*** นิตยสาร SPORTS WEEKLY ฉบับปี 2013 ไม่รู้ว่าปักษ์ไหน แต่ราวๆปลายปี
หน้าปก ฮุ่ยรั่วฉี กัปตันวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติจีนคนใหม่
สวรรค์มอบความงามให้เธอ และก็มอบความสูง 1.91 เมตรมาให้เธอด้วย สวรรค์ยังให้คุณพ่อที่ร่ำรวยแก่เธอ
และก็ยังให้เธอรักกีฬาที่ต้องเหนื่อยยากอย่างวอลเลย์บอล ประกอบกับมีครูที่เข้มงวด เธอจดจำคำศัพท์อังกฤษได้จำนวนมาก
แต่กลับจำไม่ได้ว่าครั้งแรกที่เจอหลางผิงว่าคือเมื่อไร? จำไม่ได้ว่าครั้งแรกที่ได้รับคำชมเชยคือเรื่องอะไร?
ราศีมีนเป็นราศีสุดท้ายของจักรราศี เป็นผู้มีความเจริญก้าวหน้าราศีหนึ่ง คุณจะไม่สามารถเดาใจคนราศีมีนได้
เพราะปลา 2 ตัวเหมือนกำลังแหวกว่ายเล่นซ่อนหากัน เธอเป็นกัปตันวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติจีน เป็นประเภทกีฬาความหวัง
ของคนจีนนับพันล้านคน เธอเป็นผู้หญิงเข้มแข็ง เป็นศิษย์รักโค้ชหลางผิง เป็นลูกสาวของฮุ่ยเฟยผู้บริหารระดับสูงของบริษัท
ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ สาวราศีมีนมีความซุกซนขี้เล่น อารมณ์แปรเปลี่ยนง่าย ปลา 2 ตัวของราศีมีนก็เฉกเช่นมวยไท่จี๋
ที่มี 2 ด้าน หยิน-หยาง แข็ง-อ่อน ที่ต่างเกื้อกูลซึ่งกันและกัน
ภาพที่คนจดจำก็คือสาวน้อยน่ารักวัย 16 ปีที่โค้ชเฉินจงเหอเรียกเข้าแคมป์ทีมชาติ ลีกจีนฤดูกาลใหม่นี้ ฮุ่ยรั่วฉีก็จะย้ายไปเล่น
ให้กับสโมสรกว่างตงเหิงต้า เป็นผู้เล่นที่มีค่าตัวแพงสุดของนักกีฬาวอลเลย์หญิงจีน จากสาวน้อยในวันนั้นเติบโตเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมาก
ในวันนี้ ผู้ที่ต้องแบกรับถือธงให้กับทีมวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติ
ไม่รู้จักหลางผิง
ผู้คนทั่วไปรู้จักฮุ่ยรั่วฉีครั้งแรกคือปี 2009 มีสื่อรายงานว่า นักวอลเลย์สาวมือตบหัวเสาหน้าใหม่คนนี้ “ไม่รู้จักหลางผิง”
จนเกิดเป็นประเด็นฮ็อต
เรื่องที่ไม่รู้จักหลางผิง ภายหลังก็มีคำอธิบายว่า แท้จริงแล้วฮุ่ยรั่วฉีหมายถึงว่า เธอไม่เคยดูหลางผิงเล่นวอลเลย์
ไม่ใช่หมายถึง “ไม่รู้จักหลางผิง” แต่ก็เป็นเรื่องอัศจรรย์ ฮุ่ยรั่วฉีมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักเป็นครั้งแรกก็ด้วยชื่อ “หลางผิง” ชื่อนี้
ไม่คาดคิดว่า 4 ปีให้หลัง เธอกับบุคคลที่ถือว่าเป็นเสาหลักของวอลเลย์บอลหญิงจีนจะได้มาพบเจอกันในทีมชาติ
เสมือนหนึ่งรู้จักกันมาเนิ่นนาน ผูกพันดั่งแม่ลูก เธอติดตามหลางผิงจากทีมชาติจนถึงสโมสร
กลายเป็นคู่ศิษย์อาจารย์ในวงการวอลเลย์บอลจีนวันนี้
