ชัยชนะคือ คำตอบของความสำเร็จจริงๆเหรอ

ฉันไม่อาจตัดสินใจได้ว่าเกมส์ที่ผ่านมาระหว่าง ไทย จีน คือความล้มเหลว
แต่มันทำให้ฉันย้อนนึกไปถึงวันที่เราได้ชัยชนะเหนือจีน

บทความหนึ่งได้อยู่ในใจของฉัน
การตำหนิทีมเราย่อมสามารถทำได้
แต่เราต้องให้เกียรติคู่แข่งด้วยว่าจีนเขานั้นเก่งจริงๆ
ความเก่งกาจของเขาฉันกล้าพูดเลยว่าเขาเรียนรู้จากความพ่ายแพ้ที่ทีมชาติไทยมอบให้


นี่คือบทความที่ฉันยังเก็บเอาไว้

http://sports.sina.com.cn/o/2013-09-20/21116792225.shtml
郎平带来希望也看到了差距 4年前输泰国蔡斌下课了

หลางผิงนำความหวังมาให้ในขณะเดียวกันก็พบช่องว่าง 4 ปีที่แล้วการแพ้ไทยทำให้ช่ายปิงต้องลาออก


แปลโดยคุณ bailie (คห 2-4) ขอบคุณมากค่ะ อมยิ้ม17


วอลเลย์บอลหญิงทีมชาติจีนแพ้ไทยในรอบรองชนะเลิศ ศึกชิงแชมป์เอเชีย 2-3 เซต และเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ ปี 1975 ที่ทีมชาติจีนไม่ได้เข้าชิงแชมป์เอเชีย และปี 2009 ที่ฮานอย จีนก็เคยแพ้ทีมชาติไทยมาแล้ว ถือเป็นความผิดพลาด และเป็นความน่าผิดหวังในช่วงสี่ปีหลังของรายการชิงแชมป์เอเชียของจีน ข้อผิดพลาดในการคุมจังหวะการเล่น เปิดโอกาสให้ทีมชาติไทย สามารถเปิดเกมเอาชนะทีมชาติจีนไปได้ในที่สุด

ย้อนไปเมื่อปี 2009 รายการชิงแชมป์เอเชีย ที่ฮานอย เวียดนาม ภายใต้การคุมทีมของโค้ชไช่บิง ทีมชาติจีนแพ้ไทยไป 1-3 เซตทำให้เกิดกระแสการวิพากษ์วิจารณ์ นำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงทีม ความพ่ายแพ้ต่อไทยในปี 2009 ที่เวียดนาม ทำให้มีการผลัดทีมงาน ก่อนจะกลับมาคว้าแชมป์เอเชียๆด้ในปี 2011 ภายใต้การคุมทีมของ หมิงยู่ แต่โดยรวมแล้ว วอลเบย์บอลทีมชาติจีน ยังไม่ได้รับการสนับสนุนเท่าที่ควร ทั้งเรื่องงบประมาณการคุมทีม อีกทั้งการขึ้นมาของทีมชาติไทยและเกาหลีใต้ ถือเป็นภัยคุกคามต่อทีมชาติจีน

ความหวังของทีมวอลเย์บอลจีนเกิดมาอีกครั้ง เมื่อเราได้จูถิงเข้ามาในทีม และในปีนี้ หลังจากหายไปจากการเป็นทีมชั้นแนวหน้าของ FIVB ทีมชาติจีนก็กับมาได้อย่างยอดเยี่ยมในวอลเลย์บอลเวิลด์กรังปรีซ์ 2013 ซึ่งตลอดรายการ ทีมชาติจีนแพ้ทีมบราซิลไปเพียงนัดเดียวเท่านั้น
แต่เมื่อก้าวเข้ามาในรายการชิงแชมป์เอเชียทีมชาติจีนกับประสบกับความพ่ายแพ้ จากสถานการณ์กดดัน เสียงเชียร์ของเจ้าบ้าน บวกกับความยอดเยี่ยมของทีมไทย ทำให้ทีมชาติจีนพ่ายไทยไปในรอบรองชนะเลิศ ศึกชิงแชมป์เอเชีย 2013 ถือเป็นความพ่ายแพ้ครั้งที่สองต่อทีมชาติไทย ในการแข่งขันชิงแชมป์เอเชีย หลังจีนเคยแพ้ไทยมาแล้วเมื่อปี 2009 ที่เวียดนาม

