ผมทำอะไรผิด และผมผิดตรงไหนที่มิใช่ทำอาชีพราชการ ทำไมจึงเลิกกัน!

สวัสดีครับ ผมชื่อกร (นามสมมุติ) อายุย่าง 27 ปี จบเนติบัณฑิตไทย เดิมเป็นทนายความ สำนักงานกฎหมายชื่อดังย่านพญาไท ปัจจุบันเพิ่งสอบติดผู้ช่วยผู้พิพากษาครับ ผมปัจจุบันโสด ยังไม่มีแฟน ต้องการหาคำว่า "ความรัก" คืออะไร เหตุใดคนเราจึงต้องมีแฟนกันด้วย เรื่องนี้ผมสงสัยกับตัวเองว่า ทำไมจึงล้มเหลวในความรัก ผมล้มเหลวในความรักมา 2 ครั้งแล้วครับ ผมจะขอเล่าแบบกระชับให้มากที่สุด 
       คนแรกเป็นผู้ช่วยพยาบาล ชื่อน้ำฟ้า คนนี้เธอเป็นคนแรกสำหรับผม และผ่านมือผมคนแรกด้วย ผมได้เจอเธอ และไปหาเธอหลายครั้ง และพวกเราตกลงกันว่าจะพาเธอและครอบครัวเธอไปทำความรู้จักกับครอบครัวของผม แล้วอาจจะมีการสู่ขอตามประเพณีไทยต่อไป แม้ว่าผมกับเธอจะได้มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกันมาก่อน แต่ผมก็อยากแสดงถึงความรับผิดชอบของผมที่มีต่อเธอ จนวันหนึ่งผมไปรู้เรื่องของเธอเข้า ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ดี และน่าอาย จนผมโมโหมาก คือมันสุดๆ ซึ่งเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนที่จะมาคุยกับผม และก่อนที่จะตกลงคบกันกับผม ผมโมโหจริงๆ โกรธมากด้วย สุดท้ายเขาบอกเลิกผมในเรื่องพวกนี้ โดยที่ผมแค่ว่า และด่าเท่านั้น เขาบอกเลิกผมว่า สาเหตุที่ว่า ไม่อยากให้ทำให้กร เสื่อมเสียต่างๆ ผมก็บอกว่า ไม่เป็นไรเธอ ผมรับได้ มันเป็นอดีตมาแล้ว สุดท้ายผมไม่เคยนำมาโยงถึงเรื่องพวกนี้เลยครับ มีแต่เขาที่โยงอย่างเดียว จนสุดท้ายเลิกกันจริงๆ ด้วย ปัจจุบันผมไม่ทราบข่าวคราวเขาอีกเลย ผมพยายามง้อมาก โทรถามสารทุกข์สุกดิบกับแม่เขา สุดท้ายง้อไม่สำเร็จ ผมเศร้าใจมาก คือกูผิดอะไรด้วย
      คนสองยังไม่ได้คบกันเป็นแฟน เธอคนนี้ชื่อ พลอย และกำลังเตรียมสอบใบประกอบวิชาชีพพยาบาล จบมอรัฐบาล ผมได้คุยกับเธอคนนี้ผ่านแอปหาคู่เช่นกัน คนนี้เขาก็คุยดีกับผม ส่วนใหญ่จะคุยนินทาเพื่อนเป็นส่วนใหญ่ เขาก็ขอคำปรึกษาจากผม ผมก็ให้คำปรึกษา เทค์แคร์ ห่วงใย และคอยช่วยเหลือเธอต่างๆ ส่วนใหญ่เขาจะนินทาเรื่องเพื่อนๆ ที่ไม่ชอบขี้หน้าให้ผมฟังประจำ ซึ่งผมก็งงและยอมรับฟังได้ กว่าเราจะได้โทรคุยกัน ได้เจอกันก็ใช้เวลานานมากครับ ก็คุยกันปกติ ไม่ได้มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งอะไรเลย ให้เกียรติเขา