มีพ่อร่ำรวย
ฮุ่ยรั่วฉีมีพ่อที่เก่ง ฮุ่ยเฟยเป็นผู้บริหารระดับสูงของบริษัทด้านสื่อสารโทรคมนาคมแห่งหนึ่ง และเป็นนายกชมรมศิลปะการขี่ม้า
ชมรมกอล์ฟรวมถึงชมรมวอลเลย์บอลของเมืองหนานจิง ก่อนที่ฮุ่ยรั่วฉีจะมามีชื่อเสียง เธอมักถูกเรียกขานว่าเป็น “ ลูกคนรวย “
“ฉันก็บอกอยู่ทุกครั้งว่าพ่อฉันไม่ได้มีเงินอะไรมาก แต่คนก็ยังบอกว่าฉันเป็นลูกคนรวยอยู่ดี ”
ฮุ่ยรั่วฉีชื่นชมนับถือพ่อเธอมาก แต่เธอก็ไม่ได้อยู่ภายใต้ร่มเงาของพ่อ โดยเฉพาะในวงการวอลเลย์บอล
เธอประสบความสำเร็จมาได้ด้วย 2 มือ 2 ขาของตัวเอง การมีคำเรียก ”ลูกคนรวย ” ติดตัวเธอมาก็ไม่ได้มีผลอะไรสำหรับฮุ่ยรั่วฉี
“ ผู้คนทั่วไปจะกระจ่างแจ้งได้ว่า ในเส้นทางอาชีพนี้ คุณเล่นเป็นยังไงทุกคนล้วนมองเห็น ก็คือดูที่ฟอร์มการเล่นและผลงาน”
ฮุ่ยรั่วฉีกล่าว ถ้าถามว่าพ่อมีส่วนช่วยเหลืออะไรฉันในเรื่องวอลเลย์ ก็คงเป็นที่ตัวเธอเป็นคนเข้มแข็ง
ด้วยความเข้มงวดของพ่อที่เป็นแรงกระตุ้นให้กับตัวฉัน
ตอนสมัยเป็นเด็ก ทุกคนต่างพูดว่า “นี่คือลูกสาวของฮุ่ยเฟย ” ใจฉันก็คิดว่า สักวันหนึ่งฉันจะทำให้ทุกคนเปลี่ยนมาพูดว่า
“นี่คือพ่อของฮุ่ยรั่วฉี “ และตอนนี้ก็ทำได้แล้ว รู้สึกสะใจ
เปลี่ยนเส้นทางชีวิต
บ้านเกิดของฮุ่ยรั่วฉีอยู่ต้าเหลียน เพื่อความก้าวหน้า ตอนเธออายุได้ 8 ขวบ ฮุ่ยเฟยผู้เป็นพ่อก็ลาออกจากราชการ
ย้ายครอบครัวลงใต้มาที่เมืองหนานจิง ฮุ่ยเฟยผู้มีความสูง 1.97 เมตร สมัยเรียนมหาวิทยาลัยเคยเล่นวอลเลย์บอล
รักชื่นชอบวอลเลย์บอล ด้วยความสูงและความชื่นชอบวอลเลย์ก็ได้ส่งต่อมาถึงฮุ่ยรั่วฉี
ตอนฮุ่ยรั่วฉี ป.3 เธอเห็นคนเล่นวอลเลย์บอลที่โรงเรียน จึงหยุดดู ดูทีนึงดูไปตลอดบ่าย ต่อมาโค้ชจูเหลยแห่งโรงเรียนกีฬาจงชานตงลู่
ก็มาพบเธอเข้า นั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้นของฮุ่ยรั่วฉีที่เรียนไปด้วยเล่นวอลเลย์บอลไปด้วย
ตอนเรียนอยู่มัธยมต้น ฮุ่ยรั่วฉีเคยเข้าร่วมแข่งขันวอลเลย์บอลในระดับมณฑล กีฬามัธยมของเมือง และกีฬามัธยมโลก
แต่ถึงจะเคยเข้าร่วมรายการต่างๆเหล่านี้มา ฮุ่ยรั่วฉีก็ไม่เคยคิดที่จะเล่นวอลเลย์บอลจริงจังเป็นอาชีพ
เพราะผลการเรียนของเธอก็โดดเด่นเช่นกัน เคยได้ที่หนึ่งของชั้น และด้วยเหตุที่มีผลการเรียนที่ดี แม่ของเธอ เจียงเสวี่ยหวน
จึงไม่อยากให้ลูกสาวเล่นวอลเลย์บอล แต่ว่าฮุ่ยรั่วฉีในวัย 15 ปีตอนนั้น ก็ยืนหยัดแน่วแน่ขอเลือกเส้นทางชีวิตด้วยตัวเอง
จึงมีพ่อมาเป็นคนกลางไกล่เกลี่ย ฮุ่ยรั่วฉีกับแม่จึงได้ทำข้อตกลงกันว่า ถ้าภายใน 4 ปีเธอยังไม่สามารถติดทีมชาติจีนได้
เธอต้องกลับมาเรียนหนังสือ ดังนั้น ฮุ่ยรั่วฉีจึงละจากการเรียนเข้าร่วมสโมสรวอลเลย์บอลหญิงเจียงซู
เธอใช้เวลาไม่นานก็ได้ลงเล่นในลีกจีนและได้เป็นผู้เล่นตัวจริงอีกด้วย
ลีกจีนฤดูกาล 2006-2007 ฮุ่ยรั่วฉีสามารถทำแต้มได้สูงสุดเป็นอันดับ 1 ตอนนั้นเธอเพิ่งจะอายุได้ 16 ปี
และก็มาเข้าตาโค้ชเฉินจงเหอถูกเรียกเข้าแคมป์ทีมชาติตอนปี 2007 ฮุ่ยรั่วฉีอยู่ภายใต้การคุมจากโค้ชทีมชาติมา 5 คน
เมื่อครั้งที่ติดเข้าแคมป์ทีมชาติในตอนแรก เธอได้แสดงให้เห็นถึงความกล้าเล่นไม่กลัวใคร ต่อมาก็มาเป็นผู้เล่นตัวหลักสมัยโค้ชไช่ปิน
มาสมัยโค้ชหวังเป่าฉวนไหล่ซ้ายได้รับบาดเจ็บหนักต้องพักไปถึงครึ่งปี แต่ด้วยความที่เป็นคนเข้มแข็ง มีทิฐิมานะ
จึงค่อยๆก้าวผ่านไปจวบจนมาถึงวันนี้วันที่เธอได้เป็นกัปตันทีมชาติจีน
** ยังมีต่อ
นิตยสารกีฬา : หน้าปก "ฮุ่ยรั่วฉี" กัปตันทีมวอลเลย์บอลหญิงจีน
หน้าปก ฮุ่ยรั่วฉี กัปตันวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติจีนคนใหม่
และก็ยังให้เธอรักกีฬาที่ต้องเหนื่อยยากอย่างวอลเลย์บอล ประกอบกับมีครูที่เข้มงวด เธอจดจำคำศัพท์อังกฤษได้จำนวนมาก
แต่กลับจำไม่ได้ว่าครั้งแรกที่เจอหลางผิงว่าคือเมื่อไร? จำไม่ได้ว่าครั้งแรกที่ได้รับคำชมเชยคือเรื่องอะไร?
เพราะปลา 2 ตัวเหมือนกำลังแหวกว่ายเล่นซ่อนหากัน เธอเป็นกัปตันวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติจีน เป็นประเภทกีฬาความหวัง
ของคนจีนนับพันล้านคน เธอเป็นผู้หญิงเข้มแข็ง เป็นศิษย์รักโค้ชหลางผิง เป็นลูกสาวของฮุ่ยเฟยผู้บริหารระดับสูงของบริษัท
ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ สาวราศีมีนมีความซุกซนขี้เล่น อารมณ์แปรเปลี่ยนง่าย ปลา 2 ตัวของราศีมีนก็เฉกเช่นมวยไท่จี๋
ที่มี 2 ด้าน หยิน-หยาง แข็ง-อ่อน ที่ต่างเกื้อกูลซึ่งกันและกัน
ให้กับสโมสรกว่างตงเหิงต้า เป็นผู้เล่นที่มีค่าตัวแพงสุดของนักกีฬาวอลเลย์หญิงจีน จากสาวน้อยในวันนั้นเติบโตเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมาก
ในวันนี้ ผู้ที่ต้องแบกรับถือธงให้กับทีมวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติ
จนเกิดเป็นประเด็นฮ็อต
ไม่ใช่หมายถึง “ไม่รู้จักหลางผิง” แต่ก็เป็นเรื่องอัศจรรย์ ฮุ่ยรั่วฉีมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักเป็นครั้งแรกก็ด้วยชื่อ “หลางผิง” ชื่อนี้
ไม่คาดคิดว่า 4 ปีให้หลัง เธอกับบุคคลที่ถือว่าเป็นเสาหลักของวอลเลย์บอลหญิงจีนจะได้มาพบเจอกันในทีมชาติ
เสมือนหนึ่งรู้จักกันมาเนิ่นนาน ผูกพันดั่งแม่ลูก เธอติดตามหลางผิงจากทีมชาติจนถึงสโมสร
กลายเป็นคู่ศิษย์อาจารย์ในวงการวอลเลย์บอลจีนวันนี้
ชมรมกอล์ฟรวมถึงชมรมวอลเลย์บอลของเมืองหนานจิง ก่อนที่ฮุ่ยรั่วฉีจะมามีชื่อเสียง เธอมักถูกเรียกขานว่าเป็น “ ลูกคนรวย “
“ฉันก็บอกอยู่ทุกครั้งว่าพ่อฉันไม่ได้มีเงินอะไรมาก แต่คนก็ยังบอกว่าฉันเป็นลูกคนรวยอยู่ดี ”
เธอประสบความสำเร็จมาได้ด้วย 2 มือ 2 ขาของตัวเอง การมีคำเรียก ”ลูกคนรวย ” ติดตัวเธอมาก็ไม่ได้มีผลอะไรสำหรับฮุ่ยรั่วฉี
ฮุ่ยรั่วฉีกล่าว ถ้าถามว่าพ่อมีส่วนช่วยเหลืออะไรฉันในเรื่องวอลเลย์ ก็คงเป็นที่ตัวเธอเป็นคนเข้มแข็ง
ด้วยความเข้มงวดของพ่อที่เป็นแรงกระตุ้นให้กับตัวฉัน
“นี่คือพ่อของฮุ่ยรั่วฉี “ และตอนนี้ก็ทำได้แล้ว รู้สึกสะใจ
ย้ายครอบครัวลงใต้มาที่เมืองหนานจิง ฮุ่ยเฟยผู้มีความสูง 1.97 เมตร สมัยเรียนมหาวิทยาลัยเคยเล่นวอลเลย์บอล
รักชื่นชอบวอลเลย์บอล ด้วยความสูงและความชื่นชอบวอลเลย์ก็ได้ส่งต่อมาถึงฮุ่ยรั่วฉี
ตอนฮุ่ยรั่วฉี ป.3 เธอเห็นคนเล่นวอลเลย์บอลที่โรงเรียน จึงหยุดดู ดูทีนึงดูไปตลอดบ่าย ต่อมาโค้ชจูเหลยแห่งโรงเรียนกีฬาจงชานตงลู่
ก็มาพบเธอเข้า นั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้นของฮุ่ยรั่วฉีที่เรียนไปด้วยเล่นวอลเลย์บอลไปด้วย
แต่ถึงจะเคยเข้าร่วมรายการต่างๆเหล่านี้มา ฮุ่ยรั่วฉีก็ไม่เคยคิดที่จะเล่นวอลเลย์บอลจริงจังเป็นอาชีพ
เพราะผลการเรียนของเธอก็โดดเด่นเช่นกัน เคยได้ที่หนึ่งของชั้น และด้วยเหตุที่มีผลการเรียนที่ดี แม่ของเธอ เจียงเสวี่ยหวน
จึงไม่อยากให้ลูกสาวเล่นวอลเลย์บอล แต่ว่าฮุ่ยรั่วฉีในวัย 15 ปีตอนนั้น ก็ยืนหยัดแน่วแน่ขอเลือกเส้นทางชีวิตด้วยตัวเอง
จึงมีพ่อมาเป็นคนกลางไกล่เกลี่ย ฮุ่ยรั่วฉีกับแม่จึงได้ทำข้อตกลงกันว่า ถ้าภายใน 4 ปีเธอยังไม่สามารถติดทีมชาติจีนได้
เธอต้องกลับมาเรียนหนังสือ ดังนั้น ฮุ่ยรั่วฉีจึงละจากการเรียนเข้าร่วมสโมสรวอลเลย์บอลหญิงเจียงซู
เธอใช้เวลาไม่นานก็ได้ลงเล่นในลีกจีนและได้เป็นผู้เล่นตัวจริงอีกด้วย
และก็มาเข้าตาโค้ชเฉินจงเหอถูกเรียกเข้าแคมป์ทีมชาติตอนปี 2007 ฮุ่ยรั่วฉีอยู่ภายใต้การคุมจากโค้ชทีมชาติมา 5 คน
เมื่อครั้งที่ติดเข้าแคมป์ทีมชาติในตอนแรก เธอได้แสดงให้เห็นถึงความกล้าเล่นไม่กลัวใคร ต่อมาก็มาเป็นผู้เล่นตัวหลักสมัยโค้ชไช่ปิน
มาสมัยโค้ชหวังเป่าฉวนไหล่ซ้ายได้รับบาดเจ็บหนักต้องพักไปถึงครึ่งปี แต่ด้วยความที่เป็นคนเข้มแข็ง มีทิฐิมานะ
จึงค่อยๆก้าวผ่านไปจวบจนมาถึงวันนี้วันที่เธอได้เป็นกัปตันทีมชาติจีน
** ยังมีต่อ