วิชชา มโนมยิทธิ เป็นหลักสูตรทางพระพุทธศาสนาในด้านวิชชา ๓ กึ่งอภิญญา คำว่า มโนมยิทธิ แปลว่า มีฤทธิ์ทางใจ เป็นวิชชาที่ พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง) นำมาสอนศิษยานุศิษย์และพุทธบริษัทฯ
จุดประสงค์สำคัญ เพื่อให้ผู้ปฏิบัติได้พิสูจน์พระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า ในเรื่องนรก สวรรค์ พรหม พระนิพพาน ว่าเป็นสิ่งที่มีจริงเป็นจริง เป็นการสร้างกำลังใจ และทำให้การปฏิบัติเพื่อความพ้นทุกข์เป็นไปอย่างถูกต้องและรวดเร็ว
ผู้ที่ฝึก มโนมยิทธิ ได้ การทรงอารมณ์ พระโสดาบัน จะได้ผลอย่างรวดเร็ว เพราะ พระโสดาบัน ละสังโยชน์ได้ ๓ ข้อ คือ สักกายทิฏฐิ,วิจิกิจฉา และสีลัพพตปรามาส
และพระเดชพระคุณหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง ท่านกล่าวไว้ว่า การละสักกายทิฏฐิของพระโสดาบัน คือ คิดว่าตัวเราจะต้องตายแน่ และให้นึกถึงความตายอยู่เสมอ คิดว่าเราอาจจะตายวันนี้พรุ่งนี้ จะได้ไม่ประมาทในชีวิต
ผู้ที่ฝึก มโนมยิทธิ ได้ อย่างน้อยที่สุดก็เป็นการตัดตัววิจิกิจฉา ความลังเลสงสัยในพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า ในเรื่องสวรรค์-นรก ว่าเป็นสิ่งที่มีจริงเป็นจริง เป็นการละสังโยชน์ข้อที่ ๒ ในสังโยชน์ ๑๐
และผู้ที่ฝึก มโนมยิทธิ ได้ สามารถใช้ จิต หรือ อทิสสมานกาย ท่องเที่ยวไปตามภพภูมิต่าง ๆ ได้ เมื่อไปเห็นแดนอบายภูมิ เห็นโทษจากการละเมิดศีล ก็จะตั้งใจรักษาศีลให้บริสุทธิ์ เป็นการละสังโยชน์ข้อที่ ๓ คือ สีลัพพตปรามาส
การปฏิบัติพระกรรมฐาน ไม่ว่าจะเป็นสายใดก็ดีทุกสาย ขึ้นอยู่กับว่าจะถูกจริตกับเราหรือไม่ เพราะทุกสายมีจุดมุ่งหวังเดียวกัน คือเพื่อความพ้นทุกข์ ต่างกันแต่ว่าใครจะพ้นทุกข์ได้ช้าหรือเร็วกว่ากัน ถ้าเปรียบพระนิพพาน คือกรุงเทพฯ ทุกคนมุ่งหวังที่จะไปกรุงเทพฯ จะเดินไป ขึ้นรถไป หรือขึ้นเครื่องบินไป ก็ขึ้นอยู่กับบุญบารมีที่สั่งสมมา
พระเดชพระคุณหลวงพ่อฯได้กล่าวไว้ว่า ผู้ที่มีกำลังใจเป็นปรมัตถ์บารมี ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะเข้าพระนิพพานได้ ถ้าปฏิบัติได้ถูกต้องตามพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า
คณะผู้จัดทำ ได้รวบรวมคำสอนของ พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง) และนำบทความเรื่อง มโนมยิทธิ ของ คุณสุนิสา วงศ์ราม มาให้ท่านที่สนใจได้ศึกษา เพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติต่อไป.
มโนมยิทธิ พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง)
วิชชา มโนมยิทธิ เป็นหลักสูตรทางพระพุทธศาสนาในด้านวิชชา ๓ กึ่งอภิญญา คำว่า มโนมยิทธิ แปลว่า มีฤทธิ์ทางใจ เป็นวิชชาที่ พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง) นำมาสอนศิษยานุศิษย์และพุทธบริษัทฯ
จุดประสงค์สำคัญ เพื่อให้ผู้ปฏิบัติได้พิสูจน์พระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า ในเรื่องนรก สวรรค์ พรหม พระนิพพาน ว่าเป็นสิ่งที่มีจริงเป็นจริง เป็นการสร้างกำลังใจ และทำให้การปฏิบัติเพื่อความพ้นทุกข์เป็นไปอย่างถูกต้องและรวดเร็ว
ผู้ที่ฝึก มโนมยิทธิ ได้ การทรงอารมณ์ พระโสดาบัน จะได้ผลอย่างรวดเร็ว เพราะ พระโสดาบัน ละสังโยชน์ได้ ๓ ข้อ คือ สักกายทิฏฐิ,วิจิกิจฉา และสีลัพพตปรามาส
และพระเดชพระคุณหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง ท่านกล่าวไว้ว่า การละสักกายทิฏฐิของพระโสดาบัน คือ คิดว่าตัวเราจะต้องตายแน่ และให้นึกถึงความตายอยู่เสมอ คิดว่าเราอาจจะตายวันนี้พรุ่งนี้ จะได้ไม่ประมาทในชีวิต
ผู้ที่ฝึก มโนมยิทธิ ได้ อย่างน้อยที่สุดก็เป็นการตัดตัววิจิกิจฉา ความลังเลสงสัยในพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า ในเรื่องสวรรค์-นรก ว่าเป็นสิ่งที่มีจริงเป็นจริง เป็นการละสังโยชน์ข้อที่ ๒ ในสังโยชน์ ๑๐
และผู้ที่ฝึก มโนมยิทธิ ได้ สามารถใช้ จิต หรือ อทิสสมานกาย ท่องเที่ยวไปตามภพภูมิต่าง ๆ ได้ เมื่อไปเห็นแดนอบายภูมิ เห็นโทษจากการละเมิดศีล ก็จะตั้งใจรักษาศีลให้บริสุทธิ์ เป็นการละสังโยชน์ข้อที่ ๓ คือ สีลัพพตปรามาส
การปฏิบัติพระกรรมฐาน ไม่ว่าจะเป็นสายใดก็ดีทุกสาย ขึ้นอยู่กับว่าจะถูกจริตกับเราหรือไม่ เพราะทุกสายมีจุดมุ่งหวังเดียวกัน คือเพื่อความพ้นทุกข์ ต่างกันแต่ว่าใครจะพ้นทุกข์ได้ช้าหรือเร็วกว่ากัน ถ้าเปรียบพระนิพพาน คือกรุงเทพฯ ทุกคนมุ่งหวังที่จะไปกรุงเทพฯ จะเดินไป ขึ้นรถไป หรือขึ้นเครื่องบินไป ก็ขึ้นอยู่กับบุญบารมีที่สั่งสมมา
พระเดชพระคุณหลวงพ่อฯได้กล่าวไว้ว่า ผู้ที่มีกำลังใจเป็นปรมัตถ์บารมี ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะเข้าพระนิพพานได้ ถ้าปฏิบัติได้ถูกต้องตามพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า
คณะผู้จัดทำ ได้รวบรวมคำสอนของ พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง) และนำบทความเรื่อง มโนมยิทธิ ของ คุณสุนิสา วงศ์ราม มาให้ท่านที่สนใจได้ศึกษา เพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติต่อไป.