ไม่เคยแม้กระทั่งจับมือถือแขนเขาเลย ต้องขออนุญาตกับเขาก่อน ผมได้มีโอกาสเจอเขา พาเลี้ยงข้าว เลี้ยงน้ำ ให้เงินเขาบางส่วน ช่วยเหลือเขา เหมือนเพื่อนสนิท ก็คือผมจีบเขานั้นแหละ จนวันหนึ่งเขาบอกว่า เขาไม่ได้ชอบพี่ พี่อ่ายังคิดถึงกับแฟนเก่าอยู่ ผมงงมากครับ แฟนเก่าก็ไม่เคยติดต่ออะไรเลย ไม่แม้กระทั่งไปหา หรือไปเจอ คือผมพูดตรงๆ ว่า ผมยอมรับว่า ผมเคยง้อและโทรคุยกับแม่แฟน ก็เป็นการคุยกันก่อนที่ผมจะได้มาคุยกับเธอคนที่สองนี้ เมื่อคุยกับคนที่สองผมก็ไม่ได้ติดต่อใดๆ กับแม่แฟน และรวมถึงตัวแฟนด้วย นี่ผมพูดจากใจจริง และผมผิดอ่อครับ ผิดใช่ไหมที่เธอบอกว่า ผมยังคิดถึงกับแฟนเก่า ยังคงคุยกับแฟน คือผมไม่ได้คุยกับแฟนใดๆ ด้วย เหมือนผมเป็นไอ้โง่ อ่า ขนาดผมพาเธอไปเที่ยว ณ สถานที่ต่างๆ พาเธอเที่ยวกินข้าว ดูหนังและฟังเพลง สิ่งที่มีราคาแพงคือพาเธอไปกินโอมากาเซะที่มีราคาค่อนข้างแพง เธอไปด้วยรอยยิ้มและมีความสุข ถ่ายรูปในส่วนของเธอ ผมเห็นเธอยิ้มและมีความสุข ผมก็มีความสุขด้วยแล้วครับ แล้วภายหลังเธอบอกผมว่า หนูไม่มีความสุขเลย ที่ไปกับพี่เพราะพี่ตื้อและชวนหนูเอง ผมก็งงว่าผิดตรงไหน ขนาดผมจะขอลงรูปเธอตอนที่คุยกันจีบกันอยู่ เธอยังไม่อนุญาตให้ผมลงเลยครับ สุดท้ายผมสืบทราบภายหลังว่า เธอมีคนคุยอยู่แล้วครับ ทั้งที่คุยกับผมประมาณ 2 ปี คุยในฐานะเพื่อน และผมไม่เคยไปแอบคุยกับใครมาก่อน หรือแอบตีกิน ตีเนียนกับคนอื่น สุดท้ายผมก็อกหักตามเดิมครับ 
       คนที่สามเธอชื่อ อิง เป็นข้าราชการครู คนนี้ ผมเจอเธอในเฟสบุ๊ค เธอเป็นครูแถว กทม.เขตดัง ผมก็คุยกับเธอ ทำความรู้จักแบบเพื่อนไปก่อน ผมก็คุยกับเธอแบบนี้ มาหลายครั้งมากแล้ว ประมาณได้ 1 เดือนกว่า ก็นัดเจอกัน พูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และความยากของการทำงานเป็นครูกับทนายความว่าต่างกันอย่างไร เธอเป็นคนกันเอง หัวเราะ ตลกขบขัน และเธอเป็นคนสูง ขาว สวยมากๆ ส่วนสูงน่าจะ 174-175 น้ำหนักน่าจะ 48 ส่วนผมแค่ 165 เอง น้ำหนัก 95 ก็คุยกันจีบกัน ช่วงที่จีบก็ขออนุญาตจับไม้จับมือเธอ เธอก็ไม่ว่าอะไร และจับตอบ ก็คุยกัน ผมก็เลี้ยงข้าวเธออย่างดี และอย่างหรู ปกติ ถ้าวันไหนผมติดงานและเลิกไว ก็จะไปหาเธอนั่ง MRT,BTS ไป สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัยกว่าการขับรถไปหาเธอ รวมๆ แล้วก็ใช้เวลาประมาณ 5 เดือน