สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 8
1. เมื่อคุณป่วย คุณมีสิทธิลาป่วยโดยได้รับเงินดือน 30 วันต่อปีครับ หากเกิน 30 วันแล้ว คุณอาจจะไม่ได้รับค่าจ้างต่อ แต่คุณยังคงเป็นพนักงานครับ ไม่มีความผิด แต่อาจเป็นเหตุให้นายจ้างสามารถบอกเลิกจ้างคุณได้
2. ต้องให้นายจ้างเป็นฝ่ายเลิกจ้างครับ คุณมีสิทธิได้รับเงินชดเชยการเลิกจ้าง ตามที่คุณผึ้งน้อยแจ้ง เมื่ออายุงานเกิน 6 ปี แต่ไม่ถึง 10 ปี คือ 240 วัน เป็นเงินที่นายจ้างต้องจ่ายให้คุณเนื่องจากการบอกเลิกจ้างงานครับ
"หากผมใช้วิธิการดื้อแพ่ง ไม่ยอมเซ็น นายจ้างมีสิทธิ์ที่จะใช้คำสั่งไล่ออก ซึ่งจะทำให้ผมเสียประวัติและได้เงินชดเชยเพียง 90% จากการว่างงานเท่านั้น ถูกต้องมั้ยครับ"
ไม่ถูกครับ ถ้าคุณถูกบอกเลิกจ้าง คุณจะได้รับเงินทดแทนกรณีว่างงาน 50% ของค่าจ้างต่อเดือน ไม่เกิน 180 วัน (จนกว่าจะได้งานใหม่)
3. เมื่อการเลิกจ้างมีผลแล้ว คุณต้องไปแจ้งที่กรมการจัดหางาน ว่าตอนนี้คุณถูกเลิกจ้าง เพื่อขอรับเงินชดเชยการว่างงานจากสำนักงานประกันสังคมครับ เป็นเงินอีกส่วนที่คุณมีสิทธิได้นะครับ
ปัจจุบันสามารถยื่นเรื่องทางอินเตอร์เน็ตได้แล้วด้วยครับ ผมเพิ่งเห็นกระทู้แนะนำเมื่อไม่นานนี้เองครับ ขอแปะลิงค์ไว้ด้านล่างครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
สรุป ต้องให้นายจ้างเลิกจ้าง คุณมีสิทธิได้รับ
1. ค่าชดเชยจาก นายจ้าง 240 วัน
2. เงินทดแทนกรณีว่างงาน จาก ประกันสังคม 50% ของค่าจ้าง ไม่เกิน 180 วัน
ค่าชดเชย ไม่มีนายจ้างที่ไร้จริยธรรมคนไหนอยากจ่ายหรอกครับ แต่มันเป็นสิทธิตามกฎหมายของคุณ ไม่เห็นต้องอายอะไรอะไรเลยครับ รักษาสิทธิของตัวเองเถอะครับ ในยามสุขภาพแข็งแรงคุณก็ทำประโยชน์ให้กับนายจ้างอยู่แล้ว เมื่อเขาหาประโยชน์จากคุณต่อไม่ได้ จะเลิกจ้างก็ Fair ครับ แต่เขาก็มีหน้าที่ต้องช่วยเหลือคุณด้วยครับ
2. ต้องให้นายจ้างเป็นฝ่ายเลิกจ้างครับ คุณมีสิทธิได้รับเงินชดเชยการเลิกจ้าง ตามที่คุณผึ้งน้อยแจ้ง เมื่ออายุงานเกิน 6 ปี แต่ไม่ถึง 10 ปี คือ 240 วัน เป็นเงินที่นายจ้างต้องจ่ายให้คุณเนื่องจากการบอกเลิกจ้างงานครับ
"หากผมใช้วิธิการดื้อแพ่ง ไม่ยอมเซ็น นายจ้างมีสิทธิ์ที่จะใช้คำสั่งไล่ออก ซึ่งจะทำให้ผมเสียประวัติและได้เงินชดเชยเพียง 90% จากการว่างงานเท่านั้น ถูกต้องมั้ยครับ"
ไม่ถูกครับ ถ้าคุณถูกบอกเลิกจ้าง คุณจะได้รับเงินทดแทนกรณีว่างงาน 50% ของค่าจ้างต่อเดือน ไม่เกิน 180 วัน (จนกว่าจะได้งานใหม่)
3. เมื่อการเลิกจ้างมีผลแล้ว คุณต้องไปแจ้งที่กรมการจัดหางาน ว่าตอนนี้คุณถูกเลิกจ้าง เพื่อขอรับเงินชดเชยการว่างงานจากสำนักงานประกันสังคมครับ เป็นเงินอีกส่วนที่คุณมีสิทธิได้นะครับ
ปัจจุบันสามารถยื่นเรื่องทางอินเตอร์เน็ตได้แล้วด้วยครับ ผมเพิ่งเห็นกระทู้แนะนำเมื่อไม่นานนี้เองครับ ขอแปะลิงค์ไว้ด้านล่างครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