เป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่อ เมื่อทีมชาติไทยที่แพ้ทีมคาซัคสถานแบบเล่นได้อย่างย่ำแย่ จะกลับมาเปลี่ยนแปลงตัวเองจนชนะญี่ปุ่น และก้าวมาไกลจนถึงรอบรองชนะเลิศกับจีน บรรยากาศที่ตึงเครียด เสียงกองเชียร์ไทยที่ดังกระหึ่ม ทำให้จีนต้องต่อสู้กับสถานการณ์ที่กดดัน เมื่อบวกกับความเร็วในการเล่นของทีมไทย ทำให้จีนเจอกับความยากลำบาก ทีมชาติไทยมีลักษณะการเล่นที่เร็วและหนัก ส่วนจีนมีปัญหากับการรับบอลและการคุมจังหวะ สุดท้ายจีนต้องพ่ายไทยไป ถือเป็นความล้มเหลวอีกครั้งในรอบสี่ปี และเป็นครั้งที่สองในรอบสี่ปี ที่จีนต้องมาสดุดเพราะไทย

ทีมไทยเล่นได้อย่างห้าวหาญ กล้าเล่น และได้ประโยชน์จากความผิดพลาดของจีนหลายลูก ส่วนจีน แทบไม่ได้ประโยชน์จากการบล็อกเลย ผู้เล่นทั้งตัวเก่าและใหม่ ไม่สามารถประคองสถานการณ์ให้ไปในทางที่ดีได้ แม้จีนจะตาม 0-4 ในเซตตัดสิน และกลับมาเสมอกันที่ 10-10 แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถเอาชนะทีมไทยได้  ความเร็วของทีมไทย ทำให้จีนเสียโอกาสไปในหลายๆแต้ม สุดท้ายก็พ่ายไปในการดิวซ์เซตตัดสิน

เป็นครั้งแรกในรอบสามสิบปีที่จีนไม่ได้เข้าชิงแชมป์เอเชียแชมป์ เป็นเรื่องยากลำบากที่จะทำใจให้ยอมรับกับความพ่ายแพ้ในครั้งนี้ จีนสูญเสียโอกาสไปมากมาย นี่คือบทเรียนครั้งสำคัญของเรา

หลังจากที่วอลเลย์บอลหญิงของจีนได้โค้ชหลางผิงเข้ามาคุมทีม กระแสชื่นชมหลางผิงก็มีมาตลอดเพราะเธอคือผู้เล่นและโค้ชที่มีความสามารถ การรวมตัวกันของทีมจีนภายใต้โค้ชหลางผิง สามารถไปไกลถึงรอบชิงเวิลด์กรังปรีซ์ การพ่ายบราซิลถือเป็นความผิดพลาดครั้งแรก และแม้ว่าจะเป็นช่วงเวลาที่ดีของจีน แต่จุดอ่อนทางเทคนิคที่ยังคงมีอยู่ ปัญหาของเทคนิคการเล่นเล็กๆน้อยๆยังพอมีให้เห็น ซึ่งมันไม่สามารถแก้ไขได้ทันในระยะเวลาอันน้อยนิดนี้

ถึงแม้ว่าเราสามารถมองไปถึงผลงานข้างหน้าของหลางผิงได้ แต่ก็ยังอดมองไม่ได้ว่า  ปัญหาเรื่องสภาพจิตใจของนักกีฬาในสถานการณ์ที่กดดันจะไม่ตามมารบกวนนักกีฬาจีนอีก  เราสมควรปรับปรุงเทคนิคการเล่น และแก้ไขเรื่องสภาพจิตใจของนักกีฬา เพื่อให้สามารถต่อสู้กับสถานการณ์ที่กดดันได้ ความผิดพลาดจากการตกรองรองชิงแชมป์เอเชียในครั้งนี้ คงเป็นบทเรียนที่สอนให้เราเติบโตและแข็งแกร่งได้ในวันข้าวหน้า

การพลาดเข้าชิงแชมป์เอเชียในไทย ทำให้ผุ้เล่นในทีมอาจจะเสียขวัญไปบ้าง มันอาจจะเป็นสถานการณ์ที่ยากลำบากของเรา แต่หากจะมองไปให้ไกลถึงการเตรีมทีมสู้โอลิมปิค ก็คงต้องมาคิดหาทางเตรียมทีมกันใหม่ ความพ่ายแพ้ไม่ใช่คำตอบสุดท้ายซะทีเดียว แต่มันเป็นกุญแจที่เปิดให้เราเข้าไปมองเห็นข้อผิดพลาดของตัวเอง เราต้องให้ผู้เล่นที่ผิดพลาด หันมามองตัวเอง เอาความพ่ายแพ้มาเป็นบทเรียนแก้ไข  เชื่อว่าทีมวอลเลย์บอลหญิงของจีนหลังจากผ่านความยากลำบากเหล่านี้ จะสามารถก้าวไปข้างหน้าและมีความแข็งแกร่ง บทเรียนที่ผ่านมาคือบทเรียนที่มีค่าเสมอ


***********************************************************
อันนี้ความคิดเห็นจากโค้ชหลางผิงค่ะ


อยากให้อ่าน...