ผมคบไม่ได้หวังความสัมพันธ์เรื่องบนเตีบง หรือเรื่องใดๆ ถ้าผมจะขอเธอ ผมจะขอเธอแบบตรงๆ แต่ผมไม่เคยคิดจะขออะไรกับเธอเลย จนวันหนึ่งผมสืบทราบมาว่า เธอมีแฟนแล้วคบกันน่าจะนานแล้ว ผมนี่ช็อกไปเลยครับ ว่าทำไมมีแฟนแล้ว ยังจะมาคุยกับผม มาคบหากับผมอีก ทำไมไม่ให้เกียรติแฟนตัวเองเลย สืบทราบมาว่า แฟนเขาเป็นนักธุรกิจ ผมก็จ๊อย ก็ร้องไห้และเสียใจ แต่ยังคงคิดว่า ผู้ชายอย่างเราไม่น่าจะโสดได้ขนาดนั้น เราจะล้มเหลวกับความรักเชียวอ่อ
         คนที่สี่ เธอชื่อ จอย ทำงานเป็นลูกจ้างของบริษัท ผมก็รู้จักเธอผ่านเฟสบุ๊ค ก็ทำความรู้จัก พูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็น เธอยังบอกเลยว่า เธอเป็นแค่ลูกจ้าง ส่วนกรเป็นถึงทนายความ คิดดีแล้วใช่ไหมที่จะจีบคนอย่างเราที่ไม่มีอนาคต ผมก็บอกว่าไม่เป็นไร ไม่เคยถือสาในเรื่องพวกนี้ ทุกอย่างค่อยเป็นไปตามระบบ ผมก็คุยกับเธอหลายรอบ เจอกันหลายครั้ง ซึ่งเป้าหมายของเธอคือจะสอบเข้ารับราชการในตำแหน่ง นักจัดการทั่วไป ซึ่งผมก็เต็มใจและช่วยเหลือเธอ เสมือนเป็นเพื่อนคนหนึ่งที่เคยช่วยผมมาก่อนจนผมประสบความสำเร็จ ผมก็ช่วยเธอ ติดขัดเรื่องไหนก็บอกได้ จอยจะเป็นคนที่มีรูปร่างหน้าที่ดี สวย หุ่นดี ส่วนสูงน่าจะ 172-173 น้ำหนักน่าจะ 50 ต้นๆ ผมก็ให้กำลังใจเธอ ซัมพอตในเรื่องเงิน และหนังสือต่างๆ ผมมักจะไปหาที่ B2S แถวกทม.บ้าง จะซื้อหนังสือพวกเตรียมสอบหมดงบเป็นพัน ไหนจะเตรียมเรื่องการสอบภาค ก.ให้ด้วย ปูพื้นฐานพวกคอร์สติวต่างๆ ให้ ให้เต็มที่กับการอ่านหนังสือสอบ อันนี้ใกล้วันจะเปิดรับสมัครภาค ก.แล้ว ผมมักจะย้ำว่า เลิกจากงานแล้วก็อ่านหนังสือสอบได้ ให้ทำในส่วนที่เราทำไม่ได้และยาก เป็นตัวที่ออกสอบก่อนเป็นอันดับแรก เป็นการจัดลำดับความสำคัญว่าอันไหนมาก่อนหรือหลัง ผมได้รู้จักกับเธอคนนี้ได้ประมาณ 5 เดือนกว่าได้ จนวันหนึ่งผมได้สอบถามความรู้สักของเธอที่มีต่อผม เธอจะบอกผมว่า รักต่างๆ อันโน้นนี่นั้น ให้กำลังใจ และช่วยเหลือเราต่างๆ จนวันหนึ่งผมอยากถามเรื่องความสัมพันธ์ของเธอที่มีต่อผม จนผมสืบทราบมาว่า เธอมีคนค่อนข้างจีบเยอะ และเหมือนเปิดโอกาสให้คนอื่นด้วย ผมก็งงไปเลย ผมถามถึงเรื่องความสัมพันธ์ต่างๆ ระหว่างผมกับเธอ จำเป็นไหมต้องมีพิธีการขอหมั้นและแต่งงานก่อน สมัยนี้ จะหาคนทำตามประเพณีไทยยากมากครับ ส่วนใหญ่รักๆ เลิกๆ แต่สำหรับผมไม่เคยคิดจะบอกเลิกกับใครเลยครับ จนวันหนึ่งผมสืบทราบมาว่า เธอมีคนคุยครับ ซึ่งเป็นข้าราชการชำนาญการแห่งหนึ่งย่านกทม.