สรุป ต้องให้นายจ้างเลิกจ้าง คุณมีสิทธิได้รับ
1. ค่าชดเชยจาก นายจ้าง 240 วัน
2. เงินทดแทนกรณีว่างงาน จาก ประกันสังคม 50% ของค่าจ้าง ไม่เกิน 180 วัน
ค่าชดเชย ไม่มีนายจ้างที่ไร้จริยธรรมคนไหนอยากจ่ายหรอกครับ แต่มันเป็นสิทธิตามกฎหมายของคุณ ไม่เห็นต้องอายอะไรอะไรเลยครับ รักษาสิทธิของตัวเองเถอะครับ ในยามสุขภาพแข็งแรงคุณก็ทำประโยชน์ให้กับนายจ้างอยู่แล้ว เมื่อเขาหาประโยชน์จากคุณต่อไม่ได้ จะเลิกจ้างก็ Fair ครับ แต่เขาก็มีหน้าที่ต้องช่วยเหลือคุณด้วยครับ
ความคิดเห็นที่ 3
ตามคำพิพากษาศาลฎีกาแรงงาน นายจ้างคุณทำได้ครับ
ไล่ออกยังได้เลย เพราะลูกจ้างป่วยนานแบบไม่สามารถกำหนดได้ว่าจะทำงานได้เมื่อไหร่
นายจ้างไม่ได้ทำผิดกฎหมายครับ
คำพิพากษาฎีกา คำว่าโจทก์ ในคดีนี้คือลูกจ้างที่ป่วยเป็นเบาหวานนะครับ จำเลยคือนายจ้างซึ่งเป็นมหาวิทยาลัย
กฎหมายแรงงานที่ทำให้เลิกจ้างได้ กรณีป่วยนาน ม.583
มาเพิ่ม
แต่...คุณควรให้เขาปลด เพื่อจะได้ค่าชดเชยตามฐานการทำงาน 8 ปี
ไล่ออกยังได้เลย เพราะลูกจ้างป่วยนานแบบไม่สามารถกำหนดได้ว่าจะทำงานได้เมื่อไหร่
นายจ้างไม่ได้ทำผิดกฎหมายครับ
คำพิพากษาฎีกา คำว่าโจทก์ ในคดีนี้คือลูกจ้างที่ป่วยเป็นเบาหวานนะครับ จำเลยคือนายจ้างซึ่งเป็นมหาวิทยาลัย
กฎหมายแรงงานที่ทำให้เลิกจ้างได้ กรณีป่วยนาน ม.583
มาเพิ่ม
แต่...คุณควรให้เขาปลด เพื่อจะได้ค่าชดเชยตามฐานการทำงาน 8 ปี
ความคิดเห็นที่ 2
ขอตอบเป็นกลางนะ
คุณป่วยไม่ผิดครับ ไม่มีใครอยากให้มันเกิดขึ้น ทั้งคุณและที่ทำงาน แต่เมื่อมันเกิดขึ้นแล้ว มันส่งผลต่อหน้าที่การงาน และไปกระทบต่อคนอื่นในที่ทำงาน
หัวหน้าก็จำเป็นจะต้องทำแบบนี้ คือขอให้คุณออกเอง เพราะถ้าปลดออก ทางหน่วยงานก็ต้องจ่าย300% ซึ่งเขาก็ไม่อยากจ่ายหรอกครับ แต่ในกรณีสุดท้าย คุณก็น่าจะโดนปลดและได้เงิน300%
สรุปว่า คุณเตรียมตัวโดนปลดครับ รอรับ300%
ส่วนหัวหน้าตามหน้าที่เขาก็ทำตามระเบียบ แม้มันจะดูใจดำเกินไป
(ผมคิดว่าเราคงไม่อยากจ่ายเงินจ้างคนที่ไม่มาทำงานใช่มั้ยครับ ไม่ว่าจะด้วยเหตุอันใด หน่วยงาน บริษัท โรงงาน ต้องเดินต่อไป โลกมันโหดร้ายจริงๆครับ)
คุณป่วยไม่ผิดครับ ไม่มีใครอยากให้มันเกิดขึ้น ทั้งคุณและที่ทำงาน แต่เมื่อมันเกิดขึ้นแล้ว มันส่งผลต่อหน้าที่การงาน และไปกระทบต่อคนอื่นในที่ทำงาน
หัวหน้าก็จำเป็นจะต้องทำแบบนี้ คือขอให้คุณออกเอง เพราะถ้าปลดออก ทางหน่วยงานก็ต้องจ่าย300% ซึ่งเขาก็ไม่อยากจ่ายหรอกครับ แต่ในกรณีสุดท้าย คุณก็น่าจะโดนปลดและได้เงิน300%
สรุปว่า คุณเตรียมตัวโดนปลดครับ รอรับ300%
ส่วนหัวหน้าตามหน้าที่เขาก็ทำตามระเบียบ แม้มันจะดูใจดำเกินไป
(ผมคิดว่าเราคงไม่อยากจ่ายเงินจ้างคนที่ไม่มาทำงานใช่มั้ยครับ ไม่ว่าจะด้วยเหตุอันใด หน่วยงาน บริษัท โรงงาน ต้องเดินต่อไป โลกมันโหดร้ายจริงๆครับ)
แสดงความคิดเห็น
ขณะนี้ผมป่วยจึงต้องพักรักษาตัวในโรงพยาบาลมานานกว่า 1 เดือน เจ้านายจึงมาขอให้เซ็นใบลาออก....
