[บทความ] วอลเล่ย์บอลหญิงจีน:ประสบการณ์ที่ได้รับในการแข่งขันสวิส Montreux

กระทู้ข่าว
“การแข่งขันรายการ Montreux ที่สวิส  ทำได้ดีเกินกว่าที่ฉันคาดคิดไว้  สามารถเข้าถึง 4 ทีมสุดท้าย เราอยู่กลุ่มเดียวกับบราซิล รัสเซีย  มีข้อผิดพลาดเล็กน้อยก็คงจะเข้ารอบ 4 ทีมไม่ได้  ผลการแข่งขันก็เป็นข้อพิสูจน์  ทั้ง 3 ทีมได้เซ็ตเท่ากัน  ต้องมาดูคะแนนย่อยเพื่อตัดสินลำดับที่ของกลุ่ม  เป็นการแข่งขันที่ดุเดือดเข้มข้นจริงๆ “

ในเช้าวันนั้นของการเตรียมตัวเพื่อลงแข่งกับทีมรัสเซียอีกครั้งในการชิงที่ 3  หลางผิงได้สรุปผลงานของวอลเล่ย์บอลหญิงจีนในรายการทัวร์สวิสครั้งนี้    " สองนัดแรก(รัสเซีย บราซิล)สามารถสู้กับคู่ต่อสู้จนถึงฎีกา  สามารถนำเอาสิ่งที่ได้ฝึกซ้อมเอาออกมาใช้  และมีจิตใจที่มุ่งมั่น  ถือว่าได้คุ้มค่า  รอบรองกับเยอรมัน  คู่แข่งเล่นได้ดีจริงๆ  คุมเราอยู่หมัด  โดยเฉพาะลูกเก่งอย่างเช่นลูกหยอด  การฝึกเทคนิคเฉพาะด้านของเรายังฝึกได้ไม่ถึง  ฉะนั้นในจังหวะที่คาดคิดไม่ถึง เราจึงยังจัดการกันได้ไม่ดี"  

หลังจากแพ้เยอรมัน 3:0 เซ็ตในรอบรอง  หลางผิงเดินกลับเข้าห้องพัก  เธอไม่ได้ดุด่าหรือต่อว่านักกีฬา

“ หวังว่าทุกคนคงได้เห็นความห่างกันแล้ว ไม่ใช่แพ้แล้วก็จบลืมกันไป พวกเรายังมีทางที่ต้องเดินกันอีกไกล    หลายจังหวะการเล่นที่เราต้องกลับไปเพิ่มเติมให้แกร่งขึ้น “  หลางผิงพูดเสียงแหบพร่า  เพราะตะโกนอยู่ข้างสนามมาตลอด 4 นัด  แต่เธอก็ยังพยายามพูด  หวังว่าพวกเธอจะจดจำเป็นบทเรียนเพื่อพัฒนาเติบโต



จูถิงยังคงไม่หลุดจากฝันร้ายในการรับเสิร์ฟที่เพิ่งผ่านไปในนัดนี้

“บอลแรกฉันกลับเข้าสู่อีหรอบเดิมจนได้” จูถิงบอกกับเฉินจ่านที่อยู่ข้างๆ  

“จู  อย่าพูดยังงั้นสิ ! เธอพัฒนาขึ้นมากเลย  แต่ละคนต่างก็มีสิ่งที่ต้องก้าวผ่าน ...... “  

ทัวร์รายการนี้เฉินจ่านกับจูถิงเป็นรูมเมทกัน  ในสนามเมื่อจูถิงลงไปอยู่แดนหลังแล้วเอาไม่อยู่  คนที่มารับหน้าเสื่อแทนก็คือเฉินจ่าน  เสียงพูดช้าๆเนิบๆของเฉินจ่านมักจะพูดให้กำลังใจจูถิงเสมอ  ทุกคนต่างรู้ดีว่าถ้าจูถิงสามารถผ่านด่านเรื่องบอลแรกไปได้  จะเป็นผลดีต่อทีมวอลเล่ย์หญิงจีนมากแค่ไหน???  

จูถิงเองก็รู้ซึ้งดีถึงภาระที่แบกอยู่บนบ่าของเธอ  เข้าใจดีถึงคำปลอบใจของเฉินจ่านในขณะนั้น

“วางใจเถอะ !  บอลแรกฉันต้องทำให้ดีให้ได้  ไม่งั้นฉันก็จะกลายเป็นบ่อ  พวกนั้นถ้าไม่โง่ ก็จะต้องจี้ใส่ฉันแน่ “
“ พวกนั้นทำให้ฉันกลับไปสู่สภาพเดิมได้  แต่ยังไงก็ตีฉันไม่ตายหรอก !”  จูถิงพูดน้ำเสียงเด็ดเดี่ยว แต่ก็ยังมีอารมณ์ขันเล็กๆ

หลางผิงรู้ถึงนิสัยจูถิงดี  เพียงจูถิงบอกว่าได้  หลางผิงก็จะยังยืนหยัดใช้เธอ

การแข่งกับเยอรมันในเซ็ตที่ 2   ทีมจีนถูกลูกเสริฟ์ของฝ่ายตรงข้ามเล่นงานอย่างหนัก หลางผิงกับผู้ช่วยโค้ชอันเจียเจี๋ยปรึกษากันถึงเรื่องการเปลี่ยนตัว  แต่สุดท้ายก็ยังยืนยันให้จูถิงยังคงอยู่ในสนาม ..........  

“ จูถิงจะต้องผ่านสถานการณ์เช่นนี้  ต้องให้เธอได้ประสบการณ์เช่นนี้ !“




ขณะเดียวกันหลางผิงก็ส่งสาวน้อยที่ยังไม่เต็ม 18 หยวนซินเย่วได้ลงไปสัมผัสของจริงในสนาม   เซ็ต 2 หยวนซินเย่วได้ลงเล่นแทนหยางโจว   เธอได้ลงเล่นไปแล้ว 2 เซ็ตในนัดแข่งกับสวิสรอบแรก   แต่กับนัดนี้ถือเป็นครั้งแรกที่ได้ลงเล่น 2 เซ็ตกับสถานการณ์เกมการแข่งขันที่ตรึงเครียด !

“ฉันรู้สึกดีใจมาก  และก็ไม่รู้สึกตื่นเกร็งอะไร  ไม่ได้สนใจว่าตอนนั้นทีมกำลังตกเป็นฝ่านเสียเปรียบอยู่  ฉันคิดว่าโค้ชหลางให้ฉันลงสนามก็เพื่อไปช่วยปลุกขวัญกำลังใจให้กับทีม  และลงไปแสดงความสามารถที่มีของตัวเอง”

หยวนซินเย่วเป็นคนเบิกบาน อารมณ์ดี  กล้าพูดแสดงออก   2 นัดแรกเธอตะโกนเชียร์เสียงดังไม่หยุดอยู่ริมสนาม  ดึงดูดผู้ชมไม่น้อย

“กับนัดที่เจอเยอรมัน  คิดว่าการตบพอใช้ได้ แต่การบล็อกไม่ดีสักเท่าไร   ที่จริงแล้วตอนเข้าแคมป์ฝึกที่จางโจวการบล็อกฉันพัฒนาขึ้นไปมาก  แต่พอมาที่นี่ฉันคงจะคิดอะไรเยอะไปหน่อย  คิดเรื่องจังหวะโอกาสการตีอะไรต่างๆ   พอคิดเยอะก็กลายเป็นทำได้ไม่ดี  รู้สึกว่าการบล็อกตัวเองถดถอยลง”  

ภายหลังพ่ายแพ้เยอรมัน  ค่ำคืนนั้นมีการประชุมแลกเปลี่ยนความคิดกันในทีม  หยวนซินเย่วก็กล้าที่จะพูดแสดงความคิดเห็นถึงปัญหาของทีมอย่างตรงไปตรงมา  

“ไม่ใช่ว่าเราเตรียมตัวยังไม่ดีพอ แต่เป็นเพราะเอามาใช้จริงยังไม่ดีพอ  พอเจอเข้ากับสถานการณ์กดดันก็คิดเลยไปถึงผลภายหลังไปก่อนแล้ว  ผลลัพธ์ก็คือที่ควรทำได้ก็เลยทำได้ไม่ดี ทำให้พลาดโอกาสในการพลิกกลับสถานการณ์”

การที่ไม่สามารถพลิกกลับสถานการณ์ได้   นี่คือเหตุผลที่ทำให้ทีมจีนแพ้ให้กับเยอรมัน !!
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่