ทำงานเกี่ยวกับการตรวจเอกสารทั่วไป ผมรับรู้แล้ว เสียใจมากๆ คัรบ ทั้งที่สถานะของผมกับเธอคือเป็นแฟนกัน แล้วเธอบอกผมว่า เราไม่ได้ชอบกร ไม่เคยบอกด้วยว่าเรากับกรเป็นแฟนกัน กรเป็นเพื่อนที่ดีนะ ที่คอยช่วยเหลือและแนะนำเรา เรามีคนที่ชอบอยู่แล้ว ซึ่งพี่เขาก็โทรหาเรา ซึ่งเขาแนะนำเรื่องประเพณีไทย ผมก็ถามว่า ประเพณีไทยสมัยนี้ ต้องพิสูจน์อะไรต่างๆ มากมาย ต้องฟันฝ่าอุปสรรคร่วมกัน ต้องใช้ชีวิตร่วมกัน การมีแฟนและความรักซึ่งมันหาง่ายมาก แต่การเป็นคู่ชีวิตยากกว่า เพราะต้องเจออะไรต่างๆ ซึ่งเขาก็ยืนยันว่าเขาชอบข้าราชการชำนาญการนั้น ผมเป็นอันท้อใจมากครับ แม้เรื่องพวกนี้จะผ่านมาแล้วเป็นเวลาน่าจะ 3 เดือน (ก่อนประกาศผล) ก็ทำให้ผมอดสงสัยไม่ได้ว่า ผู้หญิงคนเราชอบผู้ชายที่ปฏิบัติกันอย่างไร หรือว่าผมไม่ได้รับราชการว่างั้น
         จนวันหนึ่ง ผมตั้งใจอย่างมากเพื่อที่จะล้างแค้นในเรื่องความรัก ผมก็ตั้งใจอ่านหนังสือจนสอบเป็นผู้ช่วยผู้พิพากษาได้ แบบนี้ ผมมีคุณค่าและมีดีพอหรือยังที่จะจีบผู้หญิงพวกนี้ ผมยังอดสงสัยไม่ได้ว่า ผู้หญิงชอบผู้ชายเพราะอะไร ทำไมจึงมีเหตุการณ์เลิกกันบ่อยมาก ทะเลาะกัน ตีกัน ทุบตีกัน และชกต่อยกัน ต่อยแบบเป็นกระสอบทราย ผมก็งงว่า ผมแค่ทะเลาะกัน ด่ากัน นิสัยของผมก็เป็นคนตรงๆ แต่ไม่เคยคิดจะทำเรื่องตีกัน ทุบตีอะไรพวกนี้ เพราะมันยิ้มครับ ผมมองว่า การด่ากัน ทะเลาะกันในระหว่างคู่รัก ก็เป็นเรื่องปกติ ขนาดครอบครัวบางครอบครัวก็ทะเลาะกัน ด่ากัน ก็ไม่เห็นมีปัญหาอะไรที่จะนำมาสู่การเลิกกัน
        ผมอยากรู้ว่า รักแท้ของผู้ชายอย่างผม มันมีอยู่จริงไหม หรือว่ามีแค่ในนวนิยาย ผมโครตเจ็บมากครับ ผมควรมีแฟน คนรัก เพื่อสร้างครอบครัวอย่างคนอื่นไหมครับ ซึ่งผมก็เต็มใจที่จะดูแลเขา ไม่ให้เขาลำบาก เลี้ยงดู ไม่ต้องทำงานบ้าน ไม่ต้องทำกับข้าว ใดๆ ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุด ผมอยากรู้ว่า ผมควรจะมีแฟนเพื่อสร้างครอบครัวไหมครับ ทั้งที่ผมก็รู้จักกับคำว่า "รักตัวเอง" ทำหน้าที่ของตนเองจนประสบความสำเร็จ แต่ล้มเหลวในความรัก ซึ่งเป็นอะไรที่น้อยเนื้อต่ำใจมากที่สุด ดังนั้น ผมขอความเห็นและคำแนะนำจากพี่ๆ และเพื่อนๆ ด้วยนะครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่