โค้ชหลางผิง หัวหน้าผู้ฝึกสอนวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติจีน ให้สัมภาษณ์เอาไว้ดีมาก ผมชอบประโยคสุดท้าย ลองอ่านดูนะครับ ผมถอดมาจากที่อัดไว้จากที่ได้ไปสัมภาษณ์เมื่อสักครู่

"ดีใจกับทีมไทยด้วย ทีมไทยเล่นได้ยอดเยี่ยมมาก เราเองพยายามอย่างหนักในการแก้เกมในวันนี้ แต่เรามีปัญหามากในเรื่องการต่อบอล คิดว่าไทยเล่นด้วยกันมานานอาจจะมีประสบการณ์มากกว่าทีมเราในเรื่องการต่อบอล จริงๆแล้วที่ทีมเราแพ้ เหตุผลไม่ได้อยู่ที่ว่าเราเล่นไม่ได้ แต่เป็นเพราะเราไม่มีความแน่นอน (inconsistency) บางทีก็เล่นดีบางทีก็ดร็อปลงไป ทีมไทยเสียอีกที่เล่นแน่นอนกว่า ทีมเรายังต้องการปรับปรุงในเรื่องการควบคุมบอลด้วย รวมทั้งแทคติกเฉพาะอย่าง"

ผมยิงคำถามสำคัญ "แล้วคิดว่า การที่กองเชียร์ชาวไทยมาล้นหลามขนาดนี้ มาเชียร์ทีมไทยส่งเสียงดังขนาดนี้ ส่งผลต่อความพ่ายแพ้ของจีนในครั้งนี้หรือไม่"

หลางผิงตอบว่า "กองเชียร์มาก็ต้องเชียร์ทีมตนเองอยู่แล้ว เป็นเรื่องปกติมาก และไม่ได้ส่งผลอะไรกับทีมเราเลย....การจะเป็นทีมแกร่งได้ คุณต้องเอาชนะให้ได้ทุกทีม แม้จะอยู่ในสถานการณ์ใดๆก็ตาม"

คำพูดของหลางผิง แม้ในแววตาเธอจะมีน้ำใสๆ ด้วยความพ่ายแพ้บีบคั้นในใจที่ทีมของเธอไม่เคยเสียเซ็ตให้ใครในรายการนี้ แต่วันนี้กลับมาพลาดท่าเสียเซ็ตและเสียแม็ทช์ แถมยังเสียแชมป์โดยน้ำมือสาวไทยด้วย..เธออาจจะดูมีสีหน้าหม่นหมองเล็กน้อย แต่คำพูดของเธอดูจริงใจและจริงจังจนผมแอบชมเธอในใจ...นี่แหละ legendary coach ตำนานโค้ช ฉายาของเธอตัวจริงเสียงจริง สุดยอดโค้ชคนหนึ่งครับ

โดยพี่กาย ปรีชาชาญ
ขอบคุณภาพจาก Eak Ks


กระทู้เดิม http://ppantip.com/topic/31007596

********************************************************
สมัยก่อนฉันยังเป็นแฟนหน้าใหม่ที่ชอบหาแพะรับบาป จะนักกีฬาหรือโค้ชก็ด่าหมด
แต่ตอนนี้ฉันชอบที่จะมองทั้งอดีตที่เราเดินผ่านมา ปัจจุบันที่เราเป็นอยู่ อนาคตที่เราวาดฝัน
และเรายังต้องเจออีกหลายความพ่ายแพ้ที่ต้องเรียนรู้ แพ้ทาง แพ้ขาดลอย แพ้นิดเดียว แพ้แท็ปเลต


มีคนเคยกล่าวไว้ว่า "ผมเชียร์วอลเลย์บอลมาตั้งแต่สมัยปริม อินทวงศ์"
อีกสักยี่สิบปี ฉันอาจจะพูดกับเด็กรุ่นหลังที่คลั่งไคล้ยายบุ๋มบิ๋มว่า "ฉันเชียร์มาตั้งแต่รุ่นปลื้มจิตร์"
นั่นหมายความว่าวอลเลย์บอลจะยังคงอยู่ในใจคนไทย เหมือนที่มันเป็นอยู่ แพ้บ้าง ชนะบ้าง คือรสชาดของกีฬา



ปล. ก็เพ้อไปเลย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่