าใจ “ว่าแต่มันเป็นงานประเภทไหนกัน”

        ขวัญกวาดสายตาไปรอบโต๊ะ ทุกคนต่างตั้งหน้าตั้งตารอฟังคำตอบจากเธอ

        “เราอบรมพนักงานขายให้กับบริษัทน่ะ จัดสัมมนาตามโรงแรม” ขวัญพูด

        “อ้อ เป็นหัวหน้าพนักงานขาย” ฉิมพูด เขามองไปทางขวัญที่ผงกหัว “แล้วขายของประเภทไหนกันล่ะ”

        “ตัวที่ขายอยู่ตอนนี้ก็จะเป็นอาหารเสริม” ขวัญพูด

        “อ้อ คงจะเป็นพวกเม็ดวิตามิน ผงเครื่องดื่มสำหรับชงเพื่อสุขภาพ หรืออาจจะเป็นพวกพืชสมุนไพร พอดีเลย ช่วงนี้รู้สึกสุขภาพเริ่มเสื่อมโทรม คงจะทำงานหนักด้วย” ฉิมพูดพร้อมทำท่าเอี้ยวตัวไปมาให้ดูเหมือนมีอาการปวดเมื่อย

        “ผมก็สนใจ ช่วงนี้ทำงานหนัก ไม่ค่อยมีเวลากินอาหารที่มีประโยชน์เท่าไหร่ อยากจะเสริมตรงนี้ด้วยเหมือนกัน” ยศก็ทำท่าสนใจด้วย

        ขวัญได้ยินดังนั้นจึงล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าเอกสารและหยิบของออกมา มันเป็นซองขนาดไม่ใหญ่หลายซอง

        “นี่คืออาหารเสริมรูปแบบใหม่ค่ะ สะดวกในการรับประทาน สามารถพกพาไปกินได้ทุกที่ ไม่ต้องชงไม่ต้องเตรียม แค่ฉีกซองแล้วบีบใส่ปากได้ทันที”

        ขวัญยื่นซองอาหารเสริมสีแดงให้ฉิม ซองสีน้ำตาลให้ยศ ซองสีน้ำเงินให้เต้ และซองสีเขียวให้นัย

        “ลองฉีกซองแล้วบีบใส่ปากเลยค่ะ” ขวัญพูด ทุกคนทำตาม

        “อื้ม... รสชาติเหมือนวุ้นรสผลไม้” ฉิมพูดหลังจากลองกิน “แล้วมันดียังไงบ้าง”

        ขวัญยิ้มก่อนจะพูด “สีแดงสำหรับคุณฉิม สีแดงเป็นสูตรเพิ่มความสดชื่นทำให้สมองกระปี้กระเป่า เพราะในเนื้อเจลจะมีเกลือแร่ที่เป็นประโยชน์ต่อการทำงานของสมองค่ะ ยังมีวิตามินบี 12 ที่จะช่วยให้สมองทำงานได้อย่างเต็มที่ สำหรับการควบคุมกล้ามเนื้อส่วนอื่น ๆ อาการปวดเมื่อยจากการทำงานหนักจะหายไปค่ะ เพราะว่าความเมื่อยล้าที่เกิดจากการทำงานหนักมักจะเกิดจากการที่สมองเราสั่งให้ร่างกายเราเหนื่อย สมองจะสั่งให้ร่างกายต้องหยุดพัก แต่หากเราสามารถกระตุ้นบอกให้สมองว่าเรายังไม่เหนื่อยนะ”

        ขวัญเว้นจังหวะการพูด เธอสังเกตดูท่าทีของผู้ฟังที่ต่างตั้งใจฟัง จากนั้นเธอจึงพูดต่อ

        “หากเรากินอาหารเสริมตัวนี้เป็นประจำ จะทำให้เราสดชื่นตลอดวันเหมือนเพิ่งตื่นนอนในตอนเช้าเลยค่ะ”

        “วิเศษอะไรอย่างนี้ ราคาซองละเท่าไหร่ครับ”

        ฉิมคิดว่าราคาซองอาหารเสริมนี้ตงจะแพงกว่าเจลลี่รสผลไม้ที่ขายตามซูเปอร์มาร์เก็ตสองหรือสามเท่า แต่นั่นก็นับว่าถูกมากเมื่อคิดถึงสรรพคุณตามที่เพื่อนสาวของเต้บรรยายเอาไว้

        “เดี๋ยวขออธิบายสรรพคุณซองสีอื่น ๆ ก่อนค่ะ” ขวัญยังไม่รีบปิดการขายทันที “สำหรับสีน้ำตาลที่คุณยศลองทานไป สูตรนี้จะเป็นสูตรอาหารเสริมที่ทดแทนสารอาหารต่าง ๆ ที่จำเป็นต่อร่างกาย ในสภาพสังคมทุกวันนี้ที่ต้องเร่งรีบในการดำเนินชีวิต ทำให้คนเราส่วนใหญ่มักจะละเลยการทานอาหารให้ครบห้าหมู่ รวมถึงเกลือแร่และวิตามินต่าง ๆ อาหารเสริมตัวนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่มีเวลาเลือกรับประทานอาหาร เพียงทานตัวนี้วันละ 2 ซองก็จะเท่ากับว่าเราได้รับสารอาหารที่เพียงพอต่อหนึ่งวันเลยค่ะ”

        ขวัญหยุดอธิบายเพราะเห็นยศมีท่าทีจะถามคำถาม

        “แล้วจะทดแทนพวกผักผลไม้ได้มั้ยครับ อย่างผมนี่ไม่ค่อยได้แตะพวกนั้นเท่าไหร่ เลยอยากจะเสริมด้วย” ยศถาม

