ข่าวแรก สัมภาษณ์คุณพ่อ
http://weibo.com/ttarticle/p/show?id=2309351000124011315726264003
สัมภาษณ์พ่อฮุ่ยรั่วฉี : ลูกสาวเล่นวอลเล่ย์บอลเปรียบเหมือน (เด็กทั่วไป) เล่นเกมส์
หลังจากที่วอลเล่ย์บอลหญิงกำชัยชนะเหนือเซอเบียร์ ซึ่งวอลเล่ย์บอลหญิงจีนห่างหายจากแชมป์โอลิมปิคมาเป็นเวลา 12 ปี ในที่สุดก็ทำได้ ตอนนั้น ฮุ่ยเฟย (พ่อฮุ่ยรั่วฉี) กำลังดูทีวี อารมณ์ตอนนั้นไม่สามารถสงบนิ่งได้ น้ำตาไหลออกมา ในที่สุดฝันของลูกสาวก็เป็นจริง
ในสายตาผู้ชมจำนวนไม่น้อย ฮุ่ยรั่วฉีเหมือนเป็นมาตรฐานของสาวในสมัยใหม่ เป็นนักกีฬาที่มุ่งมั่นทุ่มเท มีความสามารถเพียบพร้อม เป็นกัปตันทีมที่รวมลูกทีมให้เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน และที่มากไปกว่านั้นคือมีผลการเรียนที่ดีและโดดเด่น แน่นอน ผลลัพธ์ทั้งหมดทั้งปวงที่ทำให้คนชื่มชมและอิจฉานั้น มาจากความอดทนพยายาม นอกจากนั้นการได้รับการสั่งสอนเป็นอย่างดีจากครอบครัว ก็เป็นสิ่งที่ทำให้ฮุ่ยรั่วฉีเติบโตได้อย่างสง่างาม
ฮุ่ยรั่วฉีในสายตาของคนในครอบครัว ตั้งแต่เด็กเป็นเด็กที่ไม่ยอมแพ้ ไม่ว่าจะเรื่องวอลเลย์บอลหรือการเรียน ตอน ป 3 ถูกเรียกตัวไปซ้อมกับทีมโรงเรียน ซึ่งในตอนแรกนักกีฬาเก่าสามารถอันเดอร์บอลได้ 200-300 ครั้ง ในขณะที่เสี่ยวฮุ่ยทำได้เพียง 2-3 ครั้ง ทำให้ไม่ได้รับการต้อนรับที่ดีนักจากเพื่อนร่วมทีม และถึงขนาดไม่มีใครอยากจะซ้อมคู่ด้วย แต่สุดท้ายเสี่ยวรั่วฉีก็อดทนพยายามจนค่อยๆ พัฒนาฝีมือขึ้น
เด็กคนอื่นชอบเล่นเกมส์ แต่เขากลับเล่นวอลเล่ย์เหมือนที่เด็กคนอื่นติดเกมส์ “ฮุ่ยเฟย : เวลาเกือบทั้งหมดของลูกสาวใช้ไปกับการซ้อมวอลเล่ย์ จนวอลเล่ย์กลายเป็นเครื่องต่อรองพิเศษในการเรียน ทุกครั้งที่พูดว่าถ้าเรียนไม่ดีจะไม่อนุญาตให้เล่นวอลเล่ย์ ทุกครั้งจะได้ผลดีมาก และตั้งแต่นั้น ฮุ่ยเฟยก็รู้สึกได้ถึงความรักที่ลูกสาวมีต่อกีฬาวอลเล่ย์”