ผมเป็นพนักงานส่วนงานของมหาวิทยาลัยของรัฐที่ออกนอกระบบแล้ว ซึ่งพนักงานส่วนงานจะทำสัญญาจ้างงานปีต่อปี
และผมทำงานนี้มา 8 ปีแล้ว จึงได้รับสิทธิ์ที่จะได้ต่อสัญญาโดยอัตโนมัติทุกปี หากไม่ได้ทำความผิดใดๆ
ทีนี้ปัญหาที่มาจู่โจมผมก็คือ เมื่อต้นเดือนก่อน ผมเกิดล้มป่วยกระทันหัน โดยได้รับเชื้อโรครุนแรงจำเป็นต้องได้รับการรักษา
โดยการตัดนิ้วเท้าออก เพื่อรักษาอาการติดเชื้อ ไม่ให้รุกลาม เพราะอาจทำให้เสียชีวิตได้
และขณะนี้ โชคร้ายผมยังไม่จบ หลังจากที่ผมได้รักษาอาการป่วยมาเดือนเศษๆ หัวหน้างานได้มาเยี่ยมและได้ขอร้องให้ผมยื่นใบลาออกจากงาน เพื่อที่ทำงานจะได้รับเจ้าหน้าที่คนใหม่มาทำงานแทนตัวผม เนื่องจากหัวหน้าคิดว่าผมควรจะไปรักษาตัวต่อที่บ้านจะเหมาะสมกว่ากลัฃมาทำงาน
ซึ่งผมคิดว่า หากผมทำใจให้เป็นกลาง ผมก็ไม่คิดจะยึดงานนี้ไว้โดยไม่คำนึงถึงความเสียหายของที่ทำงานที่จะเกิดขึ้นจากการหยุดงานของผม
แต่สิ่งที่ผมอยากขอคำปรึกษาก็คือ ผมควรจะเซ็นใบลาออกหรือจะให้เค้าเลิกจ้างเองจะดีกว่า
เพราะเท่าที่ผมเคยได้ยินมา การลาออก ผมจะได้เงินชดเชยการว่างงาน 30 % เป็นเวลาไม่เกิน 90 วัน แต่ถ้าผมถูกเลิกจ้าง โดยที่ผมไม่มีความผิด ผมจะได้รับเงินชดเชย จำนวน 50 % เป็นเวลาไม่เกิน 180 วัน
ซึ่งหากคำนวนง่ายๆ กลมๆ ก็คือ ถ้าผมลาออก ผมจะได้เงินเท่ากับ 90 % ของเงินเดือน 1 เดือน
แต่หากถูกเลิกจ้างโดยไม่มีความผิด ผมจะได้เงิน 300 % ของเงินเดือน
...สิ่งที่ผมไม่รู้ก็คือ การที่ผมลาป่วยเป็นเวลานาน ( ตอนนี้เดือนกว่าๆ และอาจต้องนานถึง 2 เดือน) นั้นถือเป็นความผิดที่นายจ้าง สามารถบอกเลิกสัญญาจ้างได้โดยถูกกฏหมายหรือไม่ ซึ่งเป็นข้อมูลที่สำคัญที่จะต้องใช้ในการตัดสินใจต่อไป
....ถ้าอย่างนั้นผมขอตั้งคำถามเลยนะครับ
1 การลาป่วยของผมนั้นผิดมั้ยครับ
2 การที่หัวหน้ามาขอให้ผมเซ็นใบลาออกนั้นถูกต้องมั้ยครับ
3 ผมควรจะลาออกโดยดีหรือควรจะทำอย่างไรต่อไปดีครับ เพราะผมก็มีความจำเป็นต้องใช้เงินที่ควรจะได้ทุกบาททุกสตางค์ในการรักษาตัวต่อไปในระหว่างการพักฟื้นและตกงานนี้
ผมขอรบกวนผู้รู้ทุกท่านด่วนด้วยนะครับ เพราะหัวหน้าจะเอาเอกสารมาให้เซ็นใน 2 - 3 วันนี้แล้วครับ ขอบคุณครับ