        “ได้แน่นอนค่ะ” ขวัญตอบ

        “แล้วสีน้ำเงินล่ะขวัญ จะช่วยตรงไหน” เต้ถามบ้าง

        “สำหรับสีน้ำเงิน จะเป็นสูตรโปรตีนสกัดจากปลาทะเล เป็นโปรตีนเข้มข้นและบริสุทธิ์ เหมาะสำหรับการสร้างกล้ามเนื้อโดยเฉพาะ ทำให้มีกล้ามเนื้อเหมือนกับคนที่ออกกำลังกายหนัก เราไม่จำเป็นที่จะต้องไปยกเวทน้ำหนักเป็นร้อย ๆ กิโลฯให้เสี่ยงต่อการบาดเจ็บ ไม่ต้องไปวิ่งออกกำลังบนพื้นถนนให้ข้อเข่าเสื่อม เพียงแต่กินตัวนี้ก็จะทำให้เราแข็งแรงมีกล้ามเนื้อเป็นมัด ๆ เหมือนนักกีฬา” ขวัญบรรยายสรรพคุณ

        “ว้าว... วิเศษไปเลย อยากได้แบบนี้มานานแล้ว ต้องกินนานเท่าไหร่ล่ะเนี่ยถึงจะหุ่นดีแบบนักกีฬา” เต้ถาม

        ขวัญทำมือเป็นเลขสาม “สามเดือนเห็นผลทันทีหากกินต่อเนื่อง”

        “แล้วของผมละพี่” นัยถามบ้าง

        ขวัญทำหน้าอาย ๆ ก่อนจะพูด “ซองสีชมพูสำหรับเพิ่มความสุขในการมีเพศสัมพันธ์กับคู่รัก และเพิ่มเวลาให้ยาวนานยิ่งขึ้น”

        “จริงหรือครับ” นัยตื่นเต้นดีใจเมื่อรู้ถึงฤทธิ์ขออาหารเสริมที่เขาเพิ่งกินไป

        “นั่นแน่... จะเอาไปใช้กับใคร” ฉิมแซว

        “ก็แฟนผมยังไงล่ะพี่ จะไปใช้กับใครที่ไหน” นัยยิ้มเขิน ๆ

        “ว่าแต่ราคาซองละเท่าไหร่ล่ะเนี่ย” ฉิมถามขึ้นมา

        “ปกติราคาขายปลีกอาหารเสริมนี้อยู่ที่ซองละ 120 บาท” ขวัญพูดประโยคแรกเสร็จก็รีบพูดประโยคต่อไปทันที ก่อนที่จะมีใครร้อง ‘หา!’ “แต่เดี๋ยวก่อน หากสมัครเป็นสมาชิกของบริษัทจะสามารถซื้ออาหารเสริมได้ในราคาซองละ 20 บาท”

        สีหน้าของทั้งสี่เปลี่ยนเป็นโล่งใจเมื่อได้ยินราคาสมาชิก

        “แล้วค่าสมัครสมาชิกนี่เท่าไหร่” ยศถาม

        “สำหรับค่าสมัครสมาชิกเพื่อที่จะสามารถมาซื้อสินค้าของเราในราคาถูก ค่าสมัครต่อหนึ่งรหัสคือสี่หมื่นบาท” ขวัญพูดประโยคแรกเสร็จก็รีบพูดประโยคต่อไปทันที ก่อนที่จะมีใครร้อง ‘หา!’ “แต่เดี๋ยวก่อน สำหรับการสมัครสมาชิกนี้จะไม่ใช่การจ่ายเงินค่าสมัครทิ้งไปเปล่า ๆ แต่สมาชิกสามารถออกไปหาคนให้มาสมัครสมาชิกต่อ ๆ กันไปได้ หากหาคนมาสมัครได้ ก็จะได้ค่าคอมมิชชั่น 30 เปอร์เซ็นต์ของสี่หมื่นบาท หากหามาได้สี่คนก็ได้เงินคืนเกินค่าสมัครที่เราจ่ายไปแล้วค่ะ หลังจากนั้นก็เป็นกำไร”

        ขวัญหยุดพักเสียง

        “แต่ยังไม่หมดค่ะ หากสมาชิกที่เป็นรหัสลูกต่อจากเรา ไปรับสมัครสมาชิกมาเพิ่มได้ คนที่มาสมัครสมาชิกเข้ามาใหม่ก็จะถือว่าเป็นรหัสหลานของเรา เราจะได้ 10 เปอร์เซ็นต์ของค่าสมัครสมาชิก และหากรหัสหลานของเราไปรับสมัครสมาชิกรหัสเหลนมาอีก เราก็จะได้อีก 5 เปอร์เซ็นต์ สรุปก็จะมีอยู่สามระดับชั้นที่จะมีคนทำงานให้เรา โดยที่เราสามารถหยุดพักได้ แต่ก็ยังมีรายได้เข้ามาเรื่อย ๆ อยู่อีก”

        ทุกคนบนโต๊ะต่างนั่งฟังอย่างตาโต

        “น่าสนใจ ถ้าข้าเอาไปหาสมาชิกที่โรงงาน ต้องมีคนมาสมัครเป็นสิบแน่ ๆ” ฉิมพูด

        “แล้วพี่มีค่าสมัครแล้วเหรอ ตั้งสี่หมื่นเลยนะ” ยศถาม
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่