เกี่ยวกับเรื่องที่ลูกสาวเลือกวอลเลย์บอลเป็นอาชีพ ในช่วงแรกฮุ่ยเฟยและภรรยาไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง พวกเขาคาดหวังว่าลูกจะเหมือนกับเด็กคนอื่นๆ ตั้งหน้าตั้งตาเรียน แต่ฮุ่ยรั่วฉีมุ่งมั่นที่จะเลือกทางนี้ “พวกเราได้ตั้งกฎให้กับเขา ถ้าภายใน 3 ปี ไม่สามารถเป็นนักกีฬาทีมชาติได้ ก็ให้เลิกเล่นวอลเล่ย์ ซึ่งในตอนแรกตั้งกฎนี้เพื่อหวังว่าลูกสาวจะถอดใจ แต่คาดไม่ถึงว่าเขาค่อยๆพัฒนาจนได้เป็นตัวจริง” และตั้งแต่ตอนนั้นก็ทำให้ฮุ่ยเฟยและภรรยาเคารพในการตัดสินใจของลูกสาว ยิ่งนานวันก็ยิ่งรู้สึกได้ถึงความทุ่มเทมุ่งมั่น และยิ่งนานวันก็ยิ่งสนับสนุนเขามากขึ้น “การเลี้ยงดูสั่งสอนลูกต้องหาให้เจอสิ่งที่เขาชอบ และเหมาะสมกับเขา เพราะเมื่อเขาชอบเขาก็จะมุ่งมั่นที่จะทำมัน”
สั่งสอนให้รู้จักความหมายของคำว่าteamwork
ฮุ่ยเฟยจบปริญญาโทในช่วงยุค 90 ชอบการเล่นกีฬาและเคยเป็นกัปตันทีมของทีมมหาลัย ฮุ่ยรั่วฉีเริ่มเรียนรู้สปิริตของนักกีฬา ก็เกิดจากพ่อของเขาเอง
ฮุ่ยเฟยเอ็นดูลูกสาว และเพื่อให้ลูกสาวเป็นคนที่มีจริยธรรมที่ดีต่ออาชีพและมีบุคลลิคภาพที่ดี ทำให้บ่อยครั้งค่อนข้างจะเข้มงวดกับเขา จำได้ว่ามีครั้งหนึ่งที่ฮุ่ยรั่วฉีเพิ่งได้เป็นกัปตันทีม ตอนซ้อมมีเพื่อนร่วมทีมคนหนึ่งทำลูกเสีย ฮุ่ยรั่วฉีทนไม่ได้จนด่าเพื่อนร่วมทีม หลังจากซ้อมเสร็จ ฮุ่ยเฟยตีฮุ่ยรั่วฉีไปหนึ่งครั้งที่หน้า “ความสำคัญของกีฬาเป็นทีมคือความร่วมมือกัน ทุกคนต้องรู้จักคิดถึงคนอื่น ให้อภัยและสนับสนุนซึ่งกันและกัน” ฮุ่ยเฟยบอกว่าเป็นกัปตันสิ่งที่ตามมาคือต้องมีความรับผิดชอบมากกว่าคนอื่น ต้องรวมทีมให้เป็นหนึ่งเดียวให้ได้ ถึงจะทำให้ไม่ต้องเสียดายอะไรเมื่ออยู่ในสนาม”
ฮุ่ยเฟยเป็นห่วงเรื่องสุขภาพของลูกสาว สู้เพื่อทีมชาติเป็นสิ่งที่เขาและลูกสาวมีความเห็นตรงกัน แต่การเห็นลูกสาวลงสนามทั้งๆที่บาดเจ็บทุกครั้งก็ทำให้อดเป็นห่วงไม่ได้ “บางครั้งไม่สามารถจะดูการแข่งขันต่อไปได้ เพราะกลัวเขาจะบาดเจ็บเพิ่มเติม” “ลูกสาวเข้มแข็งกว่าฉันมาก ฉันภูมิใจในตัวเขา ขอแค่ลงไปในสนาม เขาจะพยายามอย่างเต็มที่ 100%”
เรื่องนอกสนาม
ฮุ่ยรั่วฉีก็เหมือนกับเด็กสาวทั่วๆ ไป เมื่ออยู่นอกสนาม เป็นสาวที่ร่าเริงสดใส
