[บทความ] 15 ปีให้หลังเมื่อหลางผิงกลับมาเยือน Montreux สวิสอีกครั้ง

กระทู้ข่าว
รถบัสพาทีมนักวอลเลย์บอลหญิงจีนออกจากสนามบินเจนีวามุ่งหน้าสู่เมือง Montreux  แล่นตะบึงอยู่บนทางด่วนภายใต้แสงอาทิตย์ที่สาดส่องในยามโพล้เพล้

“ พวกเธอมาที่นี่ครั้งสุดท้ายเมื่อไร?  “  หลางผิงถามไล่ย่าเหวินและหวางจื่อหลิงที่นั่งด้วยกันข้างๆ   ครั้งก่อนโน้นที่หลางผิงเป็นโค้ชทีมชาติจีน ตอนนั้นทั้งสองคนนี้ยังเป็นลูกศิษย์เธออยู่  แต่มาวันนี้  คนหนึ่งเป็นผู้จัดการทีมวอลเลย์หญิงจีน  ส่วนอีกคนเป็นผู้ตัดสินวอลเลย์นานาชาติ  

เป็นเรื่องบังเอิญที่สามคนศิษย์อาจารย์   15 ปีให้หลังได้กลับมาที่ Montreux ด้วยกันอีกครั้ง !!  



ในสามคนนี้ ผู้ที่ห่างหายจากเมือง Montreux ไปนานหลายปีก็คือ หลางผิง  นับแต่ปี 1999 ที่ออกจากการคุมทีมชาติจีน  เธอก็ไม่เคยได้กลับมาที่ Montreux เมืองเล็กๆที่งดงามแห่งนี้อีกเลย   แต่ภาพความสวยงามของเมืองนี้ยังคงอยู่ในความทรงจำของเธอเสมอมา ......

หลางผิงไม่แน่ใจว่าฝ่ายจัดการแข่งขันจะจัดให้ทีมจีนพักที่โรงแรมไหน ?  15 ปีที่ไม่ได้มา  
เมืองเล็กๆแห่งนี้จะเปลี่ยนแปลงไปมากน้อยสักเพียงใด??

“ยังคงเป็นโรงแรมเดิมที่เราพักกันตอนนั้น เดี๋ยวไปถึงก็เห็น แทบไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง “   ด้วยหน้าที่การงานทำให้หลายปีมานี้ที่ไล่ย่าเหวินต้องเดินทางร่วมไปกับทีมวอลเล่ย์จีนแข่งขันตามที่ต่างๆ

15 ปีมานี้เธอติดตามทีมจีนมาร่วมแข่งที่ Montreux 7 ครั้ง  พูดถึงความคุ้นเคยที่มีต่อเมืองนี้แล้ว  
แน่นอนในสามคนนี้ ไม่มีใครเกินไล่ย่าเหวิน  



“ การแข่งขันรายการนี้ เคยจัด 2 ครั้ง เมื่อปี 1984 กับปี 1986  แต่ตอนนั้นยังไม่ได้เป็นการแข่งขันกระชับมิตรระดับนานาชาติ  
ปี 1988 ถึงจะเป็นปีแรก  ปีนั้นฉันยังอยู่ทีมจีนชุดบี และก็ได้มาแข่งที่นี่ด้วย “

ฮุ่ยรั่วฉีที่นั่งอยู่อีกด้านเมื่อได้ยินไล่ย่าเหวินพูด  ก็เสนอแนะ  “ โค้ชไล่  ครั้งนี้ต้องพาเราไปที่ที่คุณเคยถ่ายรูปไว้ ไปถ่ายรูปกันอีกครั้ง จะได้อารมณ์หวนนึกถึงเวลานั้น   มาครั้งนี้ฉันก็วางแผนไว้ว่าจะถ่ายรูปกับเปียโนที่ตั้งวางไว้ที่ลอบบี้โรงแรม  โพสต์ท่าให้เหมือนกับตอนที่ฉันมาครั้งแรกเมื่อปี 2009 “  

“สหายเสี่ยวฮุ่ย   ปี1988 ตอนนั้นเธอคิดว่าเป็นเหมือนเดี๋ยวนี้เหรอ?   พวกเราตอนนั้นในมือมีกล้องถ่ายรูปกันซะที่ไหน?” ไล่ย่าเหวินย้อนให้ฟัง

ไม่ต้องมีถ่ายรูปเปรียบเทียบหรอก  ก็ได้อารมณ์แบบนั้นได้




ตอนที่ไล่ย่าเหวินมา Montreux เป็นครั้งแรก  นักวอลเลย์จีนที่มาร่วมแข่งในครั้งนี้ทั้ง 13 คนยังไม่มีใครเกิดกันเลย  และก็มีฮุ่ยรั่วฉีเพียงคนเดียวในทีมนี้ที่เรียกได้ว่าเป็นแขกคุ้นเคยของ Montreux  นอกจากฮุ่ยแล้วที่เคยมาก็มีหยางจุนจิง หยางโจว และช่านตานน่าในปี 2011   และชุดเยาวชนจีนเมื่อปีที่แล้วที่มีจูถิงกับหยางฟางซวี่  

ระหว่างทางจากเจนีวาไป Montreux   นักกีฬาเกินครึ่งทีมที่เพิ่งมาที่นี่เป็นครั้งแรกต่างตั้งอกตั้งใจฟังเพื่อนร่วมทีมเล่าบรรยายให้ฟังถึงความสวยงามของภูเขาทะเลสาบที่นี่  ด้านล่างสามารถให้อาหารนกอาหารปลา  และถ้าโชคดีก็จะได้เห็นฝูงหงษ์ขาวว่ายไปมาอยู่ในทะเลสาบ  .....


รถบัสแล่นออกจากทางด่วน  เข้าสู่เขตเมือง Montreux
.... รถเลี้ยว  หวางจื่อหลิงชี้ให้ดูทางซ้ายมือที่เป็นโรงแรม  ถามไล่ย่าเหวิน  “ข้างหน้าคือโรงแรมที่พักของเราใช่ไหม?”

หลางผิงบิดตัวก่อนเดินลงจากรถบัส  ทุกครั้งที่นั่งเครื่องบินระยะทางไกลๆ  สะโพกและขาของเธอก็จะมีอาการปวด   และเพื่อไม่ให้เวลาที่ต่างกันมามีผลกระทบ   เครื่องบินบิน 11 ชั่วโมง  เธอแทบจะไม่ได้หลับ

ที่จริงตอนอาหารมื้อค่ำ ตาของเธอก็แทบจะปิดอยู่แล้ว  จึงมอบภารกิจดูแลเรื่องอาหารให้กับไล่ย่าเหวิน  แต่สุดท้ายเมื่อได้ยินไล่ย่าเหวินใจอ่อนยอมให้นักกีฬากินสเต๊กกันได้คนละครึ่งชิ้น  หลางผิงก็หายง่วงทันที  เธอเดินไปที่โต๊ะอาหารของพวกนักกีฬา  และมองดูแต่ละคนกินเนื้อสเต๊กจนหมดชิ้น

“ พวกเธอก็เคยเข้าเรียนคลาสเรื่องอาหารบำรุงกันแล้วไม่ใช่เหรอ?  สเต๊กมีไขมันอยู่แค่ 7 %  ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อพวกเธอ  ต้องกิน !!    
นี่ถ้าฉันไม่มาดู   พวกเธอก็คงขึ้นไปข้างบนกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปกันใช่ไหม ??    บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเป็นอาหารที่ไม่มีประโยชน์”  น้ำเสียงที่พูดเหมือนเป็นแม่ก็ไม่ปาน

ที่จริงแล้วพวกนักกีฬาต่างก็ถือหลางผิงเป็นเหมือนแม่   ได้ยินว่าในวันแม่  หลางผิงได้รับของขวัญมากมายจากเด็กๆเหล่านี้
  ---  การ์ดอวยพรเอย  ดอกไม้เอย  ช็อคโกแล็ตก็มี   และทุกคนต่างก็พร้อมใจกันพูด  ----- โค้ชหลาง  เรารักคุณ !


***ยังมีต่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่