ครั้งแรกที่เขา(เสี่ยวฮุ่ย)ให้ของขวัญวันเกิดกับฉันคือลูกโลก ฉันยังเก็บมันมาจนถึงทุกวันนี้
“ลูกสาวเขามีความคิดเป็นของตัวเองเสมอ” ฮุ่ยเฟยกล่าวไปยิ้มไป
หลังจากเขาได้แชมป์ สิ่งแรกที่ฮุ่ยเฟยทำคือส่งข้อความผ่านวีแชทไปให้ลูกสาว เพียงว่า “ลำบากคุณแล้ว” (เพิ่มเติมนะคะ มันเป็นคำสามคำที่ไว้พูดเวลาใครทำอะไรให้ ไว้พูดเพื่อตอบแทนสิ่งที่เขาอุตส่าทำ ประมาณนั้นน่ะค่ะ) แต่ฮุ่ยรั่วฉีลูกสาวแสนซนกลับตอบข้อความมาว่า “ha ha” พร้อมกับไอคอนหน้าตลกๆ .....ซึ่งมันทำให้ฮุ่ยเฟยหัวเราะทั้งน้ำตา
อีกสองวันฉันจะไปรับเขาที่สนามบินปักกิ่ง ครั้งนี้ฉันไม่ได้ไปริโอ เขากลับมาปักกิ่งฉันต้องไปรับเขาด้วยตัวเอง...
----------------------------------------------------------------------------------------
http://weibo.com/ttarticle/p/show?id=2309351000424011090475407909
ฮุ่ยรั่วฉี : หญิงสาวที่ผ่าตัดหัวใจไปเมื่อ 1 ปีก่อน
โอลิมปิคปีนี้ ฮุ่ยรั่วฉีกัปตันทีมแสดงผลงานได้สม่ำเสมอ ในสนามตะโกนร้อง ผลักดันทีมให้โฟกัสเป็นหนึ่งเดียว แต่ฮุ่ยรั่วฉีเพิ่งจะผ่าตัดหัวใจไปเมื่อปีที่แล้ว
ปัญหาหัวใจเต้นเร็วผิดปกติ ถูกพบเมื่อ 3 ปีก่อน แม้ว่าจะได้รับการรักษาจนควบคุมได้แล้ว แต่ปีที่แล้วในช่วงเก็บตัวอาการกลับกำเริบขึ้นมาอีกครั้ง ทำให้เมื่อสิงหาคมปีที่แล้ว ฮุ่ยรั่วฉีเลือกที่จะรับการผ่าตัด โดยการผ่าตัดเป็นไปอย่างราบรื่น และไม่เหลืออาการที่ว่าแล้ว แต่ถึงอย่างไรก็ตาม โอกาสที่จะกำเริบก็ยังคงมีอยู่ซึ่งเหลือเพียง 5%
แม้ว่าการผ่าตัดจะไม่ส่งผลกระทบต่ออาชีพวอลเลย์ของฮุ่ยรั่วฉี แต่ Head coach หลางผิงก็ไม่ได้วางใจแต่อย่างไร ฉันเห็นเสี่ยวฮุ่ยหลังจากได้แชมป์อารมณ์ดีใจเหมือนไม่สามารถควบคุมได้ หลางผิงรีบบอกกับเสี่ยวฮุ่ยว่า อย่าตื่นเต้นมากจนเกินไป
หลางผิง : อย่าตื่นเต้นมาก ฉันเป็นห่วงหัวใจของคุณ ฉันยินดีกับเขาที่นำพาทีมจนประสบชัยชนะ ฉันบอกเขา คุณยอดเยี่ยมมาก โอลิมปิคครั้งนี้สำหรับคุณคือสิ่งล้ำค่า
สำหรับแฟนๆเสี่ยวฮุ่ย กับบทสัมภาษณ์สั้นๆ จากคุณพ่อ (ฮุ่ยเฟย)
http://weibo.com/ttarticle/p/show?id=2309351000124011315726264003
สัมภาษณ์พ่อฮุ่ยรั่วฉี : ลูกสาวเล่นวอลเล่ย์บอลเปรียบเหมือน (เด็กทั่วไป) เล่นเกมส์
หลังจากที่วอลเล่ย์บอลหญิงกำชัยชนะเหนือเซอเบียร์ ซึ่งวอลเล่ย์บอลหญิงจีนห่างหายจากแชมป์โอลิมปิคมาเป็นเวลา 12 ปี ในที่สุดก็ทำได้ ตอนนั้น ฮุ่ยเฟย (พ่อฮุ่ยรั่วฉี) กำลังดูทีวี อารมณ์ตอนนั้นไม่สามารถสงบนิ่งได้ น้ำตาไหลออกมา ในที่สุดฝันของลูกสาวก็เป็นจริง
ในสายตาผู้ชมจำนวนไม่น้อย ฮุ่ยรั่วฉีเหมือนเป็นมาตรฐานของสาวในสมัยใหม่ เป็นนักกีฬาที่มุ่งมั่นทุ่มเท มีความสามารถเพียบพร้อม เป็นกัปตันทีมที่รวมลูกทีมให้เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน และที่มากไปกว่านั้นคือมีผลการเรียนที่ดีและโดดเด่น แน่นอน ผลลัพธ์ทั้งหมดทั้งปวงที่ทำให้คนชื่มชมและอิจฉานั้น มาจากความอดทนพยายาม นอกจากนั้นการได้รับการสั่งสอนเป็นอย่างดีจากครอบครัว ก็เป็นสิ่งที่ทำให้ฮุ่ยรั่วฉีเติบโตได้อย่างสง่างาม
ฮุ่ยรั่วฉีในสายตาของคนในครอบครัว ตั้งแต่เด็กเป็นเด็กที่ไม่ยอมแพ้ ไม่ว่าจะเรื่องวอลเลย์บอลหรือการเรียน ตอน ป 3 ถูกเรียกตัวไปซ้อมกับทีมโรงเรียน ซึ่งในตอนแรกนักกีฬาเก่าสามารถอันเดอร์บอลได้ 200-300 ครั้ง ในขณะที่เสี่ยวฮุ่ยทำได้เพียง 2-3 ครั้ง ทำให้ไม่ได้รับการต้อนรับที่ดีนักจากเพื่อนร่วมทีม และถึงขนาดไม่มีใครอยากจะซ้อมคู่ด้วย แต่สุดท้ายเสี่ยวรั่วฉีก็อดทนพยายามจนค่อยๆ พัฒนาฝีมือขึ้น
เด็กคนอื่นชอบเล่นเกมส์ แต่เขากลับเล่นวอลเล่ย์เหมือนที่เด็กคนอื่นติดเกมส์ “ฮุ่ยเฟย : เวลาเกือบทั้งหมดของลูกสาวใช้ไปกับการซ้อมวอลเล่ย์ จนวอลเล่ย์กลายเป็นเครื่องต่อรองพิเศษในการเรียน ทุกครั้งที่พูดว่าถ้าเรียนไม่ดีจะไม่อนุญาตให้เล่นวอลเล่ย์ ทุกครั้งจะได้ผลดีมาก และตั้งแต่นั้น ฮุ่ยเฟยก็รู้สึกได้ถึงความรักที่ลูกสาวมีต่อกีฬาวอลเล่ย์”
เกี่ยวกับเรื่องที่ลูกสาวเลือกวอลเลย์บอลเป็นอาชีพ ในช่วงแรกฮุ่ยเฟยและภรรยาไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง พวกเขาคาดหวังว่าลูกจะเหมือนกับเด็กคนอื่นๆ ตั้งหน้าตั้งตาเรียน แต่ฮุ่ยรั่วฉีมุ่งมั่นที่จะเลือกทางนี้ “พวกเราได้ตั้งกฎให้กับเขา ถ้าภายใน 3 ปี ไม่สามารถเป็นนักกีฬาทีมชาติได้ ก็ให้เลิกเล่นวอลเล่ย์ ซึ่งในตอนแรกตั้งกฎนี้เพื่อหวังว่าลูกสาวจะถอดใจ แต่คาดไม่ถึงว่าเขาค่อยๆพัฒนาจนได้เป็นตัวจริง” และตั้งแต่ตอนนั้นก็ทำให้ฮุ่ยเฟยและภรรยาเคารพในการตัดสินใจของลูกสาว ยิ่งนานวันก็ยิ่งรู้สึกได้ถึงความทุ่มเทมุ่งมั่น และยิ่งนานวันก็ยิ่งสนับสนุนเขามากขึ้น “การเลี้ยงดูสั่งสอนลูกต้องหาให้เจอสิ่งที่เขาชอบ และเหมาะสมกับเขา เพราะเมื่อเขาชอบเขาก็จะมุ่งมั่นที่จะทำมัน”
สั่งสอนให้รู้จักความหมายของคำว่าteamwork
ฮุ่ยเฟยจบปริญญาโทในช่วงยุค 90 ชอบการเล่นกีฬาและเคยเป็นกัปตันทีมของทีมมหาลัย ฮุ่ยรั่วฉีเริ่มเรียนรู้สปิริตของนักกีฬา ก็เกิดจากพ่อของเขาเอง
ฮุ่ยเฟยเอ็นดูลูกสาว และเพื่อให้ลูกสาวเป็นคนที่มีจริยธรรมที่ดีต่ออาชีพและมีบุคลลิคภาพที่ดี ทำให้บ่อยครั้งค่อนข้างจะเข้มงวดกับเขา จำได้ว่ามีครั้งหนึ่งที่ฮุ่ยรั่วฉีเพิ่งได้เป็นกัปตันทีม ตอนซ้อมมีเพื่อนร่วมทีมคนหนึ่งทำลูกเสีย ฮุ่ยรั่วฉีทนไม่ได้จนด่าเพื่อนร่วมทีม หลังจากซ้อมเสร็จ ฮุ่ยเฟยตีฮุ่ยรั่วฉีไปหนึ่งครั้งที่หน้า “ความสำคัญของกีฬาเป็นทีมคือความร่วมมือกัน ทุกคนต้องรู้จักคิดถึงคนอื่น ให้อภัยและสนับสนุนซึ่งกันและกัน” ฮุ่ยเฟยบอกว่าเป็นกัปตันสิ่งที่ตามมาคือต้องมีความรับผิดชอบมากกว่าคนอื่น ต้องรวมทีมให้เป็นหนึ่งเดียวให้ได้ ถึงจะทำให้ไม่ต้องเสียดายอะไรเมื่ออยู่ในสนาม”
ฮุ่ยเฟยเป็นห่วงเรื่องสุขภาพของลูกสาว สู้เพื่อทีมชาติเป็นสิ่งที่เขาและลูกสาวมีความเห็นตรงกัน แต่การเห็นลูกสาวลงสนามทั้งๆที่บาดเจ็บทุกครั้งก็ทำให้อดเป็นห่วงไม่ได้ “บางครั้งไม่สามารถจะดูการแข่งขันต่อไปได้ เพราะกลัวเขาจะบาดเจ็บเพิ่มเติม” “ลูกสาวเข้มแข็งกว่าฉันมาก ฉันภูมิใจในตัวเขา ขอแค่ลงไปในสนาม เขาจะพยายามอย่างเต็มที่ 100%”
เรื่องนอกสนาม
ฮุ่ยรั่วฉีก็เหมือนกับเด็กสาวทั่วๆ ไป เมื่ออยู่นอกสนาม เป็นสาวที่ร่าเริงสดใส
ครั้งแรกที่เขา(เสี่ยวฮุ่ย)ให้ของขวัญวันเกิดกับฉันคือลูกโลก ฉันยังเก็บมันมาจนถึงทุกวันนี้
“ลูกสาวเขามีความคิดเป็นของตัวเองเสมอ” ฮุ่ยเฟยกล่าวไปยิ้มไป
หลังจากเขาได้แชมป์ สิ่งแรกที่ฮุ่ยเฟยทำคือส่งข้อความผ่านวีแชทไปให้ลูกสาว เพียงว่า “ลำบากคุณแล้ว” (เพิ่มเติมนะคะ มันเป็นคำสามคำที่ไว้พูดเวลาใครทำอะไรให้ ไว้พูดเพื่อตอบแทนสิ่งที่เขาอุตส่าทำ ประมาณนั้นน่ะค่ะ) แต่ฮุ่ยรั่วฉีลูกสาวแสนซนกลับตอบข้อความมาว่า “ha ha” พร้อมกับไอคอนหน้าตลกๆ .....ซึ่งมันทำให้ฮุ่ยเฟยหัวเราะทั้งน้ำตา
อีกสองวันฉันจะไปรับเขาที่สนามบินปักกิ่ง ครั้งนี้ฉันไม่ได้ไปริโอ เขากลับมาปักกิ่งฉันต้องไปรับเขาด้วยตัวเอง...
----------------------------------------------------------------------------------------
http://weibo.com/ttarticle/p/show?id=2309351000424011090475407909
ฮุ่ยรั่วฉี : หญิงสาวที่ผ่าตัดหัวใจไปเมื่อ 1 ปีก่อน
โอลิมปิคปีนี้ ฮุ่ยรั่วฉีกัปตันทีมแสดงผลงานได้สม่ำเสมอ ในสนามตะโกนร้อง ผลักดันทีมให้โฟกัสเป็นหนึ่งเดียว แต่ฮุ่ยรั่วฉีเพิ่งจะผ่าตัดหัวใจไปเมื่อปีที่แล้ว
ปัญหาหัวใจเต้นเร็วผิดปกติ ถูกพบเมื่อ 3 ปีก่อน แม้ว่าจะได้รับการรักษาจนควบคุมได้แล้ว แต่ปีที่แล้วในช่วงเก็บตัวอาการกลับกำเริบขึ้นมาอีกครั้ง ทำให้เมื่อสิงหาคมปีที่แล้ว ฮุ่ยรั่วฉีเลือกที่จะรับการผ่าตัด โดยการผ่าตัดเป็นไปอย่างราบรื่น และไม่เหลืออาการที่ว่าแล้ว แต่ถึงอย่างไรก็ตาม โอกาสที่จะกำเริบก็ยังคงมีอยู่ซึ่งเหลือเพียง 5%
แม้ว่าการผ่าตัดจะไม่ส่งผลกระทบต่ออาชีพวอลเลย์ของฮุ่ยรั่วฉี แต่ Head coach หลางผิงก็ไม่ได้วางใจแต่อย่างไร ฉันเห็นเสี่ยวฮุ่ยหลังจากได้แชมป์อารมณ์ดีใจเหมือนไม่สามารถควบคุมได้ หลางผิงรีบบอกกับเสี่ยวฮุ่ยว่า อย่าตื่นเต้นมากจนเกินไป
หลางผิง : อย่าตื่นเต้นมาก ฉันเป็นห่วงหัวใจของคุณ ฉันยินดีกับเขาที่นำพาทีมจนประสบชัยชนะ ฉันบอกเขา คุณยอดเยี่ยมมาก โอลิมปิคครั้งนี้สำหรับคุณคือสิ่